ไม่ใช่ครับ ไดรเวอร์ก็มีคุณภาพที่อัพเกรดขึ้นไปอีกขั้นหนึ่งด้วยเช่นกันจ้าๆๆๆ

ขอบคุณเฮีบครับ แต่เค้าทำให้โอมห์สูงขึ้นเพราะอะไรครับ มีผลต่อเสียงมั้ยครับ

โอหม์ หรือ Ohm

ไม่ได้มีผลโดยตรงต่อเสียงครับ

คุณภาพเสียงขึ้นกับการออกแบบ Driver, ขนาดของ Driver และ แนวเสียงของ Driver ว่าจะเน้นแหลม กลาง ต่ำ เบส เทรเบิ้ล ๆลๆ

ฉะนั้นเสียงมันจะดีหรือมันจะห่วยแตก อยู่ที่วิศวกรออกแบบ Driver เสียงทั้งนั้นล่ะครับ

โอหม์มากก็ใช้ไฟน้อยครับ ถ้าโอหม์มันน้อยก็ต้องใช้ไฟสูงขึ้นหน่อย....

อ้อ ลืมบอกไป

เสียงมันจะห่วยแตกหรือเสียงสวรรค์รำไร

"อยู่ที่ความชอบของบุคคลนั้น ๆ ด้วยครับ"

เพื่อนคุณบอกไอ้นี้มันสุดยอด แต่คุณฟังแล้วมันอาจจะห่วยก็ได้

โลกของเสียง หูเราเท่านั้นที่บอกได้

ขอบคุณมากครับ แค่ผมเคยอ่านเจอว่าที่ pk1 ใช 150 โอห์มเพราะต้องการที่จะใช้กับแอมป์ แต่ถ้าเป็น earbud ทั่วไปเร่งเสียงไม่ถึงครึ่งมันก็ดังเพียงพอแล้ว แต่ถ้า pk1 มันต้องเร่งเกือบสุดทำให้ได้ศักยภาพของแอมป์อย่างเต็มที่ผิดกับ earbud ทั่วไปที่ใช้พลังงานไม่ถึงครึ่งทำให้ได้เสียงของแอมป์ไม่เต็มที่ ผิดถูกยังไงขอคำแนะนำด้วยครับ

ตัวpk1เสียงต่างกับpk2 เเน่ๆล่พครับ เทียบกันตอนต่อเเอมป์ตัวเดียวกัน pk1 ให้เสียงร้องที่อิ่มกว่า เบสมวลดีกว่า เเละฟังดูมีมิติมากขึ้นด้วยครับ

ครับ ขอบคุณครับ แต่ยังไงผมก็ยังไม่ได้คำตอบที่ชัดเจนเรื่องการเพิ่มโอห์มว่าที่แทัจริงแล้วมีประโยชน์อย่างไร
ยังไงก็ขอขอบคุณทุกท่าน และยังรอผู้รู้ต่อไปครับ

เรื่องมันยาวและยุ่งยากใช้ได้ เพราะมันเกี่ยวข้องทั้งกลศาสตร์และไฟฟ้า

โดยย่อๆคือผู้ออกแบบต้องการควบคุมการขยับของกรวยไดรเวอร์ให้ถูกต้องตรงตามสัญญาณที่เข้ามาที่สุด ถ้าโอห์มต่ำมันมักจะดื้อเพราะกระแสมันเยอะ

แต่โอห์มสูงกระแสมันน้อยเพราะใช้ด้านแรงดันมากกว่า มันจะควบคุมการเคลื่อนที่ของกรวยได้ง่ายกว่า และใช้แอมป์ซึ่งควบคุมเรื่องไฟฟ้านี้ได้ดีกว่า

ความสามารถในการควบคุมนี้คือ damping factor ลองค่อยๆศึกษาต่อดูนะครับ

ขอบคุณครับ จะลองศึกษาดูครับ

ความรู้ทั้งน้านนนนนน ขอบคุณคร้าบบบบบบบบบ *-*