Guest
หมวดหมู่ > เว็บบอร์ด จับฉ่าย

ช่องทางการติดต่ออื่น

  • Munkonggadget
  • Munkonggadget Reviews
  • Munkonggadget Reviews
  • Munkonggadget Contact Us

fook007

02/06/2012 10:10:26
ใครแยกออกหรือไม่ออกมาแชร์ประสบการณ์กันหน่อยครับ

ส่วนตัวผมถ้าเป็นเพลงธรรมดาทั่วๆ ไปจะแยกไม่ออก
แต่ถ้าเป็นพวกเพลง audiophile Insrumental และเพลงที่อัดมาคุณภาพสูง จะแยกออก

ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 1

pinkpanther

02/06/2012 10:29:08
0
ผมว่าออกนะครับ แต่นั่นก้อขึ้นอยู่กะหูฟังที่ใช้และเพลเย่อด้วยนะ ตอนแรกกะฟัง mp3 ปกติเนี่ยละครับ พอมาฟัง flac. โอ้วแม่จ้าวววว เสียงสากเสี้ยงไม่มีเลย เงียบมาก ไม่ค่อยมีเสียงรบกวนเหมือน mp3 เสียงนิ่งมาก แต่จะชัดเจนมากๆถ้าเป็นพวกเพลงแนว audiophile ถ้าเพลงไทยหรือสากลทั่วไป rip มาก้อไม่เท่าไหร่ แต่ก้อแตกต่างกันชัดเจนครับผม ตอนนี้พอลองกลับไปฟัง mp3 นี้ฟังไม่ได้เลยครับ นอกจากเพลงบ้านเรา...
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 2

soulslam

02/06/2012 10:36:52
1
ฟังที่เงียบ ๆ แล้วหูฟังสงัด ๆ ไม่มีเบสฟุ้ง ๆ นะครับ

อย่างน้อยทุกเพลงน่าจะพอจับ "สากเสี้ยน" ได้ไม่มากก็น้อย เพลงอัดห่วย ๆ ก็ยังพอจับได้
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 3

accmen20

02/06/2012 10:39:08
0
ผมว่าไม่ต่างนะ หรือ หูผมไม่เทพ 555
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 4

dutchmew

02/06/2012 11:14:25
4
flac กับ 320kbps

บอกตรงๆว่าผมแยกไม่ออกครับ

แต่ที่ใช้ flac/wav ฟังอยู่ทุกวัน เหตุผลเพราะความสุขทางใจมากกว่า
คือรู้ว่ามันดีกว่า mp3 แน่ๆ แม้จะแยกไม่ออกก็ตาม

สำหรับผมความสุขทางใจก็สำคัญไม่น้อยกว่าความสุขทางกายครับ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 1
ความคิดเห็นที่ : 5

golf8023

02/06/2012 11:16:48
39
ต่างครับ ต่างทุกเพลง
คือผมเทียบระหว่าง MP3 320K กับ Lossless(ไม่ว่าจะFlac AIFF ALAC...) เพลงเดียวกันนะครับ
แต่ต้องตั้งใจฟังจับผิดหน่อย สากเสี้ยนน้อยกว่าพอควร นิ่งกว่า สงัดกว่า การแยกแยะชิ้นดนตรีของพวกLosslessจะเด็ดขาดกว่า ฟังLosslessนานๆเข้าจะชอบจะติด แล้วไม่อยากกลับไปฟัง320K ผมเป็นแบบนี้จริงๆไม่ได้กระแดะนะ แต่ถ้าเพลงไหนมีแต่320Kไม่มีLosslessอันนี้ผมฟังได้เพราะไม่มีเพลงเดียวกันมานั่งเทียบ

แต่มันพูดยากนะ บางคนฟังไม่ต่าง คือมันไม่ได้แตกต่างกันชัดเจนขนาดเสียงจากแผ่นCDเทียบกับเสียงจากเทปคลาสเซ็ท มันไม่ขนาดนั้น ความแตกต่างมันอาจจะประมาณแผ่นDVDเทียบกับแผ่นBD ถ้าดูผ่านๆก็ไม่ต่างกันเท่าไหร่ แต่ถ้าดูซักพัก เออแฮะ BDชัดกว่ามาก

ผมขอบเปรียบเปรยว่าถ้าเปรียบเพลงเป็นถนน ไฟล์MP3 320Kจะเป็นถนนคอนกรีตเรียบๆ ที่วิ่งไปนิ่งๆก็ยังมีเสียงยางบดกับพื้นคอนกรีตอยู่บ้าง ส่วนไฟล์Losslessจะเป็นถนนยางมะตอยเรียบๆที่วิ่งไปเราจะแทบไม่ได้ยินเสียงยางจากพื้นถนนเลย ประมาณนี้อะครับ ^^

ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 6

fook007

02/06/2012 11:23:28
ผมเก็บเพลง ถ้าเป็นเสียงคนร้องธรรมจะเก็บแบบ MP3 320kbps
ถ้าเป็นพวกaudiophile Insะrumental และเพลงที่อัดมาคุณภาพ สูง(24bit/96Hz) จะเก็บแบบ Flac

เพราะว่า ผมเก็บแบบ Flac หมดไม่ไหว เปลือง HDD มากๆ แหะๆ

แล้วเพื่อนๆ พี่ๆ หล่ะครับ?
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 7

นายมั่นคง

02/06/2012 11:55:36
4,282
ความเห็นผมนะครับ ตอนนี้ทิศทางการเล่นเพลงจากไฟล์มันพัฒนาความละเอียดสูงขึ้นไปเรื่อยๆๆๆ และอุปกรณ์การจัดเก็บราคาถูกลงเรื่อยๆๆ

ยังไงต้องพยายามฟังจากไฟล์ที่ไม่มีการบีบอัด หรือมีความละเอียดสูงขึ้นไปเรื่อยๆ จะดีที่สุดเลยครับ เพราะยิ่งสูง ยิ่งดี ถึงบางครั้งอาจจะฟังกับอุปกรณ์บางอย่างแล้วไม่ต่างกันมากนัก

แต่รับรองว่า พวกอุปกรณ์เล่นร่วมต่างๆ กำลังพัฒนาตามขึ้นไปเรื่อยๆๆอย่างไม่หยุดยั้งครับ เพราะฉะนั้นเก็บแบบ Flac ดีกว่าแน่นอนทุกกรณีเลยจ้าๆๆๆๆ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 8

Sharper

02/06/2012 13:09:46
0
ต่างกันครับ รายละเอียดกับมิติของ Lossless จะเยอะกว่า แล้วรู้สึกว่าเสียงกว้างกว่า(ไม่รู้เค้าเรียกอะไรครับ) แต่ก็ขึ้นกับอุปกรณ์ที่ใช้ด้วยครับ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 9

Phantomzen

02/06/2012 13:19:24
0
ผมแยกไม่ออกครับ ตั้งใจแล้วนะ RIP มาจากแผ่นเดียวกัน ฟังสลับไปสลับมา

แยกไม่ออก = =" หูตะกั่วมั้ง

ก็เลยฟัง 320kbps เนื่องจากหาง่ายกว่า ความจุน้อยกว่า
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 10

Jo Sparerack

02/06/2012 13:46:30
0
ไม่เคยฟังจับผิดแบบจริงจัง จริงๆซักที

แต่ฟังปกติแบบเอาเพลินแล้ว ผมยังแยกไม่ออกครับ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 11

XaNXuSiiZ

02/06/2012 14:12:29
0
ผมว่าต่างนะ แต่ต้องตั่งใจฟังครับ เพราะมันแตกต่างน้อยมาก แต่ถ้าฟังกับหูฟัง + player ดีๆ น่าจะเห็นชัดนะครับ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 12

สมัครเล่น

02/06/2012 14:20:48
412
ผมว่า aac 320kbps
เสียงดีกว่า mp3 เยอะครับ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 13

hippo13893

02/06/2012 16:39:15
0
สำหรับผมนะครับ ฟังmp3มาตลอดแบบปกติ พอผมลองมาซื้อแผ่นripเองเป็นwaveกับโหลดflacมาบิทเรทประมาณ700-1000kbps(โปรแกรมpowerampในมือถือมันจะบอก)
แล้วไปฟังmp3อีกครั้งนี่ รู้สึกถึงสากเสี้ยน เพลงมันไม่ชัดๆยังไงไม่รู้อะครับ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 14

tine_lnw

02/06/2012 18:32:43
0
ไฟล์ flac ที่ผมมี bitrate ประมาณ 600+ ถึง 1000กว่าๆ kbps อะครับ
ซึ่งถ้าเทัยบกับไฟล์ 320kbps มันก็ไม่ไกลกะ 600kbps เท่าไหร่ ผมก็ฟังไม่ออกเหมือนกันครับ

แต่ถ้าเป็นเพลงบรรเลง คลาสลิก เพลงร้องช้าๆๆ อะไรประมาณนี้ พอแยกออกบ้างครับ
มันจะฟังโปร่งๆ สว่างๆ กว่า รายละเอียดจะชัดขึ้นมาอ่ะครับ

ฟังออกเท่านี้แหละ หูกระป๋องแป้งสังกะสีตรางู ของผม อิอิ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 15

sonse

02/06/2012 21:21:15
1
เพลงเดียวกันมีทั้ง2ไฟล์ในเครื่อง ใครใครฟังก็บอกว่าต่าง
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 16

pizad_sura

08/07/2012 13:15:49
น่าจะมี Poll โหวตนะเนี่ย แต่ละคนก็เห็นต่างกัน *_*
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 17

hippo13893

08/07/2012 13:58:23
0
ผมว่าออกบางเพลงนะครับ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 18

newdac

08/07/2012 13:59:26
0
ถ้าตั้งใจฟังจับผิดกันจริงๆผมว่าทุกคนแยกออกครับ ยังไง lossless ก็มีคุณภาพเสียงที่ดีกว่า ส่วนตัวผม 320 kb ผมก็okแล้วครับไม่ได้แย่อะไร แต่ถ้าต่ำกว่านี้ไม่ไหวครับเพราะรู้สึกได้เลยว่าเสียงมันไม่ได้ ผมว่าอันนี้ขึ้นอยู่กับอุปกรณ์ด้วยครับ ถ้าใช้บ้านๆแบบผม 320kb ก็ยังเพราะอยู่ ส่วนsystem แพงๆ อันนี้น่าจะต้อง lossless เท่านั้นเพราะมันคงแยกแยะเสียงได้ดีกว่าจนรู้สึกได้ชัดเจน ผมว่าฟังอันไหนเพราะก็จัดแบบนั้นไปแหละครับไม่ต้องคิดมาก สมัยก่อนมาเล่นหูฟังผมฟัง 128 kb มันก็ยังเพราะเลยไม่เห็นรู้สึกว่ามันสากเสี้ยนอะไร 5555
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 19

dutchmew

08/07/2012 14:05:01
4
ปัจจุบันฟังออกแล้วครับ (เมื่อเดือนก่อนยังบอกแยกไม่ออกอยู่เลย..คห.4)

ไม่ใช่หูเทพขึ้นหรืออะไรนะครับ
แต่พอมาใช้ dac/amp ตั้งโต๊ะ มันกลายเป็นแยกออกได้ง่ายๆซะงั้นเลย
หรืออาจจะเป็นเพราะส่วนหนึ่ง ผมตั้งใจที่จะจับผิดมันมากขึ้นกว่าแต่ก่อนด้วยมั้งครับ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 20

Razr

08/07/2012 14:12:15
23
อยู่ที่คุณภาพ system ที่เรากำลังใช้อยู่กับประสบการณ์การฟังล้วนๆครับ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 21

sylar1980

08/07/2012 14:23:41
0
ผมเพิ่งจะฟังออกเหมือนกัน ฟังดูมันจะ โอ่อ่า กว้างขวางกว่า กังวาน เนื้อเสียงน้ำหนักของเสียงจะต่างกันด้วย *-*
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 22

SriririQ

08/07/2012 14:54:58
ฟังออกนิดหน่อยครับ ตรงช่วงเสียงสูงมากกับต่ำๆ มันจะแตกๆ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 23

boxer32

08/07/2012 15:10:04
1
ผมแยกออกชัดคับ ฟังเพลงคลาสสิคจะใด้ยินเสียงนักไวโอลินขยับใ้กระทบกับสาย แต่mp3 ใม่ใด้ยิน
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 24

ota_hay

08/07/2012 15:24:36
3
ผมยอมรับเลยว่าฟังไม่ออกครับ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 25

i_country

08/07/2012 17:10:54
0
พี่ท่าน dutchmew ใช้ dac amp อันไหนครับ อยากลองหาที่แยกเสียงได้ดีๆมั้ง ว่าจะเดินไปลอง ด้อมๆ ลองๆ เทสๆ มองๆ เหมือนกัน เตรียมสอย
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 26

ong14

08/07/2012 19:07:56
0
blind test สิครับ
หุ ๆ อยากรู้ผลจริง ๆ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 27

loss

08/07/2012 19:53:54
0
ฟังออกครับ ฟัง320 มันจะมีความรู้สึกอั้นๆแบบขี้ไม่สุดมันมวลอยู่ในท้องชวนหงุดหงิดครับ
เริ่มเล่นแรกๆฟังไม่ออกแต่ตอนนี้ฟังออกแล้วครับ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 28

pokkystr

08/07/2012 20:33:38
0
128 ไป 320 ฟังออกครับ แต่ 320 ไป wma หรือสูงกว่านั้น แยกออกได้น้อยมากเลย
สงสัยต้องฟังอีกนาน กว่าจะเบรินหูตัวเองได้ฮ่าๆ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 29

TroRuwA

08/07/2012 21:18:30
1
ถ้าให้ถกจริงๆของแบบนี้มันถกกันลำบากคร๊าบ
เพราะปัจจัยมันเยอะ
1.การเซ็ตอัพตั้งแต่ software หรือ player มั่งล่ะ
2.system ที่ใช้กันมั่งละ
3.ไฟล์ที่ได้มาเป็น lossless แท้รึเปล่า (สมัยนี้น่าจะแท้หมด)
4.ประสบการณ์ฟังและการรับรู้ได้ของแต่ละคนมันต่างกัน

เรื่องการบันทึกไม่ต้องห่วงครับ
ถ้าบันทึกไม่ดี ฟัง lossy เพราะกว่า LL(lossless)แน่นอน
แต่ถ้าบันทึกดีดีฟัง LL ดีกว่า lossy แน่นอนครับ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 30

Xanthics

08/07/2012 21:27:48
0
เพลงบ้านเราฟังแล้วแยกไม่ออกเท่าไหร่ แต่พอฟังของต่างประเทศพอแยกออกเป็นบางเพลงอะครับ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 31

planaria

08/07/2012 22:24:34
117
ตอนนี้หันมาฟัง WAV (เพราะได้ Recorder มา และมันฟังได้แต่ WAV กับ MP3 >_<") ฟังเพลงเทียบกันระหว่าง 2 Format นี้ ต่างกันชัดเจนครับ WAV เสียงมาเต็มกว่า อิ่มกว่า แน่นกว่า รายละเอียดดีกว่า เสียงไม่ติดแห้ง ติดบางเหมือน MP3 ครับ อาจเป็นเพราะ Recorder มันขี้ฟ้องกว่า Player ทั่วไปด้วยละมั้ง จึงฟังออกง่ายกว่าครับ (กรณี Flac คงไม่ต่างกับ WAV นักครับ)
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 32

ผีฟรีคิก

08/07/2012 23:01:11
0
สมัยก่อนเล่นระดับเริ่มต้น แอมป์เพนกวิ้น akg 415 ฟังไม่ออกครับ แต่พอยิ่งรุ่นสูงยิ่งฟังออกครับ นรกชัดๆต้องหาไฟล์ดีๆไม่งั้นหงุดหงิด
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 33

LoveFamily

09/07/2012 10:34:20
0
ขึ้นอยู่กับการบันทึกเสียงของแต่ละ อัลบั้มด้วยครับ

บางที mp3 320k อัลบั้ม A อาจฟังแล้วไพเราะแทบจะไม่ต่างกับ flac อัลบั้ม B

แต่การเปรียบเทียบที่ง่ายที่สุด ลอง Rip จากแผ่น CD เป็น mp3 320k กับ Flac(แบบบีบอัดน้อยสุด) หรือ wav
จากนั้นลองฟังดูครับ ถ้าฟังแล้วไม่ต่างกันเลย ก็เฮ ได้เลยครับ แสดงว่าคุณเป็นผู้โชคดี ที่หูไม่หาเรื่อง

ต่อไปคุณก็เล่นแต่ 320k พอครับ จบ.
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 34

earth_13th

09/07/2012 13:22:39
0
ผมเคยเทียบระหว่างอัลบั้มเดียวกัน ในหลายๆเพลง เท่าที่ผมมีนะครับ
ขึ้นกับอัลบั้มนั้นๆเลยครับว่า ตอน Mastering เค้าทำกันดีแค่ไหนด้วย
เพราะบางวงบางอัลบั้ม ผมฟังแล้ว MP3 320kbps เทียบกับ FLAC แล้วแทบไม่มีความแตกต่างกันเลย
อันนี้ผมเลยตัดสินใจเก็บแต่ MP3 320kbps ก็เพียงพอเลยครับ

แต่บางวงบางอัลบั้มเนี่ย ได้ยินชัดเจนเลยครับ จนไม่อยากจะกลับไปฟัง MP3 อีกเลย :D

อ้อ เสริมอีกอย่างครับ ถ้าเราพอใจอันไหนก็เอาอันนั้นครับ ไฟล์จะเทพยังไง ให้เชื่อหูของเราไว้ก่อนครับ อิอิ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 35

dutchmew

09/07/2012 14:50:11
4
@i_country

NFB 5.2 ของร้านพี่หมูหวานน่ะครับ พอดีกระทู้ตกลงไปเลยไม่ได้เข้ามาตอบ *0*
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 36

Ksubi

27/08/2012 17:10:40
0
ต้องสมาธิดีมากๆเลยคับ
และสิ่งสำคัญคืออุปกรณ์ต้องดีมากๆ สามารถทำเสียงที่ไม่ได้ยินจนได้รับรู้ได้
สำหรับ headphone อาจจะยากหน่อย แต่ถ้าเป็น speakerระดับเทพ อาจจะจับได้คับ

ผมเองใช้ headphone และผมก็แยกมันไม่ออก 555

ปล เคยเวป audiophile นอก เค้าเคย experiment เอา professional DJ, studio มาปิดตาทดสอบ flac vs 320 แต่ก็แยกแบบเด็ดขาดไม่ได้ นี่ขนาด pro นะคับ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 37

Artnoi

27/08/2012 21:07:31
425
ของผมฟัง flac เพราะสุขทางใจครับ 55555
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 38

TrainXIII

27/08/2012 22:13:41
1
ผมจะฟัง 320kbps ก็ต่อเมื่อผมแปลงมาจาก FLAC ด้วยตัวเองอ่ะ

สำหรับเสียง ขึ้นอยู่กับ source ด้วยนะ ผมใช้ walkman z มันชดเชยกันได้อยู่
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 39

netcies

20/10/2012 13:26:07
0
flac มันเอาลง itunes ไม่ได้หรอครับ player ผมเป็น iphone อ่าาา :(( help me plz
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 40

holykyun

20/10/2012 13:34:52
0
สำหรับผมถ้าไม่ใช่เพลงที่ฟังบ่อยๆหรือคุ้นหูก็แยกไม่ค่อยออกหรอกครับ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 41

serenityman

20/10/2012 13:53:01
0
netcies>>>> ไฟล์flac แปลงเป็น apple lossless เลยครับ

ส่วนตัวผมใช้โปรแกรม dbpoweramp
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 42

Pi-ga-sus

20/10/2012 13:53:35
ถกจนถึงเกงในแระ ผมก็ฟังไม่ออกอ่ะครับ....!!! สงสัยผมหูพลาสติก(หนักกว่าตะกั่ว)
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 43

netcies

20/10/2012 14:00:04
0
serenityman น้ำใจคุณชั่งเหลือล้น ขอบคุณครับ apple lossless ก็ฟังดีไม่แพ้ flac ใช้ไหมครับ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 44

serenityman

20/10/2012 14:05:17
0
น่าจะใช่ครับ เพราะผมสังเกตขนาดไฟล์จาก flac>apple lossless มีขนาดและbitrateที่เกือบจะเท่ากัน
ถ้าเป็นไฟล์wav แปลงเป็น Aiffเลยครับ สามารถใส่ปกได้ด้วย ^ ^
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 45

netcies

20/10/2012 14:41:29
0
แล้ว M4A ฟังดีไหมครับ M4A ใช้เบินไปในตัวได้ไหมครับ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 46

serenityman

20/10/2012 15:07:26
0
ตอบตามความคิดที่ผมเข้าใจนะครับ ผิดถูกยังไงรอผู้รู้มาแก้ไขนะครับ(ผมก็มือใหม่เหมือนกัน แต่จะพยายามช่วยเท่าทีได้นะครับ)

ไฟล์m4a เป็นเหมือนcontainer ซึ่งสิ่งที่อยู่ข้างในอาจจะเป็นไฟล์
.AAC (เช่นเพลงที่ขายในitunes) หรือ
apple lossless ที่มีคุณภาพเหมือนไฟล์ flac

ถ้าถามว่าไฟล์m4aเหมาะกับการเบิร์นไหม ต้องดูว่าไฟล์m4aนั้นข้างในเป็น.aac หรือ apple lossless ไฟล์.aacก็จะเหมือน.mp3 คือ มีการสูญเสียข้อมูล(lossy) และbit rateสูงสุดที่320kbps

ซึ่งเพลงที่ขายในitunes จะมีbitrate 256kbps ที่ผมเคยทราบมาจะมีคุณภาพประมาณmp3 320kbps แต่ข้อดีคือขนาดไฟล์จะเล็กกว่า(แต่ในความรู้สึกผมกลับชอบไฟล์.aacมากกว่าmp3 55+)

แต่ถ้าเป็นapple lossless จะเป็นไฟล์ที่ถูกบีบอัดแบบไม่สูญเสียข้อมูล (lossless) ข้อดีก็คือคุณภาพไม่ต่างจากไฟล์ wav หรือ aiff มาก

ผมจำได้ว่าเคยอ่านกระทู้ของเฮียมั่นคงนี่ละว่าถ้าเปรียบไฟล์เหมือนห้องๆหนึ่ง
aiff หรือ wav คือห้องกว้าง มีอุปกรณ์ครบทั้งทีจำเป็นและไม่จำเป็น
flac หรือ apple lossless ก็มีอุปกรณ์ครบ แต่ขนาดห้องเล็กลง
aac หรือ mp3 มีเฉพาะอุปกรณ์ที่จำเป็น ห้องจึงเล็กลงอีก

สรุปได้ว่า ถ้าจะเบิร์นไฟล์ ผมแนะนำดังนี้ครับ wav/aiff>>>flac/apple lossless>>>>aac/mp3(320kbps)

แต่ไม่ต้องจริงจังมากก็ได้ครับ เดี๋ยวจะไม่มีความสุขกับการฟังเพลง ^ ^
ถ้าหาไฟล์wav ไม่ได้ก็ไม่เป็นไรครับ แต่ถ้าได้ก็ดีครับ เป็นการสนับสนุนศิลปินให้มีผลงานดีๆออกมาให้เราได้ฟังกันครับ (ขอโทษด้วยครับถ้ายาวไป55+)
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 47

clwsl1478

20/10/2012 15:08:59
0
สมัยก่อนผมเคยลองกันหูฟังแถมทั่วๆไป ขอบอกว่าแยกไม่ออกเลยจิงๆ เพราะหูมันห่วยมาก
แต่ตอนหลังจากที่มี creative ep630 + ipod nano gen1 มาก็เริ่มได้ยินความแตกต่างครับแต่ยังน้อย
ตอนนี้ใช้หูฟังโมแล้ว ชัดเลยครับ มันต่างกันมากกกก

สิ่งที่ต่างอย่างเห้นได้ชัด คือ มิติเสียง ผมว่าเป็นอะไรที่ ฟังง่ายที่สุดแล้ว เรื่องของรายละเอียดเสียงก็ดีกว่าเยอะ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 48

netcies

20/10/2012 17:15:40
0
อ่อครับ ผมโหลด app ที่ลง file เพลงได้ทุกแบบมาแล้วครับ แล้ว file ไหนน่าใช้สุดคับ ทั้งฟังทั้งเบิร์นเจ๋งๆเลยครับ แนะนำ file หน่อยครับ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 49

ppdcomeback

20/10/2012 18:09:18
0
ถ้าฟังเพลงเดี่ยวๆผมบอกไม่ได้นะ แต่ถ้าเทียบกันก็จะรู้ว่า mp3 มัน ขุ่นๆนิดนึง flac มันจะคมกว่าอ่ะครับ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 50

netcies

21/10/2012 01:31:16
0
อ่อครับ แล้ว aiff คมไหมครับ พอที่จะใช้เบิร์น beat studio ได้ไหมเอ่ย
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 51

pure1295

21/10/2012 14:26:00
ผมออกนะครับ คือmp3 320kbps กับ flac ก็เวาฟังmp3 320kbps เสียงมันจะกระเพื่อมเหมือนน้ำ
กระเพื่อมอะครับส่วนflacเสียงจะนิ่งเหมือนน้ำนิ่งๆอะครับ

นอกเรื่องหน่อยเว็บนี่แม้จะวัยเด็ก ก็ยังติด ขนาดผมแค่13ขวบเข้ามาเจอเว็บนี้ติดง่อมแง่ม5555
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 52

Guzzo

21/10/2012 15:59:17
0
Flac มันเฮิ่มมมมมมกว่าครับ

จริงๆนะ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 53

wit66

21/10/2012 17:05:07
0
ต่างไม่ต่าง อยู่ที่คนริปเพลงด้วย
ชอบ Flac มากกว่า
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 54

FeaKun Monster

25/12/2012 22:42:38
6
ผมว่าFlac จะไม่มีเสียงรบกวน รายละเอียดเยอะกว่า นิ่งๆ ซาวเสตจดีกว่า
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 55

jesusgamers

26/12/2012 00:20:19
25
ถ้า ลอง หลับ ตา ฟังเพลง เดียวกัน อันนึง mp3 320 อันนึง Aiff ผมอยากลองเหมือนกันว่าจะฟังออกไหม ไม่เคยลองเลยแฮะ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 56

hydeless

26/12/2012 01:28:47
1
ลองกับ AAC 256K ก็แยกยากแล้วครับ ความถี่แน่นใช้ได้
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 57

Beat Takeshi

26/12/2012 07:33:10
39
กระทู้สนุกดีครับ อ่านมานานล่ะ เมนต์หน่อยแล้วกัน
ตัวผมก็แยกไม่ออกนะ ปกติฟังแต่ไฟล์ที่ Rip จากแผ่นแท้ที่สะสม Apple Lossless นี่แทบไม่ต่างจาก MP3 320k เลย
เมื่อก่อนผมแปลงเป็น AAC 320 เพราะใช้ iPod/iPad อยู่ ทีนี้มีบางแผ่น ที่หาซื้อไม่ได้ แต่ไถรุ่นพี่มา เลยเปลี่ยนมา Rip
เป็น MP3 เพราะเอาไปเปิดกับ Player อื่นได้ ล่าสุดคืนวันเสาร์ งานปีใหม่ จับได้ DVD แบบมีจอ 7" ในตัว ของ sony
(เสียดาย รางวัลใหญ่เป็น iPhone 5) ไม่กากนะ ค้น ๆ ในเน็ตดู ตอนออก 6,990 บาท (แต่อยากได้เป็นตังค์มากกว่า)
นอกเรื่องเยอะล่ะ วกกลับมา ก็อย่างที่บอก แปลงเป็น MP3 แล้ว สามารถเอาไปเปิดกับ Player อื่นได้ อย่างโซเน่าที่ผมได้มา
มันไม่รับไฟล์เสียงอื่นเลย นอกจาก MP3

หรือทำอย่างท่าน #26 ก็ดีนะครับ blind test วัดกันไปเลย
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 58

tine_lnw

27/12/2012 09:27:25
0
ผมเล่น หูฟัง เป็นของเล่น ของสวยงาม ของสะสม มากกว่า เป็นหูฟัง แหน่ะครับ

พูดง่ายๆคือ หาความสุขทางตา จากหูฟัง มากกว่าความสุขทางหู อ่ะครับ ^^

เพราะหูกระป๋องอย่างผมฟังหูอะไร เพลงอะไร ก็เพราะไปหมดอะครับ (ยกเว้นเพลงร็อคหนักๆ)

Flac กับ MP3(320kbps) ผมฟังออกแยกออกตรงที่ ความสว่าง กับความขุ่น แค่นั้นแหละครับ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 59

GopGap09

27/12/2012 09:47:36
2
เคยเอา flac มาแปลงเป็น mp3 ใช้ foobar2000

ตอนนั้นผมแยกออกนะ เสียง mp3 มันแห้งกว่านิดๆ

แต่ตอนนี้เริ่มฟัง mp3 จนชินแล้ว เริ่มแยกไม่ออกแล้วครับ อิอิ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 60

ปุ๊ทะลิ

27/12/2012 17:45:21
ผมว่าผมแยกออกนะ แต่มีข้อแม้คับว่า flac กับ mp3 ต้องได้มาจากต้นฉบับที่ได้รับการบันทึกมาค่อนข้างดี หูฟังต้องมีคุณภาพ ไม่ว่า มิติ/ตื้น/ลึก/ใกล้/ไกล/มวล ฟังออกชัดเจนคับ flac ฟังแล้วเสียงแต่ละเสียงจะวางตำแหน่องค่อนข้างชัดเจน แยก layer อิสระจากกัน ส่วน mp3 เสียงแต่ละเสียงค่อนข้างกอดตัวกัน บางครั้งถ้าดนตรีโหมขึ้นมาเร็วๆเยอะๆพร้อมๆกันจะค่อนข้างครุมเครือทีเดียวครับ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 61

nuuuuu

28/12/2012 22:52:16
0
เอามาฝากครับบทความของคุณmiki จากเว็ปgotoknow
ไฟล์เพลงหรือไฟล์ออดิโอมีอยู่ 3 ประเภทด้วยกันคือ ไฟล์เพลงชนิดที่ไม่บีบอัด ซึ่งจะมีขนาดค่อนข้างใหญ่ ไฟล์เพลงที่บีบอัดแบบลดคุณภาพ และไฟล์ที่บีบอัดแต่ไม่ลดคุณภาพ

ชนิดของไฟล์เพลง

1. ไฟล์เพลงที่ไม่บีบอัด

WAV (WAVe PCM Sound) เป็นรูปแบบของไฟล์เพลงมาตรฐานที่ใช้ได้ในระบบปฏิบัติการ Windows ไมีมีการบีบอัดทำให้ไฟล์มีขนาดค่อนข้างใหญ่ แต่เป็นไฟล์ที่มีคุณภาพของเสียงที่ดี ขนาดของไฟล์จะขึ้นอยู่กับ sampling frequencey, รูปแบบของเสียง (mono หรือ stereo) และจำนวนบิตที่ใช้
AIFF (Audio Interchange File Format) เป็นรูปแบบเสียงที่คล้ายกับ Wave ไม่มีการบีบอัดข้อมูลจึงทำให้คุณภาพเสียงดีแต่ไฟล์มีขนาดใหญ่ ถูกพัฒนาขึ้นโดยบริษัท Apple Computer และใช้เป็นไฟล์มาตรฐานบนเครื่อง Macintosh
CDA (CD Audio track) CD Audio (.cda) track เป็นไฟล์ที่ถูกจัดเก็บไว้ในแผ่นซีดีเพลง ซึ่งเราสามารถเล่นไฟล์นี้ได้ด้วย CD-ROM เท่านั้น ในไฟล์ .cda จะไม่มีส่วนของเพลงจริง ๆ รวมอยู่ด้วยเป็นเพียงตัวที่เชื่อมโยงไปถึงเท่านั้น ดังนั้นถาเราก๊อปไฟล์ .cda จากแผ่นซีดีมาไว้ในฮาร์ดดิสก์ก็จะไม่สามารถเล่นเพลงได้.

2. ไฟล์เพลงที่มีการบีบอัดและลดคุณภาพ

MP3 (MPEG-1 Layer 3)เป็นรูปแบบที่กำลังเป็นที่นิยมมาก ณ ขณะนี้ เนื่องจากไฟล์ที่ได้มีขนาดเล็กแต่คุณภาพขอเสียงไม่ได้ด้วยไปกว่าเพลงที่ฟังจากแผ่นซีดีเพลง แผ่นซีดี 1 แผ่นสามารถเก็บเพลงในรูปแบบ mp3 ได้ถึง 200-250 เพลง ในขณะที่ซีดีเพลง .cda ธรรมดาได้ได้เพียง 20 เพลงเท่านั้น
MP3 Pro เป็นรูปแบบที่พัฒนาต่อมาจาก mp3 โดยให้ไฟล์ที่มีขนาดเล็กลงครึ่งหนึ่งของ mp3 เดิมในขณะที่คุณภาพเท่ากัน
Ogg Vorbis เป็นรูปแบบที่พัฒนามาแข่งกับ mp3 โดยสามารถบีบอัดไฟล์ให้มีขนาดที่เล็กกว่า แต่คุณภาพเสียงที่ดีกว่า แต่ยังมีการใช้ยังไม่แพร่หลายเท่า mp3
WMA (Windows Media Audio) เป็นไฟล์เพลงในรูปแบบของ Microsoft Windows ที่ให้ไฟล์ที่มขนาดเล็กกว่า mp3 ในระดับคุณภาพที่เท่าเทียมกัน ไฟล์ wma ที่บิตเรท 64K จะให้คุณภาพเสียงเท่ากับแผ่นซีดีเพลง (.cda) เลยทีเดียว
Nero Digital Audio (HE-AAC) เป็นการบีบอัดไฟล์ในรูปแบบ mp4 (MPEG Audio Layer 4) ที่ให้คุณภาพเสียงที่ดีกว่า mp3 ถึง 30% ที่บิตเรทที่เท่ากัน และยังสามารถรองรับระบบเสียงในแบบ 5.1 แชลแนลด้วย เดิมจะรู้จักกันในชื่อ AAC มากกว่า
M4A (MPEG-4 compressed audio file) MP4A จะใช้การบีบอัดข้อมูลเช่นเดียวกับไฟล์วีดีโอ .MP4 แต่ไม่มีส่วนของคุณภาพ
TWIN VQ (Transform-domain Weighted INterleave Vector Quantization) เป็นรูปแบบที่ให้คุณภาพเสีงที่ดีที่ีบิตเรทต่ำ เช่น ไฟล์เพลงที่บีบอัดมาที่บิตเรท 96 kbps จะให้คุณภาพใกล้เครยงกับไฟล์ mp3 ที่บิตเรท 128 kbps แต่ไม่เป็นที่นิยม

3. ไฟล์เพลงที่มีการบีบอัดแต่ไม่ลดคุณภาพ

APE (เอพ) APE เป็นรูปแบบของไฟล์เพลงที่ถูกบีบอัดโดยไม่ลดคุณภาพ ซึ่งต่างจากไฟล์ mp3 หรือ ogg ซึ่งการลดขนาดไฟล์โดยไม่ลดคุณภาพนี้จะต้องอาศัยขั้นตอนที่ซับซ้อน โดยการตัดช่วงความถี่ที่มนุษย์ไม่สามารถได้ยิน คือต่ำกว่า 20 Hz และสูงกว่า 40,000 Hz ออกไป จากนั้นจะใช้เทคนิคการคืนข้อมูลเสียงที่ถูกบีบอัดไว้กลับสู่สภาพตั้นต้น ไฟล์ APE นี้จะถูกสร้างจากโปรแกรม Monkey's Audio จึงใช้ชื่อว่า ape (เอพ) ที่แปลว่าวานรโดยผลจากการสร้างเราจะได้ไฟล์ .ape ที่สร้างจากแทร็คเพลงทุกแทร็คจากแผ่นซีดีเพลงรวมกันอยู่ในไฟล์เดียว (image file) พร้อมทั้งไฟล์ .cue ที่เป็นตัวบอกชื่อเพลง, ความยาวของเพลง และตำแหน่งเริ่มต้นของแต่ละเพลง ซึ่งเมื่อใช้ไฟล์ทั้งสองร่วมกันจะทำให้คุณภาพของเสียงเหมือนซีดีต้นฉบับเลยทีเดียว ในการเล่นเพลงจาก ape นี้ขอแนะนำให้ใช้โปรแกรม foobar 2000 ซึ่งสามารถเล่นเพลงจากไฟล์ cue ที่เชื่อมไปยังไฟล์ ape เพื่อเลือกฟังเพลงแต่ละเทร็คได้อย่างอิสระ
FLAC (Free Lossless Audio Codec) FLAC มีลักษณะคล้ายกับไฟล์ mp3 แต่ไม่ลดคุณภาพของไฟล์ โดยไฟล์เพลงจะถูกบีบอัดให้เล็กลงแต่ไม่มีการลดคุณภาพใด ๆ เลย โดยใช้การบีบอัดเช่นเดียวกับโปรแกรม zip แต่มีคุณภาพที่ดีกว่าเพราะออกแบบมาสำหรับไฟล์เพลงโดยเฉพาะ
WV (WavPack lossiess compressed audio file) ไฟล์ .WV สามารถบีบอัดไฟล์เสียงให้อยู่ในรูปแบบของไฟล์ .WAV ได้สามารถรองรับระบบเสียงรอบทิศทางและอัตราการสุ่มที่ความถี่สูงข้อมูลจะถูกลดขนาดลงประมาณ 30% ถึง 70% นิยมใช้ในการบีบอัดไฟล์เพลงทั่ว ๆ ไปได้ และให้คุณภาพที่ดียิ่งขึ้นเมื่อใช้กับเพลงที่มีช่วงไดนามิคกว้าง ๆ เช่น เพลงคลาสสิค เป็นต้น WavPack นี้เป็นรูปแบบที่เปิดให้ใช้งานฟรี ซึ่งพัฒนาโดย David Bryant
CUE (Cue Sheet6) ไฟล์ cue sheet หรือที่เรียกกันสั้น ๆ ว่า cue เป็นไฟล์ข้อความธรรดาที่เก็บข้อมูลเกี่ยวกับการจัดวางแทร็คเพลงของไฟล์ที่แปลงมาจากแผ่นซีดีโดยตรง โดยประกอบด้วยส่วนของชื่อเพลง ชื่อศิลปิน และตำแหน่งของเพลงแต่ละแทร็ก ไฟล์ cue นี้จะนิยมใช้ในการฟังหรือไรท์แผ่นจากไฟล์ที่ดึงมาจากแผ่นซีดีทั้งแผ่นที่รวมทุกแทร็คไว้ในไฟล์เดียว (image file) ซึ่งอาจเป็นไฟล์ wav, wv, ape, flac หรือ bin ก็ได้ ซึ่งไฟล์ cue นี้สามารถเปิดด้วยโปรแกรม notepad เราสามารถที่จะแก้ไขส่วนต่าง ๆ ได้เอง ยกเว้นส่วนของ INDEX ซึ่งเป็นตำแหน่งเริ่มต้นของแต่ละเพลงที่เราไม่ควรไปยุ่ง
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 62

yakkyhero

29/12/2012 00:12:03
ไม่ต้องถกเลยครับ เรื่องนี้ แยกออกชัวร์ เพราะ bitrate ของ mp3 ,yodHc8j 320 ครับ แต่ถ้า flac นี่คร่าวๆ ประมาณ - + 1000 ต่างกันเกือบ 3 เท่า นี่ไม่นับไฟลล์ที่บิทเรทสูงปรี้ด รับรองครับ แทบไม่อยากฟัง mp3 เลย
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 64

Bapaipow

28/11/2017 21:52:22
1
เหอๆ กระทู้ ปี 2012 แล้วนะทั่น ไปขุดมาทำไมเนี่ย
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 65

Artnoi

29/11/2017 10:05:37
425
mp3 มีอัลกอริธึมที่เข้ารหัสแบบ lossy ที่ใช้ประโยชน์จากขีดจำกัดของหูมนุษย์ เสียงที่เบาเกินที่คนส่วนใหญ่จะได้ยินจะถูกตัดไปเพื่อประหยัดพื้นที่เก็บข้อมูล ซึ่งส่วนใหญ่(แต่ไม่ทั้งหมด)จะเป็นความถี่สูงๆเพราะความถี่พวกนี่เสียงมันเบาอยู่แล้ว ทำให้เวลาคนจะเช็คว่า lossless แท้หรือแปลงมาจาก mp3 ก็จะดูที่ความถี่บนๆครับ

การที่มีคนแยกออกหรือไม่ออกเป็นปกตินะครับ เพราะ mp3 โดยพื้นฐานแล้วออกแบบมาเพื่อประหยัดพื้นที่ ในขณะเดียวกันก็พยายามจะ minimize audible loss ครับ

ผมยังสงสัยว่าเหล่า audiophile รุ่นใหญ่ (แก่)) ที่การได้ยินเสื่อมลงไปต่ำกว่า 16kHz จะแยกออกระหว่าง mp3 กับ flac ใน blind test ที่แปลงมาจากไฟล์เดียวกันรึป่าว ลองเทสต์ได้ใน ABX add-on foobar ไม่ก็ตามลิงค์นี้ครับ https://lifehacker.com/5903625/mp3-or-lossless-see-if-you-can-hear-the-difference-with-this-test
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 66

lukephong

29/11/2017 10:37:03
81
เท่าที่ลองเอง
- อุปกรณ์มีส่วนสำคัญนะครับ ควรจะคุณภาพดีระดับหนึ่ง ถ้าได้หูฟังหรือชุดที่ขี้ฟ้องจะฟังออกง่ายขึ้น ตัวอย่างเช่น เคยไปลองไบลน์เทสผ่านคอมพิวเตอร์แล้วต่อลำโพงที่แถมมากับเครื่องโดยตรง อันนี้จบข่าวครับ ฟังไม่ออกจริงๆ
- ต้องฟังในที่ไม่มีเสียงรบกวน
- ตามที่คุณ Artnoi บอก ดังนั้นเท่าที่สังเกตุบางเพลงจะฟังแทบไม่ออกจริงๆ ครับ แต่เพลงที่มีรายละเอียดเครื่องดนตรีเยอะๆ จะฟังออกง่ายกว่า และคนที่ประสาทการได้ยินเสื่อมลงระดับหนึ่ง คงจะยากแล้วครับ
- ถ้าจะเทียบจริงๆ ในเพลงเดียวกันควรใช้วิธีฟังไฟล์แต่ละประเภทจนชินหู (ด้วยอุปกรณ์ที่ดีในระดับหนึ่ง) แล้วลองสลับไปฟังไฟล์อีกประเภทหนึ่ง (ไฟล์ทั้งสองควรมาจากต้นทางเดียวกัน  rip ด้วยเครื่องเดียวกัน) จะฟังออกได้ง่ายขึ้นครับ

ว่างๆ สมองโปร่งๆ ทำใจให้เป็นกลาง ทางที่ดีหาผ้าผูกตา แล้วให้คนอื่นเปิดให้ฟัง ลองไปฟังดูนะครับ ไม่ต้องเชื่อใคร เชื่อหูเราเอง ฟังออกก็อย่าไปเคร่งเครียดเลยครับ คิดเสียว่ามีให้ฟังดีกว่าไม่มี ถ้าฟังไม่ออกก็ดีครับไม่เปลือง 
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 67

Jerdsilp sukhuminda

29/11/2017 10:45:08
10
ผมฟังพวกแนว power metal 320 k เทียบ flac แบบช๊อตต่อช๊อต เพลงเดียวกัน rip จากแผ่นเดียวกัน บ่องตง แยกไม่ออกเลยครับ อาจเพราะแนวเพลงมันดูรกๆด้วยหรือเปล่า ไม่แน่ใจ แต่ฟัง ballard นี่ก็แยกไม่ออกเหมือนเดิม โชคดีหูผมยังไม่เทพพอ เพลงไหนไม่มีแผ่น ก็ฟัง spotify ได้ไม่เสียอารมณ์ครับ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 68

Artnoi

29/11/2017 10:58:45
425
ผมว่าเวลาเปรียบเทียบ 2 ไฟล์ ต้องอย่าลืมว่ามันต้องมาจาก source เดียวกันนะครับ ไฟล์ Lossless กับ lossy ถ้ามาจากคนละ source คนละมาสเตอร์ ก็เปรียบเทียบกันไม่ได้แล้วครับ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
"ถก Flac กับ MP3(320kbps)"