สวัสดีคับ ผม Teleaster เป็นครั้งแรกที่มารีวิวหูฟัง ขอฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะคับ ผิดผลาดประการใดอภัยมา ณ ที่นี้ด้วยนะคับ วันนี้ผมก้อจะมาพูดถึง หูฟังขวัญใจวัยรุ่น กะโหลกน้อย ต่อยหนัก Skullcandy ink'd กันนะคับ ผมรู้จักยี่ห้อนี้มาประมาน 4-5 ปีที่แล้ว เพื่อนผมมันซื้อมา มันใช้แปปเดียวมันก็เปลี่ยน ผมก้องง พอได้ฟังปั๊ปหายงงเลย เสียงมันไม่ค่อยสมกับราคาและน่าตามันเท่าไหร่ ผมเลยไม่ค่อยชอบแบรนด์นี้ชักเท่าไหร่ หลังจากนั้น ผมก้อพึ่งได้มาฟังมันอีกครั้งหลังจาก 4-5 ปีที่แล้วมันไม่ทำให้ผมประทับใจเท่าไหร่ แต่วันนี้มันทำให้ผมรักมันหัวปักหัวปัมเลยล่ะคับ สเปคมันไม่มีอะไรมากคับ
Speaker Diameter: 11mm
Magnet Type: NdFeB
Frequency Response: 20-20k Hz
Impedance: 16 ohms
Max Input Power: 100mW
Cable Type: TPE, Nylon Braided
Cable Length: 1.3m
Plug Type: 3.5mm Gold Plated
ดูจากภายนอกเนี่ยบอกได้เลยว่ามันแฟชั่นมากๆเลยทีเดียว มีสีให้เลือกหลากหลากสีด้วยกัน ในเวปเค้ายังมีพวกทีมบาสเก็ตบอลที่ดังๆหรือจะเป็นแฟชั่นแบรนด์เนมอย่าง Paul Frank ก้อมาออกแบบใส่ในหูฟังกันแบบไม่ยั้งกันเลยทีเดียว ขอบอกเลยว่า ใครต้องการหูฟังแฟชั่นแบบ In ear ตัวนี้เลยคับ
วัสดุแข็งแรงดีนะคับ แต่การบ่งบอกว่าหูข้างไหนเป็นข้างไหนนี้มองกันลำบากหน่อยเพราะมันจะเขียนบอกเป็นตัวเล็กๆตรงข้อต่อที่อยู่ติดกับหูฟังเลย ดังนั้นเวลาอยู่ในสถานที่ที่มีแสงน้อย บอกได้เลยว่าต้องใช้จิตสัมผัสกันเลยทีเดียว นี่เป็นข้อเสียที่ดูจากภายนอกอย่างเห็นได้ชัดเจน แต่ที่เหลือนี่มันคุ้มค่ามากพอที่จะทำให้มองข้ามปัญหาที่กล่าวไว้ข้างต้น หูฟังตัวนี้จะมีจุกยางอยู่สองขนาดนะคับ คือ เล็กกับใหญ่ ใครที่บอกว่าให้มาน้อย ถ้าเทียบราคานี่ถึงกับเงียบไปเลยนะคับ
มาถึงเรื่องเสียงกันบ้างนะคับ อุปกรณ์ที่ใช้ทดสอบนะคับ ก้อจะมี Ipod Gen4 Nokia XpressMusic จำรุ่นไม่ได้ แต่เสียงดีเลยทีเดียว แอมป์ลูกเจี๊ยบ Fiio E3
เสียงของเจ้า ink'd เนี่ย ถ้าฟังตอนแรกๆเนี่ยบอกได้เลยว่า เบสจะเยอะไปไหนคับพี่ มาเต็ม จัดหนักกันเลยทีเดียว หูแทบพัง ผมก็เปิดเพลงเบิร์นหูฟังจนครบ 50-60 ชั่วโมง มาฟังอีกครั้งว่าเสียงจะเป็นยังไง
เพลงที่ผมใช้ทดสอบเสียงผมโหลดจาก CD แล้วลงในเครื่องนะคับ เพลงที่นำมาทดสอบผมจะทดสอบให้กว้างที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพื่อค้นหาแนวเสียงของเจ้ากะโหลกน้อยหรือ ink'd ตัวนี้ ศิลปินที่ได้นำมาทดสอบหูฟังตัวนี้มีดังนี้คับ
Diana Krall
Norah Jones
John Mayer
Bucky Pizzarelli
Dave Brubeck
Carpenters
Eric Clapton
Jimi Hendrix
Fall Out Boy
The Damned Things
Periphery
Creed
Adrenaline Mob
Dream theater
SNSD etc.....
เสียงที่ได้ยินหลังจากเบิร์นมานานพอสมควรแล้ว เสียงมันค่อนข้างเปลี่ยนไปหลังจากฟังครั้งแรกพอสมควรเลยคับ ย่านเบสที่แต่ก่อนมากันอย่างกับคลื่นสึนามิ ตอนนี้มันดูสุภาพขึ้นเยอะเลย เบสไม่โอเวอร์มากจนเกินไปเหมือนช่วงแรก ลงได้ลึก แน่น แต่หัวเบสจะไม่ค่อยชัดเท่าไหร่นัก ย่านเบสไม่กลบย่านเสียงใดๆ แต่....ย่านเบสของมันเวลาไปเจอกับเพลงที่มีเสียงสังเคราะห์เยอะมากๆ เนี่ย เบสจะไปกลบย่านกลางจนเบลอเลยทีเดียว ซึ่งเพลงแนวเสียงสังเคราะห์เยอะๆเนี่ยไม่เหมาะกับมันอย่างแรงเลยล่ะคับ เสียงกลางออกไปโทนหนาๆ จะหลบๆหน่อยตามสไตล์ หูฟังเบสหนักทั้งหลาย เสียงแหลมออกโทนใสๆ แต่ใสไม่สุด ไม่ถึงกับปิ๊งๆ แต่ก้อไม่ถึงกับขาดแคลนนะคับ มันพอดีกับโทนเสียงทั้งหมดของมัน
สรุป เจ้า ink'd กะโหลกน้อยตัวนี้เนี่ย มันตอบสนองความต้องการของชาว ROCK ได้เป็นอย่างดีเลยคับ หูฟังตัวนี้เนี่ยส่วนตัวผมขอแนะนำเลยว่า แนวเพลงที่มันชอบเนี่ย คือคนตรีที่ใช้เครื่องดนตรีจริงเล่น อย่าง แจ็ส บลูส์ ร็อค เมทัล เป็นต้น แต่พวก ฮิปฮอป R&B pop k-pop หรืออะไรก้อแล้วแต่ที่ใช้เสียงสังเคราะห์เยอะเนี่ยมันไม่ค่อยชอบเท่าไหร่ มันจะมีอาการที่กล่าวอยู่ข้างต้น ใครที่กำลังหา In ear ดีๆ แฟชั่นๆ แล้วเสียงดีเนี่ย แล้วราคาไม่ถึงพันเนี่ย ตัวนี้เป็นอะไรที่น่าสนใจมากๆเลยนะคับ ผมขอจบการรีวิวไว้แค่นี้นะคับ
สวัสดี
Mr.Telemaster