ผมเองยังฟังไม่ออกเลยว่ามันต่างกันมั้ย - -* ฟังแล้วโอเค ฟังแล้วชอบ ไมต้องไปสนใจใครจะว่าอันไหนดีหรอกครับผมว่านะ ยิ่งรู้มากยิ่งเสียตังมาก *0* แล้วก้อมาจบที่มาม่า เหมือนเดิม ฮ่าๆๆๆ

ok ขอบคุงคับ เรื่องของเรื่องคือโหลด FLAC มันเสียแต้มเรโชเยอะ =.= เลยจาโหลด MP3 แทน ,ถ้าเสียงแทบไม่ต่างกันเลยก็ดีไป~

สำหรับผมบอกตรงๆ ถ้าไม่ใช่เพลงที่ฟังบ่อยๆซ้ำไปซ้ำมา....แยกไม่ออกเลยครับ ^^"

แค่เก็บ Flac ไว้เพื่อความสบายใจว่า "Losslessนะ" แค่นั้นแหละครับ

ปล.เผื่อเอาไปแปลงเป็น MP3 320Kbps ด้วย 555+

ถ้าอุปกรณ์ถึงก็ฟังออกได้ครับ แต่ก็ไม่ใช่ฟ้ากับเหวหรอก

เป็นการเก็บไว้เพื่อรักษาต้นฉบับไว้ให้มากที่สุดมากกว่า
เพราะยังไงมันก็คือการถอดสัญญาณดิจิตอลมาเก็บไว้นั่นเองครับ

ต่างครับ แต่จะแยกได้ชัดเจนก็หูระดับเกือบหมื่นขึ้นไป

ตอนนี้ใช้ HD598 ต่างกันแบบรู้สึกได้ครับ Flac อิ่ม แน่น กว่ามาก

ถ้ามีระบบ system ดีก็สามารถฟังออกได้นะครับ มันไม่ได้ขึ้นกับคุณภาพตัวหูฟังอย่างเดียว

แล้วกรณีใช้ AMP หรือ DAC เสริม ,MP3 320k หรือ FLAC เหมาะ(ดี)กว่ากันครับ

แล้วแต่ต้นฉบับครับ บางเพลง 128 kbb ยังเสียงดีกว่า 320 เลย

+1 แล้วแต่ต้นฉบับด้วยครับ แต่ถ้าริปมาจากตัวเดียวกัน ก็ต้อง system ดีๆหน่อยครับ หูฟังราคาพันสองพันยังแทบจะฟังไม่ออกครับ

ต่างแน่นอนครับ แต่ไม่มากมายอะไรเท่าไร หากเคยฟัง flac มานานๆ แล้วเปลี่ยนเป็น 320 จะรู้เลยครับ ว่าต่าง เพลงเดียวกันนะครับ แต่ถ้าไม่เครียดจริงจัง ไรมาก 320 ตอบโจทย์ได้ดีครับ เสียงโอเค ประหยัดพื้นที่ ประหยัดแบต

และนอกจากที่ว่ามาตัวเล่น (player) ก็ส่งผลต่อไฟล์ 2ฟอแมตต์นี้เหมือนกัน

หากตัวเล่นรองรับ flac แต่ถอดรหัสได้ไม่ดี บางทีเสียงห่วยกว่า mp3 ซะอีก
แต่ถ้าโปรแกรมพร้อม เครื่องเล่นพร้อม ลำโพงขับพร้อม system ดีๆยังไงก็น่าจะพอฟังออกครับ

ที่ชัดเจนที่สุดน่าเป็น filling หรือความรู้สึกอารมณ์เพลงที่สัมผัสได้ ตรงนี้จะแตกต่างกันชัดหน่อย

ok ขอบคุงคับ

เมื่อก่อน ตอนแรก ผมแยกแค่ FLAC กะ 320kbps ออก

ใน iriver + pk2 คับ แต่ แยก flac กะ wave ไม่ออกเลย

ตอนนี้ใช้ DX100+ HE500. แยก FLAC กะ wave ออก

ได้แล้ว แถมแยก wave
16 bit 44.1khz
24 bit 48khz
24 bit 96Khz
24 bit 192Khz

ออกจากกันได้ทั้งหมดคับ พอดีผมมีเพลงเดียวกันแต่หลาย
ความละเอียด เลยเทียบได้ แต่ถ้าฟังผ่านๆ wave 16 bit
ผมว่าพอละคับกะ Dx100

ผมใช้ ลำโพงคอม + ซัพ 2.1 พอฟังออกนะ แต่มันต่างกันน้อยครับ ที่จับได้ว่าต่างคือเรื่องมิติเสียง Flac เหมือนมีความอลังการเวิ้งว้างเข้ามาเพิ่ม แล้วก็เนื้่อเสียง Flac จะมากกว่านิดๆครับ

ส่วนถ้าหูฟังระดับแพงๆเลยไม่เคยลองครับไม่มีตังซื้อ 5 5+

ผมว่า เทคนิคการอัด เครื่องดนตรี ประเถทเพลง ก็มีผลครับ

ต่างกันแน่ครับ แต่ขึ้นกับหูแต่ละคนว่าจับความแตกต่างนั้นได้หรือเปล่า

เพราะมันต่างกันในระดับที่้ต้องใช้สมาธิเพ่งจับกันเลย สำหรับผมนะ

-ถ้าเพลงที่เพิ่งเคยฟังครั้งแรก (หรือไม่คุ้น) ผมแยกไม่ออก

-ถ้าเพลงที่เคยฟังบ่อยๆ เช่น เพลงนี้เคยฟังแบบ 320kbps พอเปลี่ยนเป็นแบบ lossless จะรู้เลยว่ามันต่างกัน

ตามพี่หมอลีเลยครับ
ผมก็ใช้dx100+he500 ฟังออกครับ

ถ้าhddเหลือเก็บlosslessไม่เสียหายครับ

- ต้องเอาเพลงทืี่ชอบฟัง ลอง rip จากแผ่นครับ เป็น flac กัย mp3

จะต่างกันนะ ฟังดีๆ ของผมชัดนะ แต่ flac กับ wav ผมยังแยกไม่ออกครับ

ปล. ผมฟังพวก ear bud ไม่ออก ลองฟัง full size / inear ดูครับ แยกง่ายกว่า สำหรับผมนะ

ในเว็บ bit ส่วนมากเป็นการนำMP3 ไปแปลงเป็นFlac เพื่อหลอกไคนโหลดคิดว่าดีแล้วก็ได้เรโช เพิ้มขึ้นครับ ที่ต่างไม่มากไม่น่าแปลกใจ บางทีแย่กกว่าด้วยช้ำ

เอาเรื่องเสียงอย่างเดียวนะครับ
เบื้องต้นเลย 320 สูกับ lossless
พวก 320 โดยปกติจะถูกตัดความถี่ช่วงบนๆๆๆๆ
กับล่างๆๆๆๆ ออกไปประมาณว่า
แหลมแบบสุดๆใกล้ๆ 20khz แล้วก็พวก deep bass
จริงๆก็ถ้าไปดูพวกกราฟจะเห็นเลยว่ายอดภูเขามันเตี้ยกว่า
เป็นสาเหตุว่าทำไมฟังแล้วรู้สึกว่ามันกุดๆ หางมันสั้นๆห้วนๆ

เรื่องต่อมาคือความเข้มข้นของเนื้อเสียง
ตรงนี้อาจจะฟังยากขึ้นซักหน่อยแต่ก็ไม่ใช่ว่าจะฟังไม่ออก
บางคนอาจจะฟังแล้วรู้สึกว่ามันแค่ดังกว่า
แต่จริงๆเนื้อเสียงมันมีความข้มข้นกว่าและเปิดมากกว่า

แต่ก็ใช่ว่า lossless จะดีกว่าเสมอไป
อย่างอัลบั้มในไทยหลายๆวง ยิ่งวงร๊อคชื่อดัง
พอผมฟัง lossless แล้วมันสู้ 320 หรือ 192 ไม่ได้จริงๆ
เพราะไอเสียงที่กุดๆและหลบๆนี่แหละมันซ่อนมันลบ
พวกสิ่งที่ไม่ดีจากการอัดอย่างไม่พิธีพิถันมันออกไป

ส่นพวก flac กับ eav นี่ต้องใช้ชุดที่มีความอ่อนไหวเยอะๆหน่อยครับ
ถึงจะฟังออกง่าย ถ้ามันอ่อนไหวไม่พออาจจะฟังยากหรืออาจจะแยกไม่ออกเลยก็เป็นได้

ปล.ทั้งหมดนี้ขึ้นอยู่กับประสบการณ์และประสาทรับรู้ส่วนบุคคลด้วยนะครับ

พวก lossless มันจะตัดความถี่ช่วงบนๆออก แต่320นี่น่าจะตัดน้อยมาก ผมใช้แค่MS1i + มือถือ แอมป์ไม่ค่อยใช้ แยกflac กับ320ยังไม่ออกเลย เลยใช่้ตัว320ครับ ประหยัดเนื้อที่

ปล. (มีไรหนุกๆเล่น)จขกท.อายุเท่าไหร่ครับ ลองเข้าเว็ป 4แชร์ แล้วพิมอันนี้นะ " 18kHz " ลองว่ายังได้ยินอยู่ไหม ถ้าอายุซัก40+ ส่วนมากจะไม่ได้ยินแล้วล่ะครับ ผมเปิดเสียงดังลั่นเลย แต่ พ่อ แม่ ป้า ลุง ยาย บอกว่าเงียบกริบ แต่ผม พี่ เพื่อน ได้ยินกันลั่นห้องเลย

พวกที่บอกแยก flac กับ wav ออก อยากจับมา blind test จริงๆเลย
ขนาด flac กับ 320 ยังเห็นตายกันมาเยอะแล้ว 555+

คุณภาพเสียงต่างกันไหม?-> ต่างกันค่ะ แต่ขึ้นอยู่กับปัจจัยต่างๆ ต่อไปนี้

ลักษณะของเพลงที่ฟัง-> ถ้าฟังเพลงป๊อบแดนซ์แบบที่ไม่มีรายละเอียดเพลง มันก็ไม่ต่างกันค่ะ เพราะมันไม่ใช่เพลงที่จะต้องไปนั่งเพ่งฟัง หรือถ้ามันเป็นเพลงเกม 8 บิท คงไม่ต้องฟัง FLAC หรอก

ใครเป็นคนเล่นดนตรีและใครเป็นนักร้อง-> เช่น ถ้าวงนี้ ถ้านักดนตรีดี เล่นดนตรีได้แน่น เสียงสุดยอด เรียกว่ากลองก็แน่น คีย์บอร์ดพริ้ว เครื่องสายแว่นหวานมาเลย นักร้องเก่งมากๆ ร้องจากกระบังลมได้ มีโทนเสียงกังวาล ขึ้นเสียงสูงงงงงงงงง ได้ไม่เพี้ยน ลงต่ำก็ยังนุ่มนวล ทำเสียงแหบนิดนึง สลับเสียงใสหวานได้อีก (สุดยอดดด) เพลงย่อมมีรายละเอียดที่ดีและมีปลายเสียงที่น่าฟัง ซึ่งปลายเสียงและรายละเอียดเหล่านี้อาจจะถูกตัดออกใน MP3 320k แต่ถ้าเพลงไม่มีอะไรเลยก็ไม่มีอะไรต้องไปเพ่งฟังค่ะ

การบันทึกเสียง-> อย่างที่บอกกัน ว่าวงร็อกวงหนึ่งของไทย เพลงดีมากค่ะ แต่การบันทึกเสียงในครั้งนั้นออกไปทางห่วยมาก ฟังบิทเรทต่ำๆ จะดีกว่า แต่ถ้าเพลงบันทึกเสียงมาดี ย่อมฟังรายละเอียดเพลงได้ง่าย

อุปกรณ์ที่ใช้ฟัง-> ของดีย่อมฟังออกง่ายกว่าเพราะมันโชว์รายละเอียดเพลงออกมามากกว่าค่ะ แต่บางเพลงระบบถูกๆ ก็ฟังออกได้ เช่น ออเครสตร้าบางเพลง ใช้ earbud ตัวไม่ถึงพันก็ฟังออกค่ะ รู้สึกได้เลยว่าเสียง FLAC กับ MP3 320k มีความไพเราะและต่อเนื่องของเครื่องสายต่างกัน


หูคนฟัง-> สำคัญมากค่ะ เพราะหูคนไวไม่เท่ากัน รายละเอียดบางอย่างอาจจะมีคนที่ได้ยินและไม่ได้ยิน บางคนพยายามจะแยกให้ออกด้วยการเร่งเสียงให้ดังขึ้นมากๆ ซึ่งเป็นอันตรายค่ะ หลายคนเปิดดังมาก ขนาดใส่ earbud แต่คนที่อยู่คนละมุมห้องยังได้ยิน บางคนใส่หูฟังระบบ close แต่คนที่ยืนห่างไปเป็นเมตรยังได้ยิน

blind test ทำได้ค่ะ แต่ต้องคุมปัจจัยต่างๆ ตามที่บอก จึงจะเห็นผลชัดเจน รวมถึงเรื่องความดังของเสียงด้วย

+1 คุณ พิงค์ฟรอยด์ ครับ

Flac มันจะรู้สึกแน่นๆกว่าฮึ่มๆกว่า รู้สึกได้แค่นี้เองครับ บางเพลงก็ไม่รู้สึก

แต่รู้ว่าสบายใจครับ 555

ผมว่า Flac มันให้มิติที่ดีกว่า กับรายละเอียดเล็กๆ น้อยที่ Mp3 ไม่มีครับ

ถ้าหูฟังแยกยากครับสำหรับผม
แต่ถ้าออกลำโพง นี่ชัดเลยต่างกันเยอะ ระหว่าง flac กับ 320k

ok ขอบคุงคับ, ปกติ FLAC จะมี Bitrate สูงมาก ,ความคมและรายละเอียดของเสียงย่อมมากกว่า แต่ถ้าเอาไปใช้กับ AMP มันจะขยายลายละเอียดบางช่วงจนเป็น noise ป่าวครับ หรือ mp3 ที่มีรายละเอียดเสียงน้อยกว่าจะเหมาะกับ AMP มากกว่า?

ลักษณะของเพลงที่ฟัง-> ถ้าฟังเพลงป๊อบแดนซ์แบบที่ไม่มีรายละเอียดเพลง มันก็ไม่ต่างกันค่ะ เพราะมันไม่ใช่เพลงที่จะต้องไปนั่งเพ่งฟัง หรือถ้ามันเป็นเพลงเกม 8 บิท คงไม่ต้องฟัง FLAC หรอก
ู^
^
^
ผมเห้นด้วยกับตรงจุดนี้ครับ เพราะผมฟังเพลงแนวนี้ มันไม่ได้ใช้ดนตรีอะไรเยอะแยะเลยไม่ต้องไปเพ่งฟังอะไรมากมาย อย่างที่คุณฟริ้งฟรอยบอกจริงๆครับ ดนตรีสมัยใหม่ ไม่ได้ใช้เครื่องดนตรีเยอะ ฟังเอามัน รายละเอียดพอมี เปนดนตรีสังเคราะสะส่วนใหญ่ *-*