ทุกเพลงจะมีvolumeในจุดที่เพราะที่สุดนะครับ เสียงดังมากไม่เพราะหรอกคับ
เช่นเดียวกับ คนดีไม่จำเป็นต้องดัง

โดยส่วนตัวผมว่า หลายๆท่าน น่าจะเป็น

บ้างบางอารมณ์ อยากฟังดัง ก็หาเพลงที่ฟังดังๆแล้วสนุก

แต่บางอารมณ์ ฟังบางเพลงเบาๆก็รู้สึกดี !!! ความเห็นส่วนตัวเล็กน้อย ฮะ

--------------------------
ความคิดเห็นที่ 1
intawee66
19/07/2012 19:49:17





ทุกเพลงจะมีvolumeในจุดที่เพราะที่สุดนะครับ เสียงดังมากไม่เพราะหรอกคับ
เช่นเดียวกับ คนดีไม่จำเป็นต้องดัง

เสียงดัง แบบที่มีเพี้ยนสูง ไม่น่าฟัง สู้เสียงจาก เพลงที่อัดมาจากต้นแบบที่ดี
ถึงเปิดพอนุ่ม ก็จับใจแล้ว

ความคิดเห็นที่ 3
hi fi man
19/07/2012 20:17:49



เสียงดัง แบบที่มีเพี้ยนสูง ไม่น่าฟัง สู้เสียงจาก เพลงที่อัดมาจากต้นแบบที่ดี
ถึงเปิดพอนุ่ม ก็จับใจแล้ว

------------
เปิดเบาๆ หลังตา นึกตามเพลง ถ้าแบบนี้ผมทำบ่อยๆเลย ^^

ฟังแล้วขนลุก มันเป็นอารมณ์น่ะ ยิ่งเพลงนั้นถ้าเข้ากับชีวิตเราช่วงนั้น มันจะอินมากๆ
มันมีอารมณ์ในเพลง เหมือนคนตั้งใจร้องอ่ะ ประมาณนั้น

เสียงดัง = เสียงในระดับที่ได้ยิน ดังพอใจผู้ฟัง

เสียงดี = เสียงที่ผู้ฟัง ฟังแล้วพอใจในคุณภาพ

บางท่านฟังแล้ว เสียงดัง เขาชอบพอใจ ก็กลายเป็น เสียงดี ได้ครับ(สำหรับตัวเขา)

คือเสียงดีต้องดีทั้งเบาและดังครับคือเมื่อเราลดวอลุ่มของเสียงมันต้องลงหมดอย่างเท่ากัน
ไม่ได้หายไปเฉพาะเสียงเครื่องดนตรีบางชิ้น
ที่เขาบอกว่าเสียงดังแล้วดีเพราะเขาเร่งเพื่อให้มันมาครบนั่นแสดงว่าเสียงยังไม่ดีพอ

สำหรับผม ๆ ว่า เสียงดังไว้ดูภาพยนต์ เอฟเฟคให้ระทึกใจ นั่น ถึงจะเสียงดังแล้วดี ถ้าเพลง เสียงดีคือ ดนตรีที่เค้าเล่นมาให้ครบ ไม่ตีกัน ไม่กลบกัน เบสอาจจะไม่ใหญ่สะใจ แต่ต้องมี เสียงเครื่องสายก็มาตามแบบ ส่วนจะฟังดังหรือไม่ดังก็ได้ตามแนวความชอบครับ
เพลงที่ฟัง ขอพอประมาณ หูรับอรรถรส ไม่ได้ทรมานหูครับ

ต่างกันตรงนี้
Sound Level (Sound Presure Level, SPL) คือความดังที่เราได้ยิน << ถ้ากำลังต่ำ จะเสียงเบาฟังไม่ได้ยิน แปรผันกับระยะห่าง จุดกำเนิดเสียง
Sound Quality มาจาก Freqeuncy response และ Phase reponse และพวกรายละเอียด มิติเสียง และ อื่นๆ รวมกันเป็นคุณภาพเสียงที่ได้รับ ซึ่งบางค่าวัดไม่ได้ และขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคลอาจจะชอบหรือไม่ชอบแตกต่างกันไป

ดังนั้นคนบางกลุ่มมองว่าถ้าเครื่องเสียงมี SPL ต่ำไม่ดัง หมายความว่าเครื่องเสียงนั้นห่วยคุณภาพไม่ดีนั้นถูกต้องในความหมายนึงแต่ไม่ถูกทั้งหมด คือถ้ามันไม่เพียงพอกับขนาดห้อง มันก็ทำให้ได้ Sound Quality ที่แย่ครับ ลองนึกภาพเอาลำโพงคอมไป ออกงานวัด หรือ งานคอนเสริตซ์ดูครับ

สรุปคือ การเลือกเครื่องเสียงที่ดีควรจะดูที่ข้อ 2 เป็นหลักแต่ข้อ 1ก็จำเป็นต้องดูขึ้นกับประเภทการใช้งานครับ

ส่วนในบาง rep ที่กล่าวถึงว่าต้องเปิดให้เสียงดังเพื่อให้รายละเอียดเสียงออกมาครบนั้น เข้าใจไม่ถูกต้องทั้งหมด เครื่องเสียงคือเครื่องไฟฟ้าครับ ถ้าให้พลังงานน้อยไปมันก็ทำงานได้ไม่เต็มที่(เหมือนรถไม่เติมน้ำมันนั่นแหละ) ทีนี้ลำโพงแต่ละตัวใช้ไฟ ในการทำงานเต็มประสิทธิภาพไม่เท่ากัน บางอันทำงานที่ไฟมากทำให้ต้องเปิดดัง (ไอ้ตัว Volumn มันก็ไว้คุมกระแสไฟแหละครับ)
ปล.ตอนเรียนดันเรียนผ่านๆไม่ตั้งใจเท่าไหร่ ไม่นึกว่าจะได้ใช้เต็มๆ ไอ้ใจความหลักดันลืมไปหมดแล้ว TwT

คิดว่ามีประเด็นหนึ่งที่ถูกมองข้ามไป นอกจากเรื่อง SPL แล้ว
ก็ควรนำเรื่อง Total Harmonic Distortion(THD) มาพิจารณาด้วย
แต่เท่าที่ดูมายังไม่เคยเห็นว่ามีการวัด THD ของหูฟังแต่อย่างใด
จะมีก็แต่ดอกลำโพงที่มีการเทสท์ เพื่อดูHarmonics ต่างๆ ซึ่งสามารถบ่งบอกคุณภาพเสียงได้ในระดับหนึ่ง

และเรื่องTHD มีความเกี่ยวพันกับ SPL อยู่ด้วย
เมื่อระดับ SPL สูงขึ้น เสียงดังขึ้น ลำโพง หรือหูฟัง จะมีระดับ THD สูงขึ้นด้วยอย่างแน่นอน
เพราะการขยับของดอกลำโพงเพื่อสร้างเสียง มีการขยับตัวมากขึ้นนั่นเอง

ส่วนที่ว่าเสียงดีเป็นอย่างไร ก็แล้วแต่รสนิยมครับ ชอบอย่างไร อย่างนั้นก็ว่าดี

ค่า THD เขียนตกไปครับมันก้ำกึ่งระหว่าง SQ กับ SPL เพราะ Gain เพิ่ม THD สูง SPL สูง SQ ลด

เวปนี้ครับมีการวัดค่า THD ด้วย
http://www.innerfidelity.com/headphone-data-sheet-downloads

แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น มันมีบางค่าที่ไม่สามารถวัดได้ แต่มีผลอย่างมากในเพลงครับ
สังเกตุ LCD2 Rev2 กับ LCD 3 เรียกว่าแทบจะอุดมคติเลยครับ
แต่มันมีบางอย่างที่ต่างกันระหว่าง LCD2 Rev2 กับ LCD 3 อยู่
และมีการวัดผลแบบอื่นอีกที่แสดงค่าความแตกต่างระหว่างสองตัวนี้ได้

ขอบคุณ Onewings มากๆ อยากดูข้อมูลเทสท์แบบนี้มานานแล้ว
ไม่รู้ว่าลืมดูเว็บนี้ไปได้ไง เคยแต่ดูคุณTyll แกรีวิวใน Youtube

สิ่งที่ทำให้ต้องแปลกใจคือ ระดับความดังที่มากขึ้นไม่สัมพันธ์กับระดับ THD เสมอไป
นั่นหมายถึงว่า เมื่อเราเปิดเพลงดังมากขึ้น THD อาจจะเพิ่มขึ้นก็ได้ หรืออาจจะลดลงก็ได้

LCD3 SN 2312260 มีความแตกต่างระหว่างซ้าย-ขวา เยอะมาก บางทีซื้อของแบบนี้ก็ต้องวัดดวงเหมือนกัน LCD2 Rev2 ดูดีมากๆเลย น่าจะเป็นหูฟังที่มี Square wave สวยที่สุด ดูดีกว่า HD800 ด้วย

ทีนี้ผมสงสัยอีกเรื่องนึง อย่างHD800 เสียงกลางก็ยังออกแนวดาร์ค แต่ดูเหมือนจะไม่มีกราฟชุดไหนที่จะบอกได้เลยว่า โทนเสียงจะอออกมาไบรท์หรือดาร์ค
ถ้ามี HD ที่แบ่ง 2nd 3rd 4th 5th ก็อาจจะบอกอะไรได้มากขึ้นน่ะ

นิยามของผม ไม่เกี่ยวกับหลักการทางวิทยาศาสตร์ใด ๆ ทั้งสิ้น

เสียงเบา = ไม่ค่อยได้ยิน
เสียงดัง = หนวกหู

เสียงดี = ถูกใจ
เสียงไม่ดี = ไม่ถูกใจ

การฟังเพลงของผม จึงขอ เสียงที่ถูกใจ และ ดังกำลังดี ครับ
อารมณ์ บางอารมณ์ ก็ฟังเบากว่าปรกติ บางอารมณ์ก็ฟังดังกว่าปรกติจึงจะมีความสุขครับ

โอ้ โห ความคิดเห็นและ ข้อเปรียบเทียบ ของแต่ละท่าน

" สุโค่ย อิเต๊ะ "มากมาย

เสียงดัง = AJ พระเอกตัวจริง
เสียงดี = แล้วแต่คนครับ
555555

เรียนคุณ boo
เรื่องโทนเสียง น่าจะต้องดูจากกราฟตัวอื่นครับ ยังไม่แน่ใจเท่าไหร่แต่ตัวกราฟแบบ Water Fall น่าจะแสดงใฟ้เห็นชัดเจนกว่า
เช่น
http://www.head-fi.org/t/580283/lcd3-measurements

ปล.ความรู้ผมยังน้อยครับคงต้องอาศัยเวลาเก็บสะสมไปเรื่อยๆ
ปล2.ไอ้ที่เคยเรียนจาก อาจารย์มาตอนเรียนดันฟังผ่านๆ ความรู้หายไปเยอะเลย(ราวๆ 70-80%)

ถ้ามองดีๆ สองคำนี้ไม่เกี่ยวกันเลย อย่างที่พี่ota_hayย์ คห.13 บอกครับย์

เสียงดังไม่จำเป็นต้องดี
เสียงดีก็ไม่จำเป็นต้องดัง

เสียงดังฟังได้ไม่ต้องใช้อุปทาน
เสียงดียิ่งไม่จำเป็นต้องพึ่งอุปทานครับย์

เสียงดีของโกคูย์ อาจจะไม่ดีสำหรับฟรีเซอร์ย์
แต่ทั้งคู่อาจจะชอบเสียงดังเหมือนกันย์

อยู่ที่ความพึงพอใจ ของแต่ละคนครับย์

เรื่องความพึงพอใจ บางทีก็ไม่ต้องพึ่งวิชาการก็ได้

เนาะย์
จุ๊บย์ๆ

ความคิดเห็นที่ 17
jomjomjom
21/07/2012 14:37:49





ถ้ามองดีๆ สองคำนี้ไม่เกี่ยวกันเลย อย่างที่พี่ota_hayย์ คห.13 บอกครับย์

เสียงดังไม่จำเป็นต้องดี
เสียงดีก็ไม่จำเป็นต้องดัง

เสียงดังฟังได้ไม่ต้องใช้อุปทาน
เสียงดียิ่งไม่จำเป็นต้องพึ่งอุปทานครับย์

เสียงดีของโกคูย์ อาจจะไม่ดีสำหรับฟรีเซอร์ย์
แต่ทั้งคู่อาจจะชอบเสียงดังเหมือนกันย์

อยู่ที่ความพึงพอใจ ของแต่ละคนครับย์

เรื่องความพึงพอใจ บางทีก็ไม่ต้องพึ่งวิชาการก็ได้

เนาะย์
จุ๊บย์ๆ


-------

ต้องพึ่ง คุณย์ สัยย์ มั้ยครับพี่จอมย์ ^^

นิยามความหมายนั้นไซล์ ช่างต่างกันราวกับกางเกงใน ซักเครื่องซักผ้า

เกี่ยวมั้ยเนี้ยยยย

เสียงดังตามที่เคยสัมผัสจากกลุ่มเพื่อนและคนเล่นทั่วไป "เอาเสียงดังๆน่ะ" "ดังไว้ก่อน"
เพื่อนผมและคนรู้จักชอบกันดีนักครับ แต่ส่วนใหญ่ที่เคยได้ยินจากประสบการณ์
มันเปิดเสียงดัง เบสออกเท่าขี้ตาแมว แห้งๆ แสบหู ส่วนใหญ่ก็ประมาณนี้ แต่ถ้าเปิดเบา อ้าวเสียงออกไม่ครบ เปิดดังเสียงผสมบนเบกันไปเรื่อย
แต่นิยามเสียงดังของผมคือ ดังแบบเพราะๆ เปิดเบารายละเอียดต้องครบ เปิดดังไม่บาดหู
แต่ระยะการฟังก็ต่างกันออกไป

อ่า ของผมนี่... ใช้ JH 16 คู่ กับ I4S อะครับ
ถ้าเปิดไม่เกือบครึ่ง เสียงต่ำ จะไม่ค่อยมีเลย -*- ต้องเร่งเสียงขึ้นมา เสียงต่ำถึงจะมา

แต่กลางกับสูงนี่ ไม่มีปัญหาอะไร ไม่รู้ว่าเป็นเพราะใช้สาย TWag หรือเปล่า

แต่นะ มันมีสาย TWag v3 แล้วนี่สิ กิเลสเกิดอีกแล้ว T_T

คำว่า "เสียงดี" เนี่ย ส่วนบุคคลจริงๆ สามารถพลิ๊กจากหน้ามือเป็นหลังมือได้เลย ลองดูตัวอย่างเหล่านี้

- เสียงนักร้องถอยหลัง มันหมายถึง เสียงกลางบางหรือเปล่า
- เบสกระชับเก็บตัวเร็ว แถวบ้านเรียก เบสหาย
- เสียงสูงไปได้สุด บางคนหมายถึงแหลมบาด

อะไรที่เรียกว่าเสียงดี หรืออะไรคือสิ่งที่ดีที่สุดของแต่ละคน มันบอกกันได้หรือครับ เวลาคุณไปเทสคุณใช้ source เดียวกับเขาหรือเปล่า ประสาทการไ่ด้ยินแต่ละคนมันเหมือนกันหรือเปล่า และอีกอย่างถ้าคุณไปฟังรีวิวมาว่าหูฟังตัวนั้นเป็นอย่างนั้นอย่างนี้แล้วก็มานั่งจับผิด ผมคิดว่าอุปทานจากรีวิวจะตามมาทันทีครับ

เสียงมันไม่เป็นรูปธรรมครับ นิยามกันลำบาก ต้องอาศัยการฟังเพลงหลายๆแนว เยอะๆ ให้มันตกผลึกก่อน แล้วท่านก็จะตอบตัวเองได้ว่าอะไรคือคำว่า "เสียงดี" แล้วก็อย่าลืมด้วยว่าเพลงเพราะหรือไม่เพราะมันอยู่ที่ "ตัวเพลง" เป็นสำคัญนะครับ

เคยไปอ่านในห้อง sound science ของ Head-fi มาว่า เสียงดังต่างกันไม่กี่ DB ก็ทำให้คนคิดว่าเสียงดูเปิดมากขึ้นหรือดีกว่าเดิมได้ ถ้าจะเทียบอะไรควรจะปรับ DB ให้เป็นระดับเดียวกัน (หรือที่พวกนั้นเค้าเรียกกันว่า Level Match) ก่อนจะเทียบน่ะครับ

ผมว่า หากดีจริง จะดังได้มาก โดยไม่พร่าเพี้ยน และฟังเพราะอยู่
และเมื่อเบาลงรายละเอียดตลอดย่านความถี่ ยังอยู่ครบ
จะเร่งต่อไม่ไหว เมื่อหูรับไม่ได้ ไม่ใช่เร่งต่อแล้วไม่เพราะ ไม่ดี

อันนั้นก็คงเป็นระดับราคาที่สูงไปด้วยน่ะครับ
หากในระดับที่ไม่สูงนัก ที่ผมเล่นอยู่ มันรักษาความสมดุลย์ได้ที่ระดับความดังที่จำกัดครับ

ขอบคุณทุกความเห็นเลยครับ ได้แลกแปลื่ยนทัษณะคติเรื่องเกี่ยวกับเสียงได้เยอะลยครับ