ผมก็เพิ่งเริ่มครับ แต่ก็พอรู้ว่า

แอมป์ช่วยเพิ่มกำลังขับทำให้ สามารถขับหูฟังที่มีความต้านทานสูงๆได้

เช่น Pk1ประมาณ 100โอมละมั้ง
หูฟังทั่วไปที่เรียกว่าขับง่าย ไม่น่าเกิน 40 โอม ยิ่งโอมน้อยยิ่งขับง่ายครับ

เทียบ ง่ายๆว่าถ้าหาก Player เป็นรถ แอมป์ก็เป็น Turboละคับ

แอมป์แต่ละตัวใช้ชิปเสียงต่างกัน เมื่อเสียงเดินทาง ผ่านชิปและวงจรต่างกันทำให้เกิดเสียงที่แตกต่างกันครับ

แอมป์จำเป็นต้องใช้สายต่อจากเพลเยอร์ออกมาครับ เรียงดังนี้

Player>>>DAC(ถ้ามี)>>>แอมป์>>>หูฟัง

>>> = สายสัญญาณต่างๆ(D2M M2M)

ถูกและดีไม่มีหรอกคับ มีแต่ถูกใจในเสียงและราคา ครับ

ตอบได้เท่านี้ครับถูกผิดประการใด รบกวนผู้รู้ชี้เเนะด้วยครับ

โห่้....ขอบคุณมากครับ ผมเหน FiiO อ่ะครับ ถ้าซื้อมานี้ต้องซื้อไรเพิ่มอีกป่าวครับ พอรู้ไหมครับ

ก่อนซื้อแนะนำว่า ฟังให้ออกก่อนครับว่าดีขึ้นจิงป่าว
ส่วนซื้ออะไรเพิ่มเติมที่ถามนั้นน่าจะเปนสายรึเปล่าแต่ปกติ
มันก็แถมละคับแต่ไม่ดีเท่านั้นเอง ดูตามรีวิวแกะกล่อก็ได้ครับ

อ๋อออ ถ้าเราซื้อปกติมันก็มีสายมีแอมป์ให้ ใช้ได้เลยใช่ไหมครับ แต่ก็เปลี่ยนสายได้อีกใช่ไหมครับ

ดันคราฟฟ

DAC คืออะไรหรอ ครับ งงมากมาย

ขับ ง่ายเเล้ว ดีไง คาฟฟฟ

ช่วยดันอยากรู้ครับ...

ใช้เพลเยอร์ กับ หูฟังอะไรอยุ่ล่ะครับ

DAC = Digital to Analog converter

แปลงสัญญานเสียงจากดิจิตอลเป็นอนาลอกครับ

DAC เป็นวงจรแปลงสัญญาณดิจิทัล(ตัวเลข 0,1) ให้เป็นอนาล็อก (คลื่น) วงจร DAC มีในเพลเยอร์ทั่วๆไปครับ
ไอผอดก็มี คอมพ์ก็มี แต่ไม่ค่อยได้คุณภาพนัก เลยมีคนหัวใสทำออกมาแยกละครับ
โดยสัญญาณขาเข้า DAC จะเป็นดิจิทัลอินพุตเช่น USB และสัญญาณขาออกจะเป็นอนาล็อกเอาท์พุตเช่นพวก RCA, phone ครับ แสดงว่า DAC ใช้กับ ipod/player ตรงๆไม่ได้ครับเพราะพวกนี้สัญญาณขาออกเป็นอนาล็อกไม่ใช่ดิจิทัล DAC แนะนำให้ใช้กับคอมพ์น่าจะเวิร์คกว่าครับ

แอมป์ เป็นตัวเร่งแอมพลิจูดของสัญญาณอนาล็อกให้ใหญ่ขึ้นครับ (เสียงดังขึ้น) ส่งผลกับคุณภาพเสียงด้วยครับ ถ้าจะถามว่าทำไมหูฟังขับยากๆต้องใช้แอมป์ อธิบายง่ายๆ ก็เพราะหูฟังขับยากๆ ทำให้เสียงดังยาก ดังนั้นรายละเอียดเสียงที่เล็กๆเบาๆอยู่แล้วก็ยิ่งไม่ได้ยิน แอมป์จะมาช่วยในส่วนนี้ล่ะครับ

ปล. ผมก็งูๆปลาๆเน้อ

ค.1 คับ

ระหว่างแอมป์กับหูฟัง ไม่ต้องมีสายสันยานนะคับ 5555
สงสัยเพลิน

อ่าคับ ผมหมายถึงสายหูฟังแหละคับ ^ ^

ภาคแอมป์นั้นทำหน้าที่ขยายสัญญาณให้แรงขึ้นครับ สำหรับหูฟังใหญ่ๆ อิมพิแดนซ์สูง หรือ Sensitivity ต่ำๆ ที่เพลเยอร์ทั่วๆไปไม่มีแรงเพียงพอที่จะพลักดันหูฟังตัวนั้น ให้แสดงคุณภาพเสียงอย่างเต็มที่ล่ะจ้าาา

สาเหตุที่เราต้องใช้แอมป์ขับหูฟัง นั้นเพราะคุณภาพของวงจรขยายสัญญาณใน เพล์เยอร์ นั้นออกแบบมาได้ไม่ดีพอ เสียงดรอปกว่าที่ควรจะเป็น หรือความเพี๊ยนสูง เมื่อใช้กับหูฟังใหญ่ๆ

สมมุติว่าเปิด Volume ที่ 50% ความเพี๊ยนอยู่ที่ 0.1%
แต่ถ้าขับหูฟังใหญ่ เปิด Volume 100% ความเพี๊ยนของภาคขยายอาจจะไปถึง 1% ครับ
หรือถ้าหูฟังบางตัว ต่อให้เปิด Volume 100% ก็ยังขับไม่ดีังอยู่ดีครับ เลยต้องหาแอมป์มาช่วยล่ะจ้าา

วันสองวันมาเนี่ย...เห็นกระทู้นี้
นึกอยากลองวิชาอิเลค
สมัยอยู่ ปวช.
เลยจับปริ้นสำเร็จมาแกะอัปเกรดอุปกรณ์
พอได้มีเสียง. ก็สนุกละ ครับ
รูปแบบเป็น. แอมป์ไอซีง่ายๆ
ว่างๆ ทำเสร็จจะโชว์อีกที อิ อิ

ขอบคุณพีั่ๆทุกคนมากครับ ค่อยมีความรู้หน่อย 55555

แล้วเราดูยังไงว่า ตัวไหนขับยาก ขับง่าย ?? แล้วปกติใช้กันนี้คิือทุกครั้งที่ฟังเพลง หรือแค่ตอนเบิร์นหรอครับ ขอบคุณครับ

1.ดูจากโอมหูฟังครับ ยิ่งมากยิ่งขับยากในคู่มือหูฟังจะบอกไว้ครับ

ดูอย่างไรว่าหมดไม่หมด ก็ลองฟังดูครับ รายละเอียดเสียงบางอย่างจะหายไป(อาศัยประสบการณ์ ^_^ )


2.ใช้ทุกตอนแหละครับ ^_^ ทั้งเบิร์นทั้งฟัง

ถ้าไม่แย่จริงๆผมก็ฟังไม่ออกหรอกครับ ประสบการณ์ ผมยังไม่เยอะเท่าพี่ๆคนอื่นในบอร์ด

เพิ่งเห็นจ้าๆๆๆ

"แอมป์" มันช่วยอะไรได้มั้ง ?
- แอมป์ช่วยขยายสัญญาณให้แรงขึ้น เพิ่มความเสถียรและคุณภาพเสียงไปให้ปลายทางคือตัวหูฟังครับ

จำเปนมากแค่ไหน ?
- ขึ้นอยู่กับความต้องการของคนเล่นและหูฟังที่มีอยู่ครับ ถ้าไม่จริงจังกับการเล่นเท่าไรนัก และหูฟังสามารถฟังตรงๆๆกับเพลย์เยอร์ได้ ก็ไม่จำเป็นนักครับ

แอมป์แต่ละตัวต่างกันยังไงบ้าง ?
- ต่างกันตรงปรัชญาการออกแบบ และจินตนาการของคนออกแบบครับ โดยคนที่ออกแบบวงจรจะจูนเสียงแอมป์เพื่อให้มีน้ำเสียงและบุคลิกต่างกันออกไป และมีกำลังขับ รวมถึงรายละเอียดอื่นๆต่างกันออกไปครับ

แล้วมีแอมป์ต้องใช้สายไรอีกป่าวครับ ?
- อีกมากมายเลยครับ การใช้แอมป์คือการเพิ่มความจริงจังกับการฟัง ดังนั้นจึงมีอุปกรณ์ที่ใช้ร่วมกันอีกมากมายหลายชิ้นครับ อย่างน้อยที่สุดคือ สายไฟ กับสายสัญญาณครับ

สงสัยประการใด ถามเข้ามาได้เลยนะคร้าบบ 555

โห้...ขอบคุณพี่ๆ และเฮียมัี่นคง มากเลยครับ มีความรู้ขึ้นเยอะ

อย่าง 215 หรือ um1 ก็ไม่จำเปนมากใช่ไำหมครับ ??

ที่ต่างกันชัดๆคือ มิติความลึกครับ ชัดเจนเมื่อลองต่อแอมป์ ส่วนอื่นผมว่าขึ้นอยู่กับปัจจัยอื่น
เช่นหูฟัง แจ็ค สาย เป็นต้นครับ