.

.

.

.

.

.

.

.

.

.

.

ส่วน AUDIO-GD ROC กับ NFB10SE จะลงรูปให้ดูอีกทีครับ แต่สภาพดีมากครับ

เพิ่มเติม สายหูฟัง HD800 APURESOUND V3 ยาวประมาณ 8 ฟุต ราคา 6,500 บาทครับ

.

.

โอ้ววว ของเทพ T___T อยากได้ แต่คงต้องรอไปก่อน

เสียดายจังครับคุณอ้วน ไม่มีรีโมท ต้องขอบคุณมากนะครับ ^ ^

ช่วยดันก่อนครับ

ซี้ดดด HD800 ถูกมวากก มาก

ขอผ่อน HD800 2400บาท 10เดือน อิอิ

สนใจ NFB10SE ครับ ส่งรายละเอียดสอบถามทางเมลแล้วนะครับ

ส่งเมลไปใหม่แล้วนะครับ

เ่ดี๋ยวผมขอ DARKVOICE ก่อนนะครับอาจมาดึง HD800

ตอนนี้ด้วยดันก่อนนะครับ

ยินดีครับคุณเปิ้ล และขอบคุณทุกท่านที่ช่วยดันครับ
ืNFB10SE กับ AUDIO-GD ROC ขายแล้วครับ

รูปเพิ่มครับ

.

.

.

.

ขออนุญาตคุณหลุยส์ครับ

*หลายๆท่านอาจจะคุ้นตากับแบรนด์ Sennheiser กันเป็นอย่างดีเนื่องจากว่ามีหูฟังที่หลากหลายรุ่นและครอบคลุมทุกช่วงราคาก็ว่าได้ ไล่ตั้งแต่หลักร้อย จนไปถึงหลักหมื่น ไม่ว่าจะเป็นหูฟังแบบไหน ช่วงราคาไหนก็จะมี Sennheiser เข้ามาเป็นหนึ่งในตัวเลือกเสมอๆ แต่ถ้าหากถามถึงรุ่นที่ดีที่สุดของ Sennheiser ปัจจุบันนี้แล้วล่ะก็ ก็ต้องเป็นรุ่นนี้เลยครับ

Sennheiser HD800 เป็นรุ่นที่พัฒนาต่อยอดมาจากรุ่น HD650 อันเลื่องชื่อ โดยทิ้งระยะการออก product เพื่อวิจัยและพัฒนาต่อจากรุ่น HD650 หลายปีทีเดียว เพื่อให้แน่ใจว่าเป็นหูฟังที่ให้เสียงที่สมจริงและฟังดูเป็นธรรมชาติที่สุด และยังให้ความรู้สึกสบายหูเวลาสวมใส่อีกด้วย โดยที่ลักษณะภายนอกของหูฟัง นั้นค่อนข้างโดดเด่นด้วยดีไซน์ ที่ล้ำสมัยและใช้วัสดุคุณภาพสูงในการผลิตทั้งหมด ไล่ตั้งแต่สายหูฟังขนาดใหญ่มีความยืดหยุ่นและทนทานสูง ไล่มาจนถึงตรงขั้วสายหูฟังที่สามารถถอดเปลี่ยนใด้เผื่ออัพเกรดสายในอนาคต ตัวบอดี้ด้านนอกของหูฟังทำจากสแตนเลสสตีลมีความแข็งแรงสูงสวยงามประณีตและน้ำหนักเบา

แพ็ดหูฟังเป็นแบบกำมะหยี่เนื้อละเอียดให้ความรู้สึกนุ่มสบายหูโดยที่ ตัวDRIVERลำโพงของหูฟังมีขนาดใหญ่ทำให้สามารถใส่ครอบทั้งใบหูได้สบายๆทำให้ไม่รู้สึกปวดที่ใบหูเวลาฟังนานๆ และตรงเฮดแบนด์สามารถปรับระดับได้ละเอียดทำให้สามารถเข้ากับศีรษะของผู้ใช้ได้ทุกขนาด และไม่รู้สึกกดทับเวลาสวมใส่นานๆ โดยที่น้ำเสียงของหูฟังรุ่นนี้ค่อนข้างละเมียดละไมฟังดูเป็นธรรมชาติ และไม่ปรุงแต่งเสียงมากนัก โดยที่จุดเด่นของหูฟังตัวนี้ก็คือ ให้ซาวด์สเตจที่ถือว่าโอ่อ่ากว้างขวางมากๆ ทำให้มีช่องว่างระหว่างชิ้นของเครื่องดนตรีมากพอที่จะสามารถแจกแจงรายละเอียดต่างๆได้อย่างครบถ้วน ให้รายละเอียดเสียงต่างๆของแต่ละชิ้นดนตรีค่อนข้างสูง

สามารถรับรู้ถึงพวกปลายเสียง และแรงสั่นสะเทือนเล็กๆน้อยๆได้เป็นอย่างดี เสมือนมาเล่นจริงอยู่ไกล้ๆทีเดียวครับ โดยที่เสียงร้องค่อนข้างอิ่มละเมียดละไม ฟังดูไหลลื่นเป็นธรรมชาติ และมีฮาร์โมนิกชัดเจน เป็นเสียงร้องที่ถอยหลังนิดๆ กำลังดี ไม่รู้สึกรุกเร้าจนเกินไปทำให้ฟังแล้วไม่รู้สึกล้าหูง่ายๆ ส่วนพวกเสียงทุ้มให้มวลเสียงที่ค่อนข้างอิ่มนุ่มนวล และมีอิมเมจที่ชัดเจน แต่จะค่อนข้างกระชับมาเร็วไปเร็ว และมีความต่อเนื่องสูง ทำให้ไม่รู้สึกว่าเบสมันเยอะจนล้นซักนิดเลย โดยรวมแล้วเป็นหูฟังที่ให้โทนัลบาลานซ์ดีเยี่ยม คุมโทนเสียงต่างๆได้อย่างสมดุลและตอบสนองย่านเสียงตั้งแต่ 6 - 51000 Hzเลยทีเดียว

สามารถนำไปใช้ฟังเพลงได้ครอบคลุมหลายประเภท โดยที่จะไปได้ดีกับพวก Classic Orchestra Jazz Vocal Acoustic โดยที่เป็นหนึ่งในหูฟังไม่กี่ตัวที่สามารถรับมือกับเพลงบรรเลง Orchestraวงใหญ่ๆ ได้อย่างลงตัวและไม่มีปัญหาเลยซักนิด ซึ่งโดยปกติแล้วหูฟัง Sennheiser HD800 นั้นมีค่าความต้านทานสูงถึง 300โอห์ม จึงจำเป็นต้องต่อเล่นกับแอมป์หูฟังแบบตั้งโต๊ะที่มีคุณภาพและแรงขับค่อนข้างสูง เพื่อที่หูฟังจะได้แสดงประสิทธิภาพเสียงออกมาได้อย่างเต็มที่ โดยที่ตัวหูฟังเองนั้น จะมีบุคลิกเสียงติดมาจากแอมป์หูฟังที่ต่ออยู่พอสมควร ซึ่งสามารถเลือกใช้ได้ทั้งฝั่ง แอมป์หูฟังแบบ โซลิดสเตท หรือจะเป็นแบบหลอด ก็สามารถใช้ได้ดีทั้งสองแบบ ขึ้นอยู่กับความชอบส่วนตัวของแต่ละบุคคลอีกทีครับ

และข้อสำคัญที่สุดก็คือ Sennheiser HD800 เป็นหูฟังที่ต้องใช้ระยะเวลาในการเบิร์นที่ค่อนข้างยาวนานมาก จึงต้องใช้ความอดทนในการรอคอยการพัฒนาการของเสียงอยู่นานหลายเดือน แต่ผลลัพธ์ที่ได้กลับมาหลังจากเบิร์นครบ 500 ชั่วโมงแล้วนั้น ถือว่าคุ้มค่ากับการรอคอยจริงๆครับ

แนะนำโดย ...
ประกาศิต กันทะมา (หลุยส์)

ขออนุญาตคุณ Square ครับ

รอนานมากเลยกว่าEPSจาเอาเข้ามา เหอ เหอ เหอ แต่ในที่สุดก็ได้มาละ
ต้องขอบคุณเฮียจริงๆครับ ไปหาซื้อเองไม่ได้อย่างงี้หรอก

ผมใช้HD650มาก่อน พอมาลองHD800 มัน...มัน....
ต้องจินตนาการภาพตอนจบของFF8ตอนที่Squallเดินดุ่มๆอยู่คนเดียวหาทางกลับไม่ได้ อันนั้นคือ650 มันกว้าง แต่ก็ดูมืดไปหน่อย accentuateที่bassด้วย ฟังแล้วรู้สึกlaid back + บวมๆ

พอมาฟัง800 รู้สึกเหมือนตอนRinoaซบไปที่Squall ท้องฟ้าสดใดเปิดออกมาขยายตัวจากCenterไปPeriphery โปรดโปร่งโล่งสบาย (แม้วันมามาก55555+) รู้สึกได้เลยว่ามันNeutralมาก ใสด้วยแต่ไม่บาดหู(clarity, detailดีมาก ถ้าใช้คำเดิมๆก็คือ "ได้ยินสิ่งที่ไม่เคยได้ยินมาก่อนจากหูฟังอันเก่า")
Soundstageกว้างขึ้นอีกจม และผมว่ามันฟังเหมือนลำโพงเลยละ ปิดตาแล้วจินตนาการดีหน่อยๆ จะเห็นวงOrchestraได้เลย ถ้าไม่รู้สึกถึงน้ำหนักหูฟังที่ตั้งบนหัว ก็คงนึกว่าเป็นลำโพงไปละ
ตัวdriverนิ่งมากเวลาเจอbass(650รู้สึกมันสั่นๆชอบกล) bassหนัก กระทัดรัด ไม่color ดังนั้นบางคนที่ชอบcolorมากๆ อาจชอบไปทาง PS1000มากกว่า(มั้ง ยังไม่เคยฟังPS1000เลย 555+)

รำคาญนิดๆๆๆๆๆ ตรงที่พอมันไม่ได้clamp forceแบบ600 650 น้ำหนักเลยจะวางบนหัวแทน รู้สึกแปลกๆ(เหมือ595ตัวเก่านู้น)

สรุปแล้ว ผมว่าคุ้มค่าทุกบาททุกสตางค์ ท่านใดยังลังเลอยู่ ไปลองกะเฮียได้เลย รู้สึกเฮียเอามาติดร้านไว้ด้วย
ขอบคุณเฮียสำหรับอีกครั้งครับ

ขออนุญาต Jet Live Audio ครับ

HD800 กับ AKG K702 นี่เป็นหูฟังทั้งสองตัวที่ขึ้นชื่อว่า ให้เสียงที่มีความเป็นธรรมชาติ หรือเสียง flat แต่ที่ต่างกันก็คือ HD800 มี soundstage ที่กว้างและลึกกว่า มีรายละเอียดชิ้นดนตรีดีกว่า โฟกัสและการแยกชิ้นดนตรีดีกว่าครับ ซึ่งก็ต่างตามราคาของมันแหละครับ ที่ร้านมีให้ลองฟังทั้งสองตัวเลยครับ ว่างๆเข้ามาลองดูได้ครับ

บริษัท อีพีเอส ไอทีพลัส จำกัด นำเสนอเฮดโฟนรุ่นใหม่ล่าสุดอย่าง Sennheiser HD 800, Sennheiser ได้เข้าใกล้เป้าหมายนี้มากกว่าทุกครั้งเท่าที่เคยมีการสร้างสรรค์เฮดโฟนขึ้นมา ไม่ว่าจากผู้ผลิตรายใดก็ตาม เฮดโฟนระดับเรือธงจากผู้เชี่ยวชาญเรื่องเสียงรุ่นใหม่นี้ ประกิบด้วยตัวขับเสียง (transducer) แบบใหม่ทั้งหมด และรวมถึงการออกแบบ ear cup ด้วยนวัตกรรมใหม่ล่าสุดเช่นกัน



องค์ประกอบสำคัญของเฮดโฟนรุ่นนี้ คือ ตัวขับเสียงที่มีขนาด 56 ม.ม. ซึ่งปัจจุบันถือว่าเป็นตัวขับเสียงที่ขนาดใหญ่ที่สุดสุดเท่าที่มีการนำมาใช้ในเฮดโฟนแบบไดนามิค พร้อม ๆ กับการสร้างสรรค์เฮดโฟนรุ่นใหม่นี้ Sennheiser ยังคงดำเนินตามธรรมเนียมเดิมที่เคยมีในเฮดโฟนระดับตำนาน อย่าง Orpheus อีกทั้งยังได้พัฒนาเฮดโฟนระดับไฮเอ๊นด์รุ่นนี้ให้ถ่ายทอดเสียงที่มีความเที่ยงตรงสูงสุด รวมไปถึงการถ่ายทอดเสียงที่มีระยะห่างของแต่ละเสียงเหมือนกับได้ฟังเสียงที่เกิดมาจากแหล่งกำเนิดจริง



Sennheiser HD 800 สร้างสรรค์ขึ้นมาโดยมีเป้าหมายเพื่อให้บรรลุถึงความต้องการของกลุ่มออดิโอไฟล์ที่พิถีพิถันในการเลือกสรรเฮดโฟนที่สามรถถ่ายทอดเสียงได้ดีที่สุด HD 800 เป็นเฮดโฟนแบบไดนามิคประเภท open back (ด้านหลัง ear cup มีรูเล็ก ๆ เพื่อให้เสียงลอดออกมาได้) ที่ผสานนวัตกรรมทางเทคโนโลยีเข้ากับการเลือกสรรวัสดุอย่างดี รวมถึงการผลิตที่มีความประณีตดุจงานหัตถกรรม ด้วยเหตุนี้ผลลัพธ์ที่ได้จึงถึงพร้อมทั้งในด้านประสิทธิภาพ คุณภาพ และความพิถีพิถันในทุกรายละเอียดซึ่งปรากฏออกมาให้ได้ยินอย่างชัดเจน



HD 800 ตอบสนองความถี่ตั้งแต่ 6-51,000 Hz ถ่ายทอดเสียงที่มีอิมเมจคมชัด และสร้างบรรยากาศของเวทีเสียงที่น่าประทับใจ นอกจากคุณภาพเสียงที่ยอดเยี่ยมแล้ว HD 800 มีแนวคิดในการดีไซน์ที่เรียบ แต่ยังคงไว้ซึ่งความหรูหรา ด้วยส่วนผสมที่ลงตัวระหว่างการเลือกใช้สีเงิน และสีดำที่กลมกลื่นกัน “เรายอมใช้เวลาไปมากมายเพื่อให้ HD 800 ออกมาสมบูรณ์แบบ” Maurice Quarr’, ผู้จัดฝ่ายผลิตภัณฑ์ Home Audio ของ Sennheiser อธิบาย “ไม่เพียงแต่การพัฒนาทางเทคนิคที่มีความซับซ้อนเท่านั้น แต่ยังรวมถึงการคัดสรรวัสดุที่ดีที่สุด หรืออีกนับหนึ่ง-เราทุ่มเทเวลาเพื่อทำทุกอย่างให้สมบูรณ์ในทุก ๆ รายละเอียด ที่เหลือจากนั้น คุณภาพเสียงที่ยอดเยี่ยมของเฮดโฟนจะขึ้นอยู่กับการแม็ตชิ่งระหว่างอุปกรณ์ร่วมทั้งหมดที่นำมาใช้งานด้วยกัน

Sennheiser ขอนำเสนอเฮดโฟนรุ่นเรือธง HD 800 ที่สร้างสรรค์ขึ้นมาโดยมีเป้าหมายเพื่อให้บรรลุถึงความต้องการของกลุ่มออดิโอไฟล์ที่พิถีพิถันในการเลือกสรรเฮดโฟนที่สามารถถ่ายทอดเสียงได้ดีที่สุด HD 800 เป็นเฮดโฟนแบบไดนามิคประเภท open back (ด้านหลัง ear cup มีรูเล็กๆ เพื่อให้เสียงลอดออกมาได้) ที่ผสานนวัตกรรมทางเทคโนโลยีเข้ากับการเลือกสรรวัสดุอย่างดี

รวมถึงการผลิตที่มีความประณีตดุจงานหัตถกรรม ด้วยเหตุนี้ผลลัพธ์ที่ได้จึงถึงพร้อมทั้งในด้านประสิทธิภาพ คุณภาพ และความพิถีพิถันในทุกรายละเอียด ซึ่งปรากฏออกมาให้ได้ยินอย่างชัดเจน
HD 800 ตอบสนองความถี่ตั้ง 6-51,000 Hz ถ่ายทอดเสียงที่มีอิมเมจคมชัด และสร้างบรรยากาศของเวทีเสียงที่น่าประทับใจ นอกจากคุณภาพเสียงที่ยอดเยี่ยมแล้ว HD 800 มีแนวคิดในการดีไซน์ที่เรียบ แต่ยังคงไว้ซึ่งความหรูหรา ด้วยส่วนผสมที่ลงตัวระหว่างการเลือกใช้สีเงินและสีดำที่กลมกลืนกัน “เรายอมใช้เวลาไปมากมายเพื่อให้ HD 800 ออกมาสมบูรณ์แบบ” Maurice Quarr’, ผู้จัดการฝ่ายผลิตภัณฑ์ Home Audio ของ Sennheiser อธิบาย, “ไม่เพียงแต่การพัฒนาทางเทคนิคที่มีความซับซ้อนเท่านั้น แต่ยังรวมถึงการคัดสรรวัสดุที่ดีที่สุด หรืออีกนัยหนึ่ง – เราทุ่มเทเวลาเพื่อทำทุกอย่างให้สมบูรณ์ในทุกๆ รายละเอียด ที่เหลือจากนั้น คุณภาพเสียงที่ยอดเยี่ยมของเฮดโฟนจะขึ้นอยู่กับการแม็ตชิ่งระหว่างอุปกรณ์ร่วมทั้งหมดที่นำมาใช้งานด้วยกัน”
การถ่ายทอดเสียงที่ยอดเยี่ยม และการสวมใส่ที่สบาย: การเลือกสรรวัสดุชั้นยอด และการผลิตที่ประณีต
คุณสมบัติของเสียงที่ยอดเยี่ยมของ HD 800 เกิดจากการเลือกสรรวัสดุชั้นยอดและการผลิตที่ประณีต เพื่อให้มั่นใจว่าคุณสมบัติทางเสียงของเฮดโฟนจะไม่ถูกลดทอนโดยการสั่นสะเทือนของชิ้นส่วน ดังนั้น ตัวขับเสียงจึงถูกยึดติดกับตาข่าย สเตนเลสสตีลที่ผลิตด้วยกรรมวิธีพิเศษ, ear cups ผลิตจากวัสดุสังเคราะห์คุณภาพสูงที่มีคุณสมบัติพิเศษ ซึ่งเหมาะอย่างยิ่ง เพราะจะไม่สร้างบุคลิกของเสียงให้กับเฮดโฟน ที่มากไปกว่านั้นก็คือ ไม่มีการหุ้มทับส่วนที่เป็น ear cups ทั้งหมด นั่นหมายถึงว่า ยิ่งใช้วัสดุน้อยเท่าไหร่ โอกาสที่ชิ้นส่วนจะสั่นสะเทือนก็น้อยลง และด้วยเหตุผลเดียวกัน headband ของ HD 800 จึงถูกพัฒนาขึ้นมาเป็นพิเศษเช่นกัน รูปแบบ headband ของ HD 800 มีลักษณะแยกออกเป็นหลายชั้น ประกอบด้วยโลหะ และวัสดุสังเคราะห์แบบพิเศษที่สามารถลดทอนการสั่นสะเทือนที่จะเกิดกับ headband ทั้งหมด ดังนั้น จึงไม่มีปัญหาเรื่องระดับเสียงมีอาการวูบหายไปในช่วงความถี่ต่ำ
นอกจากนั้น สายสัญญาณของเฮดโฟนก็ได้รับการพัฒนาขึ้นเป็นพิเศษเช่นเดียวกัน ตัวสายประกอบขึ้นจากเส้นทองแดง 4 เส้น ตีเกลียวเข้าด้วยกัน เป็นทองแดงชนิดปลอดอ็อกซิเจนเคลือบเงิน มีการชีลด์ป้องกันการกวนจากแม่เหล็กไฟฟ้า
แจ็คของสายสัญญาณมีขนาด 6.3 ม.ม. เป็นแจ็คคุณภาพสูงเคลือบทองเพื่อให้การเชื่อมต่อแนบสนิทที่สุด
คุณภาพเสียงที่โดดเด่นของ HD 800 มาพร้อมกับการสวมใส่ที่สบาย เพื่อเป็นการรับประกันว่า เวลาสวมเฮดโฟนจะมีความกระชับกับศีรษะ เพราะตัว ear cups ถูกยึดแขวนลอยเพียงจุดเดียวเท่านั้น และเพื่อให้เฮดโฟนมีความเสถียรในการทำงานมากที่สุด วัสดุสังเคราะห์ชนิดพิเศษที่ถูกพัฒนาขึ้นมาเพื่อใช้ในอุตสาหกรรมการบินและอวกาศ จึงถูกนำมาใช้กับ HD 800 นอกจากนั้นการออกแบบให้ ear cups มีรูปทรงแบบครอบหู เวลาสวมใช้งาน ear cups จึงไม่กดทับหู ทำให้สวมใช้งานได้สบายเป็นเวลานานหลายชั่วโมง

รอยที่ด้านล่างนี้เกิดจากอะไรครับ?

เกิดจากสีมันลอกเป็นลูกคลื่นครับ แล้วผมไปขูดลูกคลื่นนั้นออกไม่ได้เกิดจะการกระแทกใดๆครับ ( ผมว่าน่าอาจจะเกิดกับหูทุกตัวครับเพราะเกิดจากความชื้นของ PAD ที่มันติดกับขอบของหูฟังครับ )
แต่ตรงนี้น่าที่จะเอาออกมาทำสีใหม่ได้ครับ

สนใจจริงๆ ติดต่อพูดคุยต่อรองราคาได้ครับ


เป็นหนึ่งในหูฟังที่ดีที่สุดครับ ตอนนี้คุณมีโอกาสที่จะเป็นเจ้าของในราคาไม่แพง เสียงของมันอาจทำให้ลืมตำหนิภายนอกไปเลยครับ

( ราคาเปิดตัวหู HD800 ในไทย เท่ากับ 53,000 บาทครับ , ตอนนี้เมืองนอกขายอยู่ประมาณ
1,400 USD ครับ เท่ากับ ราคา 44,800 บาท )

ราคาน่าสนใจดีครับ ถ้าเป็นแต่เมื่อก่อนคงซื้อพร้อมสายไปแล้ว

แต่ตอนนี้อยากไปหุฟัง Electro มากกว่าครับ

ดันช่วยละกันครับ

ขอบคุณครับคุณ BricaXZ

สอบถามไปในเมลล์นะครับ

ตอบแล้วครับ

ตอบไปแล้วนะครับ

ช่วยดันครับ

ช่วยดันด้วยครับ

ขอบคุณครับที่ช่วยดัน ผมตอบเมลแล้วนะครับ คุณ JUNEYJA

โอนให้แล้ว ตามที่คุยกันนะครับ

ขายหมดแล้วครับ ขอบคุณเฮียสำหรับพื้นที่ครับ
EMS
ขาตั้ง EJ005769078TH
หูฟัง EJ005769081TH