ผมคิดว่าเสียงที่ได้มันคนละแนวมากกว่า ไม่ใช่ว่าอะไรดีกว่าอะไรหรอกครับ
เพราะพื้นฐานของ ciem มันน่าจะมาจาก monitor ของ live music มากกว่า
ไม่ใช่ฟังเอาบันเทิงอย่างนี้หรอกครับ แต่มันเป็นผลพลอยได้เท่านั้นเอง

เครื่องเสียงที่เล่นกันอยู่ทุกวันนี้
หลายๆ อย่างก็วัตถุประสงค์เดียวกับงาน music instrument ล่ะครับ
อย่าง amp preamp หรือ monitor ทุกอย่างล้วนสอดคล้องกัน
แม้จะคนละกรรมวิธี แต่ก็เกี่ยวเนื่องกับเสียงเช่นกัน

ยกตัวอย่างเปรียบเทียบ เช่น หูฟังที่ตอบสนองย่านความถี่ที่ไวและสเตจกว้าง
ก็อาจเทียบได้กับลักษณะการทำงานของ condensor microphone นั่นเอง
หรือ preamp หลอดของเครื่องเสียง ก็เหมือนกับ preamp หลอดของ
Head Amp ของกีตาร์หรือเบสเช่นกัน จุดประสงค์คือทำให้เสียงอุ่นขึ้นเช่นกัน

สรุปคือ... ผมคิดว่าไม่ได้มีอะไรดีกว่าอะไร ขึ้นอยู่กับความชอบและวัตถุประสงค์ครับ

ถ้าตามความเข้าใจส่วนตัว มันเอาไว้อุดหูตอนขึ้นคอนเสิร์ตได้ดีค่ะ เพราะว่าเวลาขึ้นเวที มันจะมีเสียงดังมากๆ ทั้งเสียงกลอง เสียงกีตาร์ เสียงเบส เสียงเครื่องดนตรีอื่นๆ และเสียงคนดู ซึ่งเสียงมันจะกวนกันและทำให้ไม่ได้ยินเสียงตัวเอง ผลของการไม่ได้ยินเสียง มันจะทำให้นักดนตรีพยายามเร่งโวลุ่มมากขึ้น ส่วนนักร้องนำต้องแหกปากตะเบ็งมากขึ้น ซึ่งส่วนมาก แหกปากจนคอเจ็บมันก็มักจะไม่ดังไปกว่าเสียงดนตรี (ลองไปร้านคาราโอเกะใหญ่ๆ กับเพื่อนหลายๆ คนดู จะรู้สึกว่าไม่ได้ยินเสียงและต้องงแหกปากเหมือนกัน) นำมาซึ่งอาการเจ็บคอและหูดับ

เพื่อป้องกันเสียงกวนกัน เลยต้องทำหูฟังพวกนี้ไว้กั้นเสียงค่ะ แล้วจะได้ได้ยินเสียงที่จำเป็นและเสียงของตัวเอง ถ้าพิมพ์หูไปเลยมันจะกั้นได้ดีขึ้นและไม่หลุดด้วย แต่บางคนเล่นคอนเสิร์ตแล้วอยากได้ยินเสียงคนดูด้วย (เล่นๆ ไป อาจจะถอดหูฟังทิ้งเพราะอยากฟังเสียงคนดู) เลยมีการขอเจาะรูให้เสียงเข้าเพิ่มเติมค่ะ แต่ตอนนี้ คนที่ไม่ได้ขึ้นเวทีก็ใช้กันเยอะล่ะ

มันดีกว่ากันตรงไหน ก็ตรงพอดีหูและไม่หลุดค่ะ และไม่ต้องหาองศาใส่ และอาจจะยัด Driver ได้มากขึ้น

CIEM มันดีมั๊ย ก็ดีครับ กันเสียงภายนอกได้ดีเหมาะกับขึ้นคอนเสริต
แต่เสียงมันจะออกแนว Flat นะผมว่าไม่ค่อยปรุงแต่งมาก
เบสไม่ตับๆๆๆ เหมือนไวแสงอะไรประมาณนั้น
เล่น CIEM แล้วกลับมาเล่น UIEM ผมยังไม่เคยเจอเลยนะ เห็นแต่ขาย UIEM หมดคลังแล้วไปเล่น CIEM ต่อนี่เพียบ
แต่ถ้าสนใจ CIEM ต้องยอมรับเรื่องเสียง ถ้าเบรินไปแล้วไม่ถูกใจฟังไปไม่ได้อารมณ์
ขายต่อนี่ราคาตกฮวบ ขายออกยาก =3=
แต่ก็ขึ้นอยู่กับการใช้งานแล้วก็ความชอบแหละครับ
ผมไปฟัง CIEM มาผมยังคิดแล้วคิดอีกเลย ว่าจะเอาดีมั๊ยเพราะราคามันสู๊งสูง
ถ้าซื้อมาฟังแล้วไม่ชอบก็ลำบากล่ะครับ ( แต่ผมเห็นซื้อมาแล้วก็ชอบกันทุกคนนะ : P )

หยั่งผมไปฟัง JH16 มาผมยังชอบ UM3X มากกว่าเลยครับ (ราคาต่างกันประมาณ 3-4 เท่า)
ถ้าจะให้ดีลอง UIEM ให้เยอะๆก่อนดีกว่าครับ บางตัวมันอาจจะตอบโจทย์ความต้องการของเรามากกว่า CIEM ในเรื่องของเสียง

ไม่ไก่กาหรอกครับ
ที่ขายๆกันส่วนใหญ่ผมเห็นขายเพราะเลิกเล่นเลิกฟัง
หรือขายทำทุนไปรุ่นสูงขึ้นมากกว่า

10 ปากว่าไม่เท่าตาเห็นครับ

ไปร้านที่เค้ามีเดโม่ให้ลอง แล้วตัดสินใจเอาเองเลยครับ

ความชอบไม่ชอบของแต่ละคนไม่เหมือนกัน

สิ่งที่ทำให้ผมเปลี่ยนแนวจาก iem > ciem เพราะความใส่สบาย กันเสียง รายละเอียดที่ได้จากมันครับ

สำหรับผม ciem ใส่สบายกว่าครับ ผมฟัง UE3 แล้วเจ็บหู เลยไป ciem เลย และถ้า ciem เสียก็คงจัด ciem อีก

ปล ciem ผมใช้ฟังเวลาอยู่นอกบ้าน อยู่ในบ้านใช้กับที่ทำงานใช้ earbud

-ชื่อเรื่องอาจจะดูร้อนแรงไปหน่อยนะครับ..
ไม่เป็นไรครับที่นี่ประเทศเสรี

-ตอนนี้สนใจ ciem เลยอยากรู้ว่ามันดีกว่า uiem หรือว่าเป็นเพียงแค่กระแสครับ
ดีกว่าอยู่แล้วครับ เพราะ Uiem จะใช้จุกซิลิโคนหรือจุกโฟมเพื่อใส่หู ทำให้เกิดการอะไรสักอย่าง(จำไม่ได้ 555) ที่ทำให้มันอับ แล้วตึบๆแบบเบส (แต่ก็ขึ้นอยู่กับความชอบคนนะครับ แต่ก่อนผมก็ชอบ) แล้ว ciem ก็ขึ้นอยู่กับเจ้าด้วยครับ แต่ละยี่ห้อจูนเสียงมาไม่เหมือนกันครับ

-มีท่านไหนเคยเล่น ciem แล้วขายทิ้งกลับมา uiem บ้างมั๊ยครับ
ที่เคยเห็นไม่มีนะครับ เว้นแต่จะเปนโรคเกี่ยวกับหูทำให้ใส่ ciem ไม่ได้

-แล้วที่ ciem ดีกว่า uiem ดีกว่ายังไงครับ
ทั้งหมดแหล่ะ ยกเว้นการขายต่อ 555

-อยากทราบจากคนที่มีนะครับ..
ผมใช้ JH5 ครับ ไปลองตัวเดโมที่ร้านพี่เจ๊ท บีทีเอสอโศกได้ แต่ขอบอกว่า ตัวเดโม ห่วยกว่าตัวจริงประมาณ 50%+ ครับสำหรับหูผม

ถามแบบนี้แปลว่ายังไม่ได้ไปลองที่ร้าน

ถ้าลองแล้วชอบ ผมก็ไม่สนหรอกครับว่าคนอื่นจะคิดว่ามันดีจริงเปล่า เป็นกระแสเปล่า หรืออะไรอื่นๆ
ถ้าผมจะซื้อใช้เอง ก็จะไปลองแล้วตอบตัวเองครับ ว่าชอบหรือเปล่า

เรื่องเสียงตัดสินให้ไม่ได้
แต่ที่ ciem ได้เปรียบกว่า มันอยู่ที่การใส่ ที่เข้าเป๊ะกับรูหูเจ้าของพอดีๆครับ อันนี้แน่นอน