Guest
หมวดหมู่ > เว็บบอร์ด จับฉ่าย

ช่องทางการติดต่ออื่น

  • Munkonggadget
  • Munkonggadget Reviews
  • Munkonggadget Reviews
  • Munkonggadget Contact Us

ไฟล์ประเภทไหนที่คุณภาพเสียงดีที่สุดหรือครับ

Genn

19/03/2009 23:03:15
ไฟล์ประเภทไหนที่คุณภาพเสียงดีที่สุดหรือครับ หรือไล่เรียงมาก็ได้ แบบว่าเห็นมาหลายประเภทแล้วแต่อันไหนที่มันดีสุดจริงๆ flac lossless mp3 mp4 wav ที่รู้จักมีเท่านี้เองมีแบบอื่นอีกไหมครับ อันนี้มีคนบอกมาไม่รู้จริงไหม ว่าไฟล์จากห้องอัดดั้งเดิมเลยที่ต่อเพลงมันเป็น 100mb
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 1

ota_hay

19/03/2009 23:46:33
3
wavดีที่สุดใกล้เคียง cd ต้นฉบับที่สุด

เหมือนเคยอ่านมาไม่รู้จริงป่าว ว่าที่บันทึกเสียงในห้องอัด มาสเตอร์ยังเป็นเทปอยู่เลย
แล้วค่อยแปลงจาก อนาล็อก เป็น ดิจิตอลมาขายอีกที......ผมอ่านมาอีกทีนะไม่รู้จริงป่าว ไม่เคยเห็นของจริง ๆ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 2

Tanan

20/03/2009 11:20:04
0
file แบบ iso 5555+ เหมื่อนจริงๆมากเวลาสั่งให้อ่าน sub track ด้วย
เสียง wav จะใกล้กับแบบ CD ที่สุดแต่ส่วนใหญ่ bit rate อยู่ที่ 320k มากสุด แ ต่ถ้า flac bitrate จะสูงกว่า 320k แน่ๆ แต่มันไม่คงที่ขึ้นกับช่วงนั้นๆของเพลง มีตั้งแต่ 400 - 870k กันเลยทีเดียว
แต่เสียงออกจะต่างจาก CD ไปบ้าง ถ้าคุณทำ wav ระดับ 800k ได้ผมน๊ะนำ wav แต่ถ้าไม่ได้แล้วชอบรายละเอียดมากๆ ก็ flac ครับ ส่วนพวก lossless ก็มีทั้ง flac , ape, m4a อะไรอีกเยอะ acc lossless ก็มี (พึงนึกได้ acc ก็เข้าถ้าน๊ะ หรือ ogg) ลองๆเล่นเองดีกว่าครับ เพราะมันมี file หลายแบบมากๆ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 3

Hannibal Lecter

20/03/2009 12:15:50
0
Wav ที่มาจาก CD ดีที่สุดครับ bitrate ไม่ได้ต่ำอย่างความเห็นที่สองว่า เรียกได้ว่าเท่ากับ CD เลย เพราะในขั้นตอนการอัดเสียงในสตูดิโอ เค้าก็อัดเป็น Wav file (ซึ่งจริงๆแล้ว Wav สามารถ Compress ได้เหมือนกัน แต่ไม่ค่อยทำกัน) ที่ความละเอียดที่ 44.1 kHz, 16-bit stereo ซึ่งก็เท่ากับ CD นั่นแหละ ดังนั้น ถ้าอยากได้เสียงเท่ากับ CD ทุกประการ ก็ควรใช้ Wav แบบ uncompressed

พวก ISO เป็นการแปลงให้เป็น Image file ซึ่งไว้ใช้กับกระบวนการ copy แบบ Duplication ไม่ได้ออกแบบมาเพื่อการใช้งานกับอุปกรณ์เสียง ดังนั้นจึงไม่มี (เท่าที่ทราบ) เครื่องเล่นออกมารองรับ

รองลงมาก็เป็นพวก lossless เช่น FLAC และ Apple ผมใช้ของ Apple lossless ซึ่งมี bitrate ตั้งแต่ 600 - 1100 kbps แล้วแต่ความซับซ้อนของเสียงเพลงที่จะทำการแปลงครับ โดยผมแปลงจาก CD ตัวอย่างเช่น Joe Pass แผ่นเก่าและมีแต่เสียงกีต้าร์ Bitrate จึงออกมาประมาณ 700 kbps ต่อเพลง ขณะที่ Cynic - Traced in air ซัดไปเป็นหลักพันกว่า kbps ทุกเพลงครับ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 4

Hannibal Lecter

20/03/2009 12:19:41
0
ห้องอัดปัจจุบัน ในขั้นตอนการอัด Sample ต่างๆ ใช้ระบบ digital หมดแล้วครับ มันประหยัดกว่า ง่ายกว่า สะดวกกว่า เว้นแต่ห้องอัดเก่าๆ จริงๆ หรือห้องอัดแนว vintage ที่ยังใช้ Tape อยู่ ซึ่งก็หายากแล้ว
แต่ในส่วนเครื่องดนตรี นักดนตรียังนิยมใช้ของ analog อยู่มากกว่า digital พอสมควรนะ อิอิ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 5

nack

20/03/2009 12:27:38
wave เลย 1411kbps
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 6

วี

20/03/2009 13:20:16
ผมริปเป็น flac,lossless ก็ได้ 1411kpbs ตลอดนะครับ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 7

Hannibal Lecter

20/03/2009 15:53:18
0
ครับ ของ FLAC เค้าละเอียดกว่า มันเซ็ตได้ว่าจะเอาละเอียดแค่ใหนยังไง อยากใช้อยู่เหมือนกัน
แต่ iPod ผมเล่น Flac ไม่ได้ เลยใช้แต่ Apple Lossless ผลเลยเป็นอย่างที่ได้เขียนไปครับ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 8

?

20/03/2009 16:28:41
WAV เทียบแล้วก็เหมือน BMP ของรูปภาพนั่นละคุณภาพดีสุดแล้ว
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 9

Genger

20/03/2009 19:21:35
0
คห. 6 เป็น 1411kb ก็จริงครับ แต่อย่าลืมดูที่คุณภาพของไฟล์นะครับ อย่าง mp3 ยังมีแยกย่อยตัวย่อ3ตัว เยอะแยะมากมายขี้เกียจอธิบาย - - เอาง่ายๆ wavใกล้เคียงกับต้นฉบับสุดครับ (เหนื่อยอยู่คิดไม่ออกว่าจะพิมพ์ว่าอะไร - -)
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 10

HzC

20/03/2009 19:58:37
ที่เป็นเสียงดั้งเดิม ไฟล์แรกจากการอัดเลย คือไฟล์อะไรหรือครับ ผมคิดว่าไฟล์นั้นแหละดีสุดแล้วรองมาจากการเล่นจริงเลย

มีใครพอจะรู้ขั้นตอนต่างๆตั้งแต่ตอนอัดจนกลายมาเป็น แผ่นเพลง เอาแบบคร่าวๆก็พอ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 11

Tanan

20/03/2009 20:09:42
0
ผมก็คิดแบบ ความเห็นที่ 3 หละครับเพราะ Studio อัดเป็น wav จริงๆ ผมใช้มือถือ ส่งเสียงบน Internet Protocol ยังเป็น wav เลย ซึ่งถ้าจะให้ดีที่สุดต้อง wav lossless แบบที่คุณ Hannibal Lecter
ว่าไว้
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 12

วี

20/03/2009 21:56:55
แล้วถ้าผมแปลงจาก flac มาเป็น lossless คุณภาพจะด้อยลงมั๊ยครับ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 13

อั้ม

20/03/2009 22:19:52
0
wav ดีสุด bitrate , sample rate สูงสุด Flac กับ Apple Lossless อันนี้ Flac ชนะไปในด้าน sample rate ครับ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 14

นายมั่นคง

20/03/2009 22:24:02
0
โอวววว ความรู้เนื้อๆๆ ทั้งนั้นเลยเนี่ย 555
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 15

อั้ม

20/03/2009 22:31:08
0
จะว่าไป ในเวบนี้ก็มีลิงค์ที่มีข้อมูลพวกนี้นิครับ

http://forum.munkonggadget.com/detail.php?id=9725

เนี่ยอะ - -
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 16

TOON

20/03/2009 22:37:50
ไฟล์อันไหนคุณภาพเสียงดีที่สุด คงตอบแบบฟันธงไม่ได้ซะทีเดียวขึ้นกับหูฟังด้วย

ไม่รู้ว่าผมเป็นคนเดียวหรือเปล่าฟัง FLAC หรือ mp3 320 กับหูฟังระดับล่างๆ แล้วสู้ mp3 192 256 VBR 2 ไม่ได้

ในทางตรงกันข้าม ถ้าฟัง 128 192 กับหูระดับ hi-fi เสียงจะฟ้องมาก ค่อนข้างแย่ทีเดียว ต้อง 320 กับ ตระกูล lossless ถึงเอาอยู่ noise ชัดมากตอนที่ไม่มีเพลงอ่ะ

ความเห็นส่วนตัวนะครับ อาจไม่จริง คิดไปเอง 555
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 17

Genger

20/03/2009 22:44:01
0
ตอบ ค.ห. 10นะครับ ไฟล์ดั้งเดิมมันรุสึกจะเป็น.cdaมั้งถ้าจำไม่ผิด เป้นไฟล์เลื่อนลอยครับ เพราะลองเข้าไปดูในแผ่นจะเห้นว่ามันมีขนาดแค่44kbเอง แต่ริปออกมาเป้นwav ทะลึ่ง 20-60mb ซะงั้น 555+ แต่ว่าวิธีอัดของเค้าผมไม่รุหรอกนะ - - รอไปทำงานที่ตึกแกรมมี่ก่อน 555+ (เรียนบริหารแล้วจะไปทำที่นั้นได้ไงฟะ- - เอ่อมั่วๆกันไป 555+) รุแค่นี่ละครับ - -
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 18

หยก

20/03/2009 23:47:38
1
กราบเรียนท่านประธาน
ไฟล์พวกนี้ มันเหมือน ตระกร้าเยี่ยมคนไข้ อ่ะครับท่าน
ผมจะแจงยังงี้เ ตามผมมาช้าๆนะท่านประธาน
ไฟล์มีสองพวก ในที่นี้ผมจะ เรียกว่าตระกร้าเยี่ยมคนป่วยก็แล้วกัน
ผมจะรวบรัด เพื่อนเ้วลาอภิปรายของสมาชิกท่านอื่น
ตระกร้าที่ 1 ไฟล์ lossy ตระกร้าที่ 2 ไฟล์ lossless
lossy = สูญเสีย มากหรือน้อยอยูที่ bitrate กะ simple rate ที่มี
ิbitrate = ความละเอียด ครับท่านประธาน
simplerate = ช่วงความถึ่ หรือความถึ่สัญญาณ
ซึ่งยิ่งมาก ก้อไม่แน่ว่าจะดีเพราะ cd สุดๆ ได้แค่ 44.1khz
ซึ่งไฟลื lossy ได้แก่ mp3 ogg aac หรืออีกเยอะแยะ ที่มีการตัดทอนสัญาณนะครับท่านประธาน
ตระกร้าที่ 2 ไฟล์ lossless = ไม่สูญเสีย แต่มีการบีบ คล้ายๆ zip แต่เวลาฟัง แตกออกมาก ไฟล์ก้อเหมือนต้นฉบับแปะๆ ผ่าน decorder ของ player นั้น ๆ ซึ่งแน่นอน คุณภาพต่างกัน
ไฟล์พวกนี้ได้แำก่ ape flac wav aiff applelossless(m4a) ต่างๆนาๆ
ซึ่งอย่าลืม ไฟล์พวกนี้ จะมีคุณภาพไม่มีคุณภาพขึ้นอยู่กับ ต้นฉบับ ไปรแกรมแปลง การโอนถ่ายข้อมูล player หูฟัง ซึ่งมีส่วนทำให้ไฟล์เสียคุณภาพแน่นอน อยู่ีที่มากน้อย แล้วท่านประธานอาจงงว่าแล้วไอ้พวก wav กะ flac ที่มี bitrate ต่างกันแต่ ทำไม ผมถึงอภิปรายบอกว่า คุณภาพเหมือนกัน เพราะ flac คือไฟล์บีบอัด เวลาฟัง player จะ คล้ายcode มาเหมือนต้นฉบับ ทำใ้ห้บิทเรทต่ำกว่าขนาดเล็กกว่า แต่เปลืองแบตมากกว่า ส่วน wav คือการเก็บแบบ ไม่บีบอัด มาไงไปงั้น เก็บไว้ครบ ไม่เปลืองแบตด้วย
ตัวอย่างการเก็บข้อมูล wav = a dd b c ccc b
flac = a 2d 2b 4c
อะไรแบบนี้คือบีบมาเก็บ ให้เล็กว่า ฉลาดกว่า แต่แตกออกมีค่าเท่ากัน
ฉะนั้นผมขอจบการ อภิปราย ของผมแล้วครับ ถ้าเห็นผิดพลาดประการใด สามารถใช้สิทธิ์ประท้วง และสิทธิ์พาดพิง ได้ตาม ข้อบังคับข้อที่ 61 63 68 ตามลำดับ ขอบคุณครับท่านประทาน

ฮาๆๆๆ ขำๆ
ตอนแรกว่าจะพิมพ์เล่น ไหงยาวอย่างนี้ -*-
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 19

milk

21/03/2009 00:16:57
0
เอาแค่ WAV ก็มี WavPack,WAVE,WAV(Microsoft),WAV(NIST Sphere),WAVEX ก็งงแล้วว่าอันใหนใช้ใงอันใหนดีสุด
(มีรายละเอียดแยกของแต่ละอันอีก เวลาจะ แปลงทีผมงงขี้แตกเลย)
Signed 8 , 16 , 24 , 32 bit PCM
32 , 64 bit float
U-Law
A-Law
A-Law 2:1
µ-Law 2:1
IMA ADPCM
Microsoft ADPCM
GSM 6.10
32kbs G721 ADPCM
Liner PCM, 8,16,24,32 bit little endian signed integer
Liner PCM,32,64 bit little endian floating point

งงครับ - -"


ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 20

Joe

21/03/2009 00:22:47
จริงๆ แล้วไฟล์แบบ lossless มันก็ตามชื่อมันนะครับ
คือ lossless ไม่สูญเสียคุณภาพข้อมูลเลย
ถ้าเอาไฟล์ .wav มาแปลงเป็น lossless เช่น .flac
แล้วเอา .flac ที่ได้ แปลงกลับไปเป็น .wav อีกที
.wav ที่แปลงจาก .flac มาจะเหมือน .wav ต้นฉบับเดี๊ยะๆ เลยครับ
เหมือนกับเรา zip มัน เพียงแต่ว่า เป็นการ zip ที่ออกแบบมาสำหรับไฟล์เสียงโดยเฉพาะ
มันเลยลดขนาดได้มากกว่าการเอาไป zip (ส่วนมากก็ประมาณ 50%)

ปกติตัวเลือกในการบีบอัด lossless ไม่มีผลกับคุณภาพของข้อมูล
แต่เป็นการบอกให้โปรแกรม "พยายาม" มากแค่ไหนในการบีบอัดข้อมูล
ถ้าพยายามมากหน่อย ไฟล์ที่ได้ก็เล็กกว่าหน่อย แต่ว่าเวลาบีบอัดก็จะมากขึ้นตามไป
เหมือนกับเราเลือก compression level ใน zip แหละครับ

การเล่นไฟล์ lossless เทียบกับ .wav เสียงที่ได้จะต่างกันไหม?
ในทางทฤษฏีแล้วมันไม่ควรจะต่างกันครับ (ยกเว้นว่า player มันจะ decode ผิด)
แต่ความเป็นจริงการเล่นไฟล์ lossless มันจะกินกำลังการคำนวณของ player มากกว่า .wav
(เพราะว่า .wav มันไม่ต้องคำนวนเลย)
ถ้า player แรงๆ อย่างคอมพ์เนี่ย มันก็ไม่ควรจะต่างกัน
แต่ถ้าเป็น player พกพาเนี่ย ก็ไม่รู้เหมือนกันครับ

เทียบกับ Audio CD ต้นฉบับ ไฟล์ .wav หรือ .flac จะมีสิ่งที่ขาดหายไปที่สำคัญคือ gap ระหว่างเพลงครับ
เนื่องจากเวลาเรา rip ออกมาเป็นไฟล์ เราจะดึงมาเฉพาะข้อมูลของ track นั้นๆ อย่างเดียว
พวกข้อมูลระยะว่างระหว่าง track จะหายไป
อันนี้ถ้าพังเพลงทั่วๆ ไป ก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร
แต่พวกที่พังเพลง classic บางครั้งระยะระหว่าง track นี่จะสำคัญมากครับ

พวกข้อมูล gap นี่โปรแกรม rip บางตัวจะดึงออกมาให้เราได้ด้วย ส่วนมากจะอยู่ในรูปแบบของไฟล์ .cue ครับ ถ้าเรามีไฟล์ .cue + .wav หรือ .cue + .flac ก็จะสร้าง Audio CD ที่เกือบจะเหมือนต้นฉบับได้เลยครับ (อาจจะไม่เหมือน 100% เนื่องจากใน Audio CD มันมีข้อมูลอย่างอื่นๆ อยู่ด้วย)

ข้อมูลของผมนี่ทฤษฏีล้วนๆ เลยอ่ะครับ
คืออ่านมาทั้งนั้น
ในทางปฏิบัติ บางอย่างมันอาจจะไม่เป็นแบบนี้ก็ได้นะครับ
ถ้ามีอะไรผิดพลาดก็ขออภัยด้วยครับ
รบกวนผู้รู้ที่เคยลองมาจริงๆ มาให้ข้อมูลเพิ่มเติมก็จะเป็นประโยชน์กับคนอื่นๆ ด้วยครับ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 21

Joe

21/03/2009 00:24:30
อ้าว ผมพิมพ์ช้า
คุณหยกให้ข้อมูลไปก่อนแล้ว :)
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 22

Tanan

21/03/2009 00:41:35
0
เพราะงั้นสรุปดังนี้
******
****
**
*
ใครอยากเล่นเพลงที่ใกล้ต้นฉบับมากที่สุดก็ซื้อ CD Player หรือไม่ก็ NetBook
มาเปิดเพลงพวก iso แทน 55555
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 23

Tanan

21/03/2009 00:48:43
0
แต่ถ้าพวกท่าน RIP มาจาก CD จริงๆส่วนที่มีปัญหามากที่สุดคือส่วนของการอ่าน CD ครับ
เครื่องอ่าน และ CD มีผลอย่างมากในการเกิด ERROR
ซึ่งโดยทั่วไปจะมี Error สองส่วน PIF POF หรืออะไรเนี้ยหละ
PIF คือ Error จริงๆจากการอ่านแผ่น
ส่วน POF คือ Error ที่เหลือจาก PIF ที่ทำการแก้ไขด้วย Hardware ของ เครื่องอ่าน
ซึ่งถ้าแผ่นไม่ดี หรือ Read Speed สูงๆ จะก่อนให้เกิด PIF เยอะ
ถ้า PIF เยอะ POF ก็จะเยอะตามกันไปซึ่งหลายคนอาจจะไม่คิดอะไรมาก
แต่ Error พวกนี้มีมาตั้งแต่ออกจากโรงงานและจะเพิ่มจำนวนตามอายุไข
และมันสงผลมากขนาดไหนก็มีตั้งแต่ไม่เห็นผล, มีเสียงหึ่งๆ, มีเสียงดัง จึก กึก ปิป และสุดท้ายอ่านไม่ได้
พวกนี้คือ Error ก่อนการแปลง file ที่พวกคุณว่าอีก
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 24

TOON

21/03/2009 10:56:22
ทฤษฎีน่าปวดหัว สำหรับผม อันไหนฟังเพราะอันนั้นแหละดี
ตระกูล losseless กับ WAV กับ CD จริง ฟังแบบไม่ได้จับผิด แล้วแยกไม่ออก
มันก็เหมือนกันแหละ ชอบ FLAC กับ ape สุด โหลดได้ฟรี ไฟล์ไม่ใหญ่มาก 5555 คุณภาพเท่า CD

ถ้า player ธรรมดาๆ กับหูห่วยหน่อย ก็ต้อง mp3 192 -256 VBR 2 ใช้ไฟล์ดีเกินก็ฟังไม่ออก เพราะ system มันห่วย ดึงออกมาไม่หมด
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 25

ota_hay

21/03/2009 12:07:56
3
เหอ ๆ ผมฟังแค่ mp3 320kbps เอง
ไม่รู้จะฟังให้ชัดขนาดได้ยินเสียงนักร้องตดทำไม
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 26

Hannibal Lecter

21/03/2009 14:07:55
0
เอางี้ดีกว่า ผมขอเล่าให้ฟังว่าเมื่อก่อน (ประมาณ ๒ ปี) ผมเคยคิดว่ายังไงซะเราก็ไม่ได้หูทอง ละเอียดแบบ lossless กับ 256 kbps ก็ฟังไม่ออกอยู่แล้ว ว่ามันต่างกันยังไง ตอนนั้นใช้ Alessandro MS-1 ต่อกับ iPod หรือไม่ก็กับ notebook ผลคือผมเอา CD จำนวนเกืือบสองร้อยแผ่น มา rip เป็น format ACC ที่ความละเอียด 256 kbps ทั้งหมด เสียวเวลาไปเป็นอาทิตย์

ผ่านมาประมาณปีนึงทีผ่านมา ผมเริ่มกระหายใคร่รู้ เลยลงทุนซัดเซ็ตใหญ่ ซัด K701 พร้อม Amp, DAC และสาย intercennects โบนัสหมดตูด พอกลับไปฟังไอ้ 256 kbps เทียบกับ เปิดจาก CD ตรงๆ แทบอยากร้องไห้ พวกของดีๆ มันขี้ฟ้องมาก ฟังแบบไม่ต้องหูทองมากก็เชื่อว่าฟังออก มันมีทั้ง noise, clips และอาการหางเสียงกุด

ผลคือ ต้องกลับมาเริ่ม rip ใหม่เป็น apple lossless ทั้งหมด สองร้อยกว่าแผ่น (เพิ่มมาอีก) เสียเวลาไปหลายสิบวัน ตอนนี้ไม่รู้สึกว่าต่างแล้วระหว่างเพลงที่ rip มากับ CD ต้นฉบับ แต่ก็ไม่รู้ว่า ต่อไปถ้าผม upgrade ระบบ คราวหน้าต้อง rip ใหม่เป็น Wav อีกรอบรึเปล่า อยากจะบ้าตาย

อุทธาหรณ์จากเรื่องนี้คือ ถึงแม้ตอนนี้จะยังฟังไม่ออก ว่ามันต่างรึเปล่า แต่ rip แบบละเอียดที่สุดเท่าที่ทำได้ ไว้ก่อนดีกว่าครับ เผื่ออยากจะ upgrade ระบบของท่าน เ้่ส้นทางสายมาม่าเส้นนี้ยังอีกยาวไกลนักครับ อิอิ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 27

Tanan

21/03/2009 16:36:26
0
ขำ ความคิดเห็นที่ 25
นักร้องตด 55555

ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 28

Joe

21/03/2009 23:05:41
ผมก็คล้ายๆ คุณ Hannibal แฮะ แต่กระจอกกว่ามา :D
หลายปีก่อน ด้วยหูฟังดีที่สุดที่มี (ไม่แน่ใจว่าเป็น MX550 หรือเปล่า) ฟัง CD เทียบกับ MP3 192kbps VBR กับ Ogg 160kbps ผมก็แยกความแตกต่างไม่ออกแล้ว
ผมก็เลย rip CD เป็นทั้งสอง format นี้ปนๆ กัน (ยังดีที่ขี้เกียจ rip ไปแค่สิบกว่าแผ่นเอง)

ตอนนี้ได้ SR80i มา ลองๆ ฟังดูใหม่ เฮะ หูชาวบ้านๆ อย่างผมมันก็ฟังออกแฮะว่าเสียงพวกที่ rip มามันขาดๆ ไม่เหมือนต้นฉบับ

อุทธาหรณ์จากเรื่องนี้สำหรับผมคือ... ไม่น่าไปลองเลยหูฟังดีๆ อ่ะ
ฟังแล้วหูจะเกิดอาการอยากเปลี่ยนชนชั้น
ของที่ฟังอยู่เดิมทั้งหูฟัง ไฟล์เพลง source จะโดนลดขั้นไปในทันที
ทำให้เจ้าของหูเกิดอาการโรคทรัพย์จางตามมา
แถมเท่าที่อ่านดูในนี้ ท่าทางมันจะเป็นโรคเรื้อรัง รักษาไม่หายซะด้วยสิ :D
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 29

วรุตม์

22/03/2009 01:09:06
0
^
^
^
ถูกครับ

รักษาไม่หาย

แถมโรคนี้ติดต่อได้ไวมาก

เพียงแค่ยืมของเพื่อนมาฟัง ฟังไป2เพลง

แมร่งเอ๊ยยยยยยยย

เรื้อรัง
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 30

ฉลามวาฬ

23/11/2011 17:12:43
m4a ผมฟังแร้วเสียงดีมากเรย แนะนำ อันนี้มะมีความรู้อ้างอิงนะคับ ผมเปงนักดนตรีมะได้รู้เรื่องคอมเรย
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 31

Mr.Burst

23/11/2011 17:34:52
3
โดยส่วนตัวผมฟัง FLAC นะ

แต่อัลบั้มไหนเนี้ยบจริงๆ ชอบจริงๆ ผมจะฟัง WAV
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 32

Boss

23/11/2011 17:54:17
ผมใช้ AIFF กับ Ipod ครับ :D
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 33

rwut99

23/11/2011 18:12:05
0
โหลด จากเนต MP3(320KBPS),flac
ริปเอง wav.และ AIFF

ของฟรี เลือกไม่ค่อยได้ อิๆๆๆๆๆ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
"ไฟล์ประเภทไหนที่คุณภาพเสียงดีที่สุดหรือครับ"