เล่าเพิ่มเติมตรงนี้ก่อนเลยครับ

ผมเคยเทียบแบบเอาเป้นเอาตายเหมือนกัน ตอนนั้นผมใช้ซีดี micromega stage 2 ตัวละ 2 หมื่นกว่า เทียบกับ ipod photo ตอนั้น ราคา 2 หมื่นกว่าเช่นกัน ผม Rip เพลงจากแผ่นซีดี ใส่ ipod แล้วต่อเข้า input ของแอมป์ ทั้งของ ipod และ ทั้ง ซีดี

แล้วเปิดเทียบกัน...........

ผมที่ได้ในตอนแรก (ที่ยังตื่นเต้นอยู่) ยอมรับว่าเสียงแทบไม่ต่างกันที่ไฟล์ขนาด 320kbps ครับ  แต่พอใช้เวลาอีกซักพัก มันจะเริ่มฟ้องหลายๆๆอย่างออกมา แต่ไม่ใช่ฟ้องว่าไฟล์ MP3 มันเลวร้ายอะไรขนาดนั้น เพียงแต่ฟ้องว่าเครื่องยังไม่สามารถมาแทนกันได้ครับ

แตกต่างแน่นอนจริงๆๆๆ ซึ่งตรรกะง่ายๆ ก็คือ ไฟล์เพลงนั้นต้องย่อมาจากซีดีอีกที แม้จะเป็นการย่อที่ไม่บีบมากนัก แต่เนื่องจากการเล่นกลับด้วยเครื่องเล่นที่ต่างชนิดกัน ผมว่าทำให้มันต่างกัน

ผมเคยลองก๊อปไฟล์ wav ลง ipod แล้วเปิดเทียบกับต้นฉบับ ก็ยังพอฟังออกว่าต่างกันครับ  แต่ผมก็ยืนยันว่า ความตากกันของมันไม่ใช่ถึงขั้นห่างชั้นอย่างแน่ๆๆๆ ครับ 555

พี่ nopphong ลองหาซีดีออดิโอไฟล์แท้ๆๆ ซักแผ่น แล้วลองย่องเอา CD Player ของใครก็ได้ไปฟัง ยิ่งถ้าเป้ฯเครื่องเล่นที่คุณสมบัติดีๆๆ ยิ่งแยกแยะออกชัดเจนครับ

แต่ !!!!!!!!!!

ห้ามเอาเครื่องเล่น DVD มาเปิดด้วยแผ่นซีดีนะครับ ถึงแม้มันจะเล่นได้ก็ตามที เพราะ DVD นั้น ผมว่าภาคถอดรหัสของเสียง มันไม่ได้ออกแบบมาสำหรับออดิโอจ้า 555

สรุปถ้าชุดเดียวกันทุกอย่าง แล้วจับฟังสลับรนะหว่าง MP3 Player กับ Cd Player ต่างกันแน่นอน แต่ถ้าเป็นชุดระดับล่างๆ ที่ไม่พ๔พิถันนัก ฟังออกยากมากครับ แต่ถ้าเป้นชุดที่สูงกว่าไฮเอนด์คนยากขึ้นไป ฟังออกแน่นอนครับพี่ 555

อืม...ผมลืมไปว่าเทสด้วยไฟล์ wav ได้ แต่ผมเคยลองเหมือนกัน เป็นบุญที่ผมฟังไม่ออก ฮ่าๆๆ

***ห้ามเอาเครื่องเล่น DVD มาเปิดด้วยแผ่นซีดีนะครับ
ถึงแม้มันจะเล่นได้ก็ตามที เพราะ DVD นั้น ผมว่าภาคถอดรหัสของเสียง
มันไม่ได้ออกแบบมาสำหรับออดิโอจ้า 555***

นี่ถ้าคุณ unclepiek มาเห็นเข้าสงสัยจะเถียงหัวชนฝาโป๊กๆแน่นอนครับ ฮ่าๆๆๆ

ปัจจัยมันมีหลายอย่างมากครับ ไม่ว่าจะเป็นวงจรของเครื่อง เรื่องของวัสดุของแผ่นเพลง เืรื่องระบบไฟ เรื่องสายภายในต่างๆ ยังไง cd player ก็ยังเห็นความแตกต่างอยู่แน่นอนครับ

ส่วนตัวผมก็ยังต่อ ipod classic กับชุดเครื่องเสียงอยู่เลยครับ เพราะเอาสะดวก แค่แผ่นหนังก็รกเต็มแล้ว ถ้าเพิ่มแผ่นเพลงอีก นี่ตายแน่ๆ 555

เครื่องเล่น DVD บางเครื่องก็สามารถให้เสียงเพลงที่ดีมากๆ ได้ครับ แต่มีข้อแม้คือ

.. ต้องเล่นด้วยแผ่น DVD ที่เอาไฟล์ CD มาทำการอัพแซมปลิ้งขึ้นไปเป็น 24บิท 96กิโลเฮิร์ซ ขึ้นไป เท่านั้นครับ ...

ผมเคยเล่นอยู่พักนึง ...... ไฟล์ที่แปลงพวกนี้ บอกได้เลยว่า ....... มันทุบทำลาย เหตุผลและความเป็นไปได้ลงอย่างล้มครืนเลยครับว่า

ไฟล์ที่ .... มีความละเอียดข้อมูลต่ำ เอาไปอัพให้เป็น ไฟล์ความละเีอียดข้อมูลสูง .... ไม่น่าจะทำให้เสียงน่าฟังขึ้น ดีขึ้น

แต่ก็เป็นไปแล้ว อย่างน้อยๆ จากหูผมที่เคยฟังครับ

555 พี่ nopphong  เครื่องเล่น DVD นี่โลกแตกเลยล่ะ เพราะว่าโดยธรรมชาติของมันแล้ว ยากที่จะเอามาทำแทนซีดีเพลยเยอร์จริงๆๆ ครับ  (แต่ที่พี่สาครว่านี่น่าสนเหมือนกัน)

เล่าเพิ่มเติมอีกนิด

ที่ผมเล่ามาคือเอาแผ่นซีดีเพลง มาใช้กับเครื่อง DVD โดยตรง โดยไม่ผ่านการเปลี่ยนฟอร์แมตใดๆๆ ทั้งสิ้นเลยนะครับ คือจับแผ่นเพลงมายัดพรวดแล้วฟังในเครื่อง DVD กันเลย ปรากฏว่าสุ้มเสียงยังไงก็ยังสู้ซีดีเพลยเยอร์ไม่ได้แน่ๆๆล่ะ.......และผมเคยเอา Harddisk media player มายัดเพลงใส่ลงไปด้วยไฟล์ wav (ผมใช้เครื่อง TVIX ของ Dvico) ปรากฏว่าตกม้าตายทันที เสียงยังสู้เครื่องเล่น  MP3 Player ถูกๆๆ ราคา 3-4 พันยังไม่ได้เลยล่ะ 555

เมื่อ 3-4 ปีก่อน ผมเคยไล่เช็คกับร้านค้าหมดเลย ปรากฏว่าเค้าบอกว่าเครื่องเล่น DVD ถ้าจะให้เสียงออดิโอที่ดีทัดเทียมกับ CD Player ต้องแพงระดับหลักหลายหมื่นครับ 555

แต่ตอนนี้ผมต้องอัพเดทข้อมูลใหม่แล้ว เพราะฟังจากพี่สาครว่า ไอ้การอัพเสกลมันมีขึ้นในเครื่อง DVD แล้ว ซึ่งผมไม่แน่ใจว่ามันทำให้เสียงทางภาคออดิโอดีขึ้นไปถึงไหนแล้วมั่ง 555

เดี๋ยวต้องไปลองทำอย่างพี่สาครบอกซะหน่อยจ้า 555

ปล. พี่สาครครับ ตู้สูตร Fostex ใส่ดอก FE87E ผมขายทิ้งหลังจากฟังไปแค่ 1 วันแล้วจ้า เพราะฟังแล้วไม่ใช่แนวของผมเลยแฮะ 555

เฮียครับ การอัพเสกลที่ว่า เป็นการทำมาจากบนแผ่นเลยครับ มิได้นำไปทำบนเครื่อง กล่าวคือเราเอาไฟล์ออดิโอ จากแผ่นซีดี หรือแม้แต่จาก เอ็มพี3ที่ไม่ได้บิทเรทต่ำจนน่าเกลียดจนเกินไป .....

มาเข้าโปรแกรมอัพแซมปลิ้งขึ้นไปแล้วแปลงให้อยู่บนฟอร์แมท Audio-DVD ไม่ใช่ DVD-A นะครับ อันนั้นจะเลือกเครื่องเลือกแผ่นกว่า

จากนั้นก็ยัดแผ่นเข้าเครื่องเล่นอย่างเดียวเลยครับ แน่นอนว่า มันไม่เทียบเท่า DVD-A ที่ทำมาจากต้นกำเนิด แต่มันสามารถอัพความไพเราะในการฟังจากต้นฉบับเดิมๆที่เรามีอยู่ได้

ซึ่งหลักการมันก็คล้ายๆกับ Realtime UpSampling Converter  ที่ใช้ต่อพ่วงกับซีดีตัวละเป็นแสนๆนั่นแหละครับ

แต่เมื่อเรามาทำการอัพบนคอมพ์ซึ่งมีเวลาให้กับโปรแกรมทำงานเหลือเฟือ ไม่ต้องทำแบบ เรียลไทม์ ... อัลกอริทึ่มการคำนวนของโปรแกรม สามารถทำงานได้ดีกว่ามากนัก .... ในราคาที่ต่ำกว่ามากมาย

เฮียลองอ่านข้อมูลเพิ่มเติมจาก ที่นี่นะครับ

http://www.thaiavclub.org/forums/index.php?topic=5268.0

บ้านอีกหลังของผมเองครับ อิอิ

555 ขอบคุณ ครับ .............อิ อิ อิ

น่าลองครับ ผมก็ยังไม่ได้ลองสักทีเพราะเครื่อง dvd ที่บ้านมันไม่ support ครับ

แน่ะ พาดพิงเห็น ๆ ฮาๆๆ

ผมเคยส่งแผ่น ดีวีดี อัพแซมปลิงมาให้คุณนพพงษ์นานแล้ว ดูเหมือนว่าป่านฉะนี้ ยังไม่ได้ลองฟังละสิ... แต่ก็มิได้นำพา.. ฮา ๆ
อย่างที่คุณสาครบอกแหละครับ ผมก็เอาไอเดียมาจากเว็บ thaiavclub.org มาเหมือนกัน

เดี๋ยวจะเผาแผ่นดีวีดี ที่อัพแซมปลิงแล้วส่งมาให้เฮียมั่นฯ ลองฟังดู (ที่ไม่ได้ส่งมาให้แต่แรก ก็เพราะคิดว่าเฮียคงไม่ยอมฟังแหง๋ ๆ ฮา ๆ ตอนนี้คุณสาคร มาช่วยยืนยันอีกปากนึง คิดว่าเที่ยวนี้เฮียมั่นฯคงจะยอม ผินกรรณมายล...)

ปล. ส่วนที่ว่าเอาแผ่นซีดี มาเปิดด้วย เครื่องเล่นดีวีดี เสียงมันห่วยกว่าเห็นด้วยครับ เพราะลองมาแล้วมันเป็นเช่นนั้น

ปล ๒. เหตุผลที่เครื่องเล่นดีวีดี เล่นเพลงที่เป็นฟอร์แมต DVD Audio ได้เสียงดีกว่า เพราะฟอร์แมตดีวีดี มันทะลุขีดจำกัด 16bit/44.1 ของซีดีเพลงไปอักโขครับ และเครื่องดีวีดีราคาถูกบางรุ่น มันสามารถเล่นแผ่น DVD Audio ได้ด้วย

555 จริงด้วยครับเฮียเปี๊ยก เพราะเทคนิคแบบนี้ผมไม่ค่อยได้สนใจอ่าน และก็มีความคิดว่าไม่น่าจะดีล่ะ  แต่สงสัยผมอาจจะเป็นกบอยู่ในกะลามะพร้าวอ่อนก็เป็นได้ 55

ผมเองนั้นทดลองจนหัวโกร๋นหมด แต่ก็แค่ทดลองเอาแผ่นซีดีจริงๆๆ มาฟังกับเครื่องเล่น DVD ซึ่งก็ไม่ได้เรื่องจริงๆๆๆ แต่วิธีนี้ งวดนี้ต้องลองมั่ง 555

555 ลุงเปี๊ยก ครับ ว่าแต่ว่า &dquot;ผินกรรณมายล .... &dquot; มันแปลว่าอะไรเหรอ ครับ อยากรู้จัง ..........อิ อิ อิ

เดี๋ยวก็ไปเป็น blu-ray audio

แฮ่ ๆ ผมก็มั่วเขียนไปได้ไง มันควรจะผินกรรณมาสดับ มากกว่านิ อิอิ