Guest
หมวดหมู่ > เว็บบอร์ด จับฉ่าย

ช่องทางการติดต่ออื่น

  • Munkonggadget
  • Munkonggadget Reviews
  • Munkonggadget Reviews
  • Munkonggadget Contact Us

Audiolab 8200CDQ CD Player, DAC and Preamp of the year

Hi-Fi-Lover

20/06/2012 16:44:56
3
Audiolab 8200CDQ CD Player, DAC and Preamp of the year
สืบเนื่องจากที่ผมได้ถอย system เนื่องจากเหตุผลทางเศรษฐกิจบางประการ ทำให้จำเป็นต้องถอยเพื่อไปตั้งหลักให้กับsystem ใหม่เสียก่อน
การที่ได้ถอยครั้งนี้ ทำให้ได้เห็นภาพของ เครื่องเสียงในปัจจุบันอยู่หลายส่วนซึ่งจะขอนำมาเล่าเป็นเรื่องๆไป ในวาระและโอกาสอันเหมาะสม
แต่ขอเกร่นเสียก่อนที่เพื่อให้เป็นการเข้าใจถึงภาพรวมที่ผมได้สัมผัสมา
เรื่องของเสียง ไม่ไช่ราคาเป็นตัวกำหนด
ของเก่าแก่ไม่ไช่ของไม่ดี
ของใหม่ที่Performance cover ของในอดีตที่กำลังมีเพิ่มขึ้นมาเรื่อยๆ
เข้าเรื่องเลยดีกว่า ผมว่าพี่นี้หลายท่านคงเคยได้ยินชื่อเสียงของ Audiolab รุ่น CD8200 อยู่พอสมควรที่เปนทั้ง CD และ DAC ในตัว ซึ่งมี performance ที่ดีมาก ในรีวิวของหลายสำนัก






แต่ตัวนี้คือ 8200CDQ ไปได้ไกลเหนือล้ำจากตัว CD ไปหลายก้าว เนื่องจาการอัพเกรดไปเป็น cdQ ไม่ไช่เพียงการใส่ชิพ ภาคขยายเข้าไปอย่างเปล่าๆปลี้ๆ แต่เพิ่มชิพเซทและ cap






ไปทุกช่วงส่วนภาคขยายของเสียงไป ทำให้องค์รวม ฝรั่งหลายสำนักเรียกว่า Big improvement

โดยหน้าตาและรูปร่างเมื่อเทียบชื่อชั้น hiend และ ผมบอกได้เลยว่า ยังห่างอยู่มากนักกับสิ่งที่ผมเลยได้ฟังและเป็นเจ้าของ แต่ก็ถือว่ายอดเยี่ยมสำหรับในงบประมาณขาดนี้ ผมไม่ทราบว่าตัวแทนขายเท่าไร รู้แต่เพื่อนผมว่า 5 หมื่นกว่าๆ
เมื่อแรกเริ่มเปิดไป จะค่อยๆร้อนขึ้นจนถึงขนาดร้อนมาก! จริงๆครับเพราะภาคขยายเป้น class a ท่านอ่านไมผิดครับ ภาคขยายเป้น pure class a
คนออกแบบ ตามที่ผมอ่านภาษาอังกฤษได้แบบงูๆปลาได้ว่าไว้ว่าตะแกจะทุ่มใจสร้างผลงานคือรุ่นนี้ให้เป้น masterpiece เพื่อให้รู้ฝีมือกันไปนั่นเทียว
ทั้งตัว ทั้งเครื่อง ทำจากอลูกัดเสี้ยน ระบายความร้อนได้ดี รีโมทย์ก็ใช้แผ่นอลูมาประกบด้านบนดูดีทีเดียว ปุ่มที่ให้มาก็เพียงพอในการใช้งานได้ครบและคล่องตัวทีเดียว




















โดยความไม่ไดคาดหวังอะไร เพื่อนผม ได้แนะนำให้ลองเอามาเล่นแก้เซงยามเหงาหูที่ขาด Mark No.39 ตัวคู่ทุกคู่ยากของผมไปจากพิษเศรษฐกิจ
จึงได้ขอยืมมาจากเพื่อเพื่อเอามาฟังแก้เซง ต่อผ่าน Sansui ตัวเก่าของคุณพ่อผม
Accessory
ผ่านสายสัญญาน Kimber Select 1021 RCA หัวเป็น WBT ตัว Top มือ 2 สนน.ราคาอยู่ที่ 18,000 บาท
ต่อผ่านสายลำโพง Argento Audio สายลำโพง ตัวเก่งของผม handmade swiss สายเงินความบริสุทธิ 8N คือ 99.999999 OFC เข้าหัวด้วยเครื่องอบความร้อน ไม่ได้ใช้ตะกั่วบัดกรี
Vandenhul m.c. triaxtial professional ตัวท๊อป 2 เส้นใช้แทน rca
สายไฟ Kimber PK 10 หัวท้าย Oyaide
สายไฟ Oyaide Tunami หัวท้าย wattgate 330i 350i
ปลักผนัง Wattgate 381G

Main System
Sansui รุ่น G2000 ตัวเก่าของคุณพ่อ เป็นตัวทำใน Japan รุ่นเก่า กำลังขับ 20watt เทียบเท่าปัจจุบันที่ 100 watt สบายๆ แนวเสียงอบอุ่นผ่อนคลายฟังสบาย
ตัวที่พึงได้มาประกอบ system เพิ่มเติมเมื่อวานนี้ ให้ได้กลิ่นอายของ Power MArk.No.333 คือ power amp Jeff Rowland Model One 60watt class a






ให้เสียงที่ดีมาก เปิดกว้างฟังสบาย มิติยอดเยี่ยม บรรยากาศขั้นเทพ พลังเสียงน้อยกว่า mark เล็กน้อย แต่ถือว่าเกินตัวไปมากแล้วสำหรับ class a ที่ 60watt โดยส่วนตัวประเมินกำลังไว้ที่ 200 watt
ลำโพง B&W 804n สามทางเบส 2 ลูก กลาง 1 แหลมอีก 1 ตัวนี้คงไม่ต้องสาธยายประสิทธิภาพ เอาเป็นว่า ผมลงขายแล้วเปลี่ยนใจ เอาไว้ใช้ยามมเบี้ยน้อยหอยน้อย ให้คลายเครียดกับยุคเศรฐกิจที่เลวร้ายเช่นนี้ไปได้อย่างสบายใจ






เริ่มต้นก่อนอื่นคือ ฟังกันก่อน โดยต่อแบบพื้นฐานเลยเทียว นั่นคือ ใส่สายสัญญาน สายไฟ สายลำโพง แล้วเล่นกันเลยโดยไม่มีการปรับแต่อะไร ฟังเปรียบเทียบทั้ง rca และ xlr
สิ่งที่ได้ อืม เสียงดีนะ ระหว่าง rca และ xlr มีส่วนเสสียงแตกต่างกันประาณเท่าตัว แนะนำว่าควรต่อแบบ xlr ซึ่งจะให้ผลลัพท์ที่ดีกว่านะครับ
ก็ดี เมื่อต่องแบบเพียวๆ เนื้อเสียงเล็กหน่อย บรรยากาศแห้งๆ แต่รายละเอียดค่อนข้างดี เอ้า มันพึ่งจะเล่น ให้เวลามันเสียหน่อย
เสียบเปิดทิ้งไว้อีกครึ่งชั่วโมง มาฟังใหม่ อืม ดีขึ้น บรรยากาศมาเป็นชั้นๆ เสียงผ่อนคลายมากขึ้น แต่ยังไม่สาแก่ใจ จึงเร่มเปลี่ยนแปรงรายละเอียดอื่นๆไปเสียหน่อยคือ

stage 1
เปลี่ยนฟิวส์
ฟิวส์ท้ายเครื่อง เปี่ยนเป็น hifi tuning เรียบร้อยแล้ว ขอดูในเครื่องเสียหน่อย นั่นปะไร มีฟิวส์ปรากฏอีก 3 ตัวข้างใน ตามที่ท่านอาจารย์ไมตรีท่านว่า ให้เอา2 ตัวหน้าที่ชิดกันเอาทิศทางออกมาทางด้านหน้าแอมป์ อีกตัวนั้น ทิศทางไปข้างหลัง
ผมก็ลองตามท่านว่าไว้ก่อนคงไม่เสียหายอะไรว่าแล้วก็จัดแจงแงะฟิวส์ในเครื่องออก ค่าที่อ่านได้ คือ ฟิวส์ buss 1.6a 250v แบบ slow blow เปลี่ยนด้วย ฟิวส์เครื่อง mcintosh ค่า 2a 250v และฟิวส์ที่ทิศทางเข้าตัวเครื่อง เปลี่ยนด้วยฟิวส์ RS England pure Silver
ฟิวส์ที่ผมลง ท่านไม่ต้องไปหานะครับ ผมบิดมาจาก ebay บอกได้เลยว่า furutech ฟ้า มีหนาว ชนมาแล้ว เพียงแต่หูของผมเท่านั้นครับ ซึ่งผมก็ชอบใจเพียงพอที่จะไม่ต้องใช้ฟิวส์แบรนด์ได้ ถ้าไม่จำเป็น

เอ้าเป็นยังไง ผลที่ได้ อืม พลังมามากขั้น คงจะมาจากอานิสงฆ์ของค่า 2a ที่ได้ใส่เข้าไป พลังมาแล้วเบียดเสียงอื่นไหม เสียงกลางสะอาดมากขึ้น อิ่มนวลเนียนมากขึ้น หางเสียงหละ ไปไกลมากพอดู และมิติโล่งกว้าง เหมือนไม่มีฟ้าเพดานนั่นเลย

พอหรือยัง แนอนว่าเสียงแค่นี้ไม่ทำให้ผมพอใจง่ายๆ

stage 2
เปลี่ยนจากสายไฟธรรมดา เป็น PK10 หัวท้าน oyaide อืม เข้าท่า หัวเสียงหายเสียงดี มีพลัง ปึ๋งปั๋งดีทีเดียว แต่เนื้อเสียงกลางมีแนวโน้ม ทรานเชี่ยนเยอะไปหน่อย ไม่สมใจ เปลี่ยนอีก เป็น oyaide tunami หัวท้าย wattgateทอง 330i 350i
อืม เสียงกลางมาดีมาก บรรยากาศโอบล้อม พลังเบสดีขึ้นอีก หัวโน๊ตไม่หาย แหลมผ่อนคลายและสงัดมากๆ
พอใจและลงตัวที่ oyaide

stage 3
ปรับแต่ค่าในเครื่อง เนื่องจากในคู่มือบอกว่า สามารถเปลี่ยนภาคปรีเป็น 2 ส่วนคือ digital และ analogue ในส่วนแรกที่ได้ฟังนั่นคือ ภาคปรีเป็น digital เลยเปลี่ยนเป็น analogue ดูหน่อย อืม เสียงไม่พุ่งฟั้ง หลายแหลมมีประกาย แต่บรรยากาศ ดีมากว่าเดิมมาพอดู จบที่ analogue
ต่อมา มี filter ในเครื่องที่สามารถเปลี่ยนได้อีก 6 แบบ คือ
The optimal transient
The optimal transient XD
the optimal transient DD filter.
The optimal spectrum
The transient filters staged deeper,
the spectrum
ซึ่งแบบต่างๆก็มีข้อดีข้อเสียต่างกัน บางข้อให้เสียงเปิดแต่แหลมจัด ส่วนตัวผมเลือก The optimal transient ซึ่งเหมาะกับชุดของผม ซึ่งท่านๆสามารถเลือกปรับแต่งให้เข้ากับชุดของท่านได้อย่างง่ายๆครับ

ไอ้ที่บางท่านเขาจะปรับเปลี่ยนเครืองเล่น CD ธรรมดาให้เป้น transformer ผมไม่ใคร่ถนัดนัก เห็นแการเปลี่ยนพื้นๆนี่และจะเป้นสิ่งที่เป็นบรรทัดฐานเพียงพอที่จะเข้าใจถึงเจตนารมณ์ของผู้สร้างเครื่องรุ่นนั้นๆมาให้เราได้เสพกัน

โดยรวม ดีกว่าที่คิด ดีกว่าที่เคยได้ฟัง ถึงจะเทียบเท่า Mark no.39 ที่ผมเป็นเจ้าของมาก่อน แต่เรียกกันได้ว่า มีข้อดี เสีย ต่างกันเพียงเล็กน้อย
Mark ได้เรื่องบรรยากาศ ความเป้นดนตรีสูง แต่เนื่องจากมันใช้ชิพ 20bit แต่cd ต่ำกว่าแสนก่อนหน้านี้จนถึงปัจจุ หาตัวชนได้ยาก
Audiolab 8200cdq เป็นสิ่งที่เรียกได้ว่า extra odinary สำหรับผมที่เคยผ่านเครื่องเสียงมาหลักร้อยชิ้นได้เลยทีเดียว บรรยากาศแพ้เพียงเล็กน้อย แต่ความชัด มากกว่ามาก แพ้กันแบบ ปลายจมูกนั่นแล

สรุปสุดท้าย คุ้มตังครับ สำหรับ CD มี pre มี DAC เป็นแอมป์หูฟังด้วย ซึ่งผมจะทดสอบต่อในภาค 2 ว่าเป็นอย่างไร สำหรับท่านที่เบื่อๆสภาพเศรฐกิจในปัจจุบัน ใคร่จะผ่อนคลายกับเสียงเพลงให้อารมณ์บรรเจิดไปเพียงคลายทุก เศร้า เหงา ให้สามารถผ่านวันน้ไปเพื่อตื่นวันใหม่อย่างสดใสและมีกำลัง
ขอเชิญมาฟังดนตรีเถิด ชื่นใจครับ
มังกรซ่อนกาย



ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 1

Tum098

21/06/2012 13:05:39
0
ถ้าจำไม่ผิดซีดีของ audiolab รุ่นนี้จะ built in DAC chip ของ Sabre ซึ่งทำให้เสียงที่ได้มีรายละเอียดที่ชัดเจน แยกแยะตำแหน่งเครื่องดนตรีแต่ละชิ้นได้ดีกว่าเครื่องเล่นซีดีทั่วไป เป็นเครื่องเล่นซีดีที่น่าสนใจมากครับในราคาระดับกลางๆ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 2

top

21/06/2012 20:23:46
0
คุ้มมากครับ เคยใช้ Audiolab 8200CD
ตอนนีใช้ m-dac
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
"Audiolab 8200CDQ CD Player, DAC and Preamp of the year"