Tape cassette เสียงคงสู้ CD ไม่ได้หรอก ถ้าเป็นเทปที่ดีๆหน่อย Type II เทปโครเมี่ยม หรือ Type IV metal ที่สมัยโบราณเข้าเรียกเทปแม่เหล็ก

มันก็ไม่น่าจะสู้ CD ได้ โดยเฉพาะเสียงแหลมสุง ต่ำสุด bandwidth ของเส้นเทปมันน้อยกว่า


ถ้าเป็นพวกเทปรีลม้วนเท่าจานข้าว ที่เขาใช้ในห้องอัด ใช้ทำมาสเตอร์ แบบนั้นเสียงจะเทพมากกว่า ถ้าไม่รวมเสียง hiss ที่เกิดจากการเสียดสีของเส้นเทปกับหัวเทป ถ้าเอาเป็นแบบที่สภาพใหม่ๆเหมือนกัน เทปรีลจจะมีเสียงอิ่มมากกว่า หน้าสัมผัสมันให้กว่ามากๆ ขนาดครึ่งนิ้ว เทียบกับคาสเซ๊ทที่เอาไว้มัดแหนม มันคงสู้ๆไม่ได้แน่ๆ สมัยก่อนเครื่องเทปรีลที่เป็นแบบ home use เขาเอาไว้เพลงจากแผ่นเสียง และเวลาจะก็เปิดจากเทปเอา

เคยได้ลองฟังเทปรีล มาหนสองหน ยังเคลิ้มเลย ต้องยุให้น้าไก่ย์เล่นเทปรีลอีกสักอย่าง เพิ่มเติมจากแผ่นเสียง จะบ้าวินเทจตามๆกันไปให้หมดเลย 555

คาสเซ็ทสู้ไม่ได้ล่ะครับ 555


แต่ผมมีความรู้สึกลึกๆๆบางอย่างที่แปลกมาก คือฟังคาสเซ็ทต์รุ่นเมื่อ 30 ปีก่อน เพราะกว่าซีดียุคปัจจุบัน (อันนี้ว่ากันเฉพาะเพลงไทยครับ)

เพลงไทยยุคก่อนที่ปั๊มโดยบริษัท อามีโก้ พีค็อก แกรมมี่ยุคแรก ผมว่าสุ้มเสียงดีมากๆๆ แม้แต่เทปเพลงบ้านๆ ตรานกแก้ว เสียงก็ดีกว่าซีดีเพลงไทยยุคปัจจุบันอยู่พอควร

ใครเคยเล่นเทปยุคก่อนๆๆ ลองเล่าเปรียบเทียบด้วยเน้อๆๆๆ

ถามเล่นๆบ้าง แล้วแผ่นไวนิล vintage กับ แผ่น CDสมัยนี้ล่ะครับ

ถ้าอยากได้ไฟล์เพลงคุณภาพสูงที่ไม่ใช่ไฟล์mp3
เราก็ต้องซื่อแผ่นแท้ของศิลปินนั้นใช้ไหม
แล้วจะมีซื่อมาแล้วได้ไฟล์ mp3ไหมหรือก็เป็น mp3ที่ดีกว่าปกติ

พอดีชอบใต้ดินแล้วเขามีแผ่นขายในเว็บเลยได้คำถามข้างบนมา

แผ่นแท้ซท่อเค้าอัดมาเป็น .wav ครับ .mp3 คือรูปย่อของไฟล์ประมาณให้เข้าใจง่ายๆคือคล้าย .zip / .rar

อ้อ ขอบคุณครับ

แผ่นไวนิล vintage กับ แผ่น CDสมัยนี้
^
^
อิอิอิ....ต้องลองดูครับ


อุตส่าห์ทำตัวเงียบๆเรื่องเทปรีล พี่Benzย์มายุผมอีกแล้ว ...5555

เทปรีลผมก็มีครับ ไม่แพงอะไร เครื่องเล่นดีๆมันหายากครับ ถ้ามีก็แพงสะบัดเพราะระบบรักษาเสถียรภาพความเร็วเส้นเทปมันก็ยุ่งไม่น้อยกว่าแผ่นเสียงเหมือนกัน

ส่วนคาสเซ็ทผมก็มีเยอะมาก ส่วนมากเป็นเทปปีศาจของ peacock แหะๆ ช่วงสะสมผมงบน้อยครับ
ยุคนั้น เทปก็อปต้องเป็นของ eagle ปกทอง เสียงจะอิ่มแน่นกว่า peacock แต่จะมีอีกยี่ห้อนึงที่ดีกว่า จำยี่ห้อไม่ได้ แต่แพงกว่ายี่ห้ออื่น

คาสเซ็ทมันเก็บเสียงความถี่ต่างๆได้ไม่เยอะเท่า CD เลยฟังว่าด้อยกว่า มันต้องมีระบบช่วยปรุงเสียงเยอะ พวก dolby A/B, BBE, turbo อะไรเยอะแยะ
แต่ CD ยุคแรกๆมันฟังไม่ระรื่นหูนะครับ เพราะเสียงมันชัดแจ๋วก็จริง แต่มันแห้ง แข็ง คม
ยุคคาบเกี่ยวตรงนี้ผมให้คะแนนความระรื่นหูไปที่ cassette

แต่เทคโนโลยีดิจิตอลมันเร็วมากครับ ไม่กี่เดือน CD ก็เริ่มตีตื้นแล้วเริ่มทิ้งห่างไปเรื่อยๆ ตรงนี้เป็นความสามารถของเอ็นจิเนีย์ห้องอัดระดับ Chesky, Sheffield แท้ๆที่ทำให้ดิจิตอลน่าฟังขึ้น
และนี่ก็เป็นจุดเปลี่ยนของคาแร็กเตอร์ของหูฟังแบบพกพาด้วยเหมือนกัน จากคมใสมากๆที่ต้องดึงเสียงออกมาจากคาสเซ็ทก็เป็นเน้นเบส อิมแพ็คแทน เพราะ CD มันคมใสอยู่แล้ว

ผมเคยมี cassette ที่เป็นเพลงป็อบของอังกฤษ ทำในอังกฤษ เล่นผ่าน TEAC 3 หัว แอมป์ NAD ลำโพงอะไรไม่รู้ของ Finland เสียงยังติดหูอยู่เลยครับ

มาสเตอร์แท้ๆมันจะเป็นเทปรีลครับ เดี๋ยวนี้ก็คงมีอยู่บ้าง มันมีความต่อเนื่องของเสียงแบบที่เรียกว่า analog คาสเซ็ทก็เป็นมรดกจากเทปรีลนี่แหละครับ แต่ความสามารถไม่ขนาดนั้น

เทปรีลระดับสุดยอดนี่มันเก็บรายละเอียดสูงมากนะครับ หนัง star wars ที่เอ็ฟเฟ็คเยอะๆ ไดนามิคสูงๆนั่นเสียงทั้งหมดก็มาจากมาสเตอร์ที่เป็นเทปรีลครับ

อีกอย่างอย่างเฮียว่าครับ เทปของนกแก้วนี่สุดยอดจริงครับ ของนิธิทัศน์เองบางม้วนก็ดีมาก
มันฉ่ำละมุน มีเสียงกังวานในบรรยากาศด้วย เพลงไทยยุคใหม่แทบไม่มีเลยครับ

ผมว่าที่มันต่างจากยุคใหม่ก็เพราะเรื่องบรรยากาศนี่แหละครับ

คือในทฤษฎีแล้ว ยังไงคาสเซ็ทต์มันสู้ไม่ได้

แต่ไหงตอนนั้นฟังเทปแล้วไพเราะมากๆๆๆ พอตอนที่เัค้าออกเป็นซีดี เอามาฟังเทียบกัน กลับสู้ไม่ได้เอาซะเลย ผมว่าเทปยุคก่อนๆๆ มันบันทึกดีมาก

หรือไม่ก็ตอนนั้นเรายังเป็นวัยรุ่น ยังไม่ค่อยรู้เรื่องอะไรอีกอย่าง 555

cassette ถ้าใช้เครื่องระดับ pro หน่อย อัดด้วยเทป metal ผมว่าสูสีกับ CD นะครับ
ผมใช้ cassette ของ Esoteric อัดมาลองฟังเทียบกันกับ CD ต้นฉบับ หูอย่างผมแยกไม่ออก แต่ถ้าท่านที่หูเซียนๆนี่คงแยกได้

แต่ Open reel นี่ ผมว่าความลื่นไหลต่อเนื่องและความนุ่มนวลของเสียง ดีกว่า CD แต่ฟังเผินๆจะคล้ายๆกับว่า CD ชัดใสกว่า แต่ผมว่าจริงๆแล้วเสียงมันคมกว่า
ยิ่งใช้ reel รุ่นใหญ่ๆ ยิ่งฟังได้ชัดครับ

พอดีมี reel ยี่ห้อเดียวกัน รุ่นใหญ่-รุ่นเล็กอยู่
Tascam 52 และ 32 ลองเอาม้วนเดียวกัน ฟังเทียบกับ Tascam 32 เสียงก็ต่างกันครับ Tascam 52 ดีกว่าพอควรครับ แต่ก็เหมือนเอามวยคนละรุ่นมาชกกันล่ะครับ
( Tascam 52 ตัวนี้ได้มาล่าสุด หลังจากที่หาอยู่นาน พอบทจะได้ก็ได้มาง่ายๆอย่างนั้นล่ะครับ ตัวใหญ่เบ้อเริ่ม แบกขึ้นบ้านปวดหลังไปเป็นอาทิตย์เลย ลองดูรูปที่เทียบกับ 32 ดูครับ )

Tascam 52 vs. 32

กรณีเฮียเขาเรียกว่า รักฝังใจครับ...555
ผมก็เป็น

ขอคารวะท่าน SM911 สุดยอดเลยครับ นี่สิของจริง

ท่านเล่นของค่ายเดียวเลยนะครับ Esoteric ก็ของ TEAC, TASCAM ระดับนี้เกินธรรมดาไปเยอะ
หาได้ทั้งเครื่องเล่นและม้วนเทปด้วยนี่นับถือเลยครับ

มีเครื่องเล่นของ NAGRA ไหมครับ แค่ผมได้เห็นรูปก็นับว่าเป็นบุญตาแล้วครับ อยากเห็นจริงๆ

พอดีชอบ reel เป็นการส่วนตัวมาตั้งแต่เด็กๆแล้วครับ เลยหาสะสมไว้
reel ยังมี Revox B77 อีกตัวครับ
ตอนนี้ reel ที่ยังหาอะไหล่ดูแลได้ง่ายหน่อยก็ตระกูล teac,tascam,revox นี่ล่ะครับ
เล่นเครื่อง analog เก่าๆนี่ เสียงมันนุ่มนวลดีครับ

ส่วน nagra หายากมากครับ แต่ก็สวยมากจริงๆ
เห็นมีใน ebay อยู่เรื่อยๆครับ
อยากเห็นตัวเป็นๆเหมือนกันล่ะครับ

ผมว่าที่เฮียมั่นรู้สึกว่าเทปสมัยก่อน ฟังเพราะกว่าซีดีสมัยนี้(เพลงไทย)
น่าจะมาจากภาคโปรดักส์ชั่นในการผลิตเพลงของค่ายเพลงครับ เน้นประหยัด-เร็วอะไรใช้คอมได้ ใช้หมด
ยกตัวอย่างเช่น
สมัยก่อนอัดกลองสดไม่มีตัดต่อหวดกันรวดเดียวตั้งแต่ต้นจนจบ. มี human error เล็กน้อยเป็นเสน่ห์
สมัยนี้ใช้กลองsampling ในคอมพิวเตอร์จังหว่ะเป๊ะๆ แต่แข็งโป๊ก
:)

ไวนิลคือเทคโนโลยีที่มีเสียงดีที่สุดในปัจจุบันครับ
ไฟล์ Hi-Res ก็ยังไม่อาจเทียบ แผ่นไวนิลจ้าาาา

สงสัยเฮียเล่น กัญ.....ก่อนฟังเทปคาสเซ็ทม้างครับ....
ทรานซิสเตอร์ตัวเท่ามือถือก็เสียงใสปิ๊งแล้ว 555

555 เง้อ พี่ธาดา 555 แบบนั้นแค่เสียงใบไม้หวิวก็เพราะแล้วล่ะครับ 555



จริงๆ เทปเพลงยุคก่อน ผมว่าทำได้ดีมากนะครับ ผมยกตัวอย่างเทปเพลงที่เสียงดีๆๆ

- เต๋อทุกชุด
- เฉลียง
- คาราบาวตั้งแต่ made in Thailand ลงมา
- พงษ์เทพ ยกเว้นชุดแรก
- ปานศักดิ์
- ปั่น ทุกชุด

พวกนี้เสียงดีทั้งหมด เป็นงานที่ผลิตกับบริษัทอามีโก้ ซึ่งผมว่าเสียงดีกว่าค่ายออนป้า หรืออาร์เอสซาวด์ หรือค่ายคีตาเรคคอร์ด แย่สุดน่าจะเป็นอาโซน่า

ส่วนงานที่ออกกับค่ายพี่ค๊อก ดีหมดทุกชุดอีกเช่นกันครับ

555 ท่านใดจำได้มั่ง ลองเล่าๆๆ ฟังกันมั่งเน้อๆๆๆ

ปานศักดิ์ sound ดีสุดๆครับ ถ้าจำไม่ผิดไปอัดที่สตูดิโอ เมือกนอก

สมัยนั้นฟังแต่เพลงสากลครับ
สนิทกับผู้ใหญ่ที่ทำร้านอัดเทป
มันส์มาก เขาไว้ใจให้เล่นเครื่องเสียงของเขาได้
ปิดเทอมเนี่ยแทบไม่ได้อยู่บ้าน

อัดเพลงจากแผ่นเสียงใส่เทปรีล ฟังเทียบกับแผ่นแทบไม่ออก
แต่คาสเซ็ท เสียงมันยังห่างจากแผ่นเสียงมาก
ยุคต่อมามีเทปโครเมียม เสียงใส แต่ก็ไม่ไพเราะห์
ถัดมามีเทปเมทอล ดีขึ้นมาก แต่ติดปัญหาแทรกมันแคบเพราะเส้นเทปเล็กมาก

พอเรียนจบ มัวแต่เมา อุ๊บๆๆๆ ทำงาน เล่นเครื่องเสียงอีกแค่ ไม่กี่ปี
พอสร้างโรงแรม งานแยะเลยทิ้งหมด อิอิ

สุดยอดเทปพกพาต้อง
rqsx-7. พานาโซนิค. ยังเสาะหาอยุ่่

พ่อผมรู้แกคงดีใจว่ามีคนชมผลงานแกหลายคน (เทปตรานกแก้ว พ่อผมคือผู้อยู่เบื้องหลังงาน Master ครับ) รู้สึกดีใจเล็กๆ 

ลองฟังเสียงตามคลิปดูครับ ผมพอมีตัวอย่างเสียง Walkman อัดไว้อยู่บ้างครับ
https://www.youtube.com/watch?v=tlHRpPvKLhc&t=177s

ถ้าเป็นเทปคาสเซ็ต Sony Walkman รุ่นล่าสุดนี่ เสียงดีไม่แพ้แผ่น CD ครับ :)

สมัยก่อน ใช้ Tape deck ของ teac 
สาเหตุที่ซื้อ ก็เพราะว่า ลองอัดจาก cd ลงเทปแล้ว 
เสียงดีน่าฟังมากนี่ล่ะ
ยุคนั้น cd พกพา ยังไม่แพร่หลาย

มีเทปชุด เจ ไฟท์ ของเจ เจตริน ตอนนั้นอยู่ม.3 ฟังเพลงมาไม่เยอะเท่าไร แต่รู้สึกว่า ฟังแล้วรู้สึกต่างจากอัลบั้มอื่นที่ผมเคยฟังมาทั้งหมด คือเสียงแบบแน่น ดีมากๆ เคยได้ยินว่าไปบันทึกเสียงที่ญี่ปุ่น ไม่รู้เกี่ยวกันรึเปล่าครับ

เอาแบบเทปดีๆแบบ Metal เลยนะ Frequency Response อยู่ที่ 30 - 19 KHz และมี Dynamic Range ที่ 70 dB ในขณะที่ CD มี Frequency Response อยู่ที่ 0 - 22.05 kHz และมี Dynamic Range ที่ 96 dB อันนี้ข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ไม่ใช่มโนอุปทานไปเอง คิดว่าอย่างไหนให้ Quality ทางเสียงที่ดีกว่าดัน