https://forum.munkonggadget.com/detail.php?id=242124

ถ้าตั้งคำถามแบบนี้ ผมตอบได้เลยครับว่าไม่มีผล (กับระบบที่คุณใช้อยู่) เพราะถ้าระบบที่คุณใช้อยู่มีศักยภาพแล้วหล่ะก็ เปลี่ยนอะไรฟังออกหมดครับ

ไม่ว่าที่เปลี่ยนจะเป็น สายไฟ ฟิวส์ สายสัญญาณ สายลำโพง หรือสาย USB ที่คุณถามมา ส่วนที่ถามว่ามากขนาดไหน ตอบได้ว่าไม่มากครับ

เพราะมันอยู่ในระบบดิจิตอล ซึ่งตัวระบบมันป้องกันความเพี้ยนไว้ระดับหนึ่งแล้ว คือระบบมันมีการชดเชย ไม่เหมือนอนาล็อค

ปล. คหสต. เครื่องเสียง (หูฟัง)ที่ผมเล่นอยู่ รวมๆ กันก็หลักแสน แต่ยังใช้สาย USB สั่งทำราคาพันต้นๆ ไม่ขยับไปหลักหมื่น

เพราะเคย blind test กับสายราคาเกือบหมื่นแล้ว สายแพงให้เสียงที่ดีขึ้นแบบต้องพยายามจับสังเกต ผมมองว่าเอาเงินไปอัพอย่างอื่นดีกว่า

แต่ถ้างบประมาณไม่ใช้ปัญญา แนะนำว่าอัพเลยครับ ดีขึ้นแน่นอน

ดีขึ้นครับ โดยเฉพาะแดคที่ต้องใช้ไฟเลี้ยงจากต้นทาง ก็คือถ้าไม่มีไฟ5VจากสายUSBแล้วเครื่องจะไม่ทำงาน โดยมีบางเครื่องที่ต้องใช้ไฟที่มาจากเเหล่งเดียวกับสัญญาน บางเครื่องแค่เป็นไฟ5V ก็พอมาจากไหนก็ได้ แบบนี้ถ้าเป็นสายที่ชีลด์กันรบกวนดีๆ หรือแยกสายไฟ5V ออกมาต่างหาก จะได้เปรียบมาก ยังไม่รวมเครื่องที่สามารถใช้ไฟจากแหล่งอื่นได้อีกซึ่งเราสามารถใช้ไฟที่สะอาดๆมาป้อนให้ต่างหาก เสียงดีขึ้นมากๆๆเลยครับ

ลองอ่านกระทู้นี้ ของคุณ Draco ดูครับ

https://forum.munkonggadget.com/detail.php?id=192289

เริ่มจากเอาสายแถมที่อยู่ใกล้ๆมือมาลองฟังดูก่อน ถ้าฟังออกค่อยเสียเงินซื้อของแพง

ก็ตอบยากอยู่

เท่าที่ลองดู ตอนเปลี่ยนใหม่ๆ ก็ฟังออกนะ 

แต่พอผ่านไปสักระยะ หูเริ่มปรับตัวชินแล้ว ฟังเทียบกับสายแถม ก็ไล่ๆกัน

ผมว่ามันเป็นประสพการณ์ในการฝึกฟังมากกว่า แน่นอนละ มันมีผล แต่จะคุ้มค่าเงินใหม อันนี้ต้องทดลองเอง 

ความเห็นส่วนตัวนะครับตั้งแต่ผมเล่นเครื่องเสียง/หูฟัง มามีอยู่ 2 อย่างใหญ่ๆที่มีผลต่อเสียง 1.ทุกอย่างที่เกี่ยวข้องกับไฟฟ้า 2.ทุกอย่างที่เกี่ยวข้องกับการสั่นสะเทือน

ถ้าเลือกที่จะเป็นนักเล่นนะครับอย่างแรกต้องเปิดใจกับมันก่อนแล้วลองเล่นมันดูครับ ถ้าฟังออกว่าเสียงเปลี่ยนไปยังไงมันก็จะมีเรื่องให้ท้าทายหูของเราอยู่เรื่อยๆไม่รู้จบ แล้วคุณจะสนุกกับมันและรู้จักวิธีที่จะรีดคุณภาพเสียงจากมันได้ครับ แต่ถ้าเลือกที่จะเป็นนักฟังเรื่องพวกนี้ลืมๆมันไปเลยหรือไม่ต้องสนใจเลยก็ได้ การหาเพลงเพราะๆมาฟังอาจจะสนุกกว่านั่งจับผิดเสียงเพลงก็เป็นได้ครับ

ส่วนตัวผมยอมรับเลยว่าเป็นทั้งนักเล่นและนักฟังถ้าคิดเป็นอัตราส่วนก็ 60:40 คงจะได้ครับ 555 อย่างน้อยการเป็นนักเล่นของผมก็ทำให้ผมรู้ว่าถ้าอยากจะฟังเพลงเดิมๆให้เพราะขึ้นต้องจัดการยังไงกับมันบ้างโดยบางครั้งไม่จำเป็นต้องเสียเงินเยอะขนาดต้องเปลี่ยนเครื่องหรือเปลี่ยนหูฟังก็ทำให้เสียงดีขึ้นได้ครับ

ส่วนน Priority ของสายถ้าอยากให้เสียงดีก็ต้องให้มันสำคัญเท่ากันหมด เพราะมันก็เหมือนเป็นสะพานเชื่อมตั้งแต่ต้นทางไปปลายทาง ถ้ามันไปอั้นคอขวดที่จุดใหนไม่มีทางหรอกครับที่มันจะแสดงประสิทธิภาพที่แท้จริงของชุดฟังออกมาได้หมดครับ ลองคิดดูว่าถ้าไม่มีสายเส้นใดเส้นนึงมันจะมีเสียงออกมาให้ได้ยินไหมครับ แต่ถ้าอยากเริ่มนะครับเปลี่ยนจากจุดนี้ก่อน สายสัญญาณ > สายไฟ > USB เพราะตั้งแต่อดีตนักเล่นจะให้ความสำคัญกับสายสัญญาณก่อน จนมาถึงยุคสายไฟก็เริ่มยอมรับกันมากขึ้น จนมาถึงยุคดิจิทัลก็เป็นสาย USB จะว่าเล่นตามวงล้อประวัติศาสตร์ก็ไม่เชิง 555 ลองดูนะครับ

สาย usb เป็นตัวแปรท้ายๆ ของการปรับจูนอุปกรณ์คับ

แต่ว่าก็มีผลมากหลายอยู่

ใช้สายแถม เสียงสู้สาย usb ดีๆ ที่ทำมาเพื่อการฟังเพลงไม่ได้เลยคับ

ทุกวันนี้สาย usb ที่ผมใช้ราคาใกล้เคียงกับหูฟังคับ

กระทู้ถามแบบนี้มีให้เห็นทุกวงการนะคับ  แล้วก็จะมีคนวนมาถามหลังจากคำถามเดิมตกไปจากหน้าแรก

กระทู้แบบนี้รู้ไหมคับว่ามันมีความต่างระหว่างลักษณะนิสัยของคนที่มาถามกับคนที่มาตอบ 
และผมแอบคิดในใจว่าคนที่มาช่วยกันตอบ ก็จะเป็นคนที่ไม่เคยโพสถามคำถามลักษณะนี้
อันนั้นอันนี้มีผลไหม คนพูดคนถามกันเยอะแยะ  แต่ผมเชื่อว่าที่บ้านแทบทุกคนมีสาย usb มากกว่า 1 เส้นทุกคน
หรืออย่างวงการกล้อง ก็จะมีคนมาขอดูรูปจากเลนส์โน้นเลนส์นี้ กล้องโน้นกล้องนี้
คนพวกนี้ไม่รู้จักกระทั่งหลักคิดในการเปรียบเทียบด้วยซ้ำ  เสียเวลาเปล่าๆ

และที่แปลกหนักกว่า คือคนที่ถามลอยๆแบบนี้  ก็มักจะไม่วนกลับมาอ่านคำตอบที่มีคนมาช่วยตอบด้วยนะเออ..555

ผมคิดว่าคนเล่นเครื่องเสียงปัจจุบันโชคดีไม่ต้องลองผิด(ถูก) หาข้อมูลในเวปได้มากมาย
ผมเองตอนแรกก้ไม่สนใจและไม่คิดว่ามีความแตกและไม่มีทางเป็นไปได้
ตอนแรกใช้สายแถม พัฒนาขึ้นมาใช้หัวทอง(ติดมากับ nad d3020)
ผมเล่นไฟล์ตั้งแต่ .flac ยัน dsd 128 วันหนึ่งมันเงียบมากช่วงอากาศหนาวเดือนธันวาคม
 ลองฟังผ่านสายusb ตัวเก่ง(เล่นกับ audio gd28)ต่อกับแอมป์หลอด
เฮ้ยเสียงมันทำไมแปลกๆ เหมือนมันทั้งบาง ไม่ชัด ขาดรายละเอียด ฟังไม่มีความไพเราะหรือว่าหูเราเป็นไรไปเนี่ย
นึกได้ ลองฟังกับเครื่องซีดี เลือกแผ่น rr dick hyman เสียงปกตินี่นา 
ก็เลยเข้าไปหาข้อมูล(เมืองนอก)เกี่ยวกับสายusb ถึงบางอ้อ(มีรายละเอียดมากมาย)
พอดีมีคนลงขายด้วย ก็เลยได้มีโอกาสครอบครองและเมื่อเสียบกับ systemทำให้เรารู้ว่าโลกของdigitalที่หลายคนเข้าใจว่า
มันมีแค่ 0กับ 1มันมีอะไรมากกว่านั้นเยอะมาก
ปล.แถมให้อีกนิด สายusbมีแมทชิ่งด้วยนะครับ
ผมมีน้องที่เล่นลำโพง wilson กับ dac amp hegel30 เขาซื้อสายมาลอง 3 รุ่น 3 ราคา 5000 15000 20000
เขาชอบสายราคา 5 พันมากที่สุด

นอกจากสายต่างๆแล้ว Adapter แปลง 3.5 เป็น rca เสียงก็เปลี่ยนครับ
ผมไปซื้อของ Audioquest มา เท่าที่ดูเห็นว่าว่ามันน่าจะไม่ทำให้สาย Rca งอมากเวลาต่อกับหลังคอม เลยซื้อมาใช้ กลายเป็นว่าเปลี่ยนปุ๊บเบสเยอะกว่าเดิม
ใช้ไปสัปดาห์นึงต้องเปลี่ยนกลับเป็นตัวเดิมที่ซื้อจากร้านอมร เพราะลำโพงปกติเสียงอุ่นมีเนื้อค่อนข้างหนาอยู่แล้ว เสียงเลยทึบกว่าเดิมเมื่อใช้อแดปเตอร์ตัวนี้

กังวลเลยว่าถ้าอะไรซักอย่างในระบบเสียงที่ใช้อยู่เกิดเสีย เวลาจะเปลี่ยนกลัวว่าไม่ได้แค่เปลี่ยนชิ้นนั้นชิ้นเดียว