เคยฟัง 668 ครับขายไปล่ะครับ โดยรวมรายละเอียดดีครับ แต่พวกเบสไม่ค่อยแจ่มครับสงสัยเพราะเป็นแนว monitor

http://forum.munkonggadget.com/detail.php?id=88026

สนใจไหมครับ ผมรับมาจากกระทู้ข้างบน รับมา 900 ปล่อยให้ที่ 700

@jokerxloser สนใจครับ รบกวนตอบเมลผมด้วยนะครับ :)

มีตัว669ครับ หูมอนิเตอร์ฟังไม่สนุกนนะครับ จะแห้งเสียดหูเบสลึกแต่ได้ยินทุกอย่าง 555

ขอบคุณทุกความเหนครับ

เอา 668 พี่คิดมาลองดูแล้วครับ แล้วมาดูกันต่อว่าหนทางบนทางเดิน FZ จะเปนอย่างไรต่อไป

เอาละครับ หลังจากได้จับ HD668 จากพี่คิดมาสักพัก มาลองใช้ฟังเพลง เล่นเกมส์ดูหนัง จับถูกจับผิดลูบถูกคลำผิดมาหลายรอบ เพราะเห็นยังไม่มีใครเขียนออกมา เลยเขียนออกมาเป็นรีวิวบ้านๆ เองซะเลย ให้คนที่สนใจหูฟังยี่ห้อนี้ได้เป็นตัวเลือกตัดสินใจกัน

โดยปกติผมมักจะคลุกคลี + หมกมุ่นกับหูฟังในตลาด in-ear และ custom in-ear ซะเป็นส่วนมาก โดยส่วนมากวงการที่ผมเล่นตรงนี้ จะไม่ค่อยสนใจหรือใส่ใจกับพวก Amp ซะเท่าไหร่ เพราะ Driver มีขนาดเล็ก Player ทั่วๆไปสามารถขับเสียงให้ออกครบถ้วนได้โดยไม่ต้องใช้ Amp ช่วยขับแต่อย่างใด

จนล่าสุดนี่ผมไปจับ DAC-AMP มือสองของค่าย Fiio รุ่น E7 มาจากในนี้เนี่ยล่ะ ส่งตรงมาจากหัวหิน ปกติ Amp แบรนด์ Fiio ผมจะเข้าใจว่าอัพเบสเป็นหลัก ไม่ว่าจะเป็น E3 E5 E6 แต่ตัว E7 หลังจากลองก็รู้สึกได้ว่าจะได้ Image กับ มวลที่หนาขึ้น เบสก็ปรับเอาเองตามชอบสี่ระดับ โดยตอนที่จับตั้งใจจะมาใช้ในฐานะ DAC (Digital-to-Analog) แต่เนื่องจากงานสุมหัวจนไม่รู้จะเอาเวลาไหนมาฟัง แถมในเวลางานใส่ Custom in-ear ไปด้วยคนเรียกคงไม่ได้ยิน (โดยธรรมชาติ ใส่ Custom ฟ้าผ่ายังไม่ได้ยิน คนเคยใช้จะรู้) เลยมองหาหูฟัง Earbud แถวสอง เพราะคิดว่า Fullsize ราคาคงจะแพงตามขนาดของมัน ก็ได้ไปเจอหูฟัง Earbud หลายตัวที่เข้าตา ไม่ว่าจะเป็น Senn MX880, PK1, PK2 แต่ก็ยังรอจับแถวสองก็ยังไม่เจอซะที

บังเอิญมีอยู่วันหนึ่งได้รู้จักกับหูฟังยี่ห้อ Superlux ซึ่งทำหูฟังทั้ง FZ และ IEM ออกจำหน่าย เป็นสินค้าแบรนด์ไต้หวัน โดยFZ ก็มีราคาไม่แพง รุ่น HD681 อยู่ราวๆ 1000 บาทเป็นแนวฟังสนุกเบสเร้าใจ รุ่น HD688b อยู่ราวๆ 1600 บาท และรุ่น HD669 อยู่ราวๆ 2000 บาท โดยสองรุ่นหลังเป็นหูฟังแนว Monitor ( เออออตามคนขาย ) ซึ่งหูฟังยี่ห้อนี้ก็หามือหนึ่งได้ตามเว็บเสียว เอ๊ย เขียว

แต่ด้วยว่ายังไม่เคยเล่น FZ มาก่อน เลยไปตั้งขอความคิดเห็นในเวบพันธมิตร( เหลือง ) นั่นคือกระทู้นี้ และได้พี่คิด เสนอส่งต่อในราคา 730 รวมส่ง (ซึ่งมาเจอทีหลังว่าค่าส่ง + กล่องก็ 100 กว่าบาท ขอบคุณคร้าบ _/\_ ) มันทำให้ผมสงสัยไม่ได้ว่าทำไมคนถือไม่ประทับใจเหมือนหูฟังติดตลาดบางรุ่น จึงจัดการทดสอบเองซะเลย หลังจากได้ทดสอบทั้งแบบ Player + Amp และ PC + DAC ก็รู้สึกว่า เสียงมันก็ไม่ได้เลวร้ายซะทีเดียว อาจจะแค่ไม่เข้ากับสไตล์พี่เค้าและสไตล์การฟังเพลงของคนไทยโดยปกติ ( อันนี้ผมมั่วเอา 555 ) แต่ผมคิดว่ามันเป็นเซต Starter ที่ดีในการเริ่มต้นในการเล่นหูฟัง FZ พร้อมจะออกเดินทางบนเส้นทางแห่งมาม่าซองละหกบาทต่อไปในอนาคต

อารัมภบทกันมาพอแล้ว มาดูของจริงกันเลยดีกว่า หูฟัง Superlux รุ่น HD668B มีรูปร่างหน้าตาดังนี้ ครับ ในแพคเกจจะมีหูฟัง ถุงใส่หูฟัง สายยาว 1 เมตร และ 3 เมตรมาให้ โดยปรับเปลี่ยนตามลักษณะการใช้งานและยังสามารถหาสายโมมาใช้ได้อีกด้วย หูฟัง Superlux HD668B ใช้ไดร์เวอร์ขนาด 50 MM และความต้านทานขนาด 56 Ohms ทำให้ Player ธรรมดาคงขับออกไม่หมดซะแล้ว เราจึงมีเพื่อนพระเอกคือ Fiio E7 ที่ระบุว่าขับได้ถึง 300 Ohms จริงเท็จเม็ดทดยังไงไม่อาจทราบ เพราะผมอ่านเอาหลังกล่องคร้าบ =w=

ว่ากันด้วยเรื่องเสียงที่เป็นหัวใจหลักของการฟังเพลงละกันครับ โดยคู่ Tag Team นี้ผมคิดว่ามันเป็นคู่ที่ Match กันพอสมควร อาจจะไม่ที่สุด และอาจจะเป็นแค่ คหสต เพราะผมก็ผ่าน Amp มาไม่กี่ตัว (E3 + EP630,CX500 : D-ZERO + TF10) และ FZ ตัวนี้ที่เป็นตัวแรกที่ผมลงทุนจับมาเล่นเลยก็ว่าได้
อุปกรณ์ที่ใช้
Cowon J3 FW 2.29
Fiio E7 Amp-Mode + CU M2M
ไฟล์ที่ใช้ เป็น Flac Lossless และ Wav Lossless

Classic
เป็นเซตที่เหมาะกับแนวคลาสสิกมาก เพราะให้บรรยากาศที่โล่งโปร่ง ชิ้นดนตรีชัด ไล่เสียงได้แม่น และวางตำแหน่งของดนตรีได้อย่างแม่นยำ ไม่มีการทับซ้อน เพลงแนวนี้จะได้เนื้อที่แน่น เบสที่ลงลึก ประกายเสียงสูงยังดูขาดภาพลักษณ์ไป แต่แก้ไขได้โดยการเปิด EQ บน Player เป็น Classic ส่งผลให้ประกายใสทอดยาวและเวทีขยายออกไปอีก

Pop
เป็นแนวดนตรีที่ต้องการความสนุกสนานและ image ของชิ้นดนตรี แต่ตัว Superlux ก็ทำได้ดี แต่ไม่สุด เพราะในการปล่อย Impact ออกมาไม่ดี จับได้ยาก และถ้าปรับ EQ เพื่อเค้น impact ออก ทำให้เสียง impact แตกได้ การปรับ Bass Booster บน E7 เป็นการแก้ปัญหาได้ดีระดับหนึ่ง โดยจะเพิ่มมวลของเสียง ไม่ได้ปรับที่ impact ตรงๆ

Acoustic
เป็นอีกจุดเด่นหนึ่งของเซตนี้ที่อยากให้ลิ้มลอง เพราะทำออกมาได้ดีไม่แพ้ Classic ทีเดียว โดยสามารถปรับแต่งให้ออกมาได้หลากหลายแนวมาก โดยปรับ EQ บน Player หรือ Amp เพื่อเพิ่มลด มิติ, Stage Ambient, มวลเสียงร้อง และ Image ของเวที คิดว่าการใช้ชุดนี้ฟังดนตรีเครื่องสาย เครื่องเป่าจำพวกทองเหลือง และเปียโนได้อย่างดีในแบบที่ In-ear Monitor ให้ไม่ได้

Rock
ในครั้งแรกที่ทดลองฟัง ก็รู้สึกหูฟังนี้ยังสามารถรับมือกับขาร็อคได้ แต่พอฟังสักพักก็คิดว่า ไม่ได้เหมาะซะทีเดียว เพราะในขณะที่ดนตรีน้อยชิ้น เซตนี้สามารถแสดงความสามารถได้อย่างดี ให้เนื้อดนตรีดี คนร้องเด่น ประกายใสแต่ไม่ได้ทอดไกลตามสไตล์ร็อค กลองวางตำแหน่งดี กระเดื่องชัด
แต่หลังจากที่ดนตรีวิ่งถึงท่อน Hook ที่ชิ้นดนตรีเริ่มมากชิ้น เริ่มเร็วขึ้น ส่งผลให้เสียงดนตรีแห้งลง เนื้อบางลง กลางถอย เหมือนดูการแสดงดนตรีอยู่แถวสาม แล้วถอยมาอยู่แถวแปด คงเสียงร้องชัด เพิ่มความโอบล้อมมากขึ้นอย่างเดียว
ถ้าเป็น Rock ติด color จัดๆ จะได้คุณภาพกว่า IEM ตรงที่ ชิ้นดนตรีไม่ฟุ้ง เก็บตัวเร็ว ไม่ทับซ้อน เมื่อชิ้นดนตรีมากชิ้นขึ้น จะทำให้ดนตรีโอบล้อมตัว แต่ก็ยังติดแห้งอยู่เล็กน้อย แต่ผมเป็นศิลปะ ผ่านครับ

Metal
ขาเบสในผับคงไม่ชอบ เพราะเบสเก็บตัวเร็วมาก ได้ข้อดีที กระเดื่องนับรอบได้ทีเดียว ตามสไตล์ Monitor เมื่อมีการเล่นชิ้นดนตรีเยอะๆ หลายๆชิ้นในการฟัง Metal เซตนี้จะมีการวางตำแหน่งเวทีแน่นอน แอบรู้สึกว่าเหมาะกับการจับผิด มากกว่าการฟังเพื่อความสนุกตามสไตล์เมทัล =w=

Live
คงความเป็นเวทีได้มาก เหมือนซื้อตั๋ว Exclusive นั่งโซฟาหน้าเวที นักร้องอยู่ข้างหน้า และมีตำแหน่งว่างกลางเวทีเยอะ เสียงคนร้องเด่น กลองอยู่หลังคนร้องพอดี แต่เสียงกลองจะค่อนข้างแหบและฟุ้งเล็กน้อย เปิด Bass Booster บน E7 จะคุมโทนบนเวทีได้อย่างดี

Stage
แทบจะเรียกได้ว่าเป็นจุดเด่นของเจ้านี่เลยก็ว่าได้ เพราะเห็น FZ ที่ให้สเตจ โปร่งโล่งมาก ใส่แล้วไม่อืดอัด แต่เพราะเป็นหูแบบกึ่งเปิด Semi-Open ทำให้เสียงออกไปข้างนอกค่อนข้างเยอะ ไม่เหมาะกับเอามาใช้ดูหนัง AV นอกจากสเตจที่กว้าง การวางตำแหน่งชิ้นดนตรีบนเวที ยังวางได้ดี ไม่วางสุดขอบเกินไป และไม่วางแออัดตรงกลางเกินไป

Image
Superlux HD668B + E7 ให้ดนตรีที่มีชิ้นดนตรีชัดเจน มิติของนักดนตรี การไล่หน้าหลัง ไม่ทับซ้อน ในเงื่อนไขของชิ้นดนตรีน้อยชิ้น และจังหวะไม่เร็วจนเกินไป เสียงนักร้องที่เป็นธรรมชาติ และไม่ถูกเครื่องดนตรีทับซ้อน

Impact
ไม่เขียนหัวข้อนี้ไม่ได้จริง เพราะคิดว่าคงเป็นข้อด้อยของหูฟังตัวนี้ (อาจจะเป็นสำหรับผมแต่คนอื่นไม่เป็น ด้วยที่ว่าหูฟังก็เป็นตัว monitor อยู่แล้ว) เซตนี้ค่อนข้างได้เนื้อดี กว้าง ใส สูง แต่ Impact ทำมาได้ค่อนข้างด้อย และตอบสนองได้ไม่ดี ไม่เหมาะกับการดูหนัง sound Effect เยอะๆเท่าไหร่

สรุป เป็นเซตประหยัดสำหรับบุคคลที่ต้องการ FZ มา Mix เสียง เซตหูฟังที่มีความเที่ยงตรงของเสียงมาก ให้เสียงที่สมจริง แนวเพลงฟังสบาย ดนตรีคลาสสิก ไม่เหมาะกับขาร็อคดิบเถื่อนแบบผม ทดสอบเอามาใช้ดูหนัง sci-fi หรือเล่นเกมส์ แนวสงคราม แนว FPS Effect ก็พอไปได้ครับ จับทิศทางถูก ยิงเป็นยิงครับ กระสุนตกเป็นตก แต่ทั้งหมดนี่ทดสอบกับ Dac E7 นะครับ

ปล. หูฟังแม่งก็บอกแต่แรกแล้วว่าแนว Studio = =
ปล. ขอบคุณทุกคนที่อ่านจนจบจ้ะ ผิดถูกยังไงชี้แจงได้ครับผม >w<

อยากรู้ว่าเทียบกับ Beyerdynamic DT990 ได้ส้กกี่ % ครับ
มี 668 แต่ไม่เคยฟัง 990

ผมใช้ 669 อยู่ครับ ตอนลอง เทียบกัน 2 รุ่น ระหว่าง 668b ผมเลือก 669 เนื่องจากเสียงกลางเด่นกว่า เบสปริมาณน้อยแตาลงได้ลึกกว่า 668b ได้มาจับเบิร์นไปสัก 50 ชม ผมว่าเสียงมันคุ้มเกินราคาไปพอควรนะครับ แต่ผมได้ตัดเอาถุงเท้ามาคลุมหนังที่ครอบหูไว้ ทำให้สวมใส่สบายขึ้นหน่อย เสียงเปลี่ยนไปดล็กน้อย

สิ่งเดียวที่ผมไม่ชอบคือ ใหม่ๆ มันบีบหัวมาก ผมต้องจับมันสวมกับหมอนให้มันง้างไว้ ตอนนี้ใช้มาสองอาทิตย์ ฟังเสร็จก็จับง้างไว้ต่อ ตอนนี้ดีขึ้นพอควรครับ ใส่ได้หลาย ชม.อยู่

ผมใช้กับ fiio e17 / Sansa clip+ ลง Rockbox ปรับ eq ครับ

@sonse ไว้ถ้ามีโอกาสได้ฟัง Beyerdynamic DT990 มาจะมาเทียบครับ

@Hellotytyty ผมใช้ไม่บีบนะครับ สงสัยพี่คิดง้างมาให้แล้ว =w=

668 ไม่บีบครับ แต่ 669บีบ
ฟังเทียบกัน ผมชอบ 668 มากกว่า อาจเพราะความเรียบเรียบ ไม่เน้นด้านใดเกินไปของมัน
แต่ฟังร๊อค เมทอล ต้อง 681 มันส์และชัดจริงจริง

681 slipknot ไม่ไหวจริงๆครับ

the blister exist กระเดื่องชัดไปครับ ไม่มัน 555