Guest
หมวดหมู่ > เว็บบอร์ด จับฉ่าย

ช่องทางการติดต่ออื่น

  • Munkonggadget
  • Munkonggadget Reviews
  • Munkonggadget Reviews
  • Munkonggadget Contact Us

ผลกระทบเรื่องการ Burn หูฟัง

Peter

21/10/2008 12:43:00
เกิ่นนำ ผมเพิ่งได้ KSC35(สินค้าใหม่จากอเมริกา) ครั้งแรกที่ฟังรู้สึกว่า เสียงแหลมบาดหูมาก ออกจะเสียงแข็งและดิบๆ กระด้าง จึงพยายามที่จะฟังบ่อยๆเพื่อให้หูฟังเข้าที่ และคาดหวังให้เสียงที่ได้ยินหลังจากนั้นดีขึ้น หลังจากนั้น 1 อาทิตย์ (ตกเฉลี่ยฟังวันละ 5-6 ชม.ฟังแบบปรกติไม่ได้หักโหมหรือเปิดทิ้งอะไร) ผลที่ได้ก็ไม่แตกต่างจากเดิมเท่าไหร่ ด้วยความคาดหวังที่จะได้ยินเสียงที่ดีกว่าที่เป็นอยู่ จึงได้ค้นหา File เพื่อนำมา Burn หาทั้งของไทยและของนอก จึงได้ File(หลากหลายมากไม่ต่ำกว่า 50 ไฟล์) นั้นมา ผมใช้ File Burn นั้นเป็นเวลาต่อไปทุกวัน วันละ 5 นาที (สลับสับเปลี่ยน File ที่ Burn ทุกวัน วันละ 5 นาทีเท่านั้น) ผลที่ได้ทุกเสียงเข้าที่เข้าทางหมดทั้งเสียง เบสที่ลึกมีมิติ เสียงกลางที่นุ่มละมุนไม่พู่งแหลมไม่แข็งบาดหู แต่มันมีปัญหาเรื่องเสียงแหลม! หางเสียงดัง “ซี๊ซด” (ยืนยันว่าไม่ใช่เสียงแตกจากหูฟังแน่นอน แล้วก็การฟังและการ Burn ทุกกระบวนการพิถีพิภันอย่างมาก)

อยากถามว่าถ้าผม Burn แล้วทำให้ปลายเสียงสูง ของเพลงมีเสียงคล้ายๆ ฝรั้งพูดภาษาอังกฤษแล้วมีแอ็กเซ้นน (ดังจากหางเสียง.”ซี๊ซด”) โดยเฉพาะเพลงที่มี Bit Rate ต่ำกว่า 160 จะได้ยินชัดเจนมากซึ่งเมื่อเทียบกับตัวที่มีอยู่แล้ว แต่หูฟังนั้นยังไม่ได้ Burn จะได้ยินเสียงนั้นไม่ชัดเจน จนไม่เป็นจุดสังเกต

1.อยากถามว่าผมคิดไปเองหรือเปล่า หรือเป็นบุคลิกน้ำเสียงของหูฟัง (ตอนนี้หยุด Burn แล้ว)
2.แก้ไขยังไง
3.ช่วยอธิบายถึงสาเหตุทางเทคนิค แล้วก็อธิบายถึงหลักการที่ถูกต้องเหมาะสมอย่างละเอียดให้หน่อยครับถึงสิ่งที่เกิดขึ้น(ขอความรู้หน่อยครับ สำหรับมือใหม่อย่างผม)

ขอบคุณครับ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 1

P3NG

21/10/2008 12:43:00
^

ถึงขนาดนั้นเลยเหรอครับ :- O
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 2

นายมั่นคง

21/10/2008 12:43:00



555

เอ้า ต่ออีกหน่อย..............


ไอ้การเบิร์นนี่มันประหลาด ถ้าเป้นการเล่นเครื่องเสียงบ้าน บางคนเอาจริงเอาจังและเคร่งเครียดกว่าที่เราเล่นกันนี้เยอะครับ

ผมเคยซื้อสายสัญญาณยี่ห้อ NBS มาใช้ ปรากฏว่าเค้าแนะนำให้เบิร์นเกิน 100 ชั่วโมง คุณภาพถึงจะดี.........เอ้า ไม่ว่ากัน เบิร์ก็เบิร์น

แต่เค้าแนะนำต่อว่า ถ้าเมื่อไหร่ถอดออกจากเครื่อง....แล้วเสียบกลับไปใหม่ ต้องเบริ์นอีกซัก 2-3 ชั่วโมง เพื่อให้มันตื่นตัว 555


ผมฟังแล้วก็งงๆ ว่านี่มันเบริ์นสาย หรือว่าปลุกนกเขา ????


555

เรื่องจริง ๆ ครับ ศาสตร์หลายๆ อย่างที่ประหลาดกว่านี้ ยังมีอีกแยะครับ ไอ้ที่เราเล่น เรารู้กันนี่มันแค่ผิวๆ เองจ้า 555 เซียนที่เล่นเครื่องเสียงบ้านที่เล่นกันแบบซีเรียสทุกเม็ด มีทีเด็ดกว่านี้อีก........

เรียกว่าแทบจะปลุกพระก่อนฟังเพลงเลยละกัน.....


ผมเองก็เชื่อส่วนหนึ่งครับ (ส่วนหนึ่งไม่ใช่ทั้งหมด) ว่าการเน้นในรายละเอียดปลีกย่อยต่างๆ ทำให้คุณภาพเสียงเพิ่มขึ้นได้อย่างแน่นอนครับ.......เอาแค่ฟองน้ำหูฟัง นิ่มกับแข็งเสียงก็ต่างกันแล้วครับ

5555 ช่างหัวมัน เน้นมาก ปวดหัวเปล่าๆๆๆๆ





----------------
นี่ถ้าฟัง Black Sabbath นี่ ผมว่าแสดงว่าชอบย้อนยุค หรือไม่ก็แก่กว่าผมไปโน่นเลยล่ะ.........5555

Sabbath นั้น ถ้ายุค Ozzy แล้วมันขลังจริงๆๆๆๆ

คีย์เสียงของ Ozzy มันเข้ากับกีตาร์ของ Tony มากๆๆๆ


อย่าลืมกลับไปเอางานของ Uriah Heep มาฟังด้วยล่ะ อ้อ แถม Deep Purple ยุคต้นๆ ด้วยนะ........5555
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 3

Peter

21/10/2008 12:43:00
ขอบคุณ คุณมั่นคงครับสำหรับ การตอบ (ดีมากเลยครับ)

ช่วงนี้ก็ให้ Nathan East (Four Play) ช้วยตบเบสกระแทกหูฟังไปพรางๆ ก่อน ค่อยๆเป็นค่อยๆไปดีกว่าครับ

เสียงริฟฟ์กีต้าร์ Intro เพลง Paranoid (Black Sabbath) ดังขึ้น (เสียงเรียกเข้าโทรศัพท์มือถือดังขึ้น)
Peter say – ฮาโล่ล่ล่ ใครว่ะ
My Friend say – ตูเอง
Peter say – เออ! มึ_ มีเ้_ อะไร(จำเสียงได้รู้ว่าใครโทรมา)
My Friend say – ไอสั_ย์(ไม่ใช่ชื่อตู) หมาตู แ_งขี้แตก(สุนัขระดับแชม์ เพทดีกรี)
Peter say – มันเกี่ยวเ้_ อะไร กับตู
My Friend say – ก็ File มึ_ (File Burn เครื่องเสียงและหูฟังที่ผมได้ให้ไป)
(ยังไม่ทันสิ้นเสียง การกดตัดสายก็ได้เกิดขึ้น)
(หลังจากนั้น Tony Iommi ก็ริฟฟ์กีต้าร์ Intro Paranoid อีกหลายรอบ)

นี่ผมไปทำบาปทำกรรมกับสั_ย์โลกเข้าให้แล้ว(สำนึกแล้วครับ...เวรกรรม)
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 4

pp

21/10/2008 12:43:00
ksc35 เป็นแบบนั้นล่ะครับ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 5

นายมั่นคง

21/10/2008 12:43:00



เอ้า รีบตอบโดยพลันเลยครับผม 555


การเบิร์นหูฟังนั้นไม่ใช่เป็นการเปลี่ยนคุณภาพของหูฟังให้กลายเป็นคนละตัวครับ เพียงแต่เป็นการเกลาและเป็นเหมือนการวอร์มอัพหูฟังให้ทำงานได้เต็มสมรรถนะของมัน

เพราะฉะนั้นการเบิร์นไม่ใช่การทำให้มันดีขึ้นแบบตกกะใจสิ้นสติแน่นอนจ้า 555 หลายคนสงสัยว่าเบิร์นแล้วช่วยได้จริงหรือ...ตอบว่าจริงครับ ในหูฟังบางตัวบางรุ่น การเบิร์นเห็นผลมาก ในบางรุ่นเบิร์นหรือไม่เบิร์น ฟังแทบไม่ออก็มี.....


หูฟังหลายตัวมักจะมีส่วนเกินทางเสี้ยนเสียง หรืออาการไปไม่สุดของปลายแหลม มีอาการด้วยทางปลายเสียง ไม่ว่าจะเป้ฯทางเสียงเบสหรือเสียงแหลม การเบิร์นมีส่วนช่วยมั่งครับ แต่ถ้าหูฟังนั้นมีสมรรถนะจำกัด เบิร์นให้เป็นลม...ก็ไม่ใช่อยู่ดี

การเบิร์ด้วยไฟล์เบิร์นนั้น ไม่ผิดครับ แต่บางทีมันเสี่ยงเกินไปเหมือนกัน (สำหรับผมนะ) เพราะในศาสตร์การเล่นเครื่องเสียงนั้น เรามักจะถือว่า สัญญาณลักษณะนี้มันเป้นสัญญาณที่มีความเพี้ยนสูง และการที่เราป้อนความเพี้ยนเข้าในอุปกรณ์ที่ใช้อู่ มีโอกาสจะทำให้มันเสียหายได้

อย่างเช่นการเร่งแอมป์ที่กำลังต่ำๆ กับลำโพงดีๆ หรือการดังจนเกินไปนั้น มีส่วนทำให้ลวดวอยซ์คอยส์ขาดได้ครับ ผมว่าให้ยึดสายกลางไว้ก่อน คือ เบิร์นด้วยไฟล์แต่พอเหมาะครับ ไม่เน้น และต้องไม่เผลอเปิดดังด้วยจ้า......55

ไฟล์ที่เราโหลดกันตามเน็ตนั้น บางทีมันไม่ใช่ต้นแบบ และมักจะมีการตกแต่งจนเวอร์ บางทีถูกเร่ง Level ของสัญญาณมามากจนเกินไป และถ้าเราเปิดแช่ไว้นานๆ มีหวังเป็นลมเอาง่ายๆ เช่นกันครับ.....ผมถือว่า ไฟล์ที่โหลดได้นั้น บางอันก็มาตรฐาน บางอันก็ไม่มาตรฐานครับ


แต่เท่าที่อ่านจากคำบอกเล่า แสดงว่าเบิร์นเป็นและเน้นจริงๆ ซึ่งไม่น่าจะมีอะไรเสียหายครับ ผมถือว่าการเบิร์นเป้นการช่วยให้ปลายแหลมไปได้สุดทางยิ่งขึ้นครับ

เอ้าตอบเลยจ้า....

1. ไม่คิดไปเองครับ มีส่วนจริงที่ว่า เราอาจจะได้ยินเสียงที่ทอดไกลขึ้น แต่มีข้อแม้ว่า ขอให้ทดสอบด้วยไฟล์เพลงเดิมด้วยจ้า

2. แก้ไขลำบากครับ เพราะไฟล์เบิร์นนั้นมันเหมือนคล้ายเครื่องมือทะทะลวงครับ ผมเคยเบิร์นเครื่องเสียงรถตัวเอง ขนาดใช้แผ่นเบิร์นอย่างดี ผลออกมาปรากฏว่ามันกลายพันธ์ไปเลย

3. เทคนิคจริงๆ ไม่ทราบจริงๆ ครับ เพียงแต่การเบิร์นชิ้นส่วนอีเล็คโทรนิค เค้าว่ามันจะมีการจัดเรียงกระแสและทิศทางอะไรประมาณนั้นครับ ส่วนในหูฟังนั้น มันมีชิ้นส่วนที่ต้องมีการขยับ การเบิร์นที่ถูกต้องทำให้หูฟังเคลื่อนที่ไปตามความเหมาะสมที่ควรจะเป้นครับ


เอ้า เดี๋ยวผมมาคุยต่ออีกรอบสองรอบละกัน ตอนนี้รอให้คุณ peter อ่านก่อน สงสัยตรงไหน เดี๋ยวเรามาคุยกันต่อนะครับ เรื่องพวกน้ผมว่าเล่ากันไม่รุ้จบเลยครับ.........



555 เดี๋ยวมาจ้า
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 6

Peter

01/03/2008 11:54:04
นี่เป็นส่วนนึง ของ URL ที่ผมได้ File สำหรับผู้สนใจ (ลองศึกษาหาข้อมูลก่อน Burn หรือปรึกษาคุณมั่นคง)

http://www.savefile.com/projects/1042938

ดีใจครับที่ได้รู้จัก คอเพลงฟังแนวใกล้ๆกัน คุณมั่นคงคงจะชอบ Deep Purple แนะนำมาอย่างนี้ ก็ต้องขอบอกครับจัด “April” ไปละกันครับ Jon Lord (เล่น ออแกน Roland ทำให้นึกถึงซาว แบบ The Door) ส่วน Ritchie Blackmore (เป็นมือกีต้าร์ในแบบฉบับในตำนาน ทั้งการออเรนจ์เพลงและสัดส่วน ผมว่าไม่จำเป็นจะต้องโชว์ รีฟเทพอะไรมากมาย โชว์กึ่นครับ) เพลงนี้เป็น Orchestra แบบประสมประสานครับ แหม่ถ้าได้น้ำขิงร้อนๆ ปาท่องโก๋ซักชิ้น บวกไปกับ Grado sr60(เน้นหูฟังที่พอจะรู้สึกตามกันได้) “Ritchie โซโลสุดซอยย”

ส่วน Uriah Heep เท่าที่นึกออกน่าจะเพลง “Sweet Lorraine” สมาชิกวงตอนนั้น Mick Box (guitar), Ken Hensley (keyboards, organ, synthisizer, guitar, and main somgwriter), David Byron (lead vocals), Gary Thain (bass guitar), แล้วก็มือกลองที่ออกไปตีให้ Ozzy คือ Lee Kerslake (drums) ส่วนเรื่องฝีมือนั้นถือว่าเป็นตำนาน Hard Rock เลยครับ จะมีปัญหาก็เรื่องการเปลี่ยนสมาชิกของวงละครับ ทั้งสองวงนี้ก็เปลี่ยนกับบ่อยเหลือเกิน แต่ก็ได้สร้างสรรผลงานที่ดีตลอดมา แหม่ขณะฟัง Uriah Heep ได้บัวลอยไข่หวานซักถ้วย ซดร้อนๆ กับ Ksc35(เน้นหูฟังที่พอจะรู้สึกตามกันได้) รีฟกีต้าร์วิ่งถึงสมองเลยครับพี่ท่าน เงี๊ยววววว ๆ เงี๊ยา ๆ เงี๊ยววววว ๆ เงี๊ยา ๆ โอ้ย!โดน!

แนะนำบ้างครับ เติมให้อีก The Who – Tommy , Led Zeppelin , Jeff Beck แหม่เพลงพวกนี่มันเข้ากับผมจริงๆ (น่าจะได้มีโอกาศ ในการเปิดช่องทางในการแลกเปลี่ยนเพลงกันบ้างครับ แต่ว่ามันจะผิดกฎหมายมั่ยเนี้ยย)
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 7

Peter

01/03/2008 16:01:25
*Grand Funk Railroad*

http://rapidshare.com/files/26440807/Grand_Funk_Railroad-Greatest_Hits_part_1.rar.html

please wait 90 minutes before downloading the second link

http://rapidshare.com/files/26442548/Grand_Funk_Railroad-Greatest_Hits_part_2.rar.html

(จัดให้แบบนี้จะผิดไหมเนี้ย สนับสนุนของแท้ดีกว่านะครับเสียงดีกว่านี้แน่นอน)
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 8

นายมั่นคง

01/03/2008 23:47:38



5555

เอ้า ยุคนั้นเป้นยุคเฟื่องฟูของ hard rock จริงๆ ครับ ผมเองโตมากับยุคนั้นจริงๆๆๆๆ เช่นกัน

ตั้งแต่ยุค ช อ้น ณ บางช้าง แหลม มอริสัน ยุคจีไอครองเมือง วง V I P รวมถึง ดีเจ วิฑูรย์ วธัญญู และภรรยา สุทธิดาพร (ถ้าผมจำผิด ขออภัยด้วยครับ)

สมัยก่อน ผู้ที่บุกเบิกก็คือคุณ วิฑูรย์ ซึ่งแกลิขิต สโลแกนสั้นๆ ให้พวกเราชาวร็อคได้ท่องจำใส่สมองกันดังนี้


Uriah Heep ผู้ฮึกเฮิม
Deep Purple ผู้ว่องไวดุจสายฟ้าแลบ
Black Sabbath ผู้หนักแน่นดั่งภูผาถล่มทลาย
Scorpion แมงป่องผยองเดช
Led Zeppelin เรือเหาะล่องเวหา
Queen ราชันย์ในนามของราชินี


555 ใครจำได้มากกว่านี้มาเล่าซะดีๆๆๆ 555

ยุคนั้น หนังสือท่องไม่เคยได้ แต่ถ้าพวกนี้ล่ะได้หมด.......


โว้ยยยยย แก่แล้ววุ๊ยยยยยย 555 (ชอบเล่าความหลัง)
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 9

หำน้อย

02/03/2008 10:11:00
ยุคนั้นเป็นยุคของพ่อผมครับ นั่นก็แสดงว่าเฮียมั่น &dquot;รุ่นพ่อ&dquot; แล้วค้าบบบ
555 ร้อเร่นนนค้าบบเฮีย อิอิ:192:
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 10

เข้ามามั่ว

02/03/2008 11:06:32
กินของขม ชอบชมสาว เล่าความหลัง รู้สึกว่าเฮียมั่นฯจะครบแล้วนา อิ อิ
แล้ววง Mountain เจ้าของเพลงฮิต Mississippi Queen ที่นักร้องฝาแฝดชอบใส่กางเกงขาสั้นๆเอามาร้องกันสนั่นเมืองในยุคนั้น มีสโลแกนว่าอย่างไรครับ
อีกวงนึง SteppenWolf ที่ได้ฟังเพลง Born to be Wild ทีไรอยากจะเอาแมงกาไซด์ไปวิ่งสวนรถสิบล้อทุกที มันมากกกกกกก 555
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 11

นายมั่นคง

02/03/2008 20:09:12



จำไม่ได้แฮะ The mOuntain กับ วง Rainbow ผมจำไม่ได้แฮะ 555

5555

ยุคนั้นใครเป็นวัยรุ่นเพิ่งเริ่มโต ต้องยอมรับว่ามันสนุกจริงๆๆๆ ครับ

ดนตรีมักจะเล่นตอน 6 โมงเช้า เล่น 2 ชั่วโมง แล้วดูหนังรอบปฐมทัศน์ต่อเลย.....
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 12

Peter

06/03/2008 13:46:26
ผมเป็นคนต่างจังหวัด จุดกำเนิดของการได้ยินดนตรีร็อคแลนโล ก็ต้องติดสอยห้อยตามคุณพ่อไปตามสถานที่ต่างๆ ตามลานโบลิ้งบ้าง ตามโต๊ะสนุ๊กเกอร์บ้าง ตามสโมสรบ้าง (สมัยก่อนนั้นช่วงร็อคแลนโล เพลงบลู เพลงคันทรี่ และดิสโก้ ฮิตมาก) นึกย้อนไปตอนนั้นทำให้นึกถึงเพลงของ Stevie Ray Vaughan “Texas Flood” ผมว่าถ่วงทำนอง Blue และการประสมประสานกับบรรยกาศสถานที่ผมว่าเข้ากันดีนะ (บวกกับมันฝรั่ง ที่คุณพ่อซื้อให้ทานห่อละ 2 บาท)

ร็อคแลนโล ในยุคนั้นเท่าที่จำได้ ก็จะมี แนวเพลงBlue, แนวเพลง Rock ‘n Roll, แนวเพลงDisco เป็นหลักเลยดูเหมือนว่าจะเป็นช่วงปลายๆของ Rock ‘n Roll แล้วด้วยเพราะหลังจากนั้น Disco เข้ามาฮิตมาก จนถึงยุคเด็กลานสเก็ต4ล้อ (ผมยังเคยไปกระโดดโล้ดเต้นอยู่แถวๆนั้นอยู่)

ทุกวันนี้สิ่งระลึกไม่ใช่มีเพียงแค่ ตำนานเพลงกับหูฟังดีๆ แต่ก็มีความทรงจำอันหลากหลายที่คละเคล้าอยู่ในนั้น
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 13

ทอง

06/03/2008 19:07:24
กระทู้กลายพันธ์สะแหล่ว.....ขอโปรโมตเวปเพลง rock จัดโดย พายุหินกูรู อารี แท่นคำ.....www.rockonlinebysingha.com ไม่ผิดหวังแน่นอนคราบ rock ทุกยุคทุกแนวเลยครับ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 14

นายมั่นคง

06/03/2008 21:33:11



555 กลายพันธุ์นิดหน่อยนะครับ 5555


เป็นความหลังจริงๆ ครับ ไอ้เรื่องการฟังเพลงนี่ล่ะ ยิ่งถ้าเราได้เคยเข้าไปร่วมในบรรยากาศนั้นๆ ยิ่งสนุกครับ


จำได้ว่า สมัยแกรนด์เอ๊กซ์และแมคอินทอชดัง ผมต้องไปดิ้นถึงตี 2-3 ทุกคืนวันเสาร์ ใส่เสื้อผ้าแมมเบริ์ท ใส่กางเกงพองๆผ้าลินิน ใส่รองหนังสีดำ โชว์ถุงเท้าขาว....


ยุคนี้คือยุคทองของสตริงคอมโบ้ หลังจากผ่านพ้นยุคของ Heavy Metal ผมก็เปลี่ยนแนวมาเป็นดิสโก้ตามเค้าเหมือนกัน แฮ่ม.........
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 15

SummerSun

06/03/2008 22:28:15



คห 5

&dquot; ผมฟังแล้วก็งงๆ ว่านี่มันเบริ์นสาย หรือว่าปลุกนกเขา ???? &dquot;

:133: :133: :133:
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 16

yugi99hitsCOMBO

07/03/2008 00:13:04
แล้วตกลง ksc35 เบิร์นเสร็จ ปลายเสียงแหลมจะมีเสียง ซีดๆๆๆ แบบนี้มันจะดีหรอครับนี่

แล้วถามอีกคำถามครับ ระหว่าง ksc35 กับ PK2 อันไหนดีกว่าครับ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 17

hamy

07/03/2008 02:28:47
ชอบเหมือนผมเลยแฮะ คุณพี่ ปีเตอร์
แนวเดียวกัน เห่อๆ
แต่uriah heepผมชอบ เพลง july morning แหะ เสียงกีต้ามันเข้าเส้นดี

แต่ที่เข้าเส้นอีกอันนี่ผมยกให้ iron man เลยครับ solo ช่วงกลางที่มันเร่งจังหวะนี่
มันฟังแล้วของขึ้นจริงๆเลย แต่ต้องเป็นเวอร์ชั่นพี่อ็อด ร้องนะ เอิ้ก~ก

อีกเพลงก็ mr.clowley ใหม่ขึ้นมาหน่อย แต่เสียงพี่อ็อดก็ยังเข้าเส้นอยู๋ดี

ปล.ผมพึ่ง20เองครับ แต่ได้รับอิทธิพลมาจากพ่อมา เอิ้ก~ก
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 18

เบียส

07/03/2008 13:30:56



555 เหมือนกัน ครับ พ่อ ผมก้ ชอบเปิดเพลงพวกนี้ เป็น ประ จำ วง CCR วง The Eagle
เพลงที่ได้ยินบ่อย บ่อย ตอน เด็ก เด็ก เนี่ย มันต้องนี่เลย ครับ One way ticket

เพลงนี้อย่างมันส์ เลย ครับ 555 พ่อ เปิดเพลงเมื่อไหร่ เบียส ดิ้น เมื่อนั้น 555 อีกเพลงที่ยังจำ ติดหู มาถึงทุกวันนี้ ไม่รู้ ชื่อ เพลง แต่ ท่อนฮุค มันร้องว่า &dquot;I just call u say

i love u &dquot; เพลงนี้ ก็ ไพเราะ ดีเหมือน กัน มันเป็น ความทรงจำ ที่แสนดี ครับ เมื่อเราได้นั่ง ฟังเพลง กับ พ่อ ของ เรา ซึ่ง ตอนนั้น ก็ ไม่อยากฟังเท่าไหร่ ครับ เพราะ พ่อ ผม

เล่นเปิดทั้ง วัน ตั้งแต่เช้า ยันดึก จนผมร้องได้เลยล่ะ 5555 แต่ตอนนี้ ยังอยากมี บรรยากาศ แบบนั้นอีก จัง อิ อิ อิ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
"ผลกระทบเรื่องการ Burn หูฟัง"