Toggle Dropdown
ค้นหา
ค้นหาชื่อสินค้า
ค้าหารีวิวและบทความ
ค้นหาโปรโมชั่น
ค้นหาฟีดข่าว
ค้นหาไฮไลท์
TH
EN
หน้าแรก
สินค้า
เว็บบอร์ด
เกี่ยวกับเรา
สาขา
วิธีชำระเงิน
ติดต่อเรา
Guest
อีเมล์ / ชื่อผู้ใช้ :
รหัสผ่าน :
ลืมรหัสผ่าน
เข้าสู่ระบบ
สมัครสมาชิก
หรือ
ค้นหาโดย Google
ค้นหาทุกคำ
ค้นหาชื่อกระทู้
ค้นหาชื่อผู้ตั้งกระทู้
เว็บบอร์ดจับฉ่าย
หูฟังมือสอง
ซื้อขายจิปาถะ
รีวิวและบทความ
กระทู้เฮีย
คลับ
หมวดหมู่ > เว็บบอร์ด จับฉ่าย
ช่องทางการติดต่ออื่น
All
5
10
15
flac ---> WAV
WAV">
Facebook
Twitter
Google+
-->
Shared
ติดตามกระทู้นี้
แจ้งลบ
In Flames
15/01/2013 23:48:29
0
ถ้าเราโหลด flac จากเน็ทแล้วแปลงไฟล์เป็น WAV คุณภาพจะไกล้เคียงกับเผาจากของเเท้มั้ยครับ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 1
clkb
15/01/2013 23:58:36
ไม่ครับ แค่แผ่น rip ลงเป็น wav ก็ดรอปแล้ว
wav อัพขึ้น server dowload ลงมาอีก น่าจะดรอปพอสมควรนะครับ
ไม่ครับ แค่แผ่น rip ลงเป็น wav ก็ดรอปแล้ว
wav อัพขึ้น server dowload ลงมาอีก น่าจะดรอปพอสมควรนะครับ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 2
In Flames
16/01/2013 00:07:36
0
tk ja
tk ja
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 3
ong14
17/01/2013 10:32:27
0
Lossless <=> Lossless
ไม่มีการเสียคุณภาพครับ
ในทาง Digital 0 ไม่มีวันเป็น 1
แต่อย่าลืมว่า WAVE มีทั้ง Lossless และ Lossy
ถ้าจะ Convert ก็ตรวจสอบนิดนึง
Lossless <=> Lossless
ไม่มีการเสียคุณภาพครับ
ในทาง Digital 0 ไม่มีวันเป็น 1
แต่อย่าลืมว่า WAVE มีทั้ง Lossless และ Lossy
ถ้าจะ Convert ก็ตรวจสอบนิดนึง
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 4
veedemort
17/01/2013 10:38:22
58
file พวก lossless เสียงดีสู้ .wav ไม่ได้คับ (อันนี้ความเห็นผมเองนะคับ)
ยิ่ง convert คุณภาพยิ่งลดคับ
file พวก lossless เสียงดีสู้ .wav ไม่ได้คับ (อันนี้ความเห็นผมเองนะคับ)
ยิ่ง convert คุณภาพยิ่งลดคับ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 5
SinSu
17/01/2013 10:45:33
2
แล้วถ้า แตกwavไฟล์ใหญ่มาเป็น flacย่อยแล้ว convert เป็น aiff นี่โอเคไหมครับ
แล้วถ้า แตกwavไฟล์ใหญ่มาเป็น flacย่อยแล้ว convert เป็น aiff นี่โอเคไหมครับ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 6
ong14
17/01/2013 11:06:58
0
ย้ำอีกครั้งครับ
การ convert Lossless ไม่ทำให้เสียคุณภาพ
คุณเองก็ทดสอบได้ง่าย ๆ ครับ
1. rip audio cd มาซัก 1 track เอาเป็น WAVE 16bit 44kHz ก็แล้วกัน
2. จากนั้น convert เป็น FLAC ที่ Best compression
3. ทำการ convert กลับมาเป็น WAVE ที่ 16bit 44kHz
4. ลอง bit compare แฟ้มจาก 1 และ 3 ดู
ทำกี่ครั้งก็ได้ผลเหมือนเดิมครับ คือ 1=3 ยกเว้นว่าเครื่องคุณ RAM หรือ Hard disk มีปัญหา
ย้ำอีกครั้งครับ
การ convert Lossless ไม่ทำให้เสียคุณภาพ
คุณเองก็ทดสอบได้ง่าย ๆ ครับ
1. rip audio cd มาซัก 1 track เอาเป็น WAVE 16bit 44kHz ก็แล้วกัน
2. จากนั้น convert เป็น FLAC ที่ Best compression
3. ทำการ convert กลับมาเป็น WAVE ที่ 16bit 44kHz
4. ลอง bit compare แฟ้มจาก 1 และ 3 ดู
ทำกี่ครั้งก็ได้ผลเหมือนเดิมครับ คือ 1=3 ยกเว้นว่าเครื่องคุณ RAM หรือ Hard disk มีปัญหา
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 7
veedemort
17/01/2013 11:25:01
58
@ คุณ ong14
อันนี้เป็นความเห็นของผมนะคับ :)
ผมเคยลอง rip เพลงอัลบั้มเดียวกัน จากแผ่นเดียวกัน
1. rip เป็น .wav
2. rip เป็น .flac lev.0
3. rip เป็น .m4a
แล้วลองมานั่งฟังแบบ a/b test เลยคับ ... ผมให้แฟนผมเปิดโดยไม่บอกผมว่าเปิดเพลงดอทอะไร
... ผมตอบได้คับ ว่าอันไหนเป็น .wav
ส่วน .flac และ .m4a อันนี้ผมแยกไม่ออก (ยกเว้นบางเพลงที่ผมรู้สึกว่าเสียงแหลมมันจัดจ้านๆ ผมจะเดาว่ามันเป็น .m4a)
... สรุป ... ผมคิดว่า lossless ไม่ได้เป็นอย่างที่ชื่อมันบอกคับ (แค่เกือบๆ)
ทุกวันนี้ผมก็ใช้ lossless เพราะมันประหยัดที่ดี :)
ปล. ตอนลอง a/b test ... รู้สึกเสียเวลาคับ ก็ถามชาวบ้านแล้วไม่มีใครตอบชัดๆ เลยลองซะเอง แหะๆ
@ คุณ ong14
อันนี้เป็นความเห็นของผมนะคับ :)
ผมเคยลอง rip เพลงอัลบั้มเดียวกัน จากแผ่นเดียวกัน
1. rip เป็น .wav
2. rip เป็น .flac lev.0
3. rip เป็น .m4a
แล้วลองมานั่งฟังแบบ a/b test เลยคับ ... ผมให้แฟนผมเปิดโดยไม่บอกผมว่าเปิดเพลงดอทอะไร
... ผมตอบได้คับ ว่าอันไหนเป็น .wav
ส่วน .flac และ .m4a อันนี้ผมแยกไม่ออก (ยกเว้นบางเพลงที่ผมรู้สึกว่าเสียงแหลมมันจัดจ้านๆ ผมจะเดาว่ามันเป็น .m4a)
... สรุป ... ผมคิดว่า lossless ไม่ได้เป็นอย่างที่ชื่อมันบอกคับ (แค่เกือบๆ)
ทุกวันนี้ผมก็ใช้ lossless เพราะมันประหยัดที่ดี :)
ปล. ตอนลอง a/b test ... รู้สึกเสียเวลาคับ ก็ถามชาวบ้านแล้วไม่มีใครตอบชัดๆ เลยลองซะเอง แหะๆ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 8
ong14
17/01/2013 11:32:59
0
Lossless เป็นแค่ container ครับ
ส่วนการ implement นั้นขึ้นอยู่กับโปรแกรม
Lossless โดยตัวมันเองไม่ได้ทำให้ "เสียคุณภาพ" ครับ
ที่คุณรู้สึกว่าเสียคุณภาพ เพราะคุณฟังมันผ่าน Application
ถ้าคุณชอบทดลอง ก็ลองทำตาม #6 ดูสิครับ :P
Lossless เป็นแค่ container ครับ
ส่วนการ implement นั้นขึ้นอยู่กับโปรแกรม
Lossless โดยตัวมันเองไม่ได้ทำให้ "เสียคุณภาพ" ครับ
ที่คุณรู้สึกว่าเสียคุณภาพ เพราะคุณฟังมันผ่าน Application
ถ้าคุณชอบทดลอง ก็ลองทำตาม #6 ดูสิครับ :P
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 9
veedemort
17/01/2013 11:48:28
58
ลองหาข้อมูลว่าทางคนทำเค้า claim ว่าการ convert เป็น lossless จะสูญเสียอะไรมั่งดีกว่า :)
ลองหาข้อมูลว่าทางคนทำเค้า claim ว่าการ convert เป็น lossless จะสูญเสียอะไรมั่งดีกว่า :)
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 10
Eqzcer
17/01/2013 11:55:09
0
เห็นด้วยกับพี่ ong14 ครับ >O<"
เห็นด้วยกับพี่ ong14 ครับ >O<"
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 11
ong14
17/01/2013 11:57:24
0
อย่าเชื่อคนอื่นสิครับ
เห็นว่าชอบทดสอบ
ลองทำตามที่ผมเสนอไว้ที่ #6 ครับ
แป๊บเดียวเห็นผล
เนี่ย เมื่อกี้ผมก็เพิ่งลองทำ ไม่เกิน 5 นาทีเองจ้า
อิอิอิ
ขอบคุณ #10 ครับ :D
อย่าเชื่อคนอื่นสิครับ
เห็นว่าชอบทดสอบ
ลองทำตามที่ผมเสนอไว้ที่ #6 ครับ
แป๊บเดียวเห็นผล
เนี่ย เมื่อกี้ผมก็เพิ่งลองทำ ไม่เกิน 5 นาทีเองจ้า
อิอิอิ
ขอบคุณ #10 ครับ :D
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 12
หมูหวาน
17/01/2013 12:28:30
573
ปัญหาน่าจะอยู่ที่การจัดการไฟล์บีบอัด ของโปรแกรมเล่นเพลงต่างๆมากกว่า ตามที่คุณ ong14 บอกเลยครับ
คือโปรแกรมเล่นเพลง สามารถจัดการกับเพลงที่ไม่มีการบีบอัดแบบ Wav หรือ AIFF ได้ดีกว่า Flac ครับผม
แต่โปรแกรมเล่นเพลงสมัยนี้กำลังพัฒนาอยู่ ต่อไปเราอาจจะฟังแยกไม่ออกระหว่าง Wav กับ Flac ก็เป็นได้จ้าาา
ปัญหาน่าจะอยู่ที่การจัดการไฟล์บีบอัด ของโปรแกรมเล่นเพลงต่างๆมากกว่า ตามที่คุณ ong14 บอกเลยครับ
คือโปรแกรมเล่นเพลง สามารถจัดการกับเพลงที่ไม่มีการบีบอัดแบบ Wav หรือ AIFF ได้ดีกว่า Flac ครับผม
แต่โปรแกรมเล่นเพลงสมัยนี้กำลังพัฒนาอยู่ ต่อไปเราอาจจะฟังแยกไม่ออกระหว่าง Wav กับ Flac ก็เป็นได้จ้าาา
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 13
veedemort
17/01/2013 12:28:59
58
555 ผมลองหาดูว่าคนที่สร้าง lossless เค้า claim ว่ายังไงบ้างน่ะคับ ... ตอนนี้เจอแต่ประมาณว่า "เมื่อขยายข้อมูลกลับมา จะได้ข้อมูลเหมือนต้นฉบับทุกครั้ง" (ตอนแรกผมคิดไปเองว่าเป็นการปัดเศษเพื่อการโฆษณา)
ผมเห็นด้วยในเรื่อง concept แล้วคับ สำหรับคำว่า lossless
แต่ผมก็ยังฟังว่า .wav กับ .m4a เสียงต่างกันอยู่ดีคับ (นิดเดียวนะคับ ถ้าให้เปิดเฉยๆ แบบไม่มีตัวเทียบผมฟังไม่ออกคับ) ... น่าจะเป็นที่ application อย่างที่คุณ ong14 บอกอีกนั่นแหล่ะ
ความต่างน่าจะเกิดจากขั้นตอนการ convert นั่นแหล่ะคับ (ส่วนที่ไม่ได้เป็น digital) ... cd เพลงแผ่นแท้ กับแผ่นที่เรา copy เองที่บ้าน เสียงยังไม่เหมือนกันเป๊ะๆ เลยคับ
555 ผมไม่มีเจตนาจะตะแบงนะคับ :)
บางครั้งเรื่องเครื่องเสียงก็มีอะไรแปลกๆ เช่นสาย usb ของดีกับของแถม ทำให้เสียงดีต่างกัน (คุยกับหลายๆ คนก็ให้คำตอบที่ชัดเจนไม่ได้ว่าความต่างมันเกิดจากอะไร)
555 ผมลองหาดูว่าคนที่สร้าง lossless เค้า claim ว่ายังไงบ้างน่ะคับ ... ตอนนี้เจอแต่ประมาณว่า "เมื่อขยายข้อมูลกลับมา จะได้ข้อมูลเหมือนต้นฉบับทุกครั้ง" (ตอนแรกผมคิดไปเองว่าเป็นการปัดเศษเพื่อการโฆษณา)
ผมเห็นด้วยในเรื่อง concept แล้วคับ สำหรับคำว่า lossless
แต่ผมก็ยังฟังว่า .wav กับ .m4a เสียงต่างกันอยู่ดีคับ (นิดเดียวนะคับ ถ้าให้เปิดเฉยๆ แบบไม่มีตัวเทียบผมฟังไม่ออกคับ) ... น่าจะเป็นที่ application อย่างที่คุณ ong14 บอกอีกนั่นแหล่ะ
ความต่างน่าจะเกิดจากขั้นตอนการ convert นั่นแหล่ะคับ (ส่วนที่ไม่ได้เป็น digital) ... cd เพลงแผ่นแท้ กับแผ่นที่เรา copy เองที่บ้าน เสียงยังไม่เหมือนกันเป๊ะๆ เลยคับ
555 ผมไม่มีเจตนาจะตะแบงนะคับ :)
บางครั้งเรื่องเครื่องเสียงก็มีอะไรแปลกๆ เช่นสาย usb ของดีกับของแถม ทำให้เสียงดีต่างกัน (คุยกับหลายๆ คนก็ให้คำตอบที่ชัดเจนไม่ได้ว่าความต่างมันเกิดจากอะไร)
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 14
aokaokearkeark
17/01/2013 22:18:51
0
ผมแกะออกมาเป็นเวฟ มันก็เหมือนกัน แต่อันนี่ คุนสมบัติของ. Flac เขาบอกอยู่แล่วตามคอนเซปคือ บีบอัดแต่ไม่ตัดออก
แต่ถามนิดนึงครับ แม้ ผมจะฟัง ว่า FLAC=WAV
แต่การที่เราเล่นไฟล์จากแผ่น กับไฟล์ ทีริปจากแผ่น ด้วยโปรแกรมเดียวกันทำไมผมรู้สึกได้ถึงความต่างหรอครับ เป็นเพราะอะไรหรอครับ
ผมแกะออกมาเป็นเวฟ มันก็เหมือนกัน แต่อันนี่ คุนสมบัติของ. Flac เขาบอกอยู่แล่วตามคอนเซปคือ บีบอัดแต่ไม่ตัดออก
แต่ถามนิดนึงครับ แม้ ผมจะฟัง ว่า FLAC=WAV
แต่การที่เราเล่นไฟล์จากแผ่น กับไฟล์ ทีริปจากแผ่น ด้วยโปรแกรมเดียวกันทำไมผมรู้สึกได้ถึงความต่างหรอครับ เป็นเพราะอะไรหรอครับ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 15
ong14
02/02/2013 08:53:07
0
อ้างอิงจาก
Google Play Music support
"** FLAC, ogg, and aac files are transcoded to 320kbps mp3"
คุณภาพที่สูญเสียไปเกิดจากการ transcode
นี่คือตัวอย่างหนึ่งของโปรแกรมเล่นเพลงบน Android
ผมก็ใช้ Google Play Music เป็นโปรแกรมหลัก
ตอนแรกเก็บเป็น FLAC
ตอนนี้เลยแปลงเป็น AAC หมดเลย
อ้างอิงจาก
Google Play Music support
"** FLAC, ogg, and aac files are transcoded to 320kbps mp3"
คุณภาพที่สูญเสียไปเกิดจากการ transcode
นี่คือตัวอย่างหนึ่งของโปรแกรมเล่นเพลงบน Android
ผมก็ใช้ Google Play Music เป็นโปรแกรมหลัก
ตอนแรกเก็บเป็น FLAC
ตอนนี้เลยแปลงเป็น AAC หมดเลย
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 16
pockethifi
02/02/2013 10:02:02
ขั้นตอนของ lossless ควรจะข้อมูลเหมือนเดิม
แต่ทำไมเสียงไม่เหมือนกัน ก็เพราะ jitter ครับ
jitter คือดีเลย์ของข้อมูลดิจิทัล มันเกิดได้หลายสาเหตุครับ
jitter ที่เกิดจากการอ่านแผ่นแล้วแสงสะท้อนมันถูกตีความเป็นข้อมูลช้าบ้างเร็วบ้างตามคุณภาพแผ่น
ข้อมูลไม่ผิด แต่มาช้านิดหน่อยทำให้ DAC ตีความผิดก็ทำให้เสียงแย่ลงได้
แผ่นแท้ที่คุณภาพต่ำ เอามาก็อปปี้แล้วเบิร์นใหม่ด้วยแผ่นคุณภาพดี ก็ให้เสียงดีกว่าต้นฉบับได้
แผ่นแท้คุณภาพดีอยู่แล้ว เอามาเบิร์นด้วยแผ่น CD-R คุณภาพต่ำ เสียงก็แย่ลง
ไฟล์ Wav ถูกอ่านเป็นข้อมูล ส่งออกมาให้ DAC ดีเลย์จะต่ำที่สุด jitter ก็จะต่ำ
เพราะคอมพิวเตอร์อ่านไฟล์อย่างเดียว ไม่ต้องประมวลผล
แต่ถ้าใช้คอมเครื่องเดียวกัน อ่านไฟล์ Flac หรือ m4a
คอมพิวเตอร์จะเสียเวลาประมวลผล ทำให้เกิดดีเลย์ในข้อมูลที่จะส่งออกมา
ความเพี้ยนในตัวข้อมูลไม่มี แต่ความเพีี้ยนทางเวลาตอนเรียงข้อมูลออกมามันมีมากกว่า wav
ยกตัวอย่าง สมมุตให้นาย A ท่องคำว่า 0 1 0 1 0 1 เอาแค่ 6 บิท ให้พูดให้จบในเวลา 1 นาที
คนฟังก็ให้ฟัง 1 นาที พอครบ 1 นาที คนฟังให้เขียนรายงานออกมาว่าฟังอะไรได้บ้าง
รายงานจะเขียนว่า 0 1 0 1 0 1 ถูกไหมครับ
คราวนี้ เปลี่ยนเป็นนาย B ท่องบ้าง ข้อมูลเดียวกันเลย 6 บิทแบบเดิม แต่นาย B มันขี้เกียจ
หรือมันมีโทรศัพท์เข้า หรือมันปวดฉี่ จบหนึ่งนาทีมันท่องมา 3 บิท
อีก 3 บิทที่เหลือมาในนาทีที่ 2 สรุปคือจบหกบิทในเวลา 2 นาที ข้อมูลครบเหมือนกัน
คราวนี้คนฟัง เขาฟังแค่นาทีเดียว ไม่ได้มารอให้นาย B มันฉี่เสร็จ
ฟัง 1 นาที เขาก็เขียนรายงานออกมาว่า 0 1 0 - - - แล้วไอ้ - - - ในทางดิจิทัล
หรือทางไฟฟ้า มันก็ต้องใส่ค่า เป็น 0 0 0 แทน สิ่งที่รายงานจะสรุปออกมาก็คือ 0 1 0 0 0 0 นั่นเอง
อธิบายแบบนี้ พอเข้าใจเรื่องดิจิทัลเสียงไม่เหมือนกันไหมครับ
ขั้นตอนของ lossless ควรจะข้อมูลเหมือนเดิม
แต่ทำไมเสียงไม่เหมือนกัน ก็เพราะ jitter ครับ
jitter คือดีเลย์ของข้อมูลดิจิทัล มันเกิดได้หลายสาเหตุครับ
jitter ที่เกิดจากการอ่านแผ่นแล้วแสงสะท้อนมันถูกตีความเป็นข้อมูลช้าบ้างเร็วบ้างตามคุณภาพแผ่น
ข้อมูลไม่ผิด แต่มาช้านิดหน่อยทำให้ DAC ตีความผิดก็ทำให้เสียงแย่ลงได้
แผ่นแท้ที่คุณภาพต่ำ เอามาก็อปปี้แล้วเบิร์นใหม่ด้วยแผ่นคุณภาพดี ก็ให้เสียงดีกว่าต้นฉบับได้
แผ่นแท้คุณภาพดีอยู่แล้ว เอามาเบิร์นด้วยแผ่น CD-R คุณภาพต่ำ เสียงก็แย่ลง
ไฟล์ Wav ถูกอ่านเป็นข้อมูล ส่งออกมาให้ DAC ดีเลย์จะต่ำที่สุด jitter ก็จะต่ำ
เพราะคอมพิวเตอร์อ่านไฟล์อย่างเดียว ไม่ต้องประมวลผล
แต่ถ้าใช้คอมเครื่องเดียวกัน อ่านไฟล์ Flac หรือ m4a
คอมพิวเตอร์จะเสียเวลาประมวลผล ทำให้เกิดดีเลย์ในข้อมูลที่จะส่งออกมา
ความเพี้ยนในตัวข้อมูลไม่มี แต่ความเพีี้ยนทางเวลาตอนเรียงข้อมูลออกมามันมีมากกว่า wav
ยกตัวอย่าง สมมุตให้นาย A ท่องคำว่า 0 1 0 1 0 1 เอาแค่ 6 บิท ให้พูดให้จบในเวลา 1 นาที
คนฟังก็ให้ฟัง 1 นาที พอครบ 1 นาที คนฟังให้เขียนรายงานออกมาว่าฟังอะไรได้บ้าง
รายงานจะเขียนว่า 0 1 0 1 0 1 ถูกไหมครับ
คราวนี้ เปลี่ยนเป็นนาย B ท่องบ้าง ข้อมูลเดียวกันเลย 6 บิทแบบเดิม แต่นาย B มันขี้เกียจ
หรือมันมีโทรศัพท์เข้า หรือมันปวดฉี่ จบหนึ่งนาทีมันท่องมา 3 บิท
อีก 3 บิทที่เหลือมาในนาทีที่ 2 สรุปคือจบหกบิทในเวลา 2 นาที ข้อมูลครบเหมือนกัน
คราวนี้คนฟัง เขาฟังแค่นาทีเดียว ไม่ได้มารอให้นาย B มันฉี่เสร็จ
ฟัง 1 นาที เขาก็เขียนรายงานออกมาว่า 0 1 0 - - - แล้วไอ้ - - - ในทางดิจิทัล
หรือทางไฟฟ้า มันก็ต้องใส่ค่า เป็น 0 0 0 แทน สิ่งที่รายงานจะสรุปออกมาก็คือ 0 1 0 0 0 0 นั่นเอง
อธิบายแบบนี้ พอเข้าใจเรื่องดิจิทัลเสียงไม่เหมือนกันไหมครับ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 17
serenityman
02/02/2013 10:30:32
0
ขอบคุณสำหรับความรู้ครับ โชคดีที่ผมยังแยกm4a(aac)ที่ซื้อจากitunes กับ flac ไม่ออก
ทุกวันนี้ฟังflacก็เพื่อความสบายใจ 55
ขอบคุณสำหรับความรู้ครับ โชคดีที่ผมยังแยกm4a(aac)ที่ซื้อจากitunes กับ flac ไม่ออก
ทุกวันนี้ฟังflacก็เพื่อความสบายใจ 55
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 18
Progreso
02/02/2013 10:41:05
0
ถ้านิดส์
โปรแกรมที่ Rip มีผลมากน้อยหรือไม่ครับ
ถ้านิดส์
โปรแกรมที่ Rip มีผลมากน้อยหรือไม่ครับ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 19
veedemort
02/02/2013 11:38:51
58
สรุปแล้วปัจจุบัน ...
ส่ง 1 ก็อาจได้รับปลายทางเป็น 0 ได้ จากความเพี้ยนที่เกิดระหว่างทาง และปลายทางรับรู้พลาด
คำว่า lossless ก็ไม่จริงตามชื่อ เพราะมีการบีบอัด แต่ได้ความประหยัดเนื้อที่มาแทน
... สินะ
ผมว่าอีกไม่นาน digital คงทำได้เหมือน analog คับ (ไม่น่าเกิน 10 ปี)
ปล. ทุกๆ คนก็อ่านมาเหมือนกันนั่นแหล่ะคับ บางทีการหา ref. จากคนที่มีมาตรฐานในการทดสอบดีกว่าตัวเรา อาจเป็นทางเลือกที่ดีกว่า
สรุปแล้วปัจจุบัน ...
ส่ง 1 ก็อาจได้รับปลายทางเป็น 0 ได้ จากความเพี้ยนที่เกิดระหว่างทาง และปลายทางรับรู้พลาด
คำว่า lossless ก็ไม่จริงตามชื่อ เพราะมีการบีบอัด แต่ได้ความประหยัดเนื้อที่มาแทน
... สินะ
ผมว่าอีกไม่นาน digital คงทำได้เหมือน analog คับ (ไม่น่าเกิน 10 ปี)
ปล. ทุกๆ คนก็อ่านมาเหมือนกันนั่นแหล่ะคับ บางทีการหา ref. จากคนที่มีมาตรฐานในการทดสอบดีกว่าตัวเรา อาจเป็นทางเลือกที่ดีกว่า
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 20
dutchmew
02/02/2013 12:52:22
4
ผมว่าถ้ามันจะประมวลผลได้เต่าสุดๆขนาดเปลี่ยนจาก 1 เป็น 0 ได้ขนาดนั้น
คงจะต้องเป็นคอมสมัยพระเจ้าเหา 15-20 ปีนู่นมั้งครับ - -"
ไม่น่าจะใช่เรื่องที่เกิดขึ้นกับ cpu ที่มีความเร็วในยุคปัจจุบันล่ะครับ..
jitter ที่ว่านี่ถ้าเกิดขึ้นจริง คิดว่ามันจะใช้เวลาสักเท่าไหร่กันครับ
2 วินาที , 10 วินาที หรือว่าช้ากันเป็นนาทีเลยเหรอ..
อย่างมากสุดก็น่าจะเป็นหน่วย ไมโครวินาที หรือเผลอๆจะ นาโนวินาทีเลยมั้ง
และถ้ามันออกมาผิดเพี้ยนจาก 01010 เป็น 01000 ได้จริง
ผมว่ามันคงเป็นไฟล์เสีย และไม่สามารถเล่นออกมาเป็นเพลงให้เราได้ยินแล้วล่ะครับ
มันคงไม่ออกมาเป็นเพลงเพี้ยนๆให้เรามานั่งฟังแยกแยะจับผิดกับต้นฉบับได้ล่ะมั้ง
ผมว่าถ้ามันจะประมวลผลได้เต่าสุดๆขนาดเปลี่ยนจาก 1 เป็น 0 ได้ขนาดนั้น
คงจะต้องเป็นคอมสมัยพระเจ้าเหา 15-20 ปีนู่นมั้งครับ - -"
ไม่น่าจะใช่เรื่องที่เกิดขึ้นกับ cpu ที่มีความเร็วในยุคปัจจุบันล่ะครับ..
jitter ที่ว่านี่ถ้าเกิดขึ้นจริง คิดว่ามันจะใช้เวลาสักเท่าไหร่กันครับ
2 วินาที , 10 วินาที หรือว่าช้ากันเป็นนาทีเลยเหรอ..
อย่างมากสุดก็น่าจะเป็นหน่วย ไมโครวินาที หรือเผลอๆจะ นาโนวินาทีเลยมั้ง
และถ้ามันออกมาผิดเพี้ยนจาก 01010 เป็น 01000 ได้จริง
ผมว่ามันคงเป็นไฟล์เสีย และไม่สามารถเล่นออกมาเป็นเพลงให้เราได้ยินแล้วล่ะครับ
มันคงไม่ออกมาเป็นเพลงเพี้ยนๆให้เรามานั่งฟังแยกแยะจับผิดกับต้นฉบับได้ล่ะมั้ง
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 21
pockethifi
02/02/2013 15:30:46
ยกตัวอย่างเป็นนาทีคงจินตนาการไม่ออก
ข้อมูลจริง ซีดี 16bit 44.1k มีบิทวิ่งวินาทีละ หนึ่งล้านสี่แสนกว่าบิทครับ
หนึ่งล้านบิท จะมีสักบิทที่มาช้า เป็นไปได้ไหม
แค่มาช้ากว่าที่ควรก็เรียกว่า jitter แล้วครับ
ค่า jitter ระดับตลาดทั่วไปเขาว่ากันที่ 200 พิโควินาที (น้อยกว่านาโนอีกนะครับ)
ค่า jitter ในระบบคุณภาพดีหน่อยเขาจะคุยกันที่ประมาณ 50-100 พิโควินาที
การมาช้า แต่มาครบมันไม่ส่งผลในการก้อปปี้ไฟล์ แต่มันส่งผลกับเสียงที่ได้ยินครับ
ต่อให้มาตรงเป๊ะ ดีเลย์เป็น 0 แต่การตีความบิทที่ตัวรับก็สามารถผิดพลาดได้อีก
จากปรากฏการณ์ Bouncing effect หรือ สัญญาณไฟฟ้ามันสะท้อน
มันวิ่งมาที่ตัวรับแล้วสะท้อนกลับไปตัวส่งแล้วกลับมาตัวรับอีกที ตัวรับก็จะเหมือนได้สัญญาณเดิมซ้ำ
ถ้า 1 มันซ้ำกับ 1 มันก็ดีไป ถ้า 1 ไปซ้ำกับ 0 ในบิทต่อมา ก็คือเพี้ยนครับ
Bouncing effect อยู่ในเนื้อหาเรื่อง electromagnetic ของวิศวะ ไฟฟ้าสื่อสาร
หัวข้อเกี่ยวกับ Standing wave ในตัวนำสัญญาณ ซึ่งเป็นปรากฏการณ์ที่เกิดกับสัญญาณไฟฟ้าความถี่สูง
ไอ้เจ้า bouncing หรือ Standing wave นี่เป็น jitter ในระดับสายสัญญาณครับ ไม่ได้เกี่ยวกับ flac และ Wav
ยกตัวอย่างเป็นนาทีคงจินตนาการไม่ออก
ข้อมูลจริง ซีดี 16bit 44.1k มีบิทวิ่งวินาทีละ หนึ่งล้านสี่แสนกว่าบิทครับ
หนึ่งล้านบิท จะมีสักบิทที่มาช้า เป็นไปได้ไหม
แค่มาช้ากว่าที่ควรก็เรียกว่า jitter แล้วครับ
ค่า jitter ระดับตลาดทั่วไปเขาว่ากันที่ 200 พิโควินาที (น้อยกว่านาโนอีกนะครับ)
ค่า jitter ในระบบคุณภาพดีหน่อยเขาจะคุยกันที่ประมาณ 50-100 พิโควินาที
การมาช้า แต่มาครบมันไม่ส่งผลในการก้อปปี้ไฟล์ แต่มันส่งผลกับเสียงที่ได้ยินครับ
ต่อให้มาตรงเป๊ะ ดีเลย์เป็น 0 แต่การตีความบิทที่ตัวรับก็สามารถผิดพลาดได้อีก
จากปรากฏการณ์ Bouncing effect หรือ สัญญาณไฟฟ้ามันสะท้อน
มันวิ่งมาที่ตัวรับแล้วสะท้อนกลับไปตัวส่งแล้วกลับมาตัวรับอีกที ตัวรับก็จะเหมือนได้สัญญาณเดิมซ้ำ
ถ้า 1 มันซ้ำกับ 1 มันก็ดีไป ถ้า 1 ไปซ้ำกับ 0 ในบิทต่อมา ก็คือเพี้ยนครับ
Bouncing effect อยู่ในเนื้อหาเรื่อง electromagnetic ของวิศวะ ไฟฟ้าสื่อสาร
หัวข้อเกี่ยวกับ Standing wave ในตัวนำสัญญาณ ซึ่งเป็นปรากฏการณ์ที่เกิดกับสัญญาณไฟฟ้าความถี่สูง
ไอ้เจ้า bouncing หรือ Standing wave นี่เป็น jitter ในระดับสายสัญญาณครับ ไม่ได้เกี่ยวกับ flac และ Wav
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 22
ม้าน้ำ
02/02/2013 17:10:37
1
ทฤษฏีจ๋าเลยทีเดียว มากระทู้นี้ - -* ยิ่งดูยิ่งเครียด นอนฟังเพลงสบายใจดีกว่า ขอแค่ไฟล์แท้ หูฟังกับเครื่องเล่นคุณภาพสูง สำหรับผมพอแล้ว
ทฤษฏีจ๋าเลยทีเดียว มากระทู้นี้ - -* ยิ่งดูยิ่งเครียด นอนฟังเพลงสบายใจดีกว่า ขอแค่ไฟล์แท้ หูฟังกับเครื่องเล่นคุณภาพสูง สำหรับผมพอแล้ว
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 23
Fox_Esport
02/02/2013 19:15:15
ผมขอเสนอนิดหน่อย อันนี้ผมลองทดสอบเองนะครับเป็นความเห็นผมคนเดียวล้วนๆ
ที่บางคนบอกว่า .flac แปลงเป็น wav ห่วยลง หรือบางคนบอก rip ลง wav แล้วห่วยลง เราต้องดูเป็นกรณีๆไปครับ อย่างแรกก่อนเลย... การแปลงไฟล์จาก CD ลงเป็น wav หรือ flac ... ในทางทฤษฏี มันต้องไม่เกิดการสูญเสียเพราะมันมีแค่ 0 1 เลขฐาน 2 แต่ในความเป็นจริงผมเคยทดสอบโปรแกรมฟรีกับเสียตังแล้วดู code การทำงานของมัน....กลับ ได้ขนาดไฟล์ไม่เท่ากัน ? แปลงออกมาดีไม่ดีโปรแกรมแปลงก็มีผลนะครับ พอได้ .flac หรือ wav แล้วทำไมเสียงต่างกัน ? 1.เลยโปรแกรมอ่านไฟล์ flac ไม่มีคุณภาพพอผมเคยเจอกรณีตอนมันถอดรหัส flac แล้วจับ frequency พบ!!! ความถี่โดนคลิบเหมือน mp3 ? ทำไมเป็นงั้น 1.เพราะแปลงออกมาไม่ดี 2.เพราะไฟล์ต้นฉบับเป็น mp3 3.เพราะโปรแกรมถอดรหัสได้ห่วย <<<ข้อนี้หลายๆคนมองข้าม ต่อมา wav. กับ flac อันไหนชัวกว่า ตอยได้เลย wav. เพราะไฟล์มันออกแนวดิบๆทำอะไรกับมันไมได้ยัดภาพก็ไมได้ อ่านยังไงออกยั่งนั้น .flac ต้องหาเครื่องเล่นที่แปลงได้จริงๆระดับ HW ไม่ใช้เอา sw แปลงออกมาเดียว frequency มันออกไม่ครบก็มีความเป็นไปได้สูง .... และที่หลายๆคนบอกว่า 0101 ไม่มีทางผิดเพี้ยน เป็นความจริงครับ แต่ !!การถอดรหัส 0101 นั้นมีความผิดพลาดได้ครับ เหมือนคนมองภาพวาด เอา 100 คนมามองยังไงก็มองเหมือนกัน แต่เอา 100คนไปวาดภาพขึ้นมาใหม่ ยังไงก็วาดไม่เหมือนกัน นี้ครับคือความสามารถของ DAC แต่ละองทำได้ดีแค่ไหนด้วย แต่ DAC ก็ยังคงทำงานบนคำสั่งของ โปรแกรมแปลงไฟล์อีกที ถ้าคุณใช้โปรแกรมแปลงห่วย DAC เทพมันก็แปลงออกมาได้ห่วยเหมือนกันนะครับ อันนี้เป็นความคิดของผมล้วนๆไม่ได้มีส่วนเกียวข้องใดๆทั้งสิ้น ผมก็แค่หูสังกะสีธรรมดาคนนึง แต่ทำงานด้าน อิเล็กทรอนิกคอมพิวเตอร์ ขอบคุณครับผิดพลาดประการใดหรือผมเข้าใจผิดตรงไหน ขออภัยด้วยครับ
ผมขอเสนอนิดหน่อย อันนี้ผมลองทดสอบเองนะครับเป็นความเห็นผมคนเดียวล้วนๆ
ที่บางคนบอกว่า .flac แปลงเป็น wav ห่วยลง หรือบางคนบอก rip ลง wav แล้วห่วยลง เราต้องดูเป็นกรณีๆไปครับ อย่างแรกก่อนเลย... การแปลงไฟล์จาก CD ลงเป็น wav หรือ flac ... ในทางทฤษฏี มันต้องไม่เกิดการสูญเสียเพราะมันมีแค่ 0 1 เลขฐาน 2 แต่ในความเป็นจริงผมเคยทดสอบโปรแกรมฟรีกับเสียตังแล้วดู code การทำงานของมัน....กลับ ได้ขนาดไฟล์ไม่เท่ากัน ? แปลงออกมาดีไม่ดีโปรแกรมแปลงก็มีผลนะครับ พอได้ .flac หรือ wav แล้วทำไมเสียงต่างกัน ? 1.เลยโปรแกรมอ่านไฟล์ flac ไม่มีคุณภาพพอผมเคยเจอกรณีตอนมันถอดรหัส flac แล้วจับ frequency พบ!!! ความถี่โดนคลิบเหมือน mp3 ? ทำไมเป็นงั้น 1.เพราะแปลงออกมาไม่ดี 2.เพราะไฟล์ต้นฉบับเป็น mp3 3.เพราะโปรแกรมถอดรหัสได้ห่วย <<<ข้อนี้หลายๆคนมองข้าม ต่อมา wav. กับ flac อันไหนชัวกว่า ตอยได้เลย wav. เพราะไฟล์มันออกแนวดิบๆทำอะไรกับมันไมได้ยัดภาพก็ไมได้ อ่านยังไงออกยั่งนั้น .flac ต้องหาเครื่องเล่นที่แปลงได้จริงๆระดับ HW ไม่ใช้เอา sw แปลงออกมาเดียว frequency มันออกไม่ครบก็มีความเป็นไปได้สูง .... และที่หลายๆคนบอกว่า 0101 ไม่มีทางผิดเพี้ยน เป็นความจริงครับ แต่ !!การถอดรหัส 0101 นั้นมีความผิดพลาดได้ครับ เหมือนคนมองภาพวาด เอา 100 คนมามองยังไงก็มองเหมือนกัน แต่เอา 100คนไปวาดภาพขึ้นมาใหม่ ยังไงก็วาดไม่เหมือนกัน นี้ครับคือความสามารถของ DAC แต่ละองทำได้ดีแค่ไหนด้วย แต่ DAC ก็ยังคงทำงานบนคำสั่งของ โปรแกรมแปลงไฟล์อีกที ถ้าคุณใช้โปรแกรมแปลงห่วย DAC เทพมันก็แปลงออกมาได้ห่วยเหมือนกันนะครับ อันนี้เป็นความคิดของผมล้วนๆไม่ได้มีส่วนเกียวข้องใดๆทั้งสิ้น ผมก็แค่หูสังกะสีธรรมดาคนนึง แต่ทำงานด้าน อิเล็กทรอนิกคอมพิวเตอร์ ขอบคุณครับผิดพลาดประการใดหรือผมเข้าใจผิดตรงไหน ขออภัยด้วยครับ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 24
veedemort
02/02/2013 22:43:47
58
คนที่ทำกระทู้นี้ซะให้เครียดคือผมเองคับ :)
พอดีผมโดนแขวะว่า "อย่าเชื่อคนอื่นสิครับ เห็นว่าชอบทดสอบ" จากคุณ ong14 น่ะคับ :)
ต้องขออภัยคุณ ong14 ที่ผมแขวะคืนนะคับ (รวมทั้งเฮียด้วยคับ)
กระทู้นี้ทำให้ผมได้ความรู้จากหลายๆ ท่าน รวมทั้งคุณ ong14 ... ขอบคุณคับ
:)
ปล. ก็แค่ความเห็นไม่ตรงกัน ... เน๊าะ
คนที่ทำกระทู้นี้ซะให้เครียดคือผมเองคับ :)
พอดีผมโดนแขวะว่า "อย่าเชื่อคนอื่นสิครับ เห็นว่าชอบทดสอบ" จากคุณ ong14 น่ะคับ :)
ต้องขออภัยคุณ ong14 ที่ผมแขวะคืนนะคับ (รวมทั้งเฮียด้วยคับ)
กระทู้นี้ทำให้ผมได้ความรู้จากหลายๆ ท่าน รวมทั้งคุณ ong14 ... ขอบคุณคับ
:)
ปล. ก็แค่ความเห็นไม่ตรงกัน ... เน๊าะ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 25
เหนือเมฆ
03/02/2013 00:38:17
เหนือมนุษย์ชัดๆ ฟังความแตกต่างของ wave กับ flac ได้ !!!
สงสัยจะมีความสามารถได้ยินเสียงที่มีความถี่ระหว่าง 15 – 50,000 เฮิรตซ์
เหนือมนุษย์ชัดๆ ฟังความแตกต่างของ wave กับ flac ได้ !!!
สงสัยจะมีความสามารถได้ยินเสียงที่มีความถี่ระหว่าง 15 – 50,000 เฮิรตซ์
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 26
In Flames
03/02/2013 23:40:19
0
WTF do u talking!! ดาวหางมาแล้ว!!!!
ดูไปฟังเพลงไป5555
WTF do u talking!! ดาวหางมาแล้ว!!!!
ดูไปฟังเพลงไป5555
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ตอบกระทู้ :
"flac ---> WAV"
WAV" />-->
รายละเอียด :
ชื่อ :
รหัสความปลอดภัย :
ตกลง
ตั้งค่าใหม่
แจกหูพิเศษ :
แจ้งลบกระทู้ / ข้อความ
สาเหตุ :
โพสที่แจ้งลบ
แจ้งโดย
เหตุที่แจ้ง
สถานะ