d zero นั้นเล่นได้เเค่ 16บิทล่ะครับ ถูกต้องเเล้ว

อ้าวไม่ใช้ 24 หรอครับ แล้วผมไปได้ยินมากจากไหนละเนี้ย งี้ก็ซื่อมาเสียเปล่าน่ะสิครับ ซาวการ์ดได้ 24 แต่ อันนี้ได้ 16

อาจจะไม่เสียเปล่าก็ได้ครับ ต้องลองพิจารณาจากเสียงดูก่อนว่ามันดีกว่า soundcard ตัวนั้นไหม

ถ้าไม่ชอบเล่นตัวที่สูงกว่าก็ดีครับ

จ๊ากเพิ่งซื่อมาวันนี้เองครับ อิอิ แต่ว่าซาวด์ เก่าผมมันเป็นออนบอร์ดน่ะครับ

อยากต่อกับคอม ต้องทำอย่างไรบ้างอ่าครับ
อยากต่อให้มันทำหน้าที่เป็น DAC+AMP (ไว้ใช้ตอนใส่หูฟัง)
กับ DAC อย่างเดียว(ไว้ใช้ตอนต่อลำโพง)

ถ้าเป็นDAC+AMP ในเวลาเดียวกันเสียงจะดีเหมือนตอนเป็น DAC อย่างเดียวมั้ยครับ

ต้องลองครับ อิอิ
ผมก็ใช้อยู่ครับ
d0 เด่นภาคแอมป์ครับ

มันต่อยังไงอ่าครับ
ไอที่ว่าเด่น เด่นแบบไหนหรอครับ

ต่อกับคอมไปยังหูฟัง
USB -> D0 -> เอาหูฟังเสียบออกที่ช่อง phone ของ D0

ต่อคอมไปยังลำโพง(หรือ amp นอก)
USB -> D0 -> ใช้สาย mini to mini หรือ mini to RCA เสียบที่ช่อง Aux in/out ของ D0

แล้วต้องปรับอะไรไปทางไหนบ้างอ่าครับ

ผมว่าลองเอาเองสนุกกว่านะครับ มันไม่พังหรอก~

คร่าวๆก็ตั้ง hi ไว้ก็ได้ครับ ลำโพงหูฟังได้หมด เสียงจะเต็มกว่า
หูฟังโอมม์ต่ำมากค่อย lo

มันมีแค่สวิตช์เปิด-ชาร์จ-เกน กับโวลุ่ม ลองได้เลยครับ อย่ากังวลไป

ขอบคุณมากครับผม

แบบนี้จ้า opamp WM8740 DAC Chip นั้นโดยตัวเองสามารถ support ได้ 24 bit นั่นล่ะจ้า

แต่ ภาค DAC มันต้องผ่าน opamp PCM2706 USB Receiver ตัวนี้มันเล่น 24 bit ไม่ได้ครับ

ผลประกอบการเลยเป็นเช่นนี้แล....แบ๊ะๆๆๆๆๆ

ยังไงนะครับคุณแพะผมงงอ่าครับ
มันเปลี่ยนเป็น24ได้หรอครับ หรือว่ายังไง

ผมคอยอ่านกระทู้หลายๆ อันของคุณ ifrog แล้ว
ผมเดาว่าคุณ ifrog อาจจะยังขาดความรู้พื้นฐาน เลยไม่คอยเข้าใจอะไรหลายๆ อย่าง ไม่หลายๆ คนแนะนำไป
ตอนนี้ก็เลยจับต้น ชนปลายไม่ถูก

เดี๋ยวจะช่วยอธิบายเพิ่มเติมให้จ้า

คือ usb dac ทั่วไปเค้าจะแบ่งการทำงานออกเป็น 2 ส่วน ก็คือ

1. ส่วนแรก USB Receiver ใช้สำหรับแปลงสัญญาณจากที่รับจาก usb ให้เป็น SPDIF ซึ่งถ้า chip USB Receiver support ไฟล์ได้แค่ไหน ภาค dac ก็จะรับได้แค่นั้นครับ

2. ส่วนต่อมาจะเป็นภาค dac โดยสัญญาณที่จะเข้ามาในภาคนี้ จะผ่าน USB Receiver มาก่อนจะมาเข้า dac ครับ เพราะ chip dac ตรงๆ ส่วนมากจะรับสัญญาณได้แบบ SPDIF (การต่อแบบ coaxial,optic) ไม่สามารถรับสัญญาณตรงๆ ที่มาจาก USB ได้หล่ะจ้า ซึ่ง chip dac แต่ละตัวก็จะ suport การเล่นไฟล์แตกต่างกันไป

ในกรณี D-ZERO เนื่องจากภาค USB Receiver รับได้สูงสุดแค่ 16/48 สัญญาณที่ถูกส่งไปยัง dac จึงได้แค่ 16/48 หล่ะจ้า

ปล. เล่นเครื่องเสียง อย่าสนใจกับ spec มากครับ
ตัวเลขสวย spec ดี ไม่ได้แปลว่าเสียงดีกว่าครับ
เพราะเครื่องเสียงไม่ใช่คอมพิวเตอร์ครับ ที่จะดูจาก spec ได้ครับ

dac 16/44 เสียงดีกว่า dac 24/192 มีเยอะแยะไปครับ

ขอบคุณครับท่าน arnoldte กระจ่างแจ้งขึ้นเยอะครับ

".....ปล. เล่นเครื่องเสียง อย่าสนใจกับ spec มากครับ
ตัวเลขสวย spec ดี ไม่ได้แปลว่าเสียงดีกว่าครับ
เพราะเครื่องเสียงไม่ใช่คอมพิวเตอร์ครับ ที่จะดูจาก spec ได้ครับ

dac 16/44 เสียงดีกว่า dac 24/192 มีเยอะแยะไปครับ "

ว้า....วัยรุ่นเซ็ง ว่าจะไปด๋อย audio gd มาฟังซะหน่อย ศู้ไม่ได้จริงๆ หรอ TT

สู้ได้หรือไม่นั้น คงต้องลองฟังกันเองครับ

เพราะประโยคที่ว่า เครื่องเสียงไม่ได้ดูที่สเป็คอย่างเดียว ผมเองก็ได้ฟังมาจากคนขายเครื่องเสียง hi-end กล่าวแบบนั้นเหมือนกัน มันซับซ้อนดีครับเรื่องของอุปกรณ์เครื่องเสียง ถ้าไม่ได้ลองหรือจับ test กันสดๆ สเป็คดูเป็นเรื่องรองไปเลย 55+

ผมก็เริ่มมีความคิดเดียวกันกับพี่ๆแล้วละครับ สเปควัดไม่ได้จริงๆอาจจะพูดได้แค่พอสังเขบ
ทีแรกก็หลงไปตุเป็นตะ ตอนนี้เริ่มเดินทางถูกละครับ อิอิ