ใครที่แกะกล่องเจ้า Ayre QB-9 คงต้องแปลกใจเหมือนผม เจ้ากล่องของ Ayre นั้นเค้าทำข้างในครอบ 2 ชั้น

และมีพลาสติกใสขึงให้ตึงเพื่อกันกระแทก มองไปมองมา อ้าวเฮ้ย นี่มัน DAC ติดระบบ Air Back เหมือนในรถยนต์เลยหรือนี่ๆๆๆ 555

เวลาผมแกะกล่องเปิดของใหม่ๆๆ ผมต้องตั้งจิตอธิษฐาน อย่าให้มือไม้สั่นทำหลุดมือลงไปซะก่อน ไม่งั้นแทนที่จะได้เล่น พาลจะกลายเป็นลมไปซะก่อนว่างั้น

Ayre QB-9 เค้าบรรจงห่อมาดิบดีจริงๆ มีโฉนดแปะมาในห่อ 1 เล่มครับ

แล้วผมก็นิมนต์เณรแอ เอ๊ย เชิญน้องแอร์ขึ้นบนโต๊ะทดลองของผม 555

ตอนนี้ผมต่อโต๊ะตัวใหญ่ๆ วางไว้ข้างเตียงนอนเลยล่ะครับ หมดไปเกือบสองหมื่นบาท ได้โต๊ะกับหลอดไฟ LED มาหน่อยเดียว 555

ผิวพรรณขาวเนียนจริงๆๆ มันเรียบสวย จนผมไม่กล้าจับเต็มๆๆ เพราะกลังขี้มืออันแสนสกปรกของตัวผมเองจะไปติดที่ตัวถังของคุณน้องแอร์นั่นเอง 555

โต๊ะทดลองของผมนี่ ผมออกแบบให้วางของแล้วถ่ายรูปได้เลยล่ะครับ เรียกว่ามีอะไร ผมจับวางบนโต๊ะแล้วถ่ายเลย จะได้สะดวกยิ่งขึ้นจ้าๆๆๆ

Ayre QB9 มีช่องบาลานส์เอ้าท์ และ RCA Out ให้มาอย่างละ 1 คู่ และมีซีเล็คเตอร์เล็กๆให้เลือกปรับใช้ได้กับ USB Class 1 หรือ Class 2 และยังเป็นซีเล็คเคอร์คอนโทรลส่วนอื่นๆ แต่ผมยังไม่ได้อ่านละเอียดนักครับ

ปรับแค่ให้มันรับเป็น USB Class 2 เพื่อให้รับสัญญาณได้สูงถึง 192 นั่นเองครับ

DAC ayre นั้น เป็นพวก “Asynchronous USB” คือไม่ต้องอาศัยนาฬิกาที่ตัวคอมพิวเตอร์ แต่อาศัย Clock ในตัวของมันเอง ในการควบคุมความเที่ยงตรง ทำให้ตัดพวกอุปกรณ์ต่อพ่วงอื่นๆ ออกไปได้ ซึ่งทำให้ประหยัดสตางค์ไปได้อีกแยะล่ะครับ

และที่สำคัญ Ayre นั้นตัดสิ่งที่ไม่จำเป็นออกหมด ให้เหลือแต่ช่อง USB อย่างเดียว ซึ่งถือว่ามั่นใจในปรัชญาการออกแบบว่างั้นครับ คือแน่วแน่กันไปเลยทางเดียว

แล้วผมจะมารีวิวน้องแอร์ Ayre QB-9 ให้ทราบกันอีกที เพราะทางเดโคบอกกับผมว่า เบิร์นนานมากๆๆ สำหรับตัวนี้ ซึ่งผมไม่ค่อยกลัวนักกับเรื่องเบริ์นอิน

DAC ตัวนี้ไม่ใช่ออกใหม่ แต่รับรองว่าอยู่ไปอีกยาว เพราะทาง Ayre นั้นไม่มีคิวที่จะผลิต DAC พิกัดเดียวมาแทน QB-9 จะผลิตอีกทีคราวนี้ตัวละหลายแสน ซึ่งเป็นรุ่นใหญ่กว่าไปเลยล่ะครับ

สำหรับ DAC Ayre QB-9 นั้น ท่านใดสงสัยประการใด โพสถามมาได้นะครับ เพราะผมมีตัวจริงๆ เล่น และน่าจะค้นคำตอบให้ท่านได้ ในกรณีที่ติดขัดปัญหา หรือถ้าไม่ทราบจริงๆ ผมก็จะไปถามมาให้จนกว่าจะทราบล่ะครับ 5555

และที่แน่นอน ท่านใดสนใจ สามารถสอบถามราคากับผมได้ เพราะที่ผมก็มีเจ้า DAC Ayre ตัวนี้จำหน่ายในร้านมั่นคงเช่นกันจ้าๆๆๆ 555


เดี๋ยวจะมารีวิวเรื่องเสียงกันอีกในภาคต่อไปนะคร้าบบบ

นึกว่าจะมีผมบ้าใช้อยู่คนเดียวซะแล้ว 5555

ของเค้าดีจริงครับ คอนเฟิร์ม

ยี่ห้อนี้ผมใช้มาก่อนเฮียมั่นจะเป็นตัวแทนซะอีก ทั้งCDPและDACครับ

มีอะไรที่ผมพอจะช่วยได้ก็ยินดีครับ

แหมป๋าคณิต เค้ารู้ว่าตัวเองเป็นพี่ใหญ่มาก่อนเค้านะเธอ 555


ยังไงชอบใจตัวไหน ป๋าคณิตแนะนำพรรคพวกส่งมาที่ผมได้นะครับ เที่ยวนี้ผมมีเจ้า QB9 วางไว้ให้ลองที่ประตูน้ำยังไม่จบแค่นั้น

ตัวผมเองลองเอง แล้วโดนซะเองเฉยเลย 5555

ก่อนหน้านี้ผมลองเล่นDACมาหลายยี่ห้อหลายระดับราคา ทั้งของฝรั่ง ของญี่ปุ่น ของจีน ผ่านมาเยอะ

แต่สุดท้ายก็มาจบที่ตัวนี้ทั้งๆที่ผมไม่ค่อยเชื่อในตอนแรกว่าไอ้ตัวกระเปี๊ยกเนี่ยเหรอจะเสียงดีสู้ไอ้พวกตัวใหญ่ๆที่มีเครื่องในแน่นเปรี๊ยะได้ แถมใช้สายสัญญานได้แค่USBอีกตะหาก

แต่ด้วยความประทับใจในเสียงของตัวCDPยี่ห้อเดียวกันที่ใช้อยู่เลยทำให้ผมกล้าเสี่ยงลงทุนกับมัน

แล้วสุดท้ายผมก็ไม่ผิดหวังครับ

อย่าไปมองแต่ขนาดหรือรูปร่างหน้าตาที่เล็กกะทัดรัด หรือเครื่องในที่ดูไม่อลังการงานสร้างเหมือนบางยี่ห้อ ลองสัมผัสมันด้วยตัวของคุณเองแล้วคุณจะรู้ว่ามันเล็กพริกขี้หนูจริงๆครับ

เฮีย ห้ามไปอ่างพร้อมป๋า เด็ดขาดนะครับ ไม่งั้น แย่งกันตาย :P

นั่นน่ะซิพี่ตั๋น มีหวังได้ตีกันเพราะแย่งตัวเดียวกันนี่ล่ะ จ๊ากๆๆๆๆ 555



พี่คณิตครับ ผมเองก็ไม่ค่อยเชื่อเท่าไหร่ เห็นมาเป็นปีๆแล้ว แต่ก็ไม่เชื่อเนื่องจากขนาดมันเล็กๆ และยิ่งไม่เชื่ออีตรงมันรับได้แค่ USB แต่เอาเข้าจริงๆ แล้ว ผมเองก็ใช้แค่เท่านี้นี่นา

และยิ่งไปฟังเต็มๆที่เดโคมาหลายๆรอบ กลายเป็นตัวเองต้องเสร็จซะเองครับ


บอกตามตรงเท่าที่ฟังมา เจ้า Ayre QB9 คือโคตรของเสียงแห่งอนาลอกแล้ว คือมันกลมกล่อมจนแทบลืมไปว่ากำลังฟังจากไฟล์ดิจิตอลล้วนๆๆๆ


อีกไม่กี่วันก็ต้องไปเสร็จสาย USB blue heaven อีกแล้ว ตายๆๆๆๆๆ 55555

ป๋า เฮียมั่นคร้าบบบบ มันตัวละท่าใด จะหยอดออมสินรอ จ้า

เอ้าเฮียลูกค้ามาแล้วครับ เข้ามาขายของหน่อย

นี่ขนาดยังไม่ได้รีวิวกันแบบจริงจังเลยนะเนี่ย

555

น้องแอร์นี่สวยจริงๆ

แล้วก็แอบเห็นชั้นวาง ktt น่าจะมีกันทุกบ้านนะคร๊าบ ^^

ขอบคุณครับพี่คณิต ชงลูกขึ้นมาให้ซะดิบดีเลย 555


เจ้า Ayre QB-9 ราคาจะถือว่าแรงก็ไม่ถึงกับมากมายนัก แต่ถ้าเทียบกับความสามารถที่มันทำได้แบบเฉพาะทาง (คือเป็นอะซิงโครนัส ยูเอสบี) ซึ่งผมถือว่า Ayre เค้าเลือกทางเดินเลยล่ะครับ ว่าจะทำเป็นแบบนี้ และเอาดีทางด้านนี้ไปเลย

สุ้มเสียงนั้น ตัวของผมเพิ่งแกะกล่องซิงๆๆ ไม่ได้เบิร์น แต่เท่าที่ฟังจากตัวที่เบิร์นแล้ว และฟังกับไฟล์ Hires ดีๆๆ มันออกโทนสมจริง และให้เนื้อเสียงที่เนียนละเอียด ความหยาบกร้านของปลายแหลมนั้นไม่มีให้ได้ยิน มิตินั้นไม่ต้องพูดถึงกันเลย ผมว่าอยู่ในเกณฑ์ดีเยี่ยม ชิ้นหน้า ชิ้นหลัง ตำแหน่งต่างๆ ถูกตรึงไว้ดีมาก อาการวอกแวกไม่มีอยู่เลยก็ว่าได้

ว่าแล้วก็แจ้งราคา...............จ๊ากๆๆๆ 555 งานนี้หยอดกระปุกไม่ทันกาลครับ ต้องถึงขั้นเอาค้อนทุบเลยจะเวิร์คกว่าจ้าๆๆ 555


ราคาตั้งของทางศูนย์เดโค คือ 110,000 บาท แต่จะมีส่วนลดเป็นเปอร์เซ้นต์ให้อีกบ้างครับ ซึ่งผมยังไม่ได้เซ็ทไว้ เลยยังไม่โพสตรงนี้นะครับ ซึ่งถ้าชอบใจเมล์มาถามก่อนที่ mass_screen@hotmail.com ครับ เดี๋ยวจะจัดให้จ้าๆๆๆ 5555

Confirm ตามพี่คณิตว่า QB-9 เสียงดีจริงครับ แต่ burn in นานนนนนน มากกกกก

โอวว ยินดีมากๆๆครับ คุณ TMY 168 ผมเจอพี่น้องตระกูลเณรแอ เอ๊ย น้องแอร์อีกคนแล้วล่ะครับ 555

เสียงดีสมคำร่ำลือจริงๆๆๆ ฟังแล้วแทบจะลืมทำอย่างอื่นไปเลย อยากจะนั่งฟังๆๆๆๆๆ อย่างเดียวเลยล่ะครับ


ทุกท่านครับ นี่ไม่ใช่ผมขายเองแล้วเชียร์เองส่งเดชนะครับ ไอ้นี่ของจริงๆๆๆ เลยจ้าๆๆ 555

เมื่อวานหัดเล่น instagram ครับ เอ้าลองดูภาพกันหน่้อยว่าเป็นไงมั่ง ดาราเซเลปเล่นกันเยอะเกิ๊นๆๆๆ 5555

^
^
^
เฮียๆมัวแต่เห่อinstagramอยู่นี่เอง

มิน่าล่ะ ผมส่งข้อความผ่านWhatsappไปชาตินึงแล้วยังไม่เห็นตอบเรยยย

555

โธ่ ป๋า

ผมก็อินเทรนด์กับเค้ามั่งดิ พักนี้ instagram และตอนนี้เพิ่งโหลดแอป Socialcam มาเล่นคร้าบบบบ 555

whatsapp ไม่ได้เล่นนะคร้าบบ

โหเฮีย.. เข้า Socialcam ด้วยเหรอครับ 555

Socialcam ... สังคมแคม ?????

แหมทำเป็นไฮโซนะเฮีย

ไอ้ที่พื้นๆน่ะหัดใช้มั่งก็ดีนะเพราะเพื่อนๆหลายคนเค้าอาจจะไม่ใช่ระดับซีเล็บแบบเฮียน่ะ

5555

ไอ้สังคมแคมอะไรที่ว่า เพิ่งโหลดวันนี้เองครับ 555

ผมเป็นพวกเล็บมือนาง(ตีนไก่) ไม่ใช่เซเล็ปนะคร้าบบบ 5555

ท่านนักอ่านที่รักทุกท่านครับ ติดตามอ่านเกล็ดเล็กน้อย รวมถึงรีวิวของเจ้า DAC Ayre QB9 กันได้นะครับ ผมจะทะยอยพิมพ์ให้อ่านกันจ้า

วันนี้เดี๋ยวจะเล่าถึงฟังก์ชั่นต่าง ที่มีมาในตัวเจ้า QB-9 นี่ก่อนนะคร้าบบบ 555

มาเล่ากันเป็นรีวิวต่อนะครับ


เจ้า DAC QB9 นี่น่าจะเป็นรายแรกๆที่ทำ DAC ให้เป็น “Asynchronous USB” ครับ คือมี clock ส่วนตัวเป็นของตัวเอง ซึ่งทำหน้าที่รับข้อมูลมาจากคอมพิวเตอร์อีกทอดนึงก่อนจะส่งเข้าไปในชิพ DAC ภายในตัวมันเอง DAC ราคาย่อมเยาทั่วไป ส่วนมากจะอาศัย Clock จากตัวคอมเป็นตัวส่งข้อมูลและแปลงความถี่ ซึ่งมักเรียกว่า adaptive USB

ซึ่งโอกาสจะเกิด Jitter นั้นสูงกว่าว่างั้นล่ะ 555 เอาเป็นว่ารู้เท่านี้ก่อน เพราะเล่ามากกว่านี้เดี๋ยวจะโดนเซียนคอมโห่เอา เอาเป็นว่าเรารู้กันคร่าวๆ ประมาณนี้ก่อนครับ 555



ต่อไป เริ่มต้นจากแกะกล่องมา ท่านไม่ต้องไปควานหาปุ่มปิดเปิดนะครับ เพราะมันไม่ได้ทำมาให้่ครับ สิ่งที่เจ้า DAC Ayre QB9 นั้นจะแสดงให้เห็นก็คือหน้าจอ LED จากภายนอกนั่นเอง ผมจะเล่าให้ฟังคร่าวๆๆตามนี้นะครับ

- ถ้าเสียบปลั๊กเมื่อไหร่ ไฟจุดเขียวๆๆ จะขึ้น 1 จุด แสดงให้เห็นว่าไฟติดแล้วโว้ย ไฟเข้าเครื่องแล้ว ซึ่งหมายถึงสถานะ standby โหมดนี้จะติดแบบนี้ไว้ตลอด จนกว่าท่านจะดึงปลั๊กออกจากเครื่องนะครับ และถ้าติดไว้ มันจะมีไฟไปเลี้ยงวงจรไว้ตลอดเวลา ทำให้มีเครื่องมีอุณภูมิสูงบ้างเล็กน้อย ซึ่งถือว่าปกติของเจ้่า QB9 นั่นเอง

- หลังจากที่เราเสียบสาย USB เข้าที่หลังเครื่องของมัน และเราเปิดคอมด้วย ไฟขีดสีฟ้าๆ สามขีด จะติดไว้ให้เห็นทันที ตราบใดที่เราไม่เปิดเพลงฟัง มันก็ยังเป็นสามขีดแบบที่เห็นนี่ล่ะครับ แต่ถ้าเปิดไฟล์ฟังเมื่อไหร่ มันจะเปลี่ยนสถานะเป็นตัวเลขทันทีครับ

- สิ่งที่เป็นข้อดีมากๆๆที่ผมว่ามันแจ๋วดีก็คือการบอกสถานะว่าตอนนี้กำลังอ่านไฟล์ขนาดไหนอยู่นะครับ เพราะปัจจุบันเรามักจะมีไฟล์เพลงปนมั่วกันอยู่ในเครื่องเต็มไปหมด การโชว์หน้าเครื่องทำให้เกิดความมั่นใจว่า เราไม่ได้หูถั่ว และกำลังไฟล์เพลงที่ละเอียดๆๆ อยู่ 555

- เจ้า QB9 นั้นจะโชว์ตัวเลขไล่ตั้งแต่ 44 (มันแอบปัดเศษทิ้งนิดหน่อยครับ เพราะขี้เกียจให้มันยืดยาว) ไล่มาตั้งแต่ 44, 48, 88, 96,176, 192 ซึ่งมันอ่านได้เต็มไฟล์นะครับ เพียงแต่ปัดเศษทศนิยมออกแก้เซ็งเพียงเล็กน้อยเท่านั้นเอง

ดูรูปภาพประกอบตามไปเลยนะครับ

ด้านหลังของเจ้า QB9 นั้นไม่มีอะไรซับซ้อนมาก คือมีพอร์ต USB มาให้แค่พอร์ทเดียวที่เป็นช่อง input และมีช่อง output เป็นช่องบาลานส์ให้ 1 คู่ และช่อง RCA ให้อีก 1 คู่

ช่องเสียบไฟเป็น IEC เลือกใช้หัวปลั๊กมาตรฐาน after market ได้ทุกตัวครับ และที่เห็นแปลกตาไปเล็กน้อยคือมีตำแหน่ง selector มาให้ 4 ช่องเล็ก คือสามารถสวิทช์เลือกได้ว่าจะเอาแบบไหน

ซึ่งมันมีมาให้แบบนี้ครับ คือตัวแรกเป็น listen - Measure, Power A กับ Power B, Disp On - Disp Off, Rsrv A - Rsrv B

ซึ่งค่าที่โรงงานตั้งมา เค้าจะยกขึ้นบนตลอด เมื่อเรามองตรงๆเข้าไปนะครับ แต่สิ่งที่แนะนำคือเจ้า Rsrv A นั้น ให้เลือกมาเป็น Rsrv B เพราะมันคือการเลือกว่าจะใช้และรับสัญญาณอั้นที่เท่าไหร่ ในช่อง Rsrv A นั้น มันจะส่งขนาดข้อมูลจำกัดมาที่ 24/96 ซึ่งเป็น USB Class 1 แต่พอเราเลือกไปเป็น Rsrv B การส่งข้อมูลจะขยายช่องทางได้มากขึ้น กลายเป็น 24/192 ล่ะครับ

ส่วนตัว disp on หรือ disp off นั้น ก็คือการปิดเปิดไฟหน้าจอนั่นเองครับ อารมณ์ประมาณเหมือนพวกเครื่องไฮเอนด์นั้น ถ้าปิดหน้าจอ แล้วเสียงจะดีขึ้นได้อีกทำนองนั้น ซึ่งใครเป็นนักจับผิดก็ลองสับเลือกตัวนี้ได้ครับ แต่พอเลือกแล้ว เวลาเปิดเพลงช่วงต้นเพลง มันจะโชว์ขนาดไฟล์ 2 วินาที แล้วก็ดับจนเหลือเล็กที่สุดคือจุดกลมๆๆ เท่านั้นครับ

อีก 2 โหมดที่เหลือ ผมยังไม่ได้ลองเล่น แต่เดี๋ยวจะกลับมาเล่าให้ฟังครับ โดยเฉพาะเจ้าโหมด Listen กับ measure นั้น เดี๋ยวจะลองดุว่าเป็นอย่างไรนะครับ และแว่วๆๆ ว่า เจ้า Dac Ayre QB9 นั้นใช้ระยะเวลา burn in นานมากๆๆ คือแม้แต่ตัวเว็บผู้ผลิตยังแนะนำว่าขั้นต่ำต้องว่ากันที่ 500 ชั่วโมงกันเลยทีเดียว

เดี๋ยวผมกำลังทะยอยเบิร์นอิน แล้วจะกลับมาเล่าให้ฟัง แต่เท่าที่ฟังแบบระดับ 20-30 ชั่วโมง เจ้า Dac Ayre นั้นเก่งเรื่องการวางตำแหน่ง ทุกอย่างตรึงไว้นิ่ง อาการวอกแวกวูบวาบไม่มีให้เห็น และอะไรไม่เท่ากับ soundstage นั้นกว้างเอามากๆ (เมื่อใช้กับชุด Hifiman HE6 และ EF-6 ของผม)

เอ้า เดี๋ยวเรามาต่อกันในอีกไม่กี่วันนะครับ 555




-------------------------------------------------------------
Stereophile Product of the Year 2009
Stereophile Joint Digital Source Component of the Year 2009
Stereophile Class A+ Recommended Component
Ultra Audio Select Component
Hifi+ DAC of the Year 2010

แจ้งโปรโมชั่นสุดคุ้มและฮอตฮิตติดดาวนิดนึงคร้าบบ ตอนนี้ทางเดโค แจ้งโปรชั่นพิเศษสำหรับท่านที่ต้องการซื้อ DAC QB9 ตอนนี้ทางเดโคจะแถมสาย USB ที่ในวงการถือว่าเป็นสายไฮเอนด์ ที่เสียงดีมากที่สุดเส้นหนึ่งของวงการ

คือแถมสาย USB Nordost Blue Heaven ความยาว 1 เมตร ราคาตั้งศูนย์ 10000 บาท ให้ฟรีแกท่านที่ซื้อเจ้า DAC Ayre QB9 กันด้วยล่ะเน้อๆๆๆๆ

ท่านใดสนใจ สอบถามผมกับเจ้าเบียสได้เลยนะคร้าบบบ 5555

โทรมาได้เลย ครับ งานนี้ ของแถม แหล่ลมโคตร เลยละ จ้า 55 ........อิ อิ อิ

เอ้า เดี๋ยวทำแบนเนอร์ให้่สวยๆๆใหม่วันสองวันนี้ครับ แต่โปรนี้มีจนถึงวันที่ 30 มิถุนายนนี้นะคร้าบบบ 555

พระเจ้าจอร์จ! ของแถมราคาหนึ่งหมื่น!!! ยังงี้ขอของแถมอย่างเดียวไม่รับน้องแอร์แล้วกัน 555

เอาอะไรบอกได้นะคร้าบบบพี่ 555

พี่อุเทน เสาร์นี้อย่าลืมมามอบตัวนะครับ 555 เดี๋ยวจัดสายนี้แถมให้นะคร้าบบบ

จ๊ากๆ ป๋มโทรไปถามพอประดับความรู้เฉยๆ ครับเฮีย
ตอนนี้บ่มีจี้ครับ 555

แต่เอาของแถมมาลองฟังก่อนจะได้มั๊ยครับ

ฮั่นแน่ๆๆ แอบโพสหาหน่อยเดียว โผล่ออกมาเชียวน้าาาา 5555

ได้เลยครับ เอาของแถมไปฟังก่อนได้เลยครับ หรือจะเอาของไม่แถมไปก่อนก็ได้ครับ เดี๋ยวผมเคลียร์หน้าเสื่อให้เอง สำหรับพี่อุเทนนี่อุ้มก่อนจ่ายทีหลังสบายมั่กๆๆๆๆ 55555

เอ้า วันนี้มีผู้มีบุญญาธิการ มาประเดิมโปรโมชั่นเจ้า Ayre QB9 พร้อมรับสาย USB Nordost ไปอุปการะชุบเลี้ยงที่บ้านแล้วคร้าบบบ 555

ขอบคุณมากๆๆครับ ยังไงใช้แล้วถูกใจ แนะนำพรรคพวกมาหาผมได้นะคร้าบบ


ตอนนี้ผมใช้เจ้า Ayre QB-9 ประจำการเป็น DAC ประจำตัวอยู่ด้วยครับ ขาดเหลืออะไร มาเล่นไปพร้อมๆๆกันได้เลยครับ 55




**ตอนนี้มีโปรมหาระรวย ของ Ayre QB9 อยู่ คือแถมสาย Nordost USB Blue Heaven ด้วยนะครับ***

โทรหาแล้ว แต่เฮียติดสายอยู่ ..... ไม่ได้จะเอาไรหรอก แค่จะบอกว่าคิดถึงงงงงง 555

จ๊ากๆๆๆ มันไม่โชว์ใน miss call ครับพี่ แต่ไปโชว์ใน message แทน เดี๋ยวผมโทรหาเลยก๊าบบบบ 5555

555 ได้คุยกันจนได้ ..... ร้อนโค-ตระเลยเฮีย

เพื่อความสงบสุขในครอบครัว ผมเลยเดินออกไปคุยที่ระเบียงหน้าบ้าน ... ครือกลัวหลุดปากเรื่องราคาครับ เด๋วโดนรัฐประหารกลางอากาศ 555

555 คุยกันตั้งน๊านนาน แล้วเราไปคุยต่อกันในงาน Woo D-DAY นะคร้าบบพี่ 555

รับรองความลับไม่มีรั่วไหลไปถึง ผบทบ แน่ๆๆๆครับพี่ 555

http://www.ayre.com/usb-dac-windows-vista7.htm

เอามาฝากเผื่อใครติดตั้งบน windows คำแนะนำจาก ayre เองครับ อิอิ

ขอบคุณมากๆๆครับป๋าอุเทน 555


ทำไมป๋าถึงรู้เรื่องนี้ดีล่ะเนี่ยๆๆๆๆ 555

คนมันใฝ่รู้ครับเฮีย 555

อ้าว พี่อุเทนจะรู้ไปทามม้ายยย 555

มาคุยต่ออีกหน่อยครับ 555

คราวนี้เรามาขยายความส่วนสำคัญอีกส่วนหนึ่งของเจ้า DAC Ayre QB9 กันครับ ในบั้นท้ายของเจ้า QB9 นั้น จะมีสวิทช์ซีเล็คเตอร์ขนาดจิ๋วๆ ให้เลือกอยู่ 4 ช่อง ผมจะตัด 2 ช่องกลางออกไป เพราะว่าไม่ค่อยได้ใช้ และถ้าใครไม่มีสินค้าค่าย Ayre หลายๆ ชิ้น ตรงนี้ข้ามไปก่อนได้ครับ

เจ้า Selector ตัวขวาสุดที่เห็นคือ Rsrv A และ Rsrv B อันนี้เล่าไปแล้ว แต่ขอฉายย้อนนิดนึงครับ คือเจ้า Selector ตัวนี้คือเหมือน Selector ที่ปลดล็อคให้เจ้า QB9 เล่นได้สูงถึงไฟล์ขนาด 24/196 นั่นเองครับ แต่ถ้าไม่เลือก Rsrv B ก็จะทำให้เจ้ามืออั้นแค่ 24/96 เองล่ะครับ อันนี้ทราบแล้วข้ามไปดีกว่า 55

มาถึงฟังก์ชั่นอีกตัวคือเจ้าซีเล็คเตอร์ช่องซ้ายสุดคือ "listen" กับ "Measure" เจ้าตัวเลือกสองตัวนี้เป็น Digital Filter ชนิดหนึ่งที่ทำหน้าที่ต่างกันครับ มันเป็นอังกอร์ลิทึ่มคนละส่วนกัน คือตัวแรก Listen นั้น เป็นเรื่องการให้ความสำคัญและเที่ยงตรงในส่วนของเวลา หรือเราเรียกว่าไทม์มิ่งนั่นเองครับ

คือไอ้ตัวเลือก Listen นั้นเป็นการวางจังหวะของดนตรีให้ถูกต้องตรงเผงที่สุดครับ คืออะไรไม่รู้ล่ะ ตูจะปรับเรื่องของเวลาให้ตรงก่อนให้ได้ ซึ่งต่างกันกับ Measure ครับ เจ้าตัวเลือกนี้กลับมาให้ความสำคัญกับความเที่ยงตรงของความถี่เสียง หรือที่เราเรียกว่า Frequency Response นั่นเอง

พูดง่ายๆ measure จะให้เสียงทุกเสียงในทุกๆ ย่านได้เที่ยงตรงไม่ปรุงแต่ง โดยยึดหลักเอาเรื่องความเที่ยงตรงของย่านเสียงทุ้มกลางแหลมกันไปเลย ซึ่งหากถามว่าเลือกอันไหนดี ผมว่าตอบยากเหลือใจ เพราะที่ผ่านๆๆมาก็เถียงกันจนคอหอยแทบแตกล่ะครับ

แต่ผลการรับฟังนั้น เท่าที่ฟังผ่านๆ แต่ไม่ใช่โดยหูฟังคู่ใจของผม ผมว่าเสียงโดยรวมมันสดขึ้นเล็กน้อย เบสแน่นขึ้น แต่อื่นๆ บางลง(หรือเปล่า) ซึ่งพอไล่อ่านๆดูจากกูเกิล ผมก็พบว่าฟังออกมาได้ใกล้เคียงกันแล้วล่ะครับ ส่วนถ้าสลับกลับมาที่ listen จะฟังแล้วเหมือนมันเรียบเนียนๆ ค่อนไปทางนวลๆ ติดนุ่มนิดนึงครับ แต่พอฟังไปนานๆ ผมก็กลายเป็นเมาหมัด แต่เดี๋ยวไว้สรุปอีกทีว่า ตัวผมเองชอบแบบไหนละกันนะครับ 555

แต่ถ้าต้องเลือกเอง เจ้าสองตัวเลือกนี้ผมแนะนำให้เลือกแบบที่ตัวเองฟังแล้วถูกหูสุดครับ ไม่ต้องไปห่วงที่ชาวบ้านเขียน เพราะว่าเราเป็นคนจ่ายสตางค์นั่นเองครับ 555 ป่วยการจะไปเชื่อใครจริงๆล่ะครับ เอ้า เดี๋ยวค่อยมาต่อกันในตอนหน้านะครับ 55


ปล.ช่วงนี้มีโปรโมชั่นแถมสาย USB Nordost ยาว 1 เมตรอีกด้วยนะรับ ซึ่งใครสนใจสามารถสอบถามโดยตรงได้ที่ผม และผมตั้งใจว่าจะจัดโปรโมชัน่รอบใหม่ ให้มีโปรแกรม Pure Music สมนาคุณกับทุกๆท่านในเร็วๆๆนี้แล้วคร้าบบ 5555

ฮูสส.....

เมื่อคืนผมนอนฟังกับเจ้า HE-6 จนหลับคาหูถึงเช้า ผลก็คือ การเลือกให้เป็น Listen นั้นจะออกนุ่ม และสุภาพกว่าพอควรครับ คือเรียบๆ ฟังสบายๆ ปลายแหลมครบถ้วน ละเอียด อิมแพ็คกำลังดี ซึ่งว่ากันจริงๆ ผมว่าคนที่เล่น QB-9 ควรเลือกไปที่ Listen ครับ

และผมนอนฟังด้วย Measure ปรากฏว่า ปลายแหลม เสียงสูงทั้งหมด คมชัด เปิดเผยขึ้น โปร่งขึ้น จนผมฟังว่ามันสดจนเกินไปสำหรับผม เบสแน่นขึ้นจริงๆๆ เรียกว่าพอมาเป็นช่อง measure น่าจะถูกใจขาโจ๋มากขึ้น และอีกอย่างซิสเต์มของใครถ้ารู้สึกว่ารวมๆ แล้วยังอับหรือทึบไปหน่อย

แนะนำว่าเลือกไปที่ measure เลยครับ ทุกอย่างอัพขึ้นไปทางใสทันตาเห็นจริงๆๆ แต่ถ้าใครไม่ชอบจัดจ้าน หรือแหลมใสมากเกินไป ให้ใช้ listen ไปแทนก็แล้วกัน 5555

เดี๋ยวจะเอาแง่มุมอื่นมาเล่าต่อครับ ตอนนี้จบในโหมด Listen และ Measure ก่อนเน้อๆๆๆๆ 555

ฮูสส.....
-------------------
เอ็นเอ้ย...มาตัวนี้เถอะครับ เชื่อดิ 5555

อย่าเลยครับน้องเอ็น รอช้อนของ เสีย อ. ดีกว่า 55555

อย่าเลยครับน้องเอ็น รอช้อนของ เสีย อ. ดีกว่า 55555
--------------------------------------------------------------
แหมๆๆ ต่อคิวกันให้พรึบบบบ เลยครับ 555

จัดกับเฮียรับรองสะใจ เสี่ย อ ยังต้องจัด 555

สำหรับช่อง measure กับ Listen ใครฟังแล้วเป็นไง มาเล่าสู่กันฟังมั่งนะคร้าบบ 555

หุหุหุ ผมละกลัวเจงๆครับ

แสดงว่า เสี่ยอู๊ด จัดไปแล้วใช่ไหมครับพี่

ว่างๆ ไปหาพี่เสี่ยอู๊ด ลองฟังเป็นขวัญหู หน่อยได้มะครับ

หุหุหุ

เสี่ย อ. ตอนนี้มองข้ามช็อตไปแล้วล่ะจ้าเอ็น 555

ชุดของเสี่ย อ. ผมว่าอลังการงานสร้าง น่าดูนะครับ หิหิหิ

Dac อย่างเทพ แต่ดันเอามาเล่นกับ O2

555 ตอนนี้มีเล่นอยู่แค่นี้เด้อ...

ฟัง Ayre แล้วหูเสียแต่สบายกระเป๋าครับ 555

ตอนนี้ผมกำลังตื่นเต้นกับช่อง selector ด้านหลัง คือเล่นแล้วรักพี่เสียดายน้องมากจริงๆๆ

คือตามทฤษฏี คนส่วนมากน่าจะเลือก Listen และทางโรงงานก็เลือก listen ไว้เป็นค่า default และช่องนี้เป็นเรื่องของไทม์มิ่งและจังหวะ ซึ่งถือเป็นหลักสำคัญอย่างหนึ่งของการฟัง

ช่องนี้เมื่อเทียบกับ Measure ช่อง Measure ใสๆๆๆ มาก รายละเอียดหยุมหยิมพรั่งพรูออกมาเพียบเลยครับ ใครมีหูฟังมืดๆๆ หรืออยากเติมใสอีกหน่อย ลองซีเล็คมาช่องนี้ แล้วรายงานเข้ามาที่ จส100 เอ๊ย รายงานมาที่ผมด้วยเน้อ

จะได้เก็บไว้เป็นข้อมูลจ้าๆๆๆๆ 555



สำหรับเสี่ย อ.ค่อยๆๆครับ WA22 ไม่หนีไปไหนแน่ๆๆๆจ้าๆๆ 5555 ไปฟังอีกทีในงาน Canjoin นะครับ ผมเซ็ทไว้ให้ฟังด้วยจ้า คราวนี้เปลี่ยน source เป็น meridian ที่มี XLR ให้ลองด้วยคร้าบบบ ตัวในรูปนี่เลย ที่ผมจะยกไปให้ฟังในงาน ตอนนี้เปิดเบิร์นไว้ให้ตลอดล่ะคร้าบบบ 5555

จริงเหรอครับเสี่ย อ. หูเปน lcd3 ปะครับ หรือ 800 ครับ

หูเสี่ย อ.เป็น LCD2 แบบโมสายภายในแผ่นแม่เหล็กครับ ตัวนี้เป็นตัวสุดรักของเสี่ย อ.เลยล่ะคร้าบบ 5555

อั่ยย่ะ...

วันนี้มีนักเล่นท่านนึง มาสอยเจ้า DAC Ayre QB9 ที่สาขา DGW สอยไปพร้อมกับโปรโมชั่นสาย USB Blue Heave ที่มูลค่าร่วมหมื่นเลยล่ะครับ 555

เล่นแล้วถูกใจประการใด อย่าลืมมาเล่าด้วยเน้อๆๆๆๆๆ

ขอบคุณมากๆๆครับ น้องท่านนี้สอยไปให้คุณพ่อนั่นเอง คุณพ่อเป็นแฟนหูฟังแต่ขี้เกียจมาเอง เลยให้ลูกชายสุดหล่อมารับไปล่ะครับ 555

เอาลูกชายมาเป็นตัวประกัน เอิ๊กๆๆ



ล้อเล่งนาคร้าบบบบบบบ 555

เสี่ย อ.ครับ ตอนนี้มีเพื่อนเล่น DAC Ayre QB9 เพิ่มอีก 1 คนแล้วนะคร้าบบ คุณพ่อของน้องนัทล่ะครับ 555

ผมน้องนัทเองนะครับ ติดตามเว็บนี้มานานมากกกก แต่ไม่เคยสมัคร User มาสักที ฮ่าๆๆๆ แวะเข้ามาชม มีรูปผมซะงั้น ผมเล่นแต่หูฟังอย่างเดียวครับ ส่วนคุณพ่อผม home stereo Audiophile แบบจัดเต็มครับ 555 ลองแล้ว เสียงอบอุ่น กลมกล่อมครับ มิติดีครับ ชอบครับ แต่ผมค่อนข้างปวดหัวกับเจ้า Pure Music นี่สิ 555

เพิ่มเติมครับ ขนาด QB9 กับ กล่องใส่มันนี้คนละขั้วเลย กล่องใหญ่ม๊ากกกกกก 555

ขอบคุณม๊ากมากเลยครับคุณนัท เดี๋ยว Ayre AX7 ผมจะจัดให้นะคร้าบบ ส่วน Pure Music ไม่ยากหรอกครับ มีฟังก์ชั่นการปรับแต่งเยอะก็จริง แต่เอาเข้าจริงใช้ไม่กี่ตัวเองจ้าๆๆๆ

อ้าวครับเฮีย..ทราบเรื่อง Ayre-AX7 แล้วหรอครับ 555 มาเร็วเคลมเร็วแฮะ.. หมดตรูดดดแหงเลยครับ 555 ผมกับพ่อบ้าเรื่องพวกนี้มากๆ ด้วย ลุยแหลก ขอราคาพิเศษนะครับเฮียครับ ^^

คุณพ่อผมเค้าเป็นนักโม โมแหลกแกะแหลกไม่สนประกันครับ พ่อผมมี DAC อยู่ตัวนึง ของ Arcam พ่อผมโมซะยับจนไม่เหลือแบรนด์ 55 อยากให้เฮียลองฟังจังครับ..

บอกคุณพ่อว่าต้นสัปดาห์หน้าส่งได้ครับ รอของล็อตใหม่ซิงๆๆบินมาถึง ถึงปุ๊บผมส่งให้ปั๊บทาง NTC เลยนะครับ บอกคุณพ่อเลย ถ้าชอบโมเครื่องเสียงบ้าน อีกไม่นานเดี๋ยวจะเปิดคอลัมน์ให้มาโชว์ฝีมือเลยคร้าบบ 555

ขอบคุณครับเฮีย พอดีเพิ่งสังเกต ตรง Ayre-QB9 น่ะครับ ตรงคำว่า Ayre ด้านหน้า ตัว r มันหายไปไหนอะคับ เริ่มงง ละครับ รบกวนหน่อยครับ

ไม่รู้ว่ามันหลุดหรือยังไงครับ ฮ่าๆๆ งง ครับ กลัวเสียราคาในอนาคต

ของผมตัว A ก็หลุด โทรไป claim ที่ Deco 2000 เลยครับ
คุณหลิน 02-656-0711

นานไหมครับ หรือว่าเคลมแล้วได้เลย

เดี๋ยวสอบถามให้จ้าๆๆๆ

นานครับ
ของผม claim ไปตั้งแต่ปลายพ.ค.55 ยังไม่ได้เลยครับ

โอววว อักษรตัวเดียวเนี่ยนะครับ

ขอขอบพระคุณเฮียมั่นและทีมงานมั่นคงที่ติดตามเรื่องให้ครับ

เมื่อวานคุณวินัยโทรมาบอกว่าตัว A มานานแล้วครับ คงเอาเครื่องเข้าไป service เร็วๆนี้ครับ

ผมติดตามและเช็คกับเดโคแล้วครับ ทำได้ไม่ยากเย็นอะไรเลย พี่จิระเอาเข้าไปเซอร์วิสได้ทันทีเลยจ้าๆๆๆ

ทำอลูแปะเองจาหมดประมั๊ยคร๊าบบบบ

เสี่ยอ. ทำตัว prototype ออกมาเลยครับ มันจะได้ match กับน้อง MinInter ของผม 555

ทำแปะเองไม่หมดล่ะครับ แต่ทำเผื่อเพื่อนๆๆทุกคนด้วยยิ่งดีนะคร้าบบ

อัพรูปใหม่ของ QB9 กันหน่อยจ้าๆๆๆๆ 555 ท่านใดสนใจสามารถสอบถามผมหรือเจ้าเบียสได้นะคร้าบบ

เห็นราคาแล้วเผ่นแทบไม่ทัน

ดีนะ ไม่ทะลึ่งไปถาม เดี๋ยวหน้าแตก

ตั้งแสนกว่าเอ๊ง ถูกหวยก่อนเถอะ = =

ไม่ถึงแสนล่ะครับ แปดหมื่นกว่าๆๆเองจ้าๆๆๆ ผมก็ใช้อยู่คร้าบบ 555

ผมว่าเป็น DAC ที่ดีที่สุดในระดับราคาไม่เกินแสนครับ

555 ของพี่จิระเอาไปเปลี่ยนสติกเกอร์ยัง แวะไปได้เน้อๆๆๆ



ใครชอบใจ DAC รูเดียว (คือเสี่ยบแต่ USB) เพิ่งได้รับ stereophile Class A+ มาไม่นาน แจ้งผมได้นะคร้าบบบ 555

อาร์ทน้อยรายงานตัวครับเฮียย์
AX-7E ครับ เป็น integrated amp พ่อผมซื้อเอามาต่อลำโพงบ้านครับ ราคาเกิน qb9 ไปหน่อยๆ ว่าแต่ผมยังไม่มี dac ดีๆใช้เลย จะสอย QB9 ก็แพงเกินงบไปนิด 555555

ที่ขอใช้เป็นอินทีเกรตเพราะไม่มีปัญญาซื้อ pre+power และแมทชิ่งอุปกรณ์ไม่ค่อยเป็นนั่นเองครับ

ไม่ต้องรีบนี่นา ค่อยๆเล่นไปเรื่อยๆๆ เอาตัวที่เหมาะสมกับเรามากที่สุดก็พอแล้วจ้าๆๆๆๆ ว่าแต่พ่อของอาร์ทก็ใช้ของดีเหมือนกันนะเนี่ย 555

ของผมตอนนี้อยู่ที่ Deco2000 ครับ

ใครที่มี QB-9 อย่าลืมเปลี่ยน fuse นะครับ 125mA/250V 20mm 2 ตัว ผมเปลี่ยนเป็น HifiTuning Supreme Fuse เสียงเปิดขึ้นอีกเยอะ

และถ้าไม่จำเป็นห้ามถอดปลั๊กไฟ ให้เสียบคาและไฟเลี้ยงตลอด ถ้าถอดปลั๊กไฟแล้วอีกหลายวันเสียงถึงนิ่งครับ

ขอบคุณครับ

ผมยังไม่เคยแกะออกเลยครับพี่จิระ ตกลงมันใช้ 2 ตัวเลยเหรอครับ และพี่ซื้อตัวเท่าไหร่คร้าบบบ 555

มาสารภาพครับ

เมื่อวานถอดน้องแอร์มาเตรียมถ่ายรูป กะจะขาย ตามประสาคนชอบลองไปเรื่อย

ถอดเสร็จ เอา DAC ตัวเก่าที่เคยฟัง มาเสียบคืน พอฟังเสียง...ฟังม่ะได้เลย ทั้งๆ ที่เคยฟังโอเค



สุดท้ายต้องเอาน้องแอร์มาเสียบฟังเหมือนเดิม

คงต้องบอกว่า .... พี่ผิดไปแล้วน้องแอร์จ๋า พี่จะไม่ทำอีกแล้ว ...555

HifiTuning Supreme Fuse น่าจะตัวละ < 1,800 ครับ จำไม่ได้เพราะซื้อที่งาน BAV จาก Bom Bom หลายตัว หลายขนาดครับ

ก็เริ่มจากเสี่ย อ. นี่แหละที่ลืมถอด Furutech Fuse กระบอกฟ้าในน้องมินอินเตอร์ที่ผมรับมา ผมก็เลยต้องไล่เปลี่ยน fuse ทุกตัวในเครื่องที่ใช้บ่อยครับ

ผมฟัง Weiss แล้วเฉยๆ ครับ มันไม่ใช่แนวอะ รอดตัวไป ^^

เดี๋ยวจะวิ่งไปซื้อฟิวส์มาเสริมสวยให้น้องแอร์สุดเลิฟของผมหน่อย 5555

เอ... QB9 มันใส่ฟิวส์ตัวเดียวไม่ใช่เหรอครับ อีกตัวมันสำรองนี่นา
หรือว่าใส่สองตัวแล้วเสียงดีขึ้น จะได้ลองมั่งครับ

พี่อุเทนไหนๆก้อไหนๆแล้ว ส่งต่อให้น้องได้เลย รอคิวศูนย์อยู่ 555

เสี่ยอู๊ดเอ้ย

ถ้าจะขายน้องเบอร์เก้า ผมว่าลองพิจารณาให้ดีๆก่อนเด้อ ไอ้ที่เค้าว่าเสียงดีกว่านี้นี่ราคามันอาจจะทะลุทะลวงไปอีกไกลโขนะครับท่าน แถมต้องไปปรับจูนระบบกันใหม่อีก ถ้าไม่พร้อมจะจัดหนักผมว่าตรงนี้ดูลงตัวดีแล้วนะครับท่าน

เอิ้กๆๆๆ

หง่ะ.... แง้มมา คิวเพรียบเลยแฮะ 5555

เรื่องฟิวส์

ระหว่าง 125 mA HiFi Tuning Gold (ตรงค่าเดิมของเครื่อง)
กับ 250 mA HiFi Tuning Supreme

ผมชอบ 250 mA มากกว่าครับ เสียงลื่นไหล ฟังเนียนกว่ามากเลย

เอ้า ขอรายชื่อฟิวส์หน่อย จะมาเสริมสวยให้น้อง Ayre หน่อยจ้่าๆๆๆ

"เรื่องฟิวส์
ระหว่าง 125 mA HiFi Tuning Gold (ตรงค่าเดิมของเครื่อง)
กับ 250 mA HiFi Tuning Supreme
ผมชอบ 250 mA มากกว่าครับ เสียงลื่นไหล ฟังเนียนกว่ามากเลย"

ผมสงสัยว่า "เสียงลื่นไหล ฟังเนียนกว่า" เพราะมันเป็นฟิวส์คนละเกรดด้วยรึเปล่าครับพี่อู๊ด

555 แอบอ่านเจอพี่ธนวัฒน์คิว 0

ถ้าชอบใจแอบสะกิดเอวผมหรือเอวเจ้าเบียสได้เลยจ้าๆๆๆ



เรื่องฟิวส์เดี๋ยวผมขอค้นดูหน่อย เดี่ยวขอจัดให้น้องแอร์มั่งคร้าบบ 555

ไม่ขายแล้วจ้า

วันนี้นั่งประกอบปลั๊กผนังใหม่ เดินภายในด้วย FIM Gold เสียงไปได้อีกไกลมาก 555

ฟิวส์รุ่นไหน ขอลิงค์จะๆๆด้วยเน้อ ผมอ่านแล้วงงรุ่นมันมากๆๆ เลยคร้าบบ แล้วฟิวส์ข้างใน ความยาวเท่าไหร่อ่ะ ผมขี้เกียจดึงปลั๊กออกคร้าบบ

20 มม.

HiFi Tuning supreme หาได้ 125 mA ก็ดีครับ
ไม่มีก็ 250 mA. แบบผมก็ได้ครับ

ร้าน HiFi part ครับ
www.hifipart.com

เฮียมั่นเอา Power house platinum ดีกว่าครับ ราคาต่างกันนิดเดียวเอง ^^

ฟิวส์ผมเคยใช้ Hifituning แล้ว อยากลองเปลี่ยนมั่งล่ะ

เสิร์ชดูเห็นมีแค่ 3 ตัวเลือก

คือ Hifituning, C3 Noir, Furutech ฟ้า อันไหนเสียงเป็นไงมั่ง ผมไม่ได้ซื้อฟิวส์มานานแว้ววว 555

เฮียพึ่งเข้ามาเห็นว่าให้ "สะกิดเอว" .... ผมไม่กล้าหรอก กลัว... 555

ขอเปนสะกิดแขนแทนแล้วกัน 555

555 จะเริ่มสะกิดเมื่อไหร่ บอกได้เลยนะครับพี่ 555

ตอนแรกผมก็ว่าจะขาย QB9 แต่ก็ตัดใจไม่ลง ซื้อ Cambridge Audio Dac Magic Plus กับ Teac UD-H01 มาลอง กะว่าเผื่อฟลุคเสียงดี แต่ก็ไม่ผ่านครับ ตอนนี้เลยมี DAC 6 ตัวเต็มบ้าน! ภรรยาสุดที่รักเหล่เลย 555

555 อย่างนี้เรียกว่าอาการหนักครับ

Uthen: "เอ... QB9 มันใส่ฟิวส์ตัวเดียวไม่ใช่เหรอครับ อีกตัวมันสำรองนี่นา
หรือว่าใส่สองตัวแล้วเสียงดีขึ้น จะได้ลองมั่งครับ "

พี่อุ๊ดครับ สรุปว่า QB9 ใช้ fuse กี่ตัวแน่ครับ เห็นพี่บอกว่าตัวเดียวเลยงงงง
ผมถอด fuse holder มาก็เห็นอยู่ 2 ตัว เลยเปลี่ยนมันทั้งคู่ ถ้าตัวเดียวนี่ตัวไหนครับ

ผมเข้าใจว่าอีกตัวมันไว้สำรองอ่ะครับ
สงสัยต้องถอดมาส่องดูดีๆ อีกที 555

เอ้า ป๋าอุเทนนี่เอง 555 ได้รับค่า Soloist แล้วคร้าบบบ


วันนี้หาฟิวส์ใส่ ปรากฏว่ากลัวมันไม่ขาดยังไงชอบกล 555 ป๋าใส่แล้วเป็นไงมั่ง 555

สรุปว่า fuse ตัวด้านในครับที่ทำงาน ส่วนตัวนอกเอาไว้สำรองครับ ผมไล่ถอดที่ละตัวเมื่อวาน

อ้าว งั้นผมต้องปล่อย Hifi Tuning Supreme Fuse 125 mA แล้วสิครับ เฮียมั่นเอาไปลองไหม

มันไม่น่าจะใช่ขนาด 125A ล่ะครับพี่จิระ ผมโทรถาม hifipart แกบอกว่า Hifituning ผลิตเริ่มต้นที่ 250A ล่ะครับ เลยอดใช้เลยจ้าๆๆๆ

เอากล้องส่องเพชรเมียมาส่องดูมัน 250 mA จริงๆด้วย สงสัยผมจำผิดตั้งแต่แรก โชคดีไม่เป็นอะไรผมเปลี่ยนเอา fuse ตัว original ใส่กลับไปแล้วครับ เกือบไป ขอบคุณเฮียที่ช่วยหาข้อมูลมาครับ

ผมโทรไปถามแล้ว เค้าไม่แนะนำล่ะครับ เค้าว่าเบิ้ล 1 เท่า มันเสียวเกินไปล่ะครับพี่ 555

รบกวนเฮียช่วย review Ayre เทียบกับ Audio GD ตัว top ให้หน่อยได้มั้ยครับ
ผมสนใจ DAC ในราคาประมาณนี้อยู่ หรือถ้าเฮียมีตัวอื่นในงบนี้แนะนำก็ได้ครับ
ผมเป็นพวกซื้อแล้วใช้ยาวๆ ไม่เปลี่ยนถ้าไม่พัง หรืออยากได้ตัวใหม่มากๆ เลย
ความจริงผมดูๆ NAD M51 ไว้อีกตัว (แต่ไม่มีของขาย และผมก็คันมากแล้ว ก็ขี้เกียจรอ 555)
ไม่รู้เฮียเคยฟังมั้ย แต่ผมรู้แน่ๆว่า ลูกพี่เฮีย (คุณธานี โหมดสง่า) เคยทดสอบทั้ง Ayre และ NAD เพราะติดตามงานของพี่เค้ามาตลอด ถ้าเฮียจะกรุณา สอบถามพี่เค้าให้ซักนิด ก็จะเป็นพระคุณกับผมมาก

โดยส่วนตัวผมค่อนข้างมั่นใจกับ Ayre เพราะเคยฟัง CD+amp อยู่ทุกครั้งที่ไปงานเครื่องเสียง
แต่ผมเห็นว่า technology DAC นั้นกำลังพัฒนา มี dAC ออกใหม่ทุกเดือน Ayre นั้นน่าจะ 4-5ปีแล้ว
เลยคิดว่าน่าจะมีมั้ย ที่ดีกว่าในราคาที่ถูกกว่า อันนี้วัดกันที่เสียงอย่างเดียวนะครับ

ส่วนใหญ่ผมฟังเพลง ROCK กับ JAZZ มีพวก audiophile ด้วย
ผมเอามาใช้ทั้ง ชุดบ้าน และ ชุดหูฟัง โดยชุดบ้าน เป็น Teotem model1 sig. + Amp. Odyssey cyclops หูฟังเป็น HE-5 combo โดยผมเล็ง balance HP amp. ไว้ด้วย หลังจากชุด com audio เรียบร้อย

ขอบคุณเฮียมากครับ

ขออนุญาติเสริมนะครับ

ผมมั่นใจว่า Ayre products ไม่ตกรุ่นง่ายๆ ผลิตภัณฑ์ของ Ayre สามารถ upgrade ได้เรื่อยๆทุกตัวครับ ไม่ว่าจะเป็น amp, preamp, DAC, CD Player ทุกรุ่นลูกค้าสามารถ upgrade ได้ตลอด QB9 ตอนแรกก็ออกมาแค่ 24/96 แต่พอ technology ไปถึงก็สามารถส่งกลับไป upgrade ได้ครับ

http://www.stereophile.com/computeraudio/ayre_acoustics_qb-9_usb_dac

Art Dudley wrote about the QB-9 in July 2011 (Vol.34 No.7):
Ayre endeavors to make all their product upgrades retrofittable, and so it goes with the 192kHz version of the QB-9: The retail price was bumped to $2750, and people who invested in the early QB-9 can have theirs upgraded at the factory for the price difference alone: $250. Charles Hansen says he would've done it for less if he could have. "The part that would go to 192 was only a little more expensive, but then we had to add another board and change the power supply, too." The new chip—an XMOS XS-1 from Bristol, UK—is simply a microprocessor, and thus requires a separate receiver chip.

สวัสดีครับคุณ nearmint ครับ 555

ผมยังไม่มีโอกาสเอา DAC ของ Audio GD ตัวท็อปสุดใหม่สุดมาลองฟังเลยครับ น่าจะมาในอีกไม่นาน เป็นรุ่น NFB 7.32 แต่ถ้าถามว่า Ayre นั้นขั้นไหน ต้องบอกว่าตัวนี้เสียงดีจริงครับ และอีกมากๆๆด้วย

มันเป็น DAC เสียงสะอาด กว้าง ฟังแล้วไม่อึดอัด เสน่ห์คือรายละเอียดที่ระยิบระยับ และไดนามิกคอนทราสที่เยี่ยมยอด แต่ไดนามิกทรานเซี้ยน(ฉับพลัน) อาจจะไม่สะใจคอร็อคนัก แต่ถ้าฟังเพลงทั่วไป สุดยอดแล้วล่ะครับ

เดี๋ยวผมจะถามลูกพี่ธานีให้ครับ ว่าตัวไหนมีภาษีดีกว่ากัน ตัวไหนน่าวางยาวมากกว่ากัน สำหรับ Ayre นั้น เค้าวางปรัชญาการทำ DAC เหมือนการทำเครื่องเสียงไฮเอนด์จริงๆๆ คือไม่เปลี่ยนรุ่นบ่อยจนคนซื้องง หรือทำใจไม่ได้

แต่ใช้วิธีซัพพอร์ทลูกค้าด้วยการเปลี่ยนชิพเปลี่ยนแผงวงจรอัพเกรดให้ได้ครับ ทำให้ Ayre นั้นเป็น DAC ที่อยู่ในตลาดได้ยาวนาน โดยไม่ต้องเปลียนรุ่น และยังไม่มีความล้าสมัยแต่อย่างใดด้วยครับ

ถ้าจำไม่ผิด Ayre ทำการอัพเกรดไปแล้ว 2 ครั้ง ตั้งแต่ออก QB9 มา มั่นใจได้แน่นอนจ้าๆๆๆ

ขอบคุณเฮียมากครับ รวมถึงคุณ TMY168 ด้วยครับ
(จริงๆ ถ้าผมไม่ได้ตั้งใจจะซื้อของใหม่ ผมสอยตัวของคุณ TMY168 ไปแล้ว ตอนนี้เห็นว่าขายได้แล้ว
ก็ยินดีกับของเล่นใหม่ที่กำลังจะมาด้วยนะครับ เล่นแผ่นเสียงสนุกมากครับ และก็ทรมานด้วยสำหรับคนขี้เกียจ
ลุกไปเปลี่ยนแผ่นอย่างผม 555)

เรียนตามตรง จริงๆ ไม่คิดว่าจะไปไกลถึงขั้น DAC ตัวละเกือบแสนแบบนี้
แต่เพราะว่า NAD นั้นไม่มีของขาย ระหว่างรอผมก็นั่งอ่าน นั่งหาข้อมูลไปเรื่อย
อ่านเจอพวกผรั่งทะเลาะกันก็เยอะ ว่า DAC ตัวไหนดีกว่ากัน

พูดถึง Ayre จริงๆผมก็อยากได้ แต่ด้วย input ที่มีแค่ USB และราคาที่แพงกว่าอีกพอควร
ทำให้มันตกไป ในตอนแรก พอเริ่มคันหนัก สมองก็เริ่มคิดหาทาง และสุดท้ายมันบอกผมว่า
มึงก็ขายนาฬิกามาโปะส่วนต่างสิวะ 555

ครับก็ไม่มีอะไรมาก ตอนนี้ผมโทรจองไว้กับคุณเบียสแล้ว
หวังว่าคงรอไม่นานมาก เพราะตอนนี้คันมากเลย 555

นึกออกล่ะว่าใคร 555 ผมนั่งอยู่ด้วยครับตอนที่คุณ nearmint โทรคุยกับเจ้าเบียสล่ะครับ

ผมจะเล่าเกร็ดเล็กน้อยที่เกี่ยวกับการใช้งานของผมให้ฟังก่อนครับ ตอนแรกผมหา DAC ที่รับ input ได้หลากหลาย และไม่เคยมอง DAC ที่รับ USB ได้เพียงอย่างเดียว แต่พอมานั่งไล่เรียงความสำคัญของการใช้งาน

ปรากฏว่าตัวเลือกแรกที่ไม่จำเป็นต้องมีก็คือ optical คือผมใช้ DAC มาเป็นสิบๆตัว ไม่เคยใช้ช่องนี้เลยแม้แต่ครั้งเดียว ส่วนช่องต่อมาที่ลังเลกันมากคือช่อง Coax ซึ่งพอร์ทนี้ถ้าไม่ได้เล่น CD transport ผมว่าแทบจะหาโอกาสใช้ยากอีกเช่นกัน

ไปๆมาสุดท้ายคือช่อง USB ต่างหากที่ได้ใช้ครับ และฟังก์ชั่นที่ควรจะต้องมีกลับเป็นช่อง Balanced out และ RCA out ครับ โดยเฉพาะช่อง XLR ที่ให้ความแรงของสัญญาณมากอีกเป็น 1 เท่าของช่อง RCA

QB9 เป็น DAC เสียงสะอาด เนียน เสน่ห์ที่ผมชอบมากๆ คือสุดขอบของซาวด์เสตทมันกว้างมาก เหมือนจะหลุดลอยออกไปในจักรวาล(ว่าไปนั่น) และอยากให้สังเกตุระหว่างเสียงนักร้องนำกับคอรัสครับ การแจกแจงแยกตัวตนของนักร้องออกจากชิ้นดนตรีทำได้ดีอย่างน่าอัศจรรย์

รออีกนิดเดียวเท่านั้นนะครับ 555

QB9 ต้องต่อ balance และห้ามถอดปลั๊กเด็ดขาดครับ

แม่นแล้วครับ ตามพี่จิระว่า เล่น QB9 ต้องจัดด้วยบาลานส์ และห้ามถอดปลั๊กไฟออก เพราะวงจรมันต้องการไฟไปเลี้ยงไว้ตลอดเวลา และเจ้า QB9 นั้นใช้เวลาเบิร์นอินนานมากๆๆ กว่าจะเข้าที่ด้วยนะคร้าบบ 555

ขอบคุณครับเฮีย
จะรอนะครับ 555

อ้อรบกวนเฮียอีกนิดนึงครับ เล่นผ่าน itunes rip เพลงจากแผ่น CD ธรรทดา เป็น file ขนาด 16/44.1
ระหว่าง wave กับ AIFF นี่ต่างกันเยอะมั้ยครับ เพราะ DAC กระราคาพันกว่าบาท ที่ผมซื้อมาลองเล่นนี่ ผมฟังไม่ออก
ผมตั้งใจจะใช้ itunes + pure music ทีนี้ที่ผมเข้าใจคือ file wave ใน itunes มันใส่ปกอัลบั้ม
โดยตรงเหมือน file aiff ไม่ได้ ถ้ามีรูปเวลา remote มาใส่ ipad มันดูสวยดี 555

อีกอย่างครับ ผมอ่านเจอบางคน เค้า rip เป็น WAVE และ แปลงเป็น flac มาเล่นอีกที เฮียพอทราบมั้ยครับ
เค้าทำอย่างนั้นทำไม หรือว่าต้องการเก็บ master ที่เป็น WAVE ไว้ใช้ยาวๆใน harddisk ต่างหาก ส่วน file
ที่ใช้เล่นจริงก็แปลงเป็น flac เพื่อลดพื้นที่ อันนี้ผมนึกไม่ออกจริงๆ ว่าเพราะเหตุใด แล้ว file flac ที่เราเอามาเล่น
ผ่าน itunes ที่มี plug-in pure music สามารถใส่ปกอัลบั้มได้มั้ยครับ

ถามเยอะหน่อย ต้องขออภัยเฮียด้วยนะครับ เพราะผมยังไม่เคยใช้ MAC และตั้งใจว่าจะใช้ MAC mini แต่อยากรอดูสถานการณ์
ของ MAC ซักพัก โดยในช่วงแรกคงใช้ foobar+asio และ itunes ผ่าน window ไปก่อน

ขอบคุณเฮียอีกครั้งครับ

ฟังไม่ออกหรอกครับระหว่าง AIFF กับ WAVE มีผลแค่การแสดงปกเท่านั้นเอง ถ้าฟังกันจริงๆๆ ผมว่าไม่น่าจะมีใครฟังออกแน่ๆๆครับ

แต่การฟังแบบมีปลั๊กอินอย่าง Pure Music + itune กับฟังเพียวๆผ่าน itune อันนี้ฟังออกครับ เพราะต่างกันพอสมควร ให้ฟังเรื่องความชัดเจนของชิ้นตนตรี itune เพียวๆๆจะติดขุ่นนิดนึงครับ

ส่วนคนที่มี wave แล้วแปลงเป็น Flac สาเหตุเดียวน่าจะมีเป็นเพราะเค้าเก็บจากต้นฉบับไว้เป็น Flac แล้วอยากจะลดขนาดไฟล์ลงครึ่งนึงล่ะครับ อันนี้เหมือนผม แต่ผมเก็บเป็น image file ไปเลย

ส่วน Flac เปิดเล่นๆตรงๆๆกับ pure music ไม่ได้ แต่ต้องเอา add ใน pure music ก่อนครั้งนึง แต่ก็ไม่เห็นปกอยู่ดีครับ Flac นั้นไม่คล่องตัวถ้าข้ามค่ายมาเล่น Mac ล่ะครับ

สำหรับตอนนี้ถ้าใช้ window ตัวเลือกน่าสนใจที่สุดคือ Jplay กับ Jriver ล่ะครับ 555
ยินดีมากๆๆเลยครับ สอบถามมาได้เลย บางอันผมไม่ทราบผมก็จะพยายามถามเอากับท่านอื่นๆมาให้ด้วยนะครับ

เล่นไปพร้อมๆๆกันนี่ล่ะ 555

ขออนุญาติเสริมนะครับ

1)ถ้าใช้ WIndows รีบถอย JRMC โดยด่วนครับ เสียงดีกว่า foobar เยอะ ตอนนี้ JRMC17 หรือ JRMC18 Beta

2)ใช้ EAC (Exact Audio Copy)ริบจะดีที่สุดครับ มันจะออกมาเป็น WAV ก่อนแล้วถึงจะ encode เป็น CODEC ที่เราต้องการ แล้วเราก็เลือกได้ว่าจะเก็บ WAV files ไว้ หรือว่าจะให้ลบทิ้ง

3)ริบใน iTune อย่าลืมเช็ค "Use Error Correction" นะครับ

4)ริบเป็น AIFF ดีกว่า WAV ครับ ความแตกต่างฟังแทบไม่ออก ผมชอบมีปกครับ

โอ้... ขอบคุณทั้งสองท่านมากเลยครับ และ
รับทราบครับ พี่จิระ(ผมขออนุญาตเรียกตามเฮียแล้วกันนะครับ)
เรื่องเสียบปลั๊กค้างไว้ตลอดนี่ไม่ใช่ปัญหา แต่เรื่อง balance นี่ล่ะครับปัญหาใหญ่ผมเลย
เพราะตอนนี้ทั้งแอมป์บ้านและหูฟังของผม ไม่มีตัวไหนรับ balance ได้เลย

แอมป์หูฟังยังพอไปได้ เพราะผมเห็นราคาไม่ได้โหดมากนัก แต่แอมป์บ้านนี่ผมมองแล้วจนปัญญาล่ะครับ

ผมขอเล่านิดนึงแล้วกันครับ เดิมที่ผมใช้ลำโพงตั้งพื้น Rogers รุ่น LS 8a/2 ผมซื้อมือสองมา
ซึ่งคาดว่าอายุมันน่าจะหลายปีมากแล้ว กับ int.amp. exposure รุ่น 2010
อยู่กันมาได้ประมาณ 5 ปี ขอบ driver ที่เป็นยางมันก็เริ่มปริ เบี้ยวเสียรูป

ผมก็เลยเปลียนลำโพงมาเป็น Spendor LS 3/5se โดยที่ไม่ดูตาม้าตาเรือ ว่า
50W ของ exposure เอาไม่ค่อยอยู่ เป็นเหตุให้ผมต้องพามันไปเลือกเนื้อคู่ใหม่
จนได้อแมป์ที่ใช้อยู่ปัจจุบันนี่ล่ะครับ ซึ่งมันขับ Spendor ได้แบบที่ผมว่าเต็มมากๆ
หลังจากนั้นมีอุบัติเหตุนิดหน่อยทำ Spedor ผมพัง(จนตอนนี้ยังไม่ได้เอาไปซ่อม)
เป็นเหตุให้ model 1 เข้ามาแทนที่ และผมชอบเสียงมันมาก
และเพราะมันนี่ล่ะครับ ปัญหาใหญ่ของผม

ท่านที่เล่นเครื่องเสียงคงเข้าใจ model 1 นี่อย่าว่าแต่จะหาแอมป์มาขับมันได้ออกหมดเลยครับ
เอาแค่หาที่ขับแล้ว เจ้าของพอใจยังยากเลย ถ้างบจำกัด และก็มีแอมป์ที่ผมใช้นี่ล่ะครับในราคาเกือบๆ
5 หมื่นที่ทำให้ผมพอใจมาก ปัญหามันอยู่ที่ เจ้า Odyssey Cyclops นั้น มันแทบไม่ต่าง
จาก power amp. ที่มีลูกบิดปรับเสียง เพราะมันให้ input มาแค่ RCA 1 ชุดเท่านั้น!!!

แอมป์ในเรทราคานี้ พร้อม balance input ที่สามารถขับ model 1 ได้ดีๆ
ผมว่าน่าจะหายากมาก และผมยังไม่พร้อมที่จะเปลี่ยนด้วย

ทางออกที่ผมคิดไว้ตอนนี้ สำหรับชุดบ้านคือ adapter xlr to rca ล่ะครับ ผลลัพธ์คงไม่ดี
เหมือน balance ทั้งระบบ แต่ผมดาดว่าน่าจะดีกว่า rca โดยตรงในงบประมาณที่ถ้ามันไม่ดี ก็ยังไม่เสียดายนัก

เรื่องการ rip file ตอนแรกผมก็ค่อนข้างสับสน ที่ผ่านมาจำปีไม่ได้ ตั้งแต่ตอน ipod vdo ออกใหม่ๆ ผมก็ rip ตามที่เค้าพูดๆกันมาว่าดี โดยสุดท้ายผมเลือก rip เป็น aiff นี่ล่ะครับ พอมันเริ่มเยอะทีนี้ผมก็ เริ่ม rip ปนกันมั่วไปหมด ทั้ง MP3 apple loseless ทั้ง aiff หลังๆมาก็ขี้เกียจ ก็ฟังแต่เพลงเดิมๆ ที่เคย rip ไว้

ตอนนี้ CD ที่เก็บไว้มันเริ่มเยอะ เกือบๆ 5 ร้อยแผ่น เลยตั้งใจจะ rip เก็บใหม่หมด ผมก็เลยมาขอคำปรึกษา
ตอนนี้ชัดเจนขึ้นมาก ขอบคุณจริงๆครับ

ตอนนี้คันอิ๊บอ๋ายเลย 555

ถ้าต่อ single end ก็ยังดีกว่า DAC หลายๆตัวครับ ผมใช้ QB9 กับน้องมินอินเตอร์ (SE) ตั้งนานครับ
ชุดไม่มี balance ไม่มีปัญหาครับ

PS: Model One นี่ผมเห็นใช้ Ayre K5+V5 ขับถึงจะออก เป็นลำโพงที่น่ากลัวมาก!

ครับพี่จิระ ผมก็มองว่า RCA ก็ไม่น่าห่างกันมากนัก

สำหรับ model 1 ก็อย่างที่พี่จิระว่า ลำโพงมันให้เสียง
หรือมีแนวโน้มในลักษณะที่ว่า ถ้าเอาของดีกว่านี้มา มันก็
จะไปให้ไกลกว่านี้อีกนะ ซึ่งลำโพงอื่นๆมันก็ควรจะเป็นไป
ในลักษณะเดียวกันนี้ คือดีขึ้นตามคุณภาพแอมป์

แต่จากที่ผมได้สัมผัสลำโพงมาสามคู่ model1 มันมีอะไร
มากกว่านั้นนิดหน่อย อย่าง spendor นั้นพอคุ้นกับเสียงมัน
ก็พอจะกะได้ว่าถ้าแอมป์ดีขึ้น เสียงก็คงดีขึ้นในลักษณะใด
คือประเมินได้ง่ายกว่า ในความคิดผมนะครับ

แต่กับ model1 มันทำผมงง คือมันต่างกันชัดเจน รับรู้ได้ง่าย
อย่างตอนลองฟังที่ร้านก็ใช้ ayre v5 ขับ พอมาที่บ้านใช้แอมป์ผม
คือมันขับออกได้ทั้งคู่นะครับ แต่โทนเสียงของ v5 นั้นหวานกว่าชัดเจนมาก
ซึ่งน้อยครั้งจริงๆ ที่ผมได้ยินเสียงโทนหวานออกจาก model1

จึงไม่แปลกอะไรนักที่เราเห็นนักเล่นเครื่องเสียงบางคนเอา
power amp. Jeff Roland มาขับมัน ผมก็อยากลอง
เช่นนี้บ้าง ถ้ามีวันนั้นจริง555