ถ้าตามกฎหมายไทย ถ้าจะฟ้องจริงๆ คงเป็นเรื่องฉ้อโกงตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 341 "ผู้ใดโดยทุจริต หลอกลวงผู้อื่นด้วยการแสดงข้อความ อันเป็นเท็จ หรือปกปิดข้อความจริงซึ่งควรบอกให้แจ้งและโดยการหลอก ลวงดังว่านั้นได้ไปซึ่งทรัพย์สินจากผู้ถูกหลอกลวง หรือบุคคลที่สามหรือ ทำให้ผู้ถูกหลอกลวงหรือบุคคลที่สามทำ ถอนหรือทำลายเอกสารสิทธิ ผู้นั้นกระทำความผิดฐานฉ้อโกง ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสามปี หรือ ปรับไม่เกินหกพันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ"

แต่กรณีนี้ไม่เข้านะ เพราะตามหลักกฎหมายทางนั้นให้ของมาเอง หาหลักฐานว่ามีการสนิทกัน เป็นการให้โดยเสน่หา ไม่ใช่เป็นการหลอกลวง

ตามหลักกฎหมายเป็นแบบนี้ ถ้าไม่ได้หลอก ก็ไม่ผิด

แต่เวลาสู้คดี ลองถามทนายดูละกันครับ อาจมีแนวทางการสู้แบบอื่นๆ ที่เป็นประโยชน์มากกว่า

ลองรอคห. พี่สุกฤษดูครับ

เรื่องถูกฟ้องได้ไหม...ถ้าทีี่มาที่ไปของเงินของลูกชาย มีการโอนให้น้องสาวจริง...
อันนี้โอกาสที่ศาลจะประทับรับฟ้อง มีสูงครับ...

แต่ถ้าเป็นเคสลูกชายเขาเบิกเงินเอง...เท่าไหร่ก็ไม่รู้ ...เอาไปซื้อของชิ้นนึง ...
ของชิ้นนั้น มีหลักฐานว่า มีการส่งผ่านบริษัทที่รับฝากส่งของ...โดยชื่อผู้รับปลายทาง...
เป็นน้องสาวคุณเบิร์ทเอง...
อันนี้ถ้าหลักฐานทางเอกสารทางฝั่งเค้าครบ...โอกาสศาลรับพิจารณาก็ยังมีครับ...

แต่...ประเด็นหลักคือ...ลูกชายเขา...อายุ 20 ปีบริบูรณ์แล้วหรือยัง...ถ้ายัง...อายุเท่าไหร่...
น้องสาวคุณเบิร์ท อายุเท่าไหร่...อันนี้จะเป็นอีกข้อที่ต้องนำมาพิจารณาน่าจะมากที่สุดครับ...

เพราะประเด็นของการฟ้องร้องคือ "การหลอกล่อ หลอกลวง"...

ประเด็นอื่น ๆ เป็นรองหมดครับ...

ถ้ามีอะไรลึกลับซับซ้อนมากกว่านี้...

รบกวนคุณเบิร์ท กดหาผมได้เลยนะครับ...

ถึงแม้ไม่ใช่ทนายความโดยตรง...แต่ผมอยู่ในแวดวงดังกล่าวพอสมควรครับ...

พี่เอ...ศูนย์ แปด หก หก เจ็ด หนึ่ง แปด เจ็ด ศูนย์ ห้า...ครับผม...

เอาใจช่วยครับ

เรื่องกฏหมาย ละเอียดอ่อนมาก

ขอบพระคุณทุกท่านครับ.. พี่มนตรีด้วยครับ

ลูกชายเค้าอายุปาเข้าไปตั้ง 34 แล้วครับ
และน้องสาวยืนยันว่า ไม่เคยขออะไรเลยซักแดงเดียว
น่าจะเป็นการให้โดยเสน่หาอย่างที่ว่าล่ะครับ

ปัญหาคือ กลัวเค้าฟ้องแ้ล้วต้องไปให้ปากคำ
เพราะเพียงเท่านั้น..พ่อของน้องก็จะส่งน้องไปเมืองนอกแน่ๆ
โทษฐานทำให้มีเรื่องมีราวเป็นที่เสื่อมเสียกับวงตระกูล
ผมกลัวประเด็นนี้น่ะครับ...

อ้อ..น้องสาวอายุ 21 ปีครับ

เรื่องกฏหมายผมไม่รู้เรื่องเลยขอเอาใจช่วยแทนนะครับพี่

งั้นจบครับ...

บอกเค้าอยากฟ้อง ๆ โดยเร็ว...

บุคคลบรรลุนิติภาวะแล้ว...ไอ้เรื่องการ "หลอกลวง" นี่...โอกาสเป็นคดีแล้วชนะน้อยเหลือเกินครับ...

ถ้าหลอกหลายคน น่าฟ้องหน่อย ฉ้อโกงประชาชน...พ่วงเยอะดี....

หลอกเดี่ยว บายเดี่ยว หรือ อะไรก็ตามทีอีแบบนี้...

เรื่องศาลประทับรับฟ้อง ผมมองยากนะ...ยิ่งเป็นการให้ ของ ด้วยแล้ว...สมฐานะ...อะไรทำนองนี้...

หลักหมื่นก็ยังถือว่าสมฐานะ...แต่ถ้าหลักแสน หลักล้านอันนี้...ถ้าไ่ม่คิดจะสานสัมพันธ์กันจริง ๆ ....ไม่ควรรับครับ...

เพราะไม่สมฐานะแล้ว...ไม่เป็นการให้โดยเสน่หาแล้วครับ....

ทั้งหลายทั้งปวง...หลาย ๆ ปัจจัย เมื่อมาผสมรวมกัน...ศาลท่านจะดูว่ามีมูลไหม...

ถ้ามีมูล มีน้ำหนักเพียงพอ ท่านจึงจะประทับรับฟ้องครับ...จากนั้นก็เข้าสู่กระบวนการยุติธรรมต่อไป...

ก็ให้ปากคำ ขึ้นศาลกันครับ...

เคสนี้...ถ้ามีเท่านี้จริง ๆ ผมว่าศาลไม่รับนะครับ...โดยเฉลี่ย...

เต็มที่ก็ให้ ตร.เป็นคนกลางไกล่เกลี่ยว่า เลิกติดต่อกันเถอะ...ตามที่ ฝ่ายชายร้องขอ...

ประมาณนี้ครับผม...

ผมอยากรู้เรื่องนี้ จิงจิง
ว่า จะเอาผิดกันได้ไหม

สมัยนี้ การคบหา การแต่งงาน ครอบครัว ท้ายสุด ฟ้องร้อง
ไม่เหมือนพ่อแม่
อยู่กันจนวันตาย ทุกข์ร่วมทุกข์ สุขร่วมสุข

ไม่น่าเกิดมาช้าเลย น่าจะเกิดเร็วกว่านี่สัก20-40ปี อยู่ในสังคม แห่งอะไรไม่รู้...
รักกันดีดี โดน ฟ้องสะงั้น
เคยประสบ เรื่องอย่างนี้มา เข้าใจสุดซึ้งครับพี่


เท่าที่พี่บอก ชาย 34 แล้ว ผมว่า ไม่น่าจะมีไรนะ ผมไม่รู้เรื่องกฏหมายนะ
"งง" ที่จิงต้องเป็นฝ่ายหญิง ที่เสียหาย
ผมสอนรุ่นน้องผมเสมอว่า "อย่าเป็นหญิงในรางชาย" ความหมายต้องเป็นลูกชายจิงจิง
แหม ชาย ฟ้องหญิง
++++++++++++++++++++++เอาใจช่วยอีกครั้งครับ+++++++++++++++++++++++

montree2511
----------
สุดยอดครับผม



พี่ครับ
เมตตาเรื่องนี้สักเรื่องได้ไหมครับ

ในกระทู้ที่ผมตั้งไว้ "แบ่งปันเพลงที่ท่านชอบ โดยยูทูบ"
มีท่านสมชาย ทักมาว่า ทำผิดกฏหมาย
ลักษณะการตั้งกระทู้อย่างที่กล่าวแล้วนั้น
++++++++++ผิดกฏหมายไหมครับ++++++++++

กระทู้นี้แหละครับ
http://forum.munkonggadget.com/detail.php?id=63968

ถ้าผิดจิง ผมจะได้เลิกโพสต์ครับ

เดี๋ยวเข้าไปดูแล้วจะพิจารณามูลอีกทีนึงครับ...ว่าเข้าเกณฑ์ไหม...

คดีลิขสิทธิ์ หรือ พรบ.ลิขสิทธิ์...มีอะไรลึกและซับซ้อนพอสมควรครับ...
พวกตีกินน่ะมีเยอะ...
แป๊บนะครับ...

เดี๋ยวจะมาตอบให้...ขอเป็นกระทู้นี้เลยละกัน...ขออนุญาตน้องเบิร์ดล่วงหน้าครับผม...แหะ ๆ ...

ของพระคุณพี่มนตรีมากๆ ครับ...

ปัญหาไม่ได้อยู่ที่กลัวแพ้คดี เพราะไม่ผิดอยู่แล้ว

ปัญหาอยู่ที่ กลัวถูกดำเนินคดี ต้องไปขึ้นโรงพัก

เพราะเพียงเท่านั้น น้องสาวก็อาจถูกส่งตัวไปเมืองนอกแบบกู่ไม่กลับแล้ว

ไม่อยากให้เรื่องมีอะไรต่อเลยอ่ะครับ อยากให้จบๆๆๆๆๆ ได้มั้ย

ขอรบกวนพี่มนตรี และขออนุญาตพี่Mr.Burst ด้วยนะครับ

ได้เลยครับ ถือซะว่า เป็นกระทู้สาระดีๆ เรื่องกฏหมายก็แล้วกันครับ

เห็นด้วยครับพี่

คงต้องบอกน้องสาวคุณเบิร์ทว่า...เลิกยุ่งกับเขาก็ดีครับ...ส่งอะไรมาก็ส่งกลับ...
หรือเอาไปยื่นให้ผู้ปกครองฝ่ายชายเลยก็ดี...แล้วบอกเค้าว่า จะมาเป็นครั้งสุดท้ายแล้ว...

จากนี้ไปอะไรที่ลูกชายคุณส่งมา...ถ้ายังส่ง จะไม่เอามาให้อีกแล้ว จะไปบริจาคให้มูลนิธฯ อะไรก็ว่าไปครับ...

ทำขนาดนี้ หากเขาอยากเป็นคดี...(ซึ่งผมมองว่าศาลไม่น่ารับนะครับ...ท่านจะหัวเราะเอาว่าฝ่ายชายน่ะที่จะมาฟ้องน่ะ โ่ง่ครับ...ทนายเขา หากอยากจะทำคดีนี้ก็ทนายโจรแล้วล่ะครับ...ไม่ใช่ทนายธรรมะแน่ ๆ ...โลกมีสองด้านครับคุณเบิร์ด)...

ผมฟันธงละกันครับ ว่า 99 เปอร์ ศาลท่านไ่ม่ประทับรับฟ้องตามทนายโจทก์ร้องขอแน่นอนครับ...
ตร.หากจะทำคดีนี้...ร้อยเวรคิดดีแ้ล้วหรือ...อัยการจะกล้าให้ผ่านไหม...ผมว่าเขาไม่กล้าเสี่ยงนะครับ...
คือ มูลเหตุกันมันไม่เพียงพอ...จริง ๆ ครับ...
ผมไม่ปลอบใจนะ...แต่ให้ข้อเท็จจริงเลยดีกว่า...เอาเป็นว่า 99 เปอร์ไม่ฟ้องครับ...



มาเคสคุณสมศักดิ์...หลักง่าย ๆ นะครับ ของการกระทำผิดกฎหมาย ตามคดีลิขสิทธิ์ตาม พรบ.ลิขสิทธิ์....มีสองหลักง่าย ๆ ตามภาษาชาวบ้านเลยครับ...จะได้เข้าใจง่าย ๆ ...

1. ทำเพื่อการแสวงหาผลกำไร...เอามาซื้อขาย ไม่แบ่งรายได้ให้เขา...เข้าใจง่าย ๆ...นะครับ...
เช่น รวบรวมคลิปเพลงเก่า แล้วเอามาอัดแผ่นซีดีขาย...

จะโดนสองคดีทันที คือ พรบ.ลิขสิทธิ์ กับ พรบ.ภาพยนตร์และวีดีทัศน์...
กระทำการขายโดยไม่ขออนุญาต ค่าปรับ หนึ่ีงแสน ถึง ห้าแสนบาท...ประมาณนี้...

2. กระทำการขัดขวางไม่ให้ทางต้นสังกัด ตัวแทนจำหน่าย คนขาย หรือ อะไรก็ตาม...
ที่เขาจะทำมาหากิน...เขาจะขายเพลง ขายหนัง เราไปขัดขวางการกระทำของเขา...
เช่น เราไม่ขายแบบข้อ 1. แต่ดันแจกฟรีหน้าโรงหนัง อะไรทำนองนี้...ผิดครับ...
เพราะเขาเสียหาย...

คดีลิขสิทธิ์ ใช้ฐานความผิดของการกระทำซึ่งหน้า ทำในขณะนั้น...โดยต้องมีการแจ้งความร้องทุกข์มาก่อนครับ...ว่าใครเสียหาย มีการรับมอบอำนาจมาแบบไม่ขาดช่วงด้วย...
มีหมายศาลทรัพย์สินทางปัญญาฯ ในการเข้าตรวจค้น ห้าจังหวัด คือ กทม. และปริมณฑล...
ต่างจังหวัด...หมายศาลจังหวัด ใช้ได้ครับ...พร้อมตร.ยศ ไม่ต่ำกว่าร้อยตรีขึ้นไป...

ครบทุกประเด็น...ถึงจะเป็นคดีตาม พรบ.ลิขสิทธิ์...

ไอ้เรื่องทำซ้ำ...ถ้าผมไม่ขาย จับผมก็หลุดครับ...เจอฮาร์ดดิสก์มีหนัง มีเพลงอยู่ครบ...
ถ้าไม่เห็นผมผลิตแบบจะขาย...ไม่มีทางชนะคดีได้หรอกครับ...

เพราะฉะนั้นสบายใจได้ครับ...ตามที่เฮียมั่นฯแกว่าไว้เลย...ปลอดภัยร้อยเปอร์เซ็นต์ครับ...

ไม่พูดต่อล่ะ...เดี๋ยวชี้โพรงให้กระรอกเอาไปหากินล่ะครับ...

เพราะงี้แหละครับ...เห็นช่องทางในการทำชั่ว...ได้เงินเยอะ...แล้วไม่ทำ...

ถึงไ้ด้มีฐานะยากจน ๆ ทุกวันนี้...แหะ ๆ ...

สิ่งที่ผมตั้งกระทู้นี้ขึ้นมา มีใช่การค้าขายแต่อยากให้ทุกท่านที่มีความสนใจ เข้าใจเพลงได้มากขึ้น รู้จักลักษณะเพลง แนวเพลง
เพราฉะนั้น ผมทำต่อครับ



ขอบพระคุณคุณพี่มนตรีมากครับผม และพี่เบิรด์มากครับ
ขอให้ทุกคนมีความรักกันนะครับ โดยยึดความยุติธรรมไว้นะครับ เอาใจช่วยทุกท่านที่ประสบทุกข์ครับ

ตอบคำถามที่เรปบนสุดก่อนนะคะ

ไม่ใช่ทนายนะคะ เพราะถ้าเป็นทนายจะโพสตอบตรงนี้ไม่ได้ สุ่มเสี่ยงต่อการละเมิดมารยาททนายความ (แม้จะเห็นทนายหลายคนทำอยู่เป็นล่ำเป็นสันก็ตาม) แต่จบกฎหมายมาค่ะ

กรณีนี้ ไม่ใช่ปัญหากฎหมายที่ต้องกังวล แค่เรื่องแม่หวงลูกชายเท่านั้นเอง แต่อายุขนาดนี้แล้ว ยังเรียนโดยไม่ได้ทำงานก็น่าห่วงมาก หัวอกแม่ก็ห่วงเป็นธรรมดา (แต่อยากแนะนำให้ผู้ชายคนนี้หางานพิเศษทำเหมือนกันค่ะ แม่จะได้ไม่ห่วงมาก เพื่อนไปเก็บเงินได้เป็นแสนทีเดียว เรียนไปด้วย ทำงานไปด้วย)

พอรู้สึกว่าลูกชายน่าเป็นห่วง พอคุยกับสาวที่ติดต่อทางเนต แม่ก็ห่วงมาก มีข่าวคนโดนหลอกตั้งมาก ที่ฆ่าตัวตายประชดรักทางเนตก็มี

ขนาดที่บ้าน น้องชายคุยกับเพื่อน(ผู้ชาย) ที่เจอกันทางเนต พ่อยังห่วงเลย (งืม.. ต้องระวังหลังหน่อย) เพราะไม่รู้หัวนอนปลายเท้าอีกฝ่าย

พอไม่รู้เลยโวยวายจะฟ้องนั่นฟ้องนี่ ทั้งที่มันฟ้องไม่ได้ ผู้ชายผู้หญิงคบหากัน เรื่องธรรมชาติ แต่ถ้ามีเรื่องโวยวายขึ้นมา ฝ่ายหญิงอาจจะเสียชื่อเสียงว่าไปยั่วผู้ชาย แต่ในทางกลับกัน ญาติฝ่ายหญิงก็สครีมได้ ว่าแก่แล้วแต่ไปหลอกลูกสาวเขา


ถ้าเรารู้ว่าหัวนอนปลายเท้าอีกฝ่ายเป็นใคร รู้ว่าไม่มาหลอกลวงกันและกัน พ่อแม่ก็ไม่เป็นกังวลหลอกค่ะ แต่ถ้าไม่รู้ และมีการซื้อของให้หรือคุยกันสนิทสนมโดยพ่อแม่ไม่รู้ ท่านก็กังวลเป็นธรรมดา

มองในอีกแง่ ไม่ใช่แค่ฝ่ายโน้นโวยวายว่าน้องสาวคุณหลอกลูกชายเขา คุณต่างหากที่ควรจะเดือดร้อน ว่าผู้ชายไม่รู้หัวนอนปลายเท้ามาหลอกจีบน้องสาวคุณที่อายุน้อยกว่า

ผู้ชายผู้หญิงจีบกันให้ของขวัญกัน ฟ้องไม่ได้ แต่ว่ากรณีนี้ ผู้หญิงเสียหายนะคะ ไม่ใช่ปัญหากฎหมาย แต่เป็นเรื่องชื่อเสียงวงศ์ตระกูล

ถ้าจะคบหากันต่อ ก็ไปแนะนำตัวต่อกันและกันให้เป็นเรื่องเป็นราวเสีย แต่เรื่องนี้ ผู้ชายนั่นล่ะ ควรจะออกมาเคลียร์กับแม่ตัวเองก่อน

ขอแนะนำอีกอย่าง สำหรับทุกคน คืออย่าให้ข้อมูลส่วนบุคคลอยู่ในเครือข่ายออนไลน์ค่ะ ใส่แบบจริงบ้างเท็จบ้าง เพราะเวลาสิบแปดมงกุฎมา เขาก็หาข้อมูลพวกนี้ล่ะ มากุเรื่องหลอกเรา และแฮกข้อมูลการเงินด้วยข้อมูลพวกนี้ บางคนโพสว่ากลับกี่โมง ไปไหนมาไหนยังไง เลยโดนคนร้ายชิงทรัพย์เพราะรู้เวลาไปหมด


สุดท้ายนี้ สุภาษิตจีนมีว่า "เป็นความกินขี้หมาดีกว่า"

ต่อไป เรปที่ ๙ และ ๑๐ นะคะ

การบอกว่าแบ่งปันเพลง เอาคลิปในยูทูปมาโพส ไม่ต้องห่วงว่าจะโดนฟ้อง ถ้าคุณไม่ได้อัพคลิปเอง แต่ถ้าคุณอัพคลิปเอง ยังไม่ต้องห่วงว่าจะโดนฟ้องค่ะ เพราะสิ่งที่เจ้าของลิขสิทธิ์จะทำก็คือ ฟ้องต่อเว็บเพื่อบล็อกคลิปและลบแอคเคานท์ของคุณในยูทูป

แต่ถ้าคุณอัพไฟล์เอ็มพีสามขึ้นเว็บ ปกติคุณทำผิดกฎหมายค่ะ แต่ว่าเจ้าของลิขสิทธิ์ไม่ได้มาไล่จับคุณ เพราะมันเสียเวลา เว้นแต่คุณจะหากินเป็นล่ำเป็นสันทางนี้ โดยอัพไฟล์ขึ้นปล่อยโหลดแล้วเก็บค่าสมาชิกหรือแปะแบนเนอร์โฆษณา แต่ปกติ ถ้าเว็บคุณไม่ดังมาก เจ้าของลิขสิทธิ์จะไม่ยุ่งกับคุณ

ดูที่ พรบลิขสิทธิ์นะคะ
มาตรา 15 ภายใต้บังคับ มาตรา 9 มาตรา 10 และ มาตรา 14 เจ้าของลิขสิทธิ์ย่อมมีสิทธิแต่ผู้เดียวดังต่อไปนี้
(1) ทำซ้ำหรือดัดแปลง
(2) เผยแพร่ต่อสาธารณชน
(3) ให้เช่าต้นฉบับหรือสำเนางานโปรแกรมคอมพิวเตอร์ โสตทัศนวัสดุ ภาพยนตร์ และสิ่งบันทึกเสียง
(4) ให้ประโยชน์อันเกิดจากลิขสิทธิ์แก่ผู้อื่น
(5) อนุญาตให้ผู้อื่นใช้สิทธิตาม (1) (2) หรือ (3) โดยจะกำหนด เงื่อนไขอย่างใดหรือไม่ก็ได้ แต่เงื่อนไขดังกล่าวจะกำหนดในลักษณะที่เป็นการจำกัด การแข่งขันโดยไม่เป็นธรรมไม่ได้
การพิจารณาว่าเงื่อนไขตามวรรคหนึ่ง (5) จะเป็นการจำกัดการแข่งขัน โดยไม่เป็นธรรมหรือไม่ ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการและเงื่อนไขที่กำหนดในกฎกระทรวง

การที่เผยแพร่งานอันมีลิขสิทธิ์ ผิดกฎหมายค่ะ แค่เผยแพร่โดยเขาไม่อนุญาตก็ผิดแล้ว เพราะว่ามาตรา ๒๗ บอกไว้ว่า

มาตรา 27 การกระทำอย่างใดอย่างหนึ่งแก่งานอันมีลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัตินี้ โดยไม่ได้รับอนุญาตตาม มาตรา 15 (5) ให้ถือว่าเป็นการละเมิดลิขสิทธิ์ ถ้าได้กระทำ ดังต่อไปนี้
(1) ทำซ้ำหรือดัดแปลง
(2) เผยแพร่ต่อสาธารณชน

ถ้าเป็นงานที่ละเมิดลิขสิทธิ์ ถึงเราจะไม่ได้ละเมิด แต่ถ้าทำต่อไปนี้ ก็ผิดกฎหมาย
มาตรา 31 ผู้ใดรู้อยู่แล้วหรือมีเหตุอันควรรู้ว่างานใดได้ทำขึ้นโดยละเมิด ลิขสิทธิ์ของผู้อื่น กระทำอย่างใดอย่างหนึ่งแก่งานนั้นเพื่อหากำไร ให้ถือว่าผู้นั้นกระทำการ ละเมิดลิขสิทธิ์ ถ้าได้กระทำดังต่อไปนี้
(1) ขาย มีไว้เพื่อขาย เสนอขาย ให้เช่า เสนอให้เช่า ให้เช่าซื้อ หรือ เสนอให้เช่าซื้อ
(2) เผยแพร่ต่อสาธารณชน
(3) แจกจ่ายในลักษณะที่อาจก่อให้เกิดความเสียหายแก่เจ้าของลิขสิทธิ์
(4) นำหรือสั่งเข้ามาในราชอาณาจักร

โทษจะอยู่ในมาตรา ๖๙ และ ๗๐
มาตรา 69 ผู้ใดกระทำการละเมิดลิขสิทธิ์หรือสิทธิของนักแสดงตาม มาตรา 27 มาตรา 28 มาตรา 29 มาตรา 30 หรือ มาตรา 52 ต้องระวางโทษปรับตั้งแต่สองหมื่นบาท ถึงสองแสนบาท
ถ้าการกระทำความผิดตามวรรคหนึ่งเป็นการกระทำเพื่อการค้า ผู้กระทำ ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่หกเดือนถึงสี่ปี หรือปรับตั้งแต่หนึ่งแสนบาทถึงแปดแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
มาตรา 70 ผู้ใดกระทำการละเมิดลิขสิทธิ์ตาม มาตรา 31 ต้องระวางโทษ ปรับตั้งแต่หนึ่งหมื่นบาทถึงหนึ่งแสนบาท
ถ้าการกระทำความผิดตามวรรคหนึ่งเป็นการกระทำเพื่อการค้า ผู้กระทำ ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่สามเดือนถึงสองปี หรือปรับตั้งแต่ห้าหมื่นบาทถึงสี่แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

หมายความว่าปกติก็ผิด แต่ถ้าหากำไรก็โทษหนักขึ้นอีก

แต่ปกติ เจ้าของลิขสิทธิ์จะไม่มายุ่งกับชาวบ้านถ้าไม่ใช่กรณีดังๆ แต่ว่าปัจจุบัน มีผู้ได้รับมอบอำนาจจากเจ้าของลิขสิทธิ์มาจับ

ก่อนอื่น ถ้าเขามา จะต้องรู้แน่ก่อนว่า เขาเป็นผู้รับมอบอำนาจจริงๆมีเอกสารถูกต้อง แสดงตัวตนออกมา

ต่อมา ผู้รับมอบอำนาจจะไปจับเองไม่ได้ ต้องมีเจ้าพนักงานไปด้วย

มาตรา 67 เพื่อประโยชน์ในการปฏิบัติการให้เป็นไปตามพระราชบัญญัตินี้ ให้พนักงานเจ้าหน้าที่เป็นเจ้าพนักงานตามประมวลกฎหมายอาญา และให้พนักงานเจ้าหน้าที่ มีอำนาจและหน้าที่ดังต่อไปนี้
(1) เข้าไปในอาคาร สถานที่ทำการ สถานที่ผลิต หรือสถานที่เก็บสินค้า ของบุคคลใดในเวลาระหว่างพระอาทิตย์ขึ้นถึงพระอาทิตย์ตก หรือในเวลาทำการของ สถานที่นั้น หรือเข้าไปในยานพาหนะ เพื่อตรวจค้นสินค้า หรือตรวจสอบเมื่อมีเหตุอันควร สงสัยว่ามีการกระทำความผิดตามพระราชบัญญัตินี้
(2) ยึดหรืออายัดเอกสารหรือสิ่งของที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิด เพื่อประโยชน์ในการดำเนินคดีในกรณีมีเหตุอันควรสงสัยว่ามีการกระทำความผิดตาม พระราชบัญญัตินี้
(3) สั่งให้บุคคลใด ๆ มาให้ถ้อยคำหรือให้ส่งบัญชี เอกสาร หรือหลักฐาน อื่นในกรณีมีเหตุอันควรเชื่อว่าถ้อยคำ สมุดบัญชี เอกสาร หรือหลักฐานดังกล่าว มีประโยชน์ แก่การค้นพบหรือใช้เป็นพยานหลักฐานในการพิสูจน์การกระทำความผิดตามพระราชบัญญัตินี้
ในการปฏิบัติหน้าที่ของพนักงานเจ้าหน้าที่ ให้ผู้ซึ่งเกี่ยวข้องอำนวยความสะดวก ตามสมควร

อ่านแล้วจะเข้าใจได้ว่า เขามาค้นโดยไม่มีหมายไม่ได้ และตามฎีกา เขาล่อซื้อไม่ได้

ต่อมา ถามว่าตำรวจจับเองได้หรือไม่ สำหรับความผิดในเรื่องการละเมิดลิขสิทธิ์นั้น เข้าใจว่าความผิดต่อส่วนตัวค่ะ จึงต้องรอให้มีเจ้าทุกข์มาชี้ให้จับ

และถ้าเจ้าทุกข์ (ผู้รับมอบมาชี้ให้จับ) ท่านอาจารย์มีชัย ได้เคยบอกไว้ในเว็บมีชัยไทยแลนด์ โดยต้นเรื่องได้ถามว่า

"เรียน ท่านอาจารย์มีชัย ที่เคารพ

ผมขอเรียนถามอาจารย์เป็นข้อๆ ดังนี้ ครับ

การที่เราขายสินค้าการ์ตูนที่มีลิขสิทธิ์ (เปิดร้านขายของ) รับของมาขาย โดยตำรวจพร้อมผู้รับมอบอำนาจ ฯ เข้าจับกุมข้อหาละเมิดลิขสิทธิ์เวลา 20.00 น.(โดยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ถ้ารู้ไม่ขายแน่นอน) จำเป็นต้องมีหมายค้นหรือไม่ครับ

ตอนนี้ผมสับสนมาก (เพราะคำตอบที่ผมได้บางท่านบอกว่าต้องมี บางท่านบอกไม่มี โดยบางท่านอธิบายผมว่าเป็นความผิดซึ่งหน้า เหมือนกับเรากำลังขโมยของหรือฆ่าคนตายประมาณนี้)

ผมต้องขอรบกวนอาจารย์ให้คำตอบกรณีนี้ เพื่อเป็นข้อมูลสำหรับผมและบุคคลที่ไม่ทราบข้อกฎหมายด้วย

ขอขอบคุณมา ณ โอกาสนี้"

ท่านอาจารย์ได้ตอบไว้เมื่อ 16 มิถุนายน 2554 ว่า "กรณีอาจเข้าข่ายความผิดซึ่งหน้าซึ่งสามารถจับได้โดยไม่ต้องมีหมาย"

(รายละเอียดโปรดค้นหาในมีชัยไทยแลนด์)


ข้อควรระวัง สำหรับผู้ที่อยู่ในต่างประเทศ คือ ในหลายประเทศ แค่บิทหรือโหลดเอ็มพีสาม ตำรวจอาจจะตามมาที่บ้านได้ค่ะ (กฎหมายไทยยังไปไม่ถึง แต่ไม่แน่)

ถ้าต้องการทราบคำตอบปัญหาข้อกฎหมายที่แน่นอน ขอแนะนำให้ไปถามในมีชัยไทยแลนด์นะคะ

ขอบคุณ คุณพิงค์ฟรอยด์

ผมพยายามอ่านหลายรอบ
สรุป คือ ควรปิด กระทู้ดังกล่าว ใช่ไหมครับผม

ถ้าไม่ได้อัพเอง แค่แบ่งกันโพสคลิปสนุกๆ ก็ทำไปได้ค่ะ แต่ถ้าอัพคลิปเอง ปกติก็เสี่ยงแค่เจ้าของจะมาตามบล็อกแอคเคานท์ยูทูปเรา (แต่ตอนนี้ ไม่แน่ใจนะคะ.. แต่ได้ยินว่ายูทูปก็ได้จ่ายเงินให้ค่ายเพลงบางค่ายเพื่อให้เราโพสเพลงในยูทูปได้สนุกสนานโดยยูทูปจ่ายตังค์ให้เจ้าของลิขสิททิ์แล้วค่ะ ถ้ากรณีนี้ เราปลอดภัยจากการโดนลบแอคเคานท์แน่นอน)

ปกติเจ้าของลิขสิทธิ์ในไทย จะมาตามหาเรา เมื่ออัพไฟล์ให้โหลดเป็นล่ำเป็นสันในที่สาธารณะ หรือเมื่อเราหาเงินจากการปล่อยไฟล์เท่านั้นค่ะ

ขอบคุณ คุณพิงค์ฟรอยด์ ด้วยนะครับ... ขอบพระคุณจริงๆ ครับ

ผ่านมาอ่านความรู้ทั้งนั้นเลย ขอบคุณครับ

Burst เอ๊ย เฮียขอตอบแบบลูกทุ่ง แบบโง่ๆ เลยก็แล้วกัน ผิดถูกไม่รู้ ถ้าติดคุกลากเฮียไปก่อนเลยก็ได้ 5555


กรณีแบบนี้ ถ้าจะว่าไปเฮียว่าคนที่เสียหายน่าจะเป็นผู้หญิง ไม่ใช่ผู้ชาย แล้วผู้ชายที่อายุ 34 แล้วพยายามจะหาเด็กอายุ 21 เป็นแฟน เฮียว่าเค้าก็คิดค้ากำไรเกินควรอยุ่แล้วจ้า (ชะช้า จีบเด็กอายุน้อยสิบกว่าปี) แล้วการจะจีบผู้หญิงซักคน แล้วลงทุนซื้อนู่นซื้อนี่ให้ มันเป็นเรื่องปกติของคนบนโลกนี้อยุ่แล้ว (ถ้าเป็นโลกพระอังคารเฮียไม่รู้)


ประเด็นจริงๆๆ มันไม่ใช่เรื่องจะฟ้องร้อง เพราะในความเป็นจริง มันไม่มีใครมาฟ้องเอาเรื่องเอาราวแบบนี้หลอก Burst ทำไปก็เสียเวลา แล้วมันไม่น่าจะมีใครมาสนใจทำคดีที่ไร้ที่มาที่ไป เพราะถ้าคุยทาง facebook ซื้อของให้กัน แล้วฟ้องร้องได้ ป่านนี้ทั้งผู้หญิงและผู้ชายติดคุกกันไปครึ่งโลกแน่ๆๆๆ


ประเด็นคือ แม่ผู้ชายเค้าไม่ชอบวิธีการคบกันทาง Facebook ของผู้หญิง ก็เลยหาเรื่องมาโวยวายว่าจะเอาเรื่องฟ้องร้อง เป็นการขู่กลายๆ ให้เลิกติดต่อกันซะ มันเป็นวิธีคิดโบราณและความรักลูกจนกลายเป็นลูกแหง่ของแม่ (อายุ 34 ยังไม่ได้ทำงาน เฮียว่าชอบกล)

แค่นี้จริงๆ Burst เชื่อหัวเฮียได้เลย ถ้าผิดเฮียโกนหัวเลยจ้าๆๆๆ

พยายามทำใจเย็นๆ สักหน่อยนะคะ และเรื่องนี้คุณควรจะคุยกับน้องสาวให้ทราบรายละเอียดด้วย ให้รู้ว่าตัวผู้ชายเป็นใคร ลูกเต้าเหล่าใคร แม่ผู้ชายรู้เรื่องการคบหากันได้ยังไง ผู้ชายตื้อฝ่ายเดียวจะเอาของมาให้ หรือเป็นแฟนกัน อีกฝ่ายจะเรียนจบเมื่อไร กลับไทยวันไหน น้องสาวชอบเขาแบบไหน แล้วก็ขอคุยกับตัวผู้ชายให้รู้เรื่อง ว่าจะคบหากับน้องสาวคุณยังไง เพื่อนกันหรือไม่ใช่ จะเคลียร์กับแม่ตัวเองยังไง

ถ้าอีกฝ่ายรู้ว่าบ้านคุณเป็นหลักเป็นฐาน แล้วโวยวายอีก ก็อย่าได้ลืมว่า คุณต่างหากที่เป็นฝ่ายเสียหายเพราะใครไม่รู้มาจีบน้องสาวคุณอยู่ อายุก็เยอะกว่าตั้งมากด้วย (ถ้าเขาคบหากันแบบไม่ใช่เพื่อนนะคะ)

และให้น้องสาวระวังเรื่องการโพสข้อมูลส่วนตัวทางเนตด้วยค่ะ

ได้ความรู้อีกแล้วขอบคุณครับคุณ พิงค์ฟรอยด์

กระทู้ดีดี
มีประโยชน์มาก
ขอบคุณทุกท่านครับ

ผมคิดคล้ายๆกับเฮียย์ครับ ว่า Facebook มันก็ Fakebook ดีดีนี่เอง ถ้าใช้ไปในทางไม่ดีหนะครับ ….

▲
▲
จุ๊ฟๆๆๆ พี่ทศย์พูดโดนจาย....

แล้วเฮียก็...ไม่ต้องโกนหัว ผมก็เชื่อเฮ๊ยอยู่แร้วววววค้าฟฟฟฟฟฟ....

แม่ฝ่ายชายเล่นแรงมากอ่ะคับ ส่ง MESSAGE มาให้น้องยาวเลย...
แล้วไปหาเบอร์น้องมาจากไหนไม่รู้ (น้องคนนี้ เฮียเคยเห็นหน้าแล้วด้วยครับ ที่ผมให้ดูไง)
กระหน่ำมาจนน้องต้องปิดเบอร์ไป...
ก็ลูกชายเค้าถูกบงการโดยแม่เค้ามาทั้งชีวิต ส่งเงินให้ไปเรียนเมืองนอกเมืองนา
แต่เอาเงินมาซื้อของให้สาวที่ยังไม่เคยแม้แต่จะเจอตัว แถมค่าโทรเกือบแสน...
เป็นแม่คนพอรู้ก็คงแค้นน่ะครับ...

แต่ถ้าทุกท่านคิดว่า ไม่น่าจะเอาเรื่องเอาราวกันได้ จะได้ไปบอกน้องให้สบายใจครับ

ผู้ใหญ่..รังแกเด็ก... ไม่น่ารักเลยนะครับ จริงมั้ย

ตอบคุณพิงค์ฟรอยด์...

น้องสาวพยายามบล็อกทุกทางแล้วครับ ปิดเฟซ ปิดมือถือ...
แต่ดูเหมือนแม่ฝ่ายชายจะราวีไม่เลิก..โทรไป blame คนใกล้ตัวของน้องถึงบริษัท...
และขู่ว่าจะเอาเรื่องตระกูลของน้อง ซึ่งมีฐานะด้วย..
ถ้าเกินเลยขนาดนี้.. ควรจะฟ้องกลับดีมั้ยครับ

ผมว่า.. มันเข้าข่าย "คุกคาม" แล้วนะครับเนี่ย ลูกแหง่กับแม่ขี้วีนเนี่ย!!

คุณเบิร์ดจูงมือน้องสาว ขึ้นไปลงบันทึกประจำวันก่อนได้เลยครับ...ยิ่งเร็วยิ่งดี...

เรื่องทำนองนี้...ใครลงมือก่อนได้เปรียบครับ...หากจำเป็นต้องมีคดีความกันจริง ๆ ...

เอาหลักฐานทุกอย่างที่เค้าทำท่าจะ "คุกคาม" เราแสดงต่อหน้าเจ้าพนักงาน...

ขอสำเนาบันทึกประจำวันเก็บไว้หนึ่งฉบับ...เผื่อวันหน้าต้องได้ใช้...



ส่วนคดีลิขสิทธิ์อย่างทีี่บอกแหละครับ...ตัวจริง...ไม่ได้เข้ามาจับกันง่าย ๆ หรอกครับหากมันไม่เหลือบ่ากว่าแรงละเมิดเขาจริง ๆ ...เขาเสียหายเป็นล้าน ๆ หรือ หลายสิบล้าน...

ที่เหลือทุกวันนี้ "ตีกิน" ทั้งนั้นแหละครับ...

บัตรอนุญาตตัวแทนที่ได้รับการแต่งตั้งจากกรมทรัพย์สินทางปัญญารึก็ไม่มี...
ตร.แต่งครึ่ีงท่อน ยศอะไรก็ได้ ...ไปด้วย 1 คน...
แล้วก็ สำเนาบันทึกประจำวันหนึี่งฉบับ...
ใบมอบอำนาจมีใครทันได้เช็คไหม มอบขาดช่วงไหม...หมดอายุแล้วหรือยัง...
ได้รับการมอบอำนาจมาตรงหรือไม่...

ใครช่วยอะไรได้บ้างเวลาโดน...เปล่าเลย...มีแต่คนกล่อมให้ยอมรับผิดแล้วจ่ายเงินค่ายอมความทั้งนั้น...

ตย.แม่ค้าเครปวาดรูปเครปบนเตาเป็นตัวการ์ตูนโดเรม่อน...มันก็จับ...
ร้านเสริมสวยเปิดเพลงฟังในร้านมันก็จับ...
นักร้องเล่นดนตรีสดบนเวทีมันก็จับ...
ฯลฯ...ของความอยุติธรรม

บางทีผมก็งงครับ...ตกลงแล้วกม.ลิขสิทธิ์มีไว้เพื่ออะไร...เพื่อปกป้อง หรือ เพื่อรังแก...

เพราะที่ผมเจอ...ไอ้ประเภทจับตามกม.เป๊ะ...บอกตรง ๆ มีน้อยครับ...

ผมต่อสู้เรื่องราวแบบนี้ในเชียงใหม่มานาน 2-3 ปี...สุดท้ายผมก็ต้องยอมถอนตัวเองครับ...
สลึงไม่เคยได้...สุดท้ายญาติก็กล่อมให้ยอมรับ(ทั้ง ๆ ที่ไม่ได้ทำจริง...ละเมิดกม.จริง)...
เ็ซ็นต์รับสารภาพ กับ จ่ายค่ายอมความ...วัดครึ่งกรรมการครึ่ง...ตามธรรมเนียม...จบ...

โลกนี้มีด้านมืดให้เรียนรู้อีกเยอะครับ...




ที่เหลือสุดท้าย...ก็อยู่ที่กรรมของแต่ละคนที่ทำนะครับ...

ด้วยความเคารพ...ครับผม...

Burst เอ๊ย.... นี่มันคดีลูกแหง่น่ะ

พี่เห็นเหมือนเฮียครับ มันแค่ขู่จะฟ้อง เพื่อให้เลิกติดต่อกันเท่านั้นเอง

ส่วนไอ้ที่มาตามราวี พี่ว่าท่าจะประสาทกับความหวงลูกชายขนาดหนักครับ

(ลูกนะเว๊ย ไม่ใช่ผัว)

แล้วอายุ 34 แล้ว งานก็ไม่ทำ เกาะชายผ้าถุงแม่รับประทานไปวันๆ พอกันเลยแม่ลูก

ยังมีหน้ามาจีบสาวน้อยอายุ 21 อีก นี่สุดจะบรรยายว่ะ

ถ้ามันน่ารำคาญมาก ก็เลิกเล่นเกมรับ หันมาเล่นเกมบุกมั่งดีกว่า

บอกว่าจะเอาเรื่องลูกมันมั่ง มา"พยายาม"หลอกลวงน้องสาวเรา

เราจะแฉหนังหน้า กับเรื่องราวลูกชายสุดสวาทมันให้ทั่วทอเร้นท์เลย

ว่าแม่ลูกคู่นี้ขู่แบล็กเมล์เรา แจ้งความว่าโดนคุกคามแบบอามนตรีย์แนะนำเลยครับ

โธ่.... คดีลูกแหง่แท้ๆ บอกที่บ้านใจเย็นๆ เชื่อใจกันหน่อย ยามซวยคนเราต้องการความเชื่อใจกันนะจ๊ะ ของแบบนี้พิสูจน์ได้ อย่าโทษกันผิดไป จะเสียใจกันทีหลัง

ถ้าพี่ Burst เอาไม่อยู่ เดี๋ยวน้องอีแมนย์ไปช่วยน้องเค้าอธิบายก็ได้จ้า (น้องอีแมนย์อายุ 23 ปีนี้แหละจ้า)

อามนตรีย์ครับ อยากปรึกษาคดีล่วงละเมิดอ่ะครับ เผื่อไว้เอาตัวรอดวันหน้าอ่ะครัฟย์ อิอิ

ผมก็ว่าจะปรึกษาเหมือนกันครับ

ผมโดนละเมิด อย่างละเมียด โดยละม่อม....

หาคนละเมิดไม่เจอ มันเยอะจัด

ถ้าเจอละม้าย จะจับละเมิด แบบละมุน....

คึกคักจัง
กระทู้นี้ ดีมากมาย มีประโยชน์ จิง

ระวังเจอละมุดนะพี่ไก่ย์

อามนตรีย์ครับ อยากปรึกษาคดีล่วงละเมิดอ่ะครับ เผื่อไว้เอาตัวรอดวันหน้าอ่ะครัฟย์ อิอิ

ตอบ...น้าแม๊นย์ว่า...เอ่อ...เกิดหรือยังครับ...ถ้ายังก็เป็นเพียงความคิด...ในทางกฎหมายถือว่ายังไม่เกิดครับ...แค่(คิด)เตรียมการเจ๋ย ๆ ...ฮี่ ๆ ...




ผมก็ว่าจะปรึกษาเหมือนกันครับ

ผมโดนละเมิด อย่างละเมียด โดยละม่อม....

หาคนละเมิดไม่เจอ มันเยอะจัด

ถ้าเจอละม้าย จะจับละเมิด แบบละมุน..

ตอบ...น้าไก่ย์ว่า...เอ่อ...อันนี้ไม่เป็นคดีแน่ ๆ ครับ...เพราะ "สมยอม"...แหะ ๆ ...จริง ๆ น๊า...ต่ะเอง...

ก๊ากกก...

โห.... ศัพท์เก่าดั้งเดิมเลยครับพี่อีแมน

อายุไม่ถึง 40 เผลอๆๆ ไม่มีทางรู้เลยนะเนี่ย 5555

เกือบลืมครับ...ขออนุญาตบอกน้องเบิร์ดไว้ก่อนเรื่องนึง....

จะทำอะไรได้หมดครับ...ตามคำแนะนำ...

แต่ห้ามเอาไปโพสต์ทางเน็ตนะครับ...เีดี๋ยวจะเข้าทางเขา...

เราจะผิด ตาม พรบ.การกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์...เรื่องการเผยแพร่โฆษณา...

ถึงมันจะจริงเพียงใดก็ตาม...คุยกันในนี้...ไม่เอ่ยชื่อ นามสกุล...ไม่มีใครเสียหายใด ๆ ครับ...

แต่ถ้ามีรูป หรือ มีชื่อ...อันนี้เข้าข่าย...อันตรายครับ...

ลืมบอกไป...ขอโทษด้วยครับ...

ขอบพระคุณครับ ผมไม่เคยเอ่ยชื่ออยู่แล้วครับ....

ก็ขนาด "เฮีย" ยังเรียกแค่ "เฮีย" เลยครับ...

จริงมั้ยครับ.. "เฮียละม่อม" 5555ย์

พี่อีแม้นนนยยย์ กลัว พี่ไก่ย์ที่รักของทศย์ จะเจอไอ้นี่เร๋อครับ ….

นั่นมันเม็ดแตงนี่ครับ..555

ผมขอแสดงความเห็น ในฐานะได้เรียนกฎหมายมานิดๆหน่อยว่า

อันว่าความรับผิดทางอาญานั้นจะต้องดูที่เจตนาเป็นสำคัญ(เว้นแต่กฎหมายยกเว้นไว้ว่าไม่มี

เจตนาก็เป็นความผิด เช่น ความผิดลหุโทษ เป็นต้น)

ซึ่งต่างกับความรับผิดทางแพ่งที่อาจต้องรับผิดโดยไม่ต้องมีเจตนา

และความรับผิดทั้งทางแพ่ง และทางอาญาจะต้องพิจารณาจากข้อเท็จจริง+ข้อกฎหมาย

พิสูจน์ประกอบกันจนเป็นที่สิ้นสงสัยครับ

ก๊ากกก...เข้าใจหา "เ็ม็ด" มาลงแฮะ...น้าทศย์... นี่ไม่ธรรมดาจริง ๆ ...

(สั่ง "พิเศษ" ตอนนี้เพิ่ม 10,15 บาทแล้วกระมัง...)

เฮ้ยยย์....!!!

ไปเม็ดแตงกันแร้ววุ้ย์... 555

- น้องสาวไปพูดคุยสนิทกับผู้ชายคนนึง มาเป็นระยะเวลาหลายเดือน(ทางเฟซบุ๊ค)
- ผู้ชายคนนี้เรียนอยู่ออสเตรเลีย น้องสาวอยู่กรุงเทพฯ
- ต่อมา.. แม่ของผู้ชายรู้ ว่าลูกชายมาพูดคุยจิ๊จ๊ะกับน้องสาว
- แม่ของผู้ชายไม่พอใจ ต้องการจะฟ้องว่าน้องสาวไปหลอกลวงลูกชายเค้า
ให้ซื้อของ หรืออะไรต่างๆ นานา...(ทั้งที่ความจริง ไม่เคยขออะไรเลยซักบาท)
- คาดว่า...ผู้ชายน่าจะอยากซื้อของให้เป็นของขวัญปีใหม่ แต่ผู้ชายยังเรียนอยู่ ยังไม่มีเงินเดือนแม่เค้าคงโกรธที่เอาเงินที่ส่งเสียเรียน ไปซื้อของให้สาว..
- ถามว่า แม่ของผู้ชายเค้าฟ้องร้องว่าน้องสาวหลอกลวง... ได้มั้ยครับ ผมกลัวน้องสาวจะเดือดร้อน เพราะถ้าเรื่องถูกดำเนินจริงๆ
- น้องสาวคงต้องถูกส่งตัวไปอยู่เมืองนอกแบบไม่ได้กลับมาเหยียบเมืองไทยแน่ๆ
- อ่านๆ ดูก็ไม่น่าจะผิดอะไรนี่ น้องคุณก็ไม่ได้หลอกเขา แม่เขาก้ไม่ใช่ผู้เสียหาย(อายุ 34 ปีแล้วยิ่งกว่าบรรลุนิติภาวะอีกนะครับ) เว้นแต่นายคนนี้จะไปแจ้งความร้องทุกข์ด้วยตนเอง
- แต่แปลกตรงที่ว่าถ้าน้องคุณถ้ามีเรื่องขึ้นโรงขึ้นศาลแล้วทำไมต้องไปเมืองนอกด้วยละ

งง เม็ดแตง = =

ต้องให้ลูกตัวเองเป็นเก้งกวางซะก่อนแล้วจะรู้สึก
ทีนี้ล่ะจะหาสาวมาประเคนให้ถึงที่

ตามความเห็นที่ 46 เลยครับ

แม่ของผู้ชายไม่ใช่ผู้เสียหายตามความผิดฐานฉ้อโกง เพราะคุณธรรมทางกฎหมายของความผิด

ฐานฉ้อโกงนั้นมุ่งคุ้มครองผู้ที่ถูกหลอก และผู้ที่เสียทรัพย์ไปจากการถูกหลอก

ยังไงก็ไม่มีอำนาจในการร้องทุกข์ต่อเจ้าพนักงานอยู่แล้ว

สรุปเรื่องลิขสิทธิ์อีกครั้งนะคะ

ปกติทีมจับที่เป็นผู้เชี่ยวชาญจะทำตามขั้นตอนตามกฎหมายเป๊ะๆๆ ค่ะ ถ้าผิดจริงไม่รอดแน่ค่ะ

แต่เนื่องจากว่าค่าตัวผู้เชี่ยวชาญแพง และบริษัทเจ้าของลิขสิทธิ์ในไทยนี่ล่ะค่ะ ไม่ค่อยรับผิดชอบ เลยทำให้มีผู้ไม่รู้กฎหมาย แต่รู้วิธีข่มขู่ กลายเป็นผู้ได้รับมอบอำนาจตัวจริงบ้าง ตัวปลอมบ้าง ออกมาจับชาวบ้าน

พวกคนที่ไม่รู้กฎหมายแต่รู้วิธีข่มขู่เหล่านี้ จะกลัวคนที่เอาจริงและรู้กฎหมายค่ะ ไม่กล้ายุ่งแน่ถ้ารู้

ที่ต่างประเทศจะไม่ค่อยมีปัญหาประหลาดแบบไทย เพราะถ้าไม่มีอำนาจ หรืออีกฝ่ายไม่ผิด แล้วไปไล่จับไล่ข่มขู่เขา โดนฟ้องกลับเอาตายแน่ ถึงไม่มอบอำนาจไปเอง แต่ไปปล่อยพวกนี้แอบอ้างบริษัทก็ต้องโดนเช่นกัน

แต่คนไทยไปยอมเขาไงคะ ยอมให้เขาข่มขู่ มันถึงเป็นแบบนี้ ถ้าทุกคนเอาจริง ถ้ารู้กฎหมาย ถ้าฟ้องกลับไปบริษัทก็จะไม่มอบอำนาจมั่วซั่ว และพวกนี้ก็จะไม่กล้าจับมั่วซั่ว เราต้องรักษาสิทธิ์ของเรา จึงจะแก้ปัญหาระยะยาวได้

แต่ทว่า ค่าตัวผู้เชี่ยวชาญแพงไงคะ... พอไม่จ้างผู้เชี่ยวชาญ จะสู้คดีเองก็ไม่กล้า คนไม่รู้เรื่องก็ยอมๆ ไป มันก็เป็นปัญหาต่อมา

จะแก้ปัญหานี้ได้ ภาครัฐต้องเผยแพร่ความรู้ให้มากๆค่ะ ส่วนคนที่รู้ตัวว่าทำอะไรเกี่ยวกับเรื่องพวกนี้ ก็ต้องศึกษาไว้ให้มาก และตัวรวจต้องไม่ไปร่วมมือกับพวกจับมั่ว


(ไม่อยากจะบ่นเยอะ แต่ก็บ่นจนได้)