เริ่มจากตัวแรกเลยคือ ES600i เมื่อเห็นบอดี้แล้วต้องบอกว่าคงจะคุ้นตาหลายๆคน เพราะนี่คือบอดี้แบบเดียวกับหูฟังยี่ห้อดัง Nuforce NE-7M และ Sound Magic PL-11 นั่นเอง ตัวบอดี้ผลิตจากพลาสติกเงาวับ พิมพ์ตรา awei งานประกอบเรียบร้อยดีมาก สายหูฟังเป็นสายแบนที่กำลังเป็นเทรนด์ของหูฟังในตอนนี้ สายเป็นสีแดงความยาวตามสเปค 150 ซม. ตัวสายมีความเด้งดีครับ เมื่อพันกันก็สามารถแกะออกได้ง่ายๆ มีปุ่มควบคุมการเล่นเพลงและไมค์อยู่ในตำแหน่งเดียวกันที่สายหูฟังด้านซ้าย เท่าที่ลองสามารถใช้งานได้กับ iPod Touch 4th Gen ios 4.3.3 และ iPad 2 ios 5.1.1 สามารถหยุดเพลงและเลื่อนเพลงเดินหน้า-ถอยหลังได้ ไมค์สามารถใช้อัดเสียงกับแอป voice memos ได้

อุปกรณ์เสริมที่แถมมาให้นั้น มีคลิปหนีบเสื้อ จุกหูฟังให้มา 3 คู่ สีแดง ดำ และน้ำเงิน แต่ละคู่นั้นมีขนาดเท่ากันครับ ไว้เปลี่ยนเพื่อสร้างสีสันตามความชอบใจ จุกหูฟังขนาดและทรงกำลังดี เมื่อสวมใส่จะกระชับไม่เลื่อนหลุดง่ายๆ กันเสียงได้ค่อนข้างดี และสิ่งที่แบรนด์ดังๆหลายแบรนด์ควรจะมีเป็นมาตรฐานเลย คือ กระเป๋าใส่หูฟัง มันช่วยแสดงเอกลักษณ์ของแบรนด์และเพิ่มความสะดวกแก่ผู้ใช้ไม่ต้องไปหาอะไรมาใส่หูฟังเอง ตัวกระเป๋านั้นทำได้ดีเลยครับ วัสดุเหมือนทำมาจากผ้าบุฟองน้ำ ภายในเป็นผิวนุ่มๆไม่ทำให้หูฟังเป็นรอยแน่นอน ด้านหน้านั้นมีช่องใส่จุกหูฟังหรือคลิปหนีบที่แถมมาได้ทำจากหนังเทียม ตัวกระเป๋ามีโลโก้ awei อยู่ 2 จุดคือด้านหน้าซึ่งเป็นการพิมพ์ฝังไปกับวัสดุเลย และตัวเลื่อนซิปเป็นการสลักลงไป

สำหรับเสียงที่ได้จากหูฟังตัวนี้โทนเสียงค่อนข้างแน่น สมดุล ไม่โดดเด่นในด้านใดมาก เบสแน่นแต่ลงไม่ลึกนัก เบสไม่หนักมาก แหลมไม่บาดหู เสียงสูงไปไม่สุด เสียงโดยรวมออกโทนนุ่ม เสียงร้องดูมีมวล ถ้าฟังเอาผ่อนคลายจะเหมาะมาก แต่มันขัดกับการสวมใส่ที่แน่นกระชับนี่สิ

ในรุ่น ES700i เป็นหูฟังที่ผมซื้อมาด้วยความถูกใจในสีสันเป็นหลักเลย ด้วยสายสีน้ำเงินตัดกับบอดี้สีขาวดูไม่ค่อยซ้ำใคร ตัวบอดี้นั้นเป็นทรงเดียวกับ Skullcandy FMJ และรุ่น ES900i จุดเด่นของรุ่นนี้หรือหูฟังทุกรุ่นที่ใช้บอดี้นี้เลยคือพื้นที่ใส่ไดร์เวอร์ขนาดใหญ่ ซึ่งรุ่นนี้ก็บรรจุไดร์เวอร์ขนาด 11 มม. เหมือนกับ FMJ ตัวบอดี้นั้นเป็นพลาสติกพิมพ์เงา ข้อเสียคือโลโก้ awei ที่พิมพ์ลอกง่ายมากครับ จับไม่กี่ครั้งก็เริ่มหลุดแล้ว โดยเฉพาะสกรีนชื่อรุ่นบริเวณแจ็คที่ใช้เสียบกับเครื่องเล่นนั้นไปก่อนเพื่อนเลย ผมจับแค่ 2-3 ครั้งก็หลุดลอกแล้ว ผมจึงใช้มือถูออกให้หมดซะเลย ซึ่งก็สามารถถูออกได้ง่ายๆด้วยมือเปล่านี่แหละครับ และงานประกอบไม่ค่อยเรียบร้อยเท่าไหร่ ตัวที่ผมใช้มีสีน้ำเงินเลอะที่ก้านบอดี้ด้วย ส่วนสโลแกนบริเวณจุดแยกสายนั้นยังอยู่ดีครับ น่าจะเพราะไม่ค่อยได้สัมผัสเท่าไหร่ ถ้าใครกลัวลอกก็อาจจะหาสติ๊กเกอร์ใสมาหุ้มไว้ก็ได้ครับ และรุ่นนี้มีไมค์พร้อมปุ่มควบคุมเพลงเช่นเดียวกับ ES600i

ตัวแพคเกจของรุ่นนี้ทำได้ดูดีมีราคามาก ดูดีกว่าหูฟังยี่ห้อดังๆหลายยี่ห้อมาก ทั้งการพิมพ์จุดเด่นของรุ่นไว้ที่ด้านหน้ากล่องแสดงให้เห็นว่าทางผู้ผลิตไม่ได้ทำออกมามั่วๆแบบหูฟังราคาถูกทั่วไป แต่มีจุดเด่นจุดขายของรุ่น อย่างรุ่น ES700i นี้โปรยคำว่า sound stage ไว้ที่หน้ากล่อง ตัวแพคเกจภายในเป็นพลาสติกที่หุ้มด้วยสักหลาด ดูผ่านๆดูมีราคาดีครับ แต่ถ้าจับดูจะรู้ว่ามันหุ้มไว้บางมาก จุกขนาดกลางที่ติดมากับหูฟังเป็นสีน้ำเงิน แต่จุกขนาดเล็กและใหญ่นั้นเป็นสีดำ กระเป๋าใส่หูฟังที่แถมมานั้นเป็นแบบซิปทรงแข็งหุ้มด้วยผ้าสีน้ำเงินเงา ติดโลโก้ awei พร้อมสโลแกน For all kind of music ด้านในมีตาข่ายไว้ใส่จุกยางสำรองและคลิปหนีบเสื้อ ซึ่งกล่องเก็บหูฟังที่ใช้งานง่ายๆแบบนี้ผมชอบมากกว่าของยี่ห้อดังๆซะอีกที่ต้องม้วนหลายตลบกว่าจะเก็บเสร็จ

เสียงของ ES700i เป็นอินเอียร์ที่แนวเสียงคล้ายเอียร์บัด คือเสียงจะไม่แน่นแบบ ES600i เสียงจะออกโปร่งโล่งสบาย เวทีเสียงกว้างกว่าอินเอียร์ทั่วไปหลายๆรุ่นเหมือนดังคำโปรยหน้ากล่องที่นำมาใช้โฆษณา เบสเยอะและหนักมาเป็นลูก แต่เป็นเบสสไตล์เอียร์บัดนั่นแหละครับ ถือว่าเป็นหูฟังเน้นเบสตัวหนึ่ง เสียงร้องแห้งกว่า ES600i นิดหน่อย แต่ก็มีความใสมากกว่าด้วย เสียงสูงยังติดหม่นๆแต่ไม่มากนัก การสวมใส่สบาย จุกยางไม่แน่นเท่า ES600i

สำหรับตัวสุดท้ายคือ S80vi ตัวนี้ทำให้ผมแปลกใจว่านี่คือหูฟังหลักร้อยจริงๆน่ะเหรอ ทั้งรูปทรงภายนอกและการประกอบดูแล้วเหมือนกับหูฟังราคาแพงๆมาก ตัวบอดี้นั้นมีขนาดค่อนข้างใหญ่ สีแดงตัดดำแซมสีเงิน ใช้ไดร์เวอร์ขนาด 10 มม. สายหูฟังเล่นสีตัดกันดูสวยงามและมีสไตล์ การประกอบเนี้ยบมาก วัสดุที่ทำบอดี้มีความเงาและความเรียบร้อย การผลิตดูสมบูรณ์กว่า ES700i แบบคนละขั้น แผงปุ่มควบคุมเพลงและไมค์ทำจากพลาสติกเงาวับ พร้อมด้วยปุ่มเพิ่มและลดเสียงซึ่งใช้งานได้จริง แต่ด้วยฟังค์ชั่นเต็มขนาดนี้แผงควบคุมนี้จึงมีน้ำหนักค่อนข้างมาก ทำให้รั้งตัวหูฟังไว้หน่อยๆ บวกกับบอดี้ที่มีขนาดใหญ่อยู่แล้วจากการใช้งานถ้าใส่เดินไปมาหูฟังอาจจะเลื่อนทำให้ไม่กระชับและโฟกัสเสียงเปลี่ยนแปลงได้ ต้องคอยขยับเป็นระยะ ซึ่งตรงนี้คลิปหนีบเสื้อที่แถมมาช่วยได้ครับ แต่ถ้านั่งอยู่กับที่ก็จะไม่เป็นปัญหามากนัก

กล่องภายนอกมาในสไตล์เดียวกับ ES700i มีคำโปรยหน้ากล่องว่า Metal Rock ด้านหลังเจาะช่องไว้มองเห็นตัวหูฟัง จุกหูฟังแถมมาให้แบบจัดเต็มหลายแบบ แต่จุกที่แถมมากลับใส่หูฟังไม่ได้เนื่องจากว่าขนาดของรูนั้นเล็กกว่าจุกที่ติดมา หรือถ้าใส่ได้คงต้องใช้ความพยายามมากครับ เทียบกับจุกที่ใส่มากับตัวหูฟังนั้นสามารถถอดเข้าออกได้อย่างง่ายดาย ถือเป็นมาตรฐานที่ตกหล่นในจุดนี้ ในส่วนกระเป๋าเก็บหูฟังเป็นแบบซิปทรงแข็งหุ้มสักหลาดสีดำ ซึ่งเก็บฝุ่นได้เป็นอย่างดีทำให้ดูเลอะง่ายไปหน่อย ที่น่าแปลกใจคือช่องใส่จุกยางกลับไปอยู่ด้านล่าง ซึ่งผมว่ามันดูแปลก หรือว่าจะกลับให้ช่องนี้ไปอยู่ด้านบน ก็จะทำให้ฝาด้านนอกที่มีโลโก้ awei ไปอยู่ด้านล่างแทนซึ่งมันก็ดูแปลกพอๆกัน

ด้านเสียงของรุ่นนี้ออกใสเคลียร์แต่ไม่ทิ้งเบส จังหวะที่ต้องการเบสก็มาให้มันส์กันได้ เบสมีปริมาณกำลังดี มี deep bass ให้สัมผัส และไม่ไปรบกวนเสียงย่านอื่นด้วย เมื่อฟังเพลงที่เน้นเสียงร้องทำได้ดี เสียงร้องมีความหวานใสกระจ่าง ไม่มีความหม่นปกคลุมเหมือน 2 รุ่นแรก เสียงโดยรวมค่อนข้างครบเครื่อง สามารถฟังเพลงได้หลากหลายแนว

ยังมีอีกหลายรุ่นนะครับสำหรับ awei ที่เห็นมีขายกันตามเว็บก็จะมีรุ่นอื่นๆอีก แต่ผมนำมารีวิวเฉพาะตัวที่ผมซื้อมาใช้เองแต่เพียงเท่านี้ ถือว่าเป็นแบรนด์หูฟังที่น่าสนใจในตอนนี้ ด้วยคุณภาพเสียงที่เข้าขั้น แต่ราคาถูก สามารถซื้อได้แบบไม่ต้องคิดมาก ซึ่งถ้าสามารถควบคุมมาตรฐานการผลิตให้ดีกว่านี้หรือใกล้เคียงแบรนด์ใหญ่ๆได้ อาจจะเห็นแบรนด์นี้วางขายอยู่ตามห้างชั้นนำและได้รับความนิยมได้อย่างไม่ยากเลยครับ

สวยด้วยครับ น่าลองจริงๆ ว่าแต่ยี่ห้ออ่านว่าอะไรครับ ผมอ่านเป็นว่า "เอาเว้ย"

ผมก็ไม่ชัวร์ในชื่อเหมือนกันครับ เลยพิมพ์ทับศัพท์ซะเลย น่าจะ "อาเว่ย" "อาเหว่ย" อะไรประมาณนี้มั้งครับ

คงคล้าย ๆ กับที่นักยกน้ำหนักไทยต้องตะโกน "สู้เว้ย" ถึงจะยกน้ำหนักผ่านกระมังครับ.....

เอ....แต่มาพิจารณาอีกที่ อาจอ่านได้ว่า "เอาไว" ก็ได้นาครับ....

คงต้องรอผู้เชี่ยวชาญด้านภาษาจีนมาเฉลยแล้วล่ะครับ ผมก็เดาไปมั่วๆอะครับ 555

นึกถึงไอว่าอ่ะ - -

บอกตามตรงจากประสบการณ์ที่ใช้มา

อย่าซื้อมาเลยครับ เสียดายเงินเปล่าๆ ไม่ทน สายขาดในง่ายมาก ตัว housing ก็หลุดกระจุยออกมาง่ายด้วย เหมือนหยอดกาวไว้แค่นิดเดียว โดยเฉพาะเว็บมหาเทพที่ขายแต่ของปลอมนั่น ซุยมากๆ ซุยแบบว่าอยากขายของตัวเองซะเหลือเกิน ไม่เหมือนเฮียมั่นคง ทำรีวิวออกมาได้เป็นกลางและเป็นไปอย่างถูกต้อง ไม่เวอร์ด้วยครับ

ชื่อ อาเหว่ย แปลกดี 5555^^

ตัวสุดท้ายออกแหลมๆ รายละเอียดพอมีเบสน้อย สเกลเสียงเล็กแต่คุ้มค่ากับราคา400. ล่ะคับ

สอบถามครับว่า ใช้กับ laptop ได้ไหมเพราะเคยใช้หูฟัง i-phone มาลองแล้วเสียงมันไม่ออกอ่ะครับ

คุ้มครับ มันดีจริงๆ ดีกว่าแบรนด์อื่น เยอะเลย

ลองเอา ES900i มาดูครับ ได้มาราว 3 ร้อยต้น บ่องตง เสียง เกินราคาไปมากมาย

*แก้ครับ ^^ข้างบน ES600i ครับ ไม่ใช่ ES900i แต่ ES900i ก็ลองมาครับ เสียงกลางดีมากๆ เบสมากมาย รายละเอียดเสียงน้อยไปนิด แต่เสียงดังดีมากๆครับ (signal response ดีมาก)

ป.ล. ES600i ของผมสีเงิน สายดำ housing เป็นโลหะอะครับ ไม่ใช่พลาสติก ผมว่า สีดำ ก็คงเหมือนกัน

เคยมีหนึ่งตัว ยกให้รุ่นพี่ไปใช้แล้ว เสียงพอตัว กับราคา แต่ ทนทานดี

ซื้อมาเมื่อวานจากตะวันนา ราคา400 ถ้าไม่นึกถึงแบรนด์ อันนี้สู้ได้เลยไม่มีเสียงใดโดดเด่นเกิน เบสแน่น นุ่ม
ไอพวกเน้นยี่ห้อ มาว่าไม่คุ้ม สายขาด ใช้แบบไหนกัน อยากรู้จริง เค้ามีที่เก็บให้ก้ใส่ซะ
ต่อให้คุนซื้อแพงๆมา ใช้ส่งๆเก็บส่งๆก้พังห้ะ

ซื้อมาเมื่อวานจากตะวันนา ราคา400 ถ้าไม่นึกถึงแบรนด์ อันนี้สู้ได้เลยไม่มีเสียงใดโดดเด่นเกิน เบสแน่น นุ่ม
ไอพวกเน้นยี่ห้อ มาว่าไม่คุ้ม สายขาด ใช้แบบไหนกัน อยากรู้จริง เค้ามีที่เก็บให้ก้ใส่ซะ
ต่อให้คุนซื้อแพงๆมา ใช้ส่งๆเก็บส่งๆก้พังห้ะ

วันนี้ได้มาแล้ว เพิ่งลอง ครับ es600i สำหรับผมไม่ชอบหู อิเอียร์ แต่พอได้ฟังแล้ว รู้สึกดีกว่าที่เคยไดยินของยี่ห้ออื่นๆมา คุณภาพเสียง ดีกว่าราคา มากกกกกกก ยำ้ว่า.... มากจริงๆ(ราคา340) ผมว่าคุ้มสุดๆเสียงเบสนุ่มและเเน่น เสียงกลางพอดี แหลมลอยๆมาเบาๆไม่แสบหู
สำหรับราคากับคุณภาพเสียงมันสวนทางกันจริงๆ

ซื้อมาแล้วก็ขุดกระทู้เก่าอายุหลายเดือนขึ้นมาต่อ -_- เสิร์ชเอาเพื่อตอบโดยเฉพาะหรือครับเนี่ย

เคยลองอยู่เหมือนกันนะ รุ่น ES900i ซื้อมาจากเมืองจีนตีเป็นเงินไทยก็ประมาณ 240 บาท ว่าไปมันก็ไม่กระจอกนะ แต่ tune เสียงมาแปลกๆ และเสียงเบสมันล้นไป แต่ก็สามารถแก้ได้ด้วย equalizer นับว่าเป็นหูฟังที่ดีใช้ได้เลยกับราคาถูกๆอย่างนี้