ไม่อยากให้ใช้ คำนี้ กับเรื่องที่ไม่สมควรเลยอ้ะครับ
แค่ บรรลุ ก็น่าจะพอแล้ว...

ขอประทาน อภัย มา ณ ที่นี้ด้วย ครับ คืออยาก ทราบจริงๆ อิอิ

สำหรับผมแค่ไฟล์เป็น lossless และแนวเพลงหลากหลาย
ให้ครอบคลุมทุกๆย่านเสียง แค่นั้น

บางแง่มุมครับ
http://www.yutaponglim.com/index.php?topic=418.0

อย่างละเอียดโดยคุณชิมครับ
http://forum.munkonggadget.com/detail.php?id=8448

แล้วที่ เสียง เหมือน ทีวี ไม่มี สัญญาณ ซู่ๆ ซ่าๆ นั่น เอามาใช้ได้หรือป่าว ครับ

บางคนก็ว่าใช้สัญญาณคลื่นความถี่กวาดไปมา burn ได้ดีกว่า
บางคนก็ว่า เปิดเพลงแนวไหน นาน ๆ ก็ได้ดีเฉพาะแนวนั้น
สำหรับผม ไม่ซีเรียสครับ ฟังไปเรื่อย ๆ ตามตัวเองชอบ
ของมันจะดี มันไม่ต้องไปเคี่ยวเข็ญมันให้มากครับ
บางครั้ง ความสมบูรณ์แบบ ก็ไม่ได้้เป็นคำตอบของการฟังที่มีความสุข

คือ ผม ไม่ใช่ คนประเภท หูทองคำอะครับ แค่อยากรู้เรื่อง ในการ burn เฉยๆ หูฟัง อัน 50 100 แถวตลาดนัด ผมก็ฟังได้ครับ แต่ที่หาความรู้นี่คือ จะนำไป ศึกษา ครับ จะทำ โปรเจค ไรนิดหน่อย

ผมว่าอ่านกระทู้นี้ก่อนดีกว่าครับ

สารพันรูปแบบไฟล์เพลง Lossless-Lossy วิเคราะห์ เจาะลึก การริปออดิโอแบบเซียน ฮี่ๆๆ
http://forum.munkonggadget.com/detail.php?id=9725

ต่อด้วยกระทู้นี้

DSD ไฟล์เพลงเสพติดรูปแบบใหม่
http://www.forum.munkonggadget.com/detail.php?id=93707

พอเข้าใจเรื่องไฟล์เพลง แล้วค่อยไปเรื่องการเบิร์น ซึ่งมีทั้งวิทยศาสตร์และความเชื่อ
โดยส่วนตัวผมใช้ไฟล์เสียงสำหรับเบิร์นโดยเฉพาะครับ เปิดเบิร์นทิ้งไว้ที่บ้าน ช่วงที่ไปทำงาน

พูดแบบกว้างมากๆ คือ เบิร์น(ด้วยเพลง หรือความถี่เสียง)อย่างไร ก็ได้ผลลัพธ์อย่างนั้น

ขยายความคือ ถ้าเบิร์นด้วยองค์ประกอบที่ดี คือ แหล่งโปรแกรม ไฟล์หรือแผ่น ที่ดี ด้วยระยะเวลาที่เหมาะสม ก็น่าจะได้เสียงที่ดีครับ เหตุปัจจัยด้อยลง ผลก็น่าจะด้อยตาม แต่ฟังออกหรือเปล่าก็เป็นอีกเรื่องนึง

ท่านที่ใช้ไฟล์เบิร์นโดยเฉพาะ ก็จะมั่นใจว่าไฟล์ที่ตัวเองใช้ ให้ผลดีกว่าเพลง

ท่านที่ใช้เพลงหลายหลาก อาจมีทฤษฎีว่า ไฟล์เบิร์น ก็มีคลื่นความที่อย่างหนึ่ง อาจทำให้เกิด
บุคคลิกหรือ"ตะกอน"เสียงกับหูฟังได้ เพลงที่ต่างกันไปน่าจะดีกว่า

บางรายก็เลยจูนเสียงด้วยการใช้เพลงประเภทที่ตัวเองชอบ(คุณภาพดีเท่าที่หาได้)มาเบิร์นครับ
เพื่อให้มันได้ผลดี อย่างน้อยก็ตรงกับเพลงประเภทที่ตนเองชอบฟัง

ผมก็ใช้แผ่นเบิร์นครับ ผสมๆกับเพลงประเภที่ชอบ

ระวังเรื่อง ความดังที่ใช้เวลาเบิร์นด้วยนะครับ ดังพอสมควร แต่อย่าเกินไป

ไฟล์แบบความถี่ น่าจะมีผลทำให้ burn ได้เข้าที่เข้าทางเร็วขึ้นครับ
แต่ต้องระวังเรื่องแอมปลิจูด (ความดังในช่วงสวิง)ด้วยครับ
เท่าที่เห็นก็มีหลายผู้ผลิต
อย่างที่เคยลองใช้ก็มี isotek กับ pad
น่าจะหา load ได้ไม่ยากครับ

ไฟล์พวกความถี่ ผมเคยลองแล้ว เบสน้อยลงอย่างชัดเจน เสียงแหลมขึ้น ความหนาของเสียงหายไป กว่าจะกลับมาทิ้งไว้ตั้งนานครับ ทั้งเบิร์นซ้ำ ปล่อยทิ้งๆขว้างๆ ถ้าจะใช้ อย่า! เปิดหลายรอบ หลังๆผมจะใช้เปิดรอบเดียวพอครับ 30 นาที เหมือนกับว่า เค้าใช้ล้างสนามแม่เหล้กอะไรนี่แหละ ใช้อย่างระวังครับ หูผมเบสเยอะๆ กลายเป็นเบสกระป๋องไปเลย

ปกติผมเบิร์นตามแนวเสียงหูฟังครับ ถ้าหูแหลมเสียดๆ ผมก็จะเบิร์นแนวเบส เสียงกลางหนาๆ ไปก่อน แล้วไปเก็บปลายให้มันมนๆทีหลัง
ถ้าหูเบสมาก แหลมกุด ก็จะอัดเพลงที่แหลมๆ แทงๆหูเลยครับ ห้ามปรับ eq นะครับ

ของผมตรงข้ามครับ
ใช้แผ่นPAD เบิร์นกับเครื่องเล่นซีดีบ้าน
กลายเป็นว่า เนื้อเสียงกับเบสเยอะไปจนเริ่มมากลบเสียงกลางครับ
ไม่ทราบว่าเกี่ยวกับความดังที่มากไปหรือเปล่า
หูฟังที่ซื้อมาไม่นานนี้สามตัวออกอาการนี้หมด
(Pk3 R02 Pk2)
ขอข้อมูลผู้รู้ทั้งหลายด้วยครับ

สรุป คือ การที่ จะ burn นั้น ก็แล้ว แต่ จะนำอุปกรณ์ ที่จะนำไปใช้ ใช้เกี่ยวกับ อะไร ใช่หรือ ป่าว ครับ

การเบิร์นโดยใช้ความถี่นั้นต้องระวังนิดนึงครับ
หากเอาไฟล์ที่เอาไว้เบิร์นลำโพงไปเผาหูฟัง มันจะทำให้หูฟังทำงานหนักเกินไปจนทำให้เสียได้
อย่างที่คุณ Clound กับ พี่เหน่งบา บอก เสียงเปลี่ยนไป นั้นเพราะหูฟังทำงานหนักเกินจนทำให้ไดร์เวอร์มันเพี้ยนๆได้

อย่างผมตอนเบิร์นหูฟังครั้งแรก ผมเปิด Iso Tak ไฟล์ที่1 ที่เอาไว้เผาลำโพงขนาดใหญ่ ผลคือหูเพี้ยนเพราะไดร์เวอร์ทำงานหนักเกินไป ว่าง่ายๆคือเสียนั้นเอง

ถ้าจะบอกว่าการเบิร์นหูฟังคืออะไร
-คือการทำให้หูฟังทำงานได้เต็มประสิทธิ์ภาพของมัน

ทำไมก็ไม่มีผล ทำไปทำไม
-เฉพาะกับบางตัวที่ไดร์เวอร์ถูกจูนมาอย่างดีแล้ว เช่นพวก Costom บางตัว หรือไม่ก็หูฟังที่ห่วยๆ ที่ทำงานได้เต็มประสิทธิ์ภาพเท่านั้น

เบิร์นยังไงถึงจะดี
-มีไฟล์เฉพาะสำหรับหูฟัง เครื่องเสียงชุดเล็ก
แต่ถ้าเอาแน่นอน เปิดเพลงหลายๆแนวเอาให้ครบทุกย่านเสียงด้วยไฟล์คุณภาพดีๆ
ที่บอกว่าเปิดแต่เพลงที่เน้นเบสๆจะเยอะ เน้นร้องเสียงกลางจะเยอะ เหมือนที่คุณ Clound บอก เดี๋ยวจะอธิบายให้ฟัง แต่มันคือเรื่องจริง


***เบิร์นแล้วเสียงเปลี่ยน
-เป็นไปได้เพราะจากข้อข้างต้น "เปิดแต่เพลงที่เน้นเบสๆจะเยอะ เน้นร้องเสียงกลางจะเยอะ"
ผมบอกแล้วจากข้อข้างบน "การเบิร์นหูฟังคือการทำให้หูฟังทำงานได้เต็มประสิทธิ์ภาพของมัน"
สมมติว่าหูฟัง Aมีีระดับเสียงต่ำ 75 เสียงกลาง 90 เสียงสูง 100
หูฟังตัวนี้ตอนออกจากโรงงานมา มี เสียงต่ำ 60 กลาง 50 สูง 40

เปิดฟังครั้งแรกก็จะเห็นว่าเบสเยอะ ร้องกำลังดี สูงหายไป แต่อยากได้เบสหนักกว่าเดิมเลยเปิดแต่เพลงที่เน้นเบส จน exp เอ้ย เสียงต่ำเต็ม 75 ก็จะตี๊บๆ เบสเน้นๆสะใจขาร๊อค แต่ไม่พอใจ+โดนเป่าหูมาว่าให้ใช้ไฟล์เบิร์นเผาเอาจะทำให้เสียงดีขึ้นอีก (ไฟล์ความถี่จะเป็นไฟล์ที่ครบทุกย่านเสียง)
เผาต่อไปเรื่อยๆ จนต็มประสิทธิ์ภาพขอหูฟัง เลยกลายเป็นหูฟังที่ เบสนัวๆ ร้องชัดๆ สูงใสกิ้ง ต่างกะตอนแรกโดยสิ้นเชิง นั้นคือที่มาของเสียงที่เปลี่ยนไป

ปล.ผมเชื่อนะว่าหูฟังรุ่นเดียวกัน จะให้เสียงที่เต็มที่ใกล้เคียงกัน ไม่ว่าเผาแบบไหน ถ้าจัดเต็มครบทุกย่านความถี่ หรือ ครบทุกแนวเพลง

ปล2. ผมไม่แน่ใจนะว่าเอาไฟล์หรือเพลงมาเผาหูฟังที่ใช้ไปแล้วนานๆแต่ไม่เประสิทธิ์ภาพขอมันจะมีผล อะไรหรือไม่ เพราะผมคิดว่า มันคงจะจำจนFix ที่ย่านความถี่นั้นแล้ว

ปล3. วิศวะล้วนๆ

ถ้าจะหมายความเฉพาะเจาะจงถึง แนวของเพลง ก็คงใช่ตามที่คุณถามมาครับ

แต่พูดให้แคบเข้า ต้องบอกว่า อุป่กรณ์ชุดเครื่องเสียงก็ควรจะใช้เบิร์นกับชุดเครื่องเีสียง
หากองค์ประกอบทุกอย่างดี ก็น่าจะคาดหวังได้ถึงผลที่ดี
ซึ่งก็พยายามเท่าที่จะเป็นไปได้ในส่วนที่ทำได้ เช่นแหล่งโปรแกรม เครื่องเล่นซีดี หรือplayer ก็ต้องดีกว่าเิบิร์นด้วยเครื่องคอมฯ ไฟล์เสียงคุณภาพดี ก็ย่อมให้ผลดีกว่าไฟล์คุณภาพต่ำกว่า

เล่าเรื่องเก่าซึ่งเคยเอาข้อมูลของคุึณยุึทธพงศ์มาตอบในกระทู้อื่นอีกทีนะครับ...ไมทราบว่าคุณอ่านแล้ว จะว่าเกี่ยวกับที่ถามหรือเปล่า

คุณยุทธพงศ์เคยลองตัดสายไฟสองเส้นจากม้วนเดียวกัน ใช้ปลั้ก ตัวผู้และตัวเมียมาตรฐานเหมือนกัน
(ตัวผู้ เป็น ตัวเมียเป็น)เช็คทิศทางสายเรียบร้อย แล้วเบิร์นเส้นแรกด้วยการใช้กับชุดเครื่องเสียง เส้นที่สอง เอาไปเบิร์นกับตู้เย็น

เมื่อได้เวลาที่กำหนด ก็เอามาลองฟังเทียบ โดยให้พนักงานในร้าน(ก๊วยเตี๋ยว(คุณยุทธพงศ์เปิดร้านก๊วยเตี๋ยว
ด้วย)) ซึ่งไม่มีความรู้เรื่องเครื่องเสียงเลยมาเป็นผู้ร่วมฟังทดสอบ

ผลคือ พนักงานคนดังกล่าว สามารถบอกได้ทันทีว่า สายไฟเส้นที่สอง ให้เสียงเลวร้ายเป็นอย่างมาก
เมืี่อเทียบเสียงกับสายไฟเส้นแรก

นี่เป็นการเบิร์นสายไฟนะครับ ไม่ใช่ลำโพงหรือ หูฟังที่จะเป็นตัวให้กำเนิดเสียงโดยตรง

คุณลองอ่านลิงค์ที่คุณโอตะกับผมแปะไว้ให้ ละเอียดๆ นะครับ อาจจะพอได้ภาพชัดเจนขึ้น