Guest
หมวดหมู่ > เว็บบอร์ด จับฉ่าย

ช่องทางการติดต่ออื่น

  • Munkonggadget
  • Munkonggadget Reviews
  • Munkonggadget Reviews
  • Munkonggadget Contact Us

kazu99

09/06/2010 03:39:25



ขอคำแนะนำเหล่าเกจิทั้งหลาย
ผมพึ่งได้หูฟัง Philips SHE9850 มาครอบครองเป็นเจ้าของแต่เพียงผู้เดียว
ว่าแล้วก็อยากจะให้มันแสดงตัวตนที่แท้จริงออกมาประกาศศักดา ให้ชาวโลกได้เห็น
เลยอยากจะทราบว่า ถ้าจะ BURN เจ้าหมอนี่ ควรใช้แนวเสียงใด จึงจะเหมาะ ครับ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 1

THX111

09/06/2010 14:20:33

Philips SHE9850 เป็นสุดยอดอินเอียร์ที่ถูกมองข้าม เพราะมันขี้ฟ้องมากๆ
คนส่วนใหญ่ที่ไม่ชอบมันเพราะเอามันไปฟังเพลงตลาดทั่วๆไป ที่มักอัดเสียงมาไม่ดี
เสียงจึงออกมาจัดจ้านแสบแก้วหู บางคนบอกว่ามันไม่มีเบสเอาเสียเลย

แต่ถ้าเลือกเล่นเพลงที่บันทึกเสียงมาดีๆ เช่นพวกแผ่น CD เพลงแจ๊ส หรือ CD ออดิโอไฟล์
ต่างๆ (Chesky,Sheffield,JVC,MFSL,DCC) SHE9850 จะแสดงศักยภาพของ
มันออกมา อย่างที่หูฟังฟูลไซส์ดังๆหลายตัวต้องอายเลย

ใครที่ติว่าเสียงเบสมันไม่ค่อยมี ลองฟัง แผ่นเรฟเฟอเรนซ์ ของ Wilson Audio
แล้วจะตกใจ เริ่มตั้งแต่แทร็คแรกเลย เสียงเบสดรัมทั้งลึกและหนักแน่นเหนือกว่า RS1
เสียอีก มันให้รายละเอียดของเสียงทุ้มได้ดีมากจนได้ยินเสียงกระเพื่อมของหนังกลอง
ซึ่งหาได้ยากในอินเอียร์ทั่วไป

ถ้าคุณชอบฟังเพลงไทย หรือ เพลงแดนซ์ แรพ ฮิพฮอพ อาร์แอนด์บี และเพลงป๊อบ
ตลาดทั่วๆไป อย่าเสียเงินซื้อ SHE9850 ไปใช้ เพราะจะทำให้ผิดหวัง

SHE9850 เป็นหูฟังที่ความไวสูงมาก ไม่ควรใช้แอมป์ขับ ต่อตรงใช้ได้เลย
และไม่จำเป็นต้องเบิร์นอินครับ ขอยืนยัน

ข้อเสียของมันคือถ้าเปิดดังมากๆ (ดังจนเริ่มเป็นอันตรายต่อหู)เสียงของมันจะจัดจ้านขึ้น

ที่สำคัญอย่าเชื่อคำวิจารณ์ของเซียนในบ้านเรา เพราะส่วนใหญ่จะออกมาในเชิงลบ
ต้องลองฟังด้วยตัวเองนานๆ ด้วยแผ่นหรือไฟล์เพลงคุณภาพสูง แล้วคุณจะได้คำตอบ
ว่าจริงอย่างที่ผมพูดมาหรือไม่

ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 2

BECK

09/06/2010 14:50:53
0
เสียงเบสดรัมทั้งลึกและหนักแน่นเหนือกว่า RS1

โอ้วว มายก๊อด ต้องหามา ลองบ้าง ซะแล้ว

รึว่า เจ้า she9850 จะเป็น RS-1 Killer ครับ

ต้องลองๆ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 3

THX111

09/06/2010 15:21:12

คุณ BECK ครับ ที่ผมว่าเสียงเบสเหนือกว่า RS1 นี่ หมายถึงเฉพาะเสียงเบสดรัม
ใน แผ่นเรฟเฟอเรนซ์ ของ Wilson Audio นะครับ ถ้าฟังเพลงสมัยใหม่ทั่วๆไป
เสียงเบสย่อมสู้ RS1 ไม่ได้แน่ เพราะ RS1 มัน คัลเลอร์ กว่า ทำให้ได้เสียงเบส
มากกว่าที่บันทึกมาในแผ่นจริงๆ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 4

ทัตเทพ บุณอำนวยสุข

09/06/2010 17:10:47
125
ลองเท็คนิค เบิร์นแบบงูงูปลาปลาหมาหมาแมวแมวดูครับ ลองดูที่คอลัมทางซ้ายมือของหน้าเวปมั่นคงนะครับ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 5

KoKa

09/06/2010 17:14:48
ผมว่าการที่ SHE9850 เป็นหูฟังจาก Philips
ที่พวกเซียนๆ เห็นว่าเป็นแบรนด์ของเครื่องใช้ไฟฟ่าภายในบ้าน
ไม่ใช่แบรนด์ไฮเอนด์ เลยเกิดอคติไม่เชื่อมั่นในคุณภาพเสียงของมัน
ทั้งๆที่มันเป็นอินเอียร์ที่คุณภาพเสียวดีมากรุ่นหนึ่ง
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 6

Montri

09/06/2010 17:36:11
1
SHE9850 เป็นหูฟังที่ความไวสูงมาก ไม่ควรใช้แอมป์ขับ ต่อตรงใช้ได้เลย
และไม่จำเป็นต้องเบิร์นอินครับ ขอยืนยัน



^
^
ขอค้านเรื่องไม่ต้อง Burn In ครับ ถ้าไม่ให้ไดรฟ์เวอร์มันยืดเส้นยืดสายจนเข้าที่แล้วล่ะก็ ไม่มีทางแสดงพลงที่แท้จริงออกมาได้ครับ หูตัวนี้ผมแนะนำว่าอัดให้น่วมๆครับ 200-300 ชม. อัดเข้าไป เพราะธรรมดาของ Phillips ครับเปิดมาตอนแรก แหลมจะแห้งและจัดมากๆ เบสจะแปลกๆเหมือนหูฟังห่วยๆครับ แต่ผ่านช่วงนี้ไปรสชาติที่แท้จริงจะออกมาเอง

อีกอย่างนึงเรื่องเบสของรุ่นนี้เป็นแบบพอเพียงครับ ถ้าเครื่องกำลังขับไม่ดี ให้เบสได้น้อย จะหายวับเลย แต่ถ้าเจอแอมป์ดีๆ ปล่อยมาครบๆ ก็จะออกมาแบบนุ่มๆเพราะๆครับ

ส่วนเรื่องการเบิร์น ก็หาแผ่นสำหรับเบิร์นอินโดยเฉพาะมาเลยก้ได้หรือไฟล์เพลงที่เรามีอยู่นี่แหละครับเปิดทิ้งเอาไว้ติดต่อกันนานๆครับซัก 20 ชั่วโมงกลับมาฟังทีเพื่อหาความแตกต่างๆ
หรือฟังไปเรื่อยๆนี่แหละ เลิกฟังก็เปิดมันไว้อย่างนั้น เอาให้ครบ 100 ชั่วโมงแล้วก็น่าจะพอเห็นความดีความเลวกันแล้ว


ที่ไม่เป็นที่นิยมอย่างนึงคือ ราคาเมื่อเทียบกับรุ่นอื่นๆแล้วมีที่เสียงดีกว่าเยอะครับ Phillips ผมชอบไปสอยตอนราคาลดเพราะมันลดมากๆจริงๆ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 7

THX111

09/06/2010 17:50:58

เรื่องการเบิร์นอิน SHE9850 นี่ฝรั่งเถียงกันมานานจนได้ข้อยุติไปแล้วครับ
คนที่อ้างว่าต้องเบิร์นเจอท้าพิสูจน์เอา SHE9850 ตัวใหม่เอี่ยม กับตัวที่ผ่าน
การใช้งานมาร่วมปีแล้วมาฟังเปรียบเทียบด้วยเพลงเดียวกัน ผลคือหน้าแตกครับ
คือทายถูกเพียง 4 ใน 10 ครั้ง ไม่ต่างจากการเดาสุ่มเลย

อีกอย่าง SHE9850 มันใช้ไดรเวอร์ แบบ Balanced Dynamic ไม่ใช่แบบ
ไดนามิคที่ต้องการเวลาปรับให้ชิ้นส่วนเข้าที่ระยะหนึ่ง
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 8

THX111

09/06/2010 17:54:01
ขอแก้ไขข้อความครับ แก้เป็น

อีกอย่าง SHE9850 มันใช้ไดรเวอร์ แบบ Balanced Armature ไม่ใช่แบบ
ไดนามิคที่ต้องการเวลาปรับให้ชิ้นส่วนเข้าที่ระยะหนึ่ง

ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 9

Montri

09/06/2010 17:59:50
1
งั้นขอถามเป็นความรู้ละกันครับ
UE TF10 ที่เป็น B-Amature เหมือนกันทำไมเสียงก่อน/หลัง Burn จึงต่างกันราวฟ้ากับเหวขนาดนั้น
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 10

THX111

09/06/2010 18:23:57

ถกกันเพื่อแลกเปลี่ยนความรู้ ไม่ได้ต้องการเอาชนะกันนะครับ

เรื่องการเบิร์นอินอุปกรณ์นี่ วิธีทดสอบแบบ objective ที่ตัดปัจจัยด้านอุปทาน
หรืออารมณ์ความรู้สึกที่อาจมีอคติออกไปนั้น จะต้องทำการทดสอบแบบ blind test
และต้องเปรียบเทียบ ของใหม่ กับ ของที่ผ่านการเบิร์นแล้ว ในเวลาเดียวกัน
โดยใช้เพลงเดียวกัน ปรับความดังไว้เท่ากัน ห้ามปรับแต่งอีคิว หรือการปรับแต่งเสียงอื่นๆ

ไม่ใช่เอาความรู้สึกของเราเมื่อตอนฟังของใหม่ ไปเปรียบเทียบกับหูฟังตัวเดิมที่ผ่านการฟัง
ไปหลายร้อยชั่วโมง แล้ว เพราะสมองเราจะปรับตัวเข้ากับมันจนรู้สึกว่าเสียงมันดีขึ้น
ยิ่งเรามีความเชื่อ หรือศรัทธา เรี่องการเบิร์นอินมากเท่าใด สมองเราก็จะพยายามฟังให้มัน
เพราะขึ้นเท่านั้น มันจึงเป็นมายาภาพของสมองมากกว่าความจริง และสามารถอธิบายได้
ทางจิตวิทยา

ลองอ่านบทความเรื่อง Ten Biggest Lies In Audio ดูบ้างก็ดีครับ

http://www.theaudiocritic.com/downloads/article_1.pdf

ดูตรงข้อ 6

ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 11

Trafficker

09/06/2010 18:25:35
0
ฟิลิปส์เป็นบริษัทแรกที่คิดค้นแผ่น CD Audio ขึ้นนี่ครับ น่าจะมีทักษะด้านการให้เสียงที่ดีด้วย ผมเชื่อมั่น ในฟิลิปส์ครับ 55+
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 12

kazu99

09/06/2010 23:07:08
ผมก็เชื่อมั่นใน Philips เหมือนท่าน Trafficker ครับ ถึงได้ซื้อมา
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 13

sitt

09/06/2010 23:44:51
0
ยั่วกิเลสจัง งานคอมมาร์ทงวดนี้จะมีมาลดราคาเหมือนเดิมรึเปล่าน้า????

ว่าแล้วเตรียมตระกร้อรอสอยดีกว่า
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 14

Montri

10/06/2010 02:27:13
1
อื้มม เรื่องนี้ก็น่าคิดแฮะ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 15

innosteam

10/06/2010 02:35:42
0
ฮิฮิ ดีนะนี่ ที่เราหูตะกั่ว ฟังแค่หูsony ค่าตัวไม่กี่ร้อยก็พอใจแล้ว เบิร์นมันในหูนี่แหละ จะได้คุ้นเคยกันดี
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 16

THX111

10/06/2010 14:45:16

บทความเรื่อง The Ten Biggest Lies In Audio นี้เขียนโดย
Peter Aczel บรรณาธิการของ The Audio Critic นิตยสารใต้ดินที่มีชื่อเสียง
โด่งดังมากในยุค 70's - 90's ซึ่งเป็นยุคที่นิตยสารใต้ดินยังปลอดจากอิทธิพล
ของโฆษณา

Peter Aczel นอกจากจะเป็นนักวิจารณ์เครื่องเสียงระดับท็อปแล้ว เขายังเป็น
วิศวกรอีเลคทรอนิคส์ฝีมือดีด้วย บทความของเขาจึงแน่นปึ้กด้วยหลักการทางวิทยาศาสตร์
ไม่ใช่อ้างหลักวิทยาศาสตร์ปนไสยศาสตร์ (voodoo science)แบบพวกนักวิจารณ์
ใน Stereophile หรือ The Absolute Sound นักวิจารณ์พวกนี้ต่างก็ไม่ชอบ
ขี้หน้า Peter Aczel เพราะไปทุบหม้อข้าวเขา พยายามหาเหตุผลมาหักล้างกับบทความ
เรื่องนี้ แต่ก็เป็นเหตุผลข้างๆคู หนักไปทางเอาสีข้างเข้าแถ และไม่สามารถพิสูจน์ได้ทาง
วิทยาศาสตร์



ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 17

THX111

10/06/2010 18:22:12

Reviewers แทบทุกคนในเว็บ Head-Fi ล้วนก็อปปี้หลักวิทยาศาสตร์ปนไสยศาสตร์ (voodoo science)ไปจากพวกนักวิจารณ์ใน Stereophile และ The Absolute Sound กันทั้งนั้น เช่นเรื่องการเบิร์นอิน ,การโมสาย , การอ้างว่าวงจรหลอดเสียงดีกว่าโซลิดสเตท ฯลฯ รวมไปถึงการใช้ศัพท์แสงประหลาดๆที่ไม่มีใครเข้าใจความหมายที่แท้จริงของมัน(warm,dark,airy,image,bloom,cold,control,musical,texture,tubey)

พวกนี้มักจะใช้ศัพท์แสงที่คลุมเครือ(bullshit language)เพื่อกลบเกลื่อนความมั่วของตน และเพื่อวางตนข่มเหนือผู้อ่านที่ไม่รู้เท่าทัน หลายคนที่ไม่เข้าใจความหมายก็แกล้งทำเป็นเข้าใจเพราะกลัวคนในวงการดูถูกว่าโง่ (The Emperor's New Clothes Effect)
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 18

แคนนอน

10/06/2010 21:48:54
เยี่ยม ตัดกิเลสไปได้เยอะ

ผมละเบื่อพวก head-fi หูรุนแรง เวอร์ซะไม่มี

ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 19

JEMMA

12/06/2010 14:31:40
0
ที่งาน Philips Sale มีรุ่นนี้ดัวยครับ 2,990 มั้งถ้าจำไม่ผิด ไปฟังมาเมื่อกี้แต่ไม่ได้เอากลับมาด้วย 555

คิดอยู่ว่าจะเอาไงดี งานมีถึงพรุ่งนี้นะจ้าาาาาาาา
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 20

firsthand

12/06/2010 19:16:20
0
อ่าน Ten Biggest Lies In Audio เอาไว้เตือนสติก่อนจะเสียตังค์ 555+

แต่ข้อ 1 เรื่องสายสัญญาณนี่ผมว่ามีผลนะครับ
ตะกี๊ลองเทสสายแลนเทียบกับสายลำโพงปกติ
สายแลนเสียบลำโพงขวา สายลำโพงเสียบตัวซ้าย วางลำโพงคู่กัน
ใช้โปรแกรม foobar แล้วก็เพิ่ม dsp ที่ mix stereo เป็น mono เพื่อให้ซ้ายขวาเสียงเหมือนกัน
แล้วก็เปิดสลับซ้ายขวา ใช้เวลาไม่เกิน 15 วินาที ในการสลับไปมา
เสียงของสายลำโพงปกติจะมีความใสมากกว่า เสียงฟังดูกว้างกว่า
แต่สายแลนจะทำเสียงกลางไปทางต่ำได้ดีกว่า ทำให้รู้สึกว่าเสียงแน่นกว่า ฟังร็อกได้มันกว่า

ส่วนข้อ 2 เรื่องหลอดนี่ผมก็เทียบด้วยการเสียบปรีแอมป์หลอดกับไม่ผ่านปรี
ตอนที่ผ่านปรีหลอด เสียงจะนุ่มกว่า มีความอิ่มมากกว่าแบบไม่ผ่านปรี
แล้วการเปลี่ยนหลอดก็ทำให้เสียงเปลี่ยนด้วยครับ

ถ้าผมใช้คำคลุมเครือแบบที่คุณ THX111 บอกก็ขออภัย
ผมไม่ทราบว่าจะหาคำอะไรมาแทนดี 55+

เรื่องเสียงนี่เป็นเรื่องที่พิสูจน์ยากครับ ลำโพงบางยี่ห้อขาดความเป็น Hi-fi ทั้งๆที่ราคาสูงแต่เป็นที่นิยมก็มี

ผมมั่นใจแค่ 2 ข้อนี้ครับ เพราะข้ออื่นๆเริ่มขี้เกียจอ่าน 55+

ผมเชื่อในสิ่งที่พิสูจน์ได้ครับ และผมก็ได้ลองพิสูจน์ 2 ข้อต้นนั้นด้วยตัวเองแล้ว
เห็นความแตกต่างได้ชัดเจนจริงๆครับ

ทางที่ดีเราก็ฟังๆไว้หลายๆความเห็นแล้วพิสูจน์ด้วยตัวเองดีที่สุดครับ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 21

Montri

13/06/2010 00:35:31
1
2990 เลยหรือนี่ ต้นๆปีผมไปงานเคลียร์ของ HWH เห็น แค่ 1800 เองครับ ยังไงไปเดินคอมมาร์ทน่าจะพอมีมั่งล่ะ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 22

JEMMA

13/06/2010 09:07:42
0
โอ้ 1800 คงไม่ต้องคิดแล้ว 555555 ดีนะไม่ได้หยิบติดมือมา
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 23

Gearloose

14/06/2010 17:43:21
คห.20 สนใจเงินล้านดอลลาร์ไหมครับ

http://forum.munkonggadget.com/detail.php?id=31641
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 24

mdit

06/01/2011 21:31:51

เรื่องเสียงก็คงพูดยาก ผมเชื่อว่าพวกเซียน ที่ว่าต่อนั่น เพิ่มนี่ ทำให้เสียงออกมาแตกต่าง

มันก็ต่างจริงล่ะ เวลาที่ ตัวเซียนเองต่อเองฟังเอง วัดผลเอาเอง ก็แหงล่ต่างชัวร์

แต่ลองไป Test 1 ล้านดอล ดูสิ ที่เขาจัดมาให้เสร็จเพื่อให้ท่านเซียนทั้งหลายไปลอง

ผมว่าผล....555 เปลืองค่าเครื่องบินซะเปล่า ๆ เพราะอะไร เพราะว่าท่านเซียนขาดกระบวน

การหนึ่งไป นั่นคือการที่รู้คำเฉลยตั้งแต่แรก ว่าเอาอะไรมาต่อมั่ง แต่การtest เซียน

ไมู่้รู้อะไรเลย เลยมั่วมันซะ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 25

2112

09/01/2011 03:11:18
อืม เป็นประเด็นที่น่าสนใจมาก

เสียดายไม่ค่อยมีคนมาแสดงความคิดเห็น
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 26

ขอนิดนึง

09/01/2011 17:08:03
ผมว่าของอย่างงี้มันอยู่ที่ความเชื่อด้วยนะส่วนนึง อีกส่วนนึงคือวามสามารถ

บางคนอาจจะเบิร์นแล้วได้ยินเสียงดีขึ้นจริงๆก็ได้ อาจไม่ใช่สำหรับหูฟังตัวนี้
พวกที่บอกว่าเบิร์นไปแล้วเท่านั้น ก็อาจเป็นเพราะฟังแล้ว ไม่เห็นความแตกต่างหรือขี้เกียจเบิร์น หรือจะอะไรก็แล้วแต่

ส่วนพวกที่สอง เป็นแบบเบิร์นตามความเชื่อ เห็นว่าเบิร์นแบบนี้เสียงดี ทำตามที่เค้ารีวิวกัน
พอทำตามแล้ว เอ้ออ เสียงดีจริงๆด้วย ทั้งๆที่ฟังไม่ออก แต่ใครจะทำไมละ คนอื่นอาจจะมองว่าหลอกตัวเอง แต่พวกเค้าก็มีความสุข ไม่ได้ทำให้ใครเดือดร้อนซะหน่อย

บางคนอาจจะคิดว่า ซื้อสายต่อนั่นนี้ เส้นละหมื่นละแสน บางคนบอกว่าเสียงไม่ต่างจากตัวเดิมที่แถมมา บอกว่าพวกนี้คิดไปเอง มันก็เหมือนซื้อทะเบีบยนรถนะผมว่า ถึงแม้จะบอกเลขได้เหมือนกัน แต่ทะเบียนรถเลขสวยหรูเวลาดูแล้วมันก็มีความสุขกว่านะ

สุดท้าย ไม่ต้องไปว่าพวกที่เขียนรีวิวเกินจริงหรอกครับ
แค่เชื่อคนที่คุณศรัทธาเค้าก็พอ คนไหนที่เขียนดีเห็นว่าน่าเชื่อถือก็เชื่อไป

อันนี้ความเห็นผม หูดีบุกมาก !
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 27

echo

09/01/2011 18:59:01
พูดถึงเรื่องการอ่านรีวิว ต้องเข้าใจก่อนว่า ผู้เขียนรีวิวแต่ละท่าน ย่อมมีความชอบไม่เหมือนกัน เช่น บอกว่าเบสหนัก สำหรับคนอื่นอาจจะว่าเบสพอดีๆ สำหรับผมมักจะดูสไตล์ของแต่ละท่านที่รีวิวก่อน คือเขารีวิวอะไรไว้ เราก็ลองหาฟังดูว่าเป็นอย่างเขาว่าไว้ไหม จนพอจับทางกันได้ อีกทั้งผู้รีวิวแต่ละคน อาจจะให้ความสำคัญในสิ่งต่างๆแตกต่างกันไป บางคนเน้นความกว้าง บางคนเน้นบาลานซ์ ฯลฯ
มาถึงผู้ที่อ่านรีวิว ควรใช้วิจารณญาน หากอ่านแล้ว ได้ไปลองฟัง ฟังไม่ออกแยกไม่ได้ หรือฟังแล้วไม่เป็นอย่างเขาว่า ก็อย่าด่วนสรุป อย่าหลอกตนเอง ค่อยศึกษา ค่อยๆฟัง เสน่ห์ของเครื่องเสียงคือการเรียนรู้ การได้สัมผัสครับ เพราะแท้จริงแล้วคือ เราฟัง"เพลง" เครื่องคือส่วนประกอบ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 28

art alone

07/06/2013 16:09:43



ผมก็เป็น สาวก philips เหมือนกัน มีอยู่ หลายตัว she 9850 ว้ฟังแนว acoustic
she6000ไว้ดูหนังและฟังธรรมะ shl9500ฟังเพลงทั่วไป shp89009ตัวนี้ชอบมาก ฟังได้ทุกแนว ใช้จนยางหุ้มสายล่อนหมดแล้ว ยิ่งฟังยิ่งชอบ
ในความเห็นของกระผม คิดว่าไม่มีอะไรผิด ไม่มีอะไรถูก เหมือนผู้แสวงบุญ ย่อมพบหนทางบรรลุธรรมของตน หูฟังก็เช่นกัน ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัยนะครับ ทั้งตัวหูฟังเอง , fileเสียง,เครื่องเล่น ,เครื่องปรับแต่งเสียง ,สายสัญญาณ ฯลฯ แต่ที่แน่ๆ หูของเรานี่แหละครับที่เป็นปัจจัยและตัวแปรสำคัญ ขึ้นอยู่กับความชอบครับ
สำหรับตัวผมเองก็อยากจะฟังหูฟังเสียงดีๆ แต่ถ้าจะให้ซื้อมาลองฟังหมดทุกตัวก็คงไม่ไหว เอาเป็นว่าที่ไหนมีให้ลองฟัง ก็ไปลองก่อนดีกว่าครับ ต้องยกเครดิต ให้ร้านเฮียมั่นคงครับ
ชอบเสียงแบบไหน มีทุนแค่ไหน ก็จัดไปเลย อันนี้นานาจิตตัง (กะตังค์ด้วยครับ 555+)สุดท้ายคือได้เสียงดีที่พอใจ พอดี พอถึงจะดี คือดีที่สุดแล้ว อามี๊ดตาปู๊ดดดด
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 29

art alone

07/06/2013 16:15:56
ขออภัย พิมพ์ผิดครับ shp8900 ครับ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 30

M.A.C.T.

28/09/2013 09:59:56
0
อ่านแล้วสนุกเลยดันให้อ่านกัน
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
"burn Philips SHE9850"