Guest
หมวดหมู่ > เว็บบอร์ด จับฉ่าย

ช่องทางการติดต่ออื่น

  • Munkonggadget
  • Munkonggadget Reviews
  • Munkonggadget Reviews
  • Munkonggadget Contact Us

FLAC กับ m4a อันไหนเสียงดีกว่าครับ

TaParb

27/08/2010 21:17:32
คือตอนนี้มี flac เยอะมากๆๆๆ ในคอม hdd เต็มไป 2 ลูกละ 5555
แต่ผมใช้ iphone เลยต้องแปลงเป็น m4a
แล้วทีนี้ก้เสียดาย flac ก้เลยเกบๆ ไว้
จนตอนนี้มันไม่มีทีว่างแล้วอ่ะ - -

เลยอยากจะรู้ว่า FLAC กะ m4a เนี่ย มัน lossless เหมือนกัน อันไหนเสียงดีกว่าคับบ

จะได้ลบอันที่แย่กว่าออกไป 555
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 1

Newbie_Smy

27/08/2010 21:30:06
0
ผมว่าน่าจะเหมือนกันนะครับ แค่คนละค่าย (รึป่าว?)

รอผู้รู้มตอบอีกทีครับ ^^
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 2

a_days

27/08/2010 21:30:37
1
ผมว่าเทียบเท่ากันนะครับ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 3

พระเจ้าจอร์จ

27/08/2010 21:35:24
0
m4a คือ mpeg-4 audio ครับ ส่วนใหญ่จะใช้แทน *.mp4 (mp4 ก็มีนะ ก็ ตัวเดียวกันแหละ โดยหลักการ ขึ้นอยุ่กับจะใช้โปรแกรมไรทำ) จริงๆ .m4a มันแค่นามสกุลไฟล์ ซึ่งจะเข้ารหัสด้วย mpeg-4 (aac) หรือ จะใช้ apple loseless ก็ได้
ถ้าเทียบกันระหว่าง 2 ไฟล์นี้ ผมแนะนำ Flac ครับ
พอจะจำได้ว่าไฟล์ Apple ครอบคุมความถี่ได้ไม่ครบมั้งครับ

ไฟล์ M4a เป็นไฟล์ที่มีการบีบอัดข้อมูลลงมาแล้ว เสียงดีกว่า MP4(ACC) แต่ไม่เท่าไฟล์ Flac กับ Apple ครับ เพราะมีการสูญเสียข้อมูล

อันล่างนี้เป็นข้อมูลที่ผมมีในเครื่องครับ จำไม่ได้แล้วว่า Copy มาจากไหน จากใน Wab ต่าง ๆ นี่ล่ะครับ เห็นดี ก็เก็บไว้ หากท่านเจ้าของข้อมูลมาอ่านเจอ ผมขออุญาติ โพส นะครับเป็นวิทยาทานสำหรับท่านที่ยังไม่ทราบ...

ขอแนะนำไฟล์ Lossless สักหน่อยนะครับ

การบีบอัดแบบ Lossless
ผมเขียนมาถึงตรงนี้แล้วรู้สึกว่าบทความนี้มันยาวจังเ ลย
คุณผู้อ่านจะยังอยู่กับผมถึงตรงนี้รึปล่าวนะ แล้วทั่น บก.
จะหั่นบทความผมไปเยอะรึปล่าวก็ไม่รู้ 555 ทำตัวไม่สนใจแล้วเล่าเรื่องต่อ
เรามาถึงส่วนของ Lossless แล้วครับ เป็นส่วนของผู้รักเสียงเพลงอย่างแท้จริง
ในส่วนนี้ผมจะไม่พูดถึงคุณภาพเสียงของรูปแบบต่างๆ นะครับ เพราะแบบ Lossless
จะให้คุณภาพเสียงเหมือนต้นฉบับในทุกรูปแบบไฟล์ต่างๆ
แต่จุดที่ทำให้แต่ละรูปแบบแตกต่างกันจะอยู่ที่ความสา มารถในการบีบอัด
และการรองรับจากอุปกรณ์และโปรแกรมต่างๆ งั้นเราไปเริ่มกันเลยดีกว่าครับ

FLAC (Free Lossless Audio Codec)
(.flac)
เป็นรูปแบบของ Lossless ที่ได้รับความนิยมสูงที่สุดตัวหนึ่งครับ
ด้วยความที่เป็นรูปแบบฟรี ไม่มีค่าใช้สิทธิ์ใดๆ แล้วยังเป็น open source อีกด้วย
ในต่างประเทศ FLAC จึงได้รับความนิยมค่อนข้างสูง ข้อดีของมันนอกจากที่ฟรีแล้ว
ยังทำงานได้รวดเร็ว แล้วก็มีโปรแกรมและอุปกรณ์รองรับมากมาย เช่น Winamp รุ่น 5.5
ก็สามารถเปิด FLAC และ rip เพลงเป็น FLAC ได้โดยไม่ต้องติดตั้งอะไรเพิ่ม หรือ iPod
ก็รองรับ แต่จะต้องใช้ fireware พิเศษที่ชื่อว่า rockbox
(ตัวเดียวกับที่ทำให้รองรับ ogg Vorbis) ก็จะเล่นไฟล์ชนิดนี้ได้ แต่ข้อเสียของ FLAC
ก็อยู่ที่ความสามารถในการบีบอัดเพลงน้อยกว่ารูปแบบอื ่นๆ อย่าง monkey’s audio
อยู่บ้าง แต่ก็ไม่มากนัก
FLAC รองรับ sample rate ตั้งแต่ 1 Hz ถึง 1048.57 kHz
ครับ bit depth ก็ใช้ได้ถึง 32 bit ครับ ปัจจุบัน FLAC อยู่ที่รุ่น 1.2.1
แล้วก็ถือเป็นหนึ่งในรูปแบบของ xiph.org ไปแล้ว บางทีจึงอยู่ใน container OGG
ได้

WavPack (.wv)
เป็นรูปแบบฟรีคล้ายๆ กับ FLAC นะครับ
แต่เด่นกว่าตรงที่สามารถทำไฟล์แบบ Hybrid/lossy ได้ ก็คือมันสามารถสร้างไฟล์แบบ
lossy ได้ พร้อมกับไฟล์อีก 1 ไฟล์ที่เรียกว่า correction file เราสามารถนำไฟล์แบบ
lossy ที่มันสร้างไปใช้ได้เลย โดยไม่ต้องมี correction file
แต่ก็จะได้คุณภาพเสียงแบบ lossy ถ้าเราอยากได้ระดับ lossless เราก็เอา correction
file ไปใส่ไว้ในห้องของ lossy file นั้น โปรแกรมเล่นเพลงก็จะจัดการรวมกันให้เป็นแบบ
lossless ครับ แต่ข้อเสียของ WavPack ก็คืออุปกรณ์ที่รองรับยังไม่มากเท่า FLAC ครับ
การใช้งานจึงยังไม่กว้างเท่า FLAC
WavPack รองรับ sample rate ได้ตั้งแต่ 1 ถึง
16777.216 kHz ครับ ส่วน bit rate ของ lossless จะเป็น VBR แต่ในส่วนของ lossy
จะใช้ที่ 192 kbps ครับ

Apple Lossless
(ALAC) (.mp4, .m4a)
Apple พัฒนารูปแบบนี้ขึ้นมาเพื่อใช้กับระบบของ Apple
เช่น iPod จึงมีแต่ iTunes ที่สร้างไฟล์ชนิดนี้ได้ครับ ข้อดีของ ALAC
คือการที่ใช้กับ iPod ได้สมบูรณ์ครับ ความสามารถก็ไม่ได้ดีเด่นไปกว่ารูปแบบอื่นๆ
แต่ข้อเสียคือยืดหยุ่นน้อยเพราะ Apple ไม่ปล่อยชุดของโปรแกรมถอดรหัส ALAC
ให้กับผู้พัฒนา software อื่นๆ จึงโปรแกรมไม่กี่โปรแกรมที่เล่นไฟล์ชนิดนี้ได้ หลักๆ
คือ iTunes ส่วนโปรแกรมอื่นๆ ที่เล่นได้อย่าง foobar2000 ก็เพราะมีคนไปวิจัยโค้ดที่
apple ใช้แล้วก็ reverse-engineered จนได้โปรแกรมถอดรหัสออกมาครับ
ซึ่งก็ไม่ค่อยสมบูรณ์เท่าไหร่ แล้ว ALAC รองรับ sample rate แค่ 44,100 และ 48,000
Hz สรุปคือเหมาะเฉพาะผู้ใช้ iPod เท่านั้น

Windows Media Audio Lossless (.wma)
หลายคนอาจจะคิดว่า WMA ก็น่าจะมีอย่างเดียวนิน่า
เพราะเราก็เห็น WMA มาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว แต่จริงๆ แล้ว WMA แยกย่อยเป็น 4
เทคโนโลยีดังนี้ครับ
Windows Media Audio (WMA)
เป็นรูปแบบไฟล์ WMA ดั้งเดิมที่พวกเรารู้จักกันครับ สามารถเล่นกับเครื่องเล่นที่รองรับ WMA
ได้มากที่สุด แต่ประสิทธิภาพนั้นเท่าๆ กับ mp3 แต่ mp3 (โดยเฉพาะ LAME รุ่นล่าสุด)
จะทำได้ดีกว่าใน bit rate ที่มากกว่า 128 kbps รุ่นล่าสุดคือ 9.2 ที่มากับ Windows
media player 11
WMA รองรับ sample rate สูงสุดที่ 48,000 Hz ครับ แล้วเพิ่งใช้
VBR ได้ในรุ่น 9 นี้เอง ผมจึงไม่แนะนำให้ใช้ WMA แบบนี้
เพราะประสิทธิภาพไม่ดีเท่าไหร่ แถมการใช้งานยังไม่กว้างเท่า mp3
ด้วยครับ

Windows Media Audio Professional
(WMA pro)
เป็นรูปแบบที่พัฒนาขึ้นมาใหม่ครับ ไม่รองรับกับมาตรฐาน WMA
เดิม เริ่มมีพร้อมกับ Windows media player 9 ปัจจุบันเป็นรุ่น WMA 10 pro
ข้อดีของรูปแบบนี้ให้ประสิทธิภาพที่ดีกว่า WMA มาก ในทุกด้าน ทั้งที่ bit rate
สูงและต่ำ แล้วยังรองรับ sample rate ได้ถึง 96,000 Hz ที่ 24 bit แล้วยังทำได้ถึง
8 ช่องสัญญาณ (7.1 channel) ความสามารถของ WMA pro จึงสามารถเทียบชั้นกับ Vorbis,
AAC ได้ และเหนือกว่า mp3 ครับ
แต่ข้อเสียของ WMA pro
นี้คือการที่ไม่รองรับกับมาตรฐาน WMA เดิม ทำให้อุปกรณ์ที่เคยเล่น WMA
เดิมได้ไม่สามารถเล่น WMA pro นี้ได้ จึงมีอุปกรณ์ไม่กี่ชนิดที่รองรับ
เช่นโทรศัพท์มือถือที่ใช้ Windows mobile ที่มี windows media player 10
เป็นต้น

Windows Media Audio Lossless (WMA lossless)
รูปแบบนี้ก็เพิ่งมาใหม่ใน Windows media player 9 ครับ
เป็นรูปแบบไฟล์ที่จัดเก็บแบบไม่มีการสูญเสียข้อมูลใด ๆ ครับ
ความสามารถก็จัดอยู่ในระดับที่ดี แต่ก็ยังมีอุปกรณ์ที่รองรับน้อยอยู่
อุปกรณ์ที่รองรับก็เช่นโทรศัพท์มือถือที่ใช้ Windows mobile ที่มี Windows media
player 10 หรือ Zune 2 ครับ

Windows Media Audio Voice (WMA voice)
เป็นรูปแบบที่ออกแบบมาเพื่อจัดเก็บเสียงพูดโดยเฉพาะค รับ ใช้ bit
rate ต่ำมาก แต่คุณภาพเสียงพูดยังใช้ได้อยู่
ทำงานโดยการตัดความถี่ที่ไม่เกี่ยวกับเสียงพูดทิ้งทั ้งหมด
ทำให้มีพื้นที่เก็บข้อมูลในส่วนของเสียงพูดมาก รูปแบบนี้รองรับ sample rate แค่
22,050 Hz เป็นเสียง mono อย่างเดียว แล้วก็ใช้ bit rate สูงสุดแค่ 20 kbps ครับ
ไม่แนะนำให้ใช้กับงานอย่างอื่นนอกจะเสียงพูดครับ
อุปกรณ์ที่รองรับก็ยังเป็นโทรศัพท์มือถือที่ใช้ Windows mobile เหมือนเดิมครับ
คู่แข่งของ WMA voice ก็คือ speex รูปแบบบีบอัดเสียงพูดฟรีๆ จาก xiph.org
ครับ

ซึ่งทั้งหมดนี้สามารถสร้างได้จาก Windows media player รุ่น 10
ขึ้นไปครับ

สรุปเจ้า WMA นะครับ ผมไม่แนะนำให้ใช้ WMA ครับ ใช้ mp3 ดีกว่า
ยกเว้นว่าถ้าเครื่องของคุณรองรับ WMA pro ก็ใช้เป็น WMA pro ก็ได้ครับ ใช้ที่ bit
rate ราวๆ 128 kbps หรือ 160 kbps ก็ให้เสียงโอเคแล้วครับ

Monkey’s audio
(.ape)
เป็นอีกรูปแบบไฟล์ที่เห็นกันบ้างบนอินเตอร์เน็ตครับ
แต่ไม่นิยมเท่า FLAC ข้อดีของมันก็คือบีบอัดเสียงได้เล็กกว่ารูปแบบอื่นๆ
แต่ว่าความเร็วจะไม่สูงเท่า FLAC หรือ WavPack แล้วจำนวนอุปกรณ์ที่รองรับก็น้อยกว่า
FLAC ครับ ซึ่งไฟล์ชนิดนี้ก็ใช้เปิดให้ใช้ได้ฟรีเช่นกันครับ
เราสามารถเข้าไปดูรายละเอียดของไฟล์ชนิดนี้ได้ที่นี้ ครับ
http://www.monkeysaudio.com/

เปรียบเทียบ Lossless

เปรียบเทียบความสามารถของไฟล์รูปแบบต่างๆ ซึ่งเราจะเห็นว่า monkey
จะให้ขนาดไฟล์ที่เล็กที่สุดครับ (ดูในช่อง Compression) ก็คือเหลือ %
ของไฟล์ต้นฉบับน้อยที่สุดครับ แล้วก็สามารถเปรียบเทียบความสามารถต่างๆ เช่นการใช้
ReplayGain ว่าไฟล์ประเภทไหนที่รองรับ RG ได้ หรือความสามารถ Hybrid/Lossy
ได้จากตารางนี้ครับ

(http://ear-hifi.net/forum/images/review/voice/9.png)

สรุปการใช้ Lossless นะครับ สำหรับคนทั่วๆ ไปที่ต้องการใช้
Lossless ผมแนะนำให้ใช้ FLAC เพราะมีโปรแกรมและอุปกรณ์จำนวนมากรองรับ
จนสามารถนำไฟล์นี้ไปใช้งานได้แพร่หลายที่สุดครับ
ส่วนคนที่จะใช้ไฟล์กับอุปกรณ์ที่รองรับไฟล์อื่นๆ อย่าง Apple Lossless หรือ Windows
media audio lossless ก็ใช้ไฟล์รูปแบบนั้นๆ ครับ

-------------------------------------------------------------------------------------------------------

จากที่กล่าวมาข้างต้นจะเห็นว่า ไฟล์ Apple Lossless จะรองรับ sample rate แค่ 44,100 และ 48,000 Hz ซึ่ง FLAC รองรับ sample rate ตั้งแต่ 1 Hz ถึง 1048.57 kHz ครับ
ผมจึงไม่ได้เลือกที่จะเก็บเป็นไฟล์ดังกล่าวหากไม่ได้ใช้ iPod ครับ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 4

พระเจ้าจอร์จ

27/08/2010 21:38:24
0
ขอเพิ่มเติมอีกนิดครับ....
ไฟล์ข้อมูลที่อยู่บน CD audio เมื่อถูกดึงออกมาก็คือไฟล์ wav
แล้ว flac ก็เอา wav มาบีบข้อมูลอีกที่ แต่ไม่สูญเสียข้อมูล(lossless)ครับ
ตัวอย่าง เพลง 1 เพลง ไฟล์ wav~50Mb ไฟล์ flac~30Mb
วันไหนถ้าอยาก write เป็น cd เพลงเหมือนเดิมก็แปลงกลับมาเป็น wav แล้วเขียนลง cd ก็จะได้เพลงเหมือนต้นฉบับเดี๊ยะ 5555+ Ok มั้ยครับ *-*
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 5

มนุษย์แฮม

27/08/2010 21:38:40
0
^
เป็นบทความที่ดีมาก ๆ เลยครับ ^^
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 6

พระเจ้าจอร์จ

27/08/2010 21:40:54
0
ขอบคุณครับ... ผมก็ได้ความรู้เรื่องนี้ จากบทความนี้ล่ะครับ...
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 7

มนุษย์แฮม

27/08/2010 21:46:35
0
วันไหนถ้าอยาก write เป็น cd เพลงเหมือนเดิมก็แปลงกลับมาเป็น wav แล้วเขียนลง cd ก็จะได้เพลงเหมือนต้นฉบับเดี๊ยะ 5555+ Ok มั้ยครับ *-*
^
แต่ขอแย้งอันนี้นิดส์นึงครับ อิอิ

คือไม่เหมือนเดิมแน่ๆ ครับ การทำจะแปลง flac แล้วขยายไปเป็น wav

แล้ว write ลง cd ไปอีกเนี่ย มันมีปัจจัยมากมายที่จะทำสูยเสียข้อมูลไป

ทั้งคุณภาพ cd คุณภาพของคอมพิวเตอร์ที่ใช้ สัยญาณรบกวนต่าง ๆ กระแสไฟ

ของคอมพิวเตอร์ระหว่างการ write แผ่น อิอิ แต่ถ้าให้ปิดตาฟังกันจริง ๆ ผมก็ฟังไม่ออก

อยู่ดีนั้นแหละครับ 555
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 8

พระเจ้าจอร์จ

27/08/2010 21:56:08
0
โอ้วววว..... ขอบคุณครับ ๆ ผมลืมคิดถึงเรื่องปัจจัยนั้นจริง ๆ
ขอบคุณครับ...
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 9

TaParb

27/08/2010 22:00:22
อ่าขอบคุนคับบ

สรุป คือ ไม่ลบ เก็บไว้ดีก่า = =
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 10

มนุษย์แฮม

27/08/2010 22:06:02
0
^
ถูกต้องคร้าบบบบบบบ

ถ้าที่มันเหลือ ก็เก็บไว้เถอะครับ เสียดาย อิอิ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 11

น้อย

27/08/2010 22:24:44
1
ความรู้ทั้งนั้นเลยครับ
ต้องลองๆ
ขอบคุณมากๆครับผม
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 12

Deawy

27/08/2010 22:33:35
0
โหลด flac
rip เอง m4a
rip เป็น flac แบ่งเพลงไม่เป็น เศร้า
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 13

Juicy

27/08/2010 22:41:09
1
ผมเก็บเป็น apple lossless ครับ ลองฟังแล้วฟังไม่ออกก็เลยเลือกแบบที่สะดวก ขนาดไฟล์ก็ไม่ใหญ่มากครับ ไม่ต้องแปลงไปมาเวลาใช้กับ ipod (ไฟล์ส่วนใหญ่ก็โหลดมาทั้งนั้น)
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 14

นายมั่นคง

27/08/2010 23:32:28
4,294
ตอนนี้ผมใช้แผ่นจริง ทำเป็นอิมเมจ แล้วขายแผ่นหากินไปนานแล้ว

เวลาใช้ก็ทำเป็น AIFF ข้อดีคือมันดีสุดเท่าที่จะทำได้ล่ะครับ ข้อเสียคือเปลืองที่มากกว่า lossless แยะเลยล่ะจ้า
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 15

พระเจ้าจอร์จ

28/08/2010 00:29:03
0
ตามที่เฮียว่าเลยครับ.... สายทางที่ถูก...
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 16

Close_Up

28/08/2010 00:48:30
0
อ้างอิง อันนี้ครับ กระทู้คุณภาพhttp://forum.munkonggadget.com/detail.php?id=9725
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 17

พระเจ้าจอร์จ

28/08/2010 03:53:14
http://forum.munkonggadget.com/detail.php?id=9725
oนั่นล่ะครับ กระทู้คุณภาพเลย... ข้อมูลครบ กระจ่าง... ขออนุญาติ save เก็บไว้เลย ละเอียดยิบ ๆ ๆ ครบกว่าที่ผมโพสข้างบนอีก...
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 18

Newbie_Smy

28/08/2010 05:05:28
0
โอ้...ความรู้ ขออนุญาติเก็บไว้เลยนะครับ ขอบคุณคร๊าบ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 19

Grado mania

28/08/2010 10:31:24
ฮาาแหล่มม..เลย
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 20

photozero

28/08/2010 20:52:45
แล้ว aiff ล่ะครับ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 21

bonnie

06/09/2010 08:17:22
breitling watches four Ice Watch stores have been opened over the bell and ross watches Roman numerals while the use of large Arab replica jaeger lecoulter watches of the collection The majority of the 40 watches iwc Tag Heuer Rolex are increasingly well liked replica watches collaboration between two of the most renowned fake watches tag heuer watches.
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 22

lisa

06/09/2010 08:46:28
cartier declaration watches will include an impressive selection of modern and replica watches movement for lifelong accuracy Invicta Womens replica a lange sohne watches models can be found on our on line store You can omega Swisslaser.net is the second conference organizer replica watches even worse This is going to be an item your tag heuer breitling superocean heritage.
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 23

frances

06/09/2010 09:16:01
lv handbag louis vuitton affordable for everyone Nine West gucci messenger and burnt umber shades on the trees chanel wallets trimming functional as well as louis vuitton bags woman carries around in her handbag louis vuitton popular line of the trade name lv handbags lv handbags.
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 24

decla

06/09/2010 10:03:49
fake gucci handbags very handy and fashionable bags louis vuitton suhali leather the Couture Islands Bag is an chanel coco handbag.All About Louis Vuitton balenciaga the other side of the bag if you louis vuitton leather This gives the handbag a gucci mens replica gucci wallets.
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 25

ava

06/09/2010 12:08:09
lv mens replica also extremely functional Special replica gucci handbags purse to order and give it to my mens travel bags the photos is a true designer chanel bags weighing in at 2.9 lbs But its louis vuitton fur stand out and again make for a louis vuitton travel bags fake chanel wallet.
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 26

SweatHog

06/09/2010 13:14:53
0
ถูก bot เล่นงานอีกแล้วเฮีย.......
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 27

yacht

06/09/2010 15:08:57
lv wallets have a discerning eye to tell the chanel handbags handbags It can be easy if you lv bags truly unique beaded handbag! Make louis vuitton handbags trendy and versatile These stylish louis vuitton fabrics and woven textures A large louis vuitton bags fake lv travel handbags.
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 28

ทัตเทพ บุณอำนวยสุข

07/09/2010 08:47:25
125
มันมาอีกแล้ว คราวนี้มากเป็นโขยงเลยจ้า......
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 29

Pollock

07/09/2010 10:37:32
ดังกระทู้ที่ผ่านมา ตามที่ผมเคยสรุปไว้ในเว็บบอร์ดอื่นตามนี้น่ะครับ

จากที่กล่าวมาข้างต้นจะเห็นว่า ไฟล์ Apple Lossless จะรองรับ sample rate แค่ 44,100 และ 48,000 Hz ซึ่ง FLAC รองรับ sample rate ตั้งแต่ 1 Hz ถึง 1048.57 kHz ครับ
ผมจึงไม่ได้เลือกที่จะเก็บเป็นไฟล์ดังกล่าวหากไม่ได้ใช้ iPod ครับ

ดังในนั้นในการที่จะ Rip เก็บเพลงไว้ฟังในเครื่องผมจึงแนะนำ flac หรือ Wave ครับ
แต่เสียงที่ได้จริงๆนั้นก็เทียบกับการฟังผ่าน CD จริงๆไม่ได้ มันมีค่าสูญเสีย ความผิดเพี๊ยนในการถ่ายทอดสัญญาณอยู่เช่นกันครับ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 30

papakokung

10/09/2010 21:50:14
1
ขอบคุณสำหรับความรู้ครับ
จดๆๆ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 31

TaParb

18/09/2010 11:58:53
0
มันมาอีกแล้ว !
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 32

anonymous

18/05/2012 22:27:58
มีประโยชน์มากเลยครับ
ขอบคุณครับ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 33

tine_lnw

18/05/2012 22:33:33
0
ความรู้ทั้งนั้นเลยครับ ขอบคุณครับ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 34

songchai69

14/02/2013 21:46:43
ขอบคุงครับสำหรับข้อมูลดีๆๆ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 35

clwsl1478

15/02/2013 09:02:22
0
อย่าลืมว่ายังมี aiff นะครับ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 36

ballxyz

15/02/2013 11:26:31
0
@TaParb อยากขอแชร์ไฟล์ FLAC บ้างจะได้ไหมครับท่าน
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 37

vayo

15/02/2013 11:46:25
0
ลงโปรแกรมเล่น FLAC ที่ iphone ซิครับจะได้ไม่ต้องแปลง
แนะนำ Golden Ear
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 38

mayapanya konta

22/04/2017 06:02:58
ขอบคุณสำหรับข้อมูลฮะ แล้ว aac กับ flag อันไหนดีกว่าฮะ มันมีให้เลือกเวลาโหลดหนัง 
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 39

MaxxIE

22/04/2017 20:19:33
107
อ้างอิง : ความคิดเห็นที่ 62 - mayapanya konta
ขอบคุณสำหรับข้อมูลฮะ แล้ว aac กับ flag อันไหนดีกว่าฮะ มันมีให้เลือกเวลาโหลดหนัง 
ส่วนมากหนังแผ่นจะชอบใช้ไฟล์เสียงเป็นAACนะครับ ส่วนFLACนี่น่าจะเอามาแปลงเอาอีกที
ตามหลักคือถ้า ยิ่งผ่านกระบวนการแปลงไฟล์หลายๆรอบ คุณภาพก็ยิ่งลดลงครับ

ส่วนหนังที่ปล่อยให้โหลดๆกันนี่ ผมว่าถึงจะใช้ไฟล์เสียงAACเหมือนต้นฉบับ แต่ยังไงมันก็ถูกแปลงไฟล์แบบลดบิตเรทมาแล้วแน่ๆครับ ไม่งั้นไม่ได้ไฟล์เล็กๆ3-5GBหรอก
ถ้าอยากได้คุณภาพเสียงเต็มๆเน้นๆ ก็ให้โหลดพวกFullRip ครับพวก40-50GB อะไม่ก็พวก20-30GB ที่ตัดเสียงซับภาษาต่างประเทศและเมนูแผ่นออกไปอะครับ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
"FLAC กับ m4a อันไหนเสียงดีกว่าครับ"