อิอิ บร๊ะเจ้าของสาวกกรันจ์ใช้ koss ครับพี่น้อง
อิอิ บร๊ะเจ้าของสาวกกรันจ์ใช้ koss ครับพี่น้อง
สมกับเป็นหูฟังในตำนานที่มีสายการผลิตยาวสุดๆ อีกรุ่นนึงจริงๆ 555+
เจี๊ยกกกกก 5555 เออวุ๊ย เพิ่งเคยเห็นเหมือนกันแฮะ 555
&dquot;Come as you are&dquot;
ว๊าก..!! เฮียฟัง Nirvana ด้วยเหรอ เนี่ย 5555
ครั้งแรกที่ผมได้ฟังป๋า เคิร์ท ครั้งแรกคืออัลบั้ม nevermind เพลง Smells like teen spirit ครับ ขอบอกมันเป้นความรู้สึกที่ใหม่มาก ครับ เมื่อได้รับฟัง Sound
กีต้าร์ พร้อมเสียงกรีด และกดเสียงของป๋า เคิร์ท เสียงกลองที่กระแทกกระทั้น ไม่มียั้ง เบสเดินดุ่ม ดุ่ม อย่างไม่เหน็ดเหนื่อย ทางคอร์ดแปลก ประหลาดจังวุ๊ย ไม่เหมือน
เพลง เก่า เก่าที่เราฟังเลยวุ๊ย 5555 ฟังครั้งแรกยืนงง อยู่ พักนึง ครับ มันมารวมกันเป้นเพลงได้ยังไงนี่.... ???
หลังจากนั้นก็ติดตามอัลบั้มของแกมาไว้ในอ้อมใจทุกชุด เลย ครับ ยอดเยี่ยม มาก
มาก ครับ สำหรับผม แล้ว นี่ก้คือ ตำนานอีกหนึ่งหน้า ที่ประทับตราติดใจไปอีก นานเลยละ ครับ ........คิดถึ้ง คิดถึง ...................อิ อิ อิ
คิดถึงได้แต่ห้ามตามไปหาเด็ดขาด แล้วพวกมือกีต้าร์แนวBLUESละครับคุณเบียสชอบใครบ้าง
แนวบลูส์ ชื่ออะไรหว่า อ๋อ Keb Mo ซิ ฟังง่ายๆๆๆ สบายๆๆๆ 555
สำหรับคนๆนี้นะครับผมว่า ฝีมือถ้าให้คะแนน คงแค่ 50-60เต็ม100 แต่ไอเดีย ความคิดสร้างสรรค์ 100เต็ม100 ครับไม่รู้คิดได้ไงแต่ละเพลง 3-4คอร์ด แต่ไม่มีใครเหมือน
555เห้นด้วยกับคุณ Grunger ครับ 555
คอร์ดที่ป๋าเคิร์ทแกกระหน่ำใส่หูผมในตอนนั้น มันช่างมีมนต์ขลังเสียนี่กระไร ครับ ฟังดูแล้วเหมือนง่าย ง่าย ไม่มีอะไร
แต่เมื่อลองเอากลับมาแกะมาลอกแบบของพี่แกแล้ว โอ๋แม่เจ้า ทำไมมันกระโดดข้าม สเกลไป มา อย่างนี้ ฟ่ะ 555 โซโล่ของพี่แกเหมือนไม่ได้ตั้งใจ โซโล่ เอาซะเลย
มันเป้นเพลงได้ไงฟ่ะเนี่ย 555 จำได้เลย ครับ ช่วงนั้นหลงไหลมาก วงnirvana นี่ มีอิทธิพลมาก ครับ ทำเอาวงการเพลงทั้งโลก สั่นสะเทือนเลยละ ครับ
สะเทือนยังไงนะเหรอ ศิลปิน 3 ชิ้น คลอดออกตามมาอีกเป็น ขบวน ยาวเลย ครับ ไม่เว้นแม้แต่เมืองไทย ครับ 555 พูดแล้ว ก็คิดถึง วง nirvana มากมาย ครับ ส่วน
ศิลปิน บูลส์ ผมฟังไม่ค่อยลึกซึ้งนัก ครับ ฟังกันแบบผิว ผิว เท่านั้นเองจ้า 555 แต่ที่ชอบก็มีเหมือนกัน ครับ บูลส์ ที่ผมชอบเหรอ ครับ ก็มีเจ้าเก่า ป๋า Hendrix
ไงครับ คนนี้ ยากที่จะลืมเลยละ 555 ส่วน บูลส์ ร๊อค ผมจะชอบ The Allman
Brothers Band ครับ วงนี้ สุด สุด จริง จริง ครับ ไม่ทราบว่าคุณ Aor เคยฟังบ้างรึเปล่า ครับ.................อิ อิ อิ
5. เมษายน 1994
ช่างไฟของบริษัทรักษาความปลอดภัย
ทีมหนึ่งถูกส่งมาเพื่อจะแก้ไขระบบในบ้านหรูของซีแอตเทิล
เขาออกจะแปลกใจนิดๆ เพราะไม่ว่าจะเป็นหน้าบ้าน หลังบ้าน
กริ่งสัญญาณดูจะไม่ช่วยให้ใครซักคนในบ้านออกมาต้อนรับ
สัญชาตญาณสอดรู้สอดเห็นทำให้เขาแอบมองเข้าไปเห็นเงาตะคุ่มๆอยู่บนพื้นในบ้าน...เงาตะคุ่มนั้นน่าจะเป็นหุ่นลองเสื้อที่ล้มลงโดยมีคราบดำๆ
เต็มไปหมด แต่อะไรบางอย่างทำให้เขาเสียววาบขึ้นมา จนต้องโทรเรียกตำรวจให้มาดูเมื่อประตูถูกพัง
กลิ่นคาวเลือดกระจายมากระทบหน้า เพราะ
ร่างนั้นไม่ใช่หุ่นพลาสติกแต่มันคือศพ
ของคนตายซึ่งน่าจะเสียชีวิตมานานแล้ว
ที่สำคัญเมื่อพลิกหน้าขึ้นมาดู...ทุกคนก็ต้องใจหายวาบ เพราะนี่คือ
นักดนตรีร็อกที่เก่งที่สุดแห่งยุค 90 นามว่า &dquot;เคิร์ธ โคเบน&dquot;
ผู้นำของวงดนตรีเนอร์วาน่านั่นเองสองวันหลังจากนั้นแผนกพิสูจน์หลักฐานชี้ว่า
เคิร์ธ โคเบน ยิงตัวตายโดยเอาปากกรอกลูกซอง
และใช้เท้าเหนี่ยวไกปืนเพื่อดับชีวิตตัวเอง หลักฐานอีกชิ้นก็คือ
จดหมายที่ทิ้งอยู่ข้างศพ 1
ฉบับที่ดูเหมือนจะเลอะเทอะแต่ก็น่าจะเป็นจดหมายลาตายของเขาขณะเสียชีวิต เขามีลูกกับ คอร์ตนี่ย์ เลิฟ ภรรยานักดนตรีร็อกพร้อมกับลูกสาว 1 คน ที่มีอายุเพียง 9 เดือนเท่านั้น
ตำรวจปิดคดีกันง่ายๆ
แต่แฟนเพลงเข้าใจว่าจะไม่ยอมปิดเอาเลย เพราะ จนบัดนี้เป็นเวลา 14 ปีแล้วที่เขาเสียชีวิตไปหลายอย่างมันเป็นปริศนาที่ยังไม่มีใครขบคิดกันแตกเสียที
ทอม แกร้นต์
นักสืบเอกชนจากแอลเอ เป็นหนึ่งในบุคคลที่เสนอทฤษฏีว่า เคิร์ธ โคเบน
ฆ่าตัวตาย หลายคนเชื่อ เพราะทอมหาหลักฐาน
มาหักล้างแนวโน้มที่จะฆ่าตัวตายของสุดยอดนักดนตรีร็อกก่อน
เขาไล่หลักฐานมาดังนี้ว่า
1.คอร์ตนี่ย์กำลังเผชิญกับการฟ่องหย่า
ก่อนที่เขาจะตายเคิร์ธให้ทนาย จัดการหย่ากับคอร์ตนี่ย์
และเตรียมจะย้ายจากซีแอตเทิล
คอร์ตนี่ย์หัวฟัดหัวเหวี่ยงและเคยสาปแช่งจนถึงกับขู่ฆ่าทนายของฝ่ายเคิร์ธเสียด้วย
2.มีคนแอบใช้เครดิตการ์ดของเขา...ใครเอ่ยจะใช้เครดิตการ์ดของคนตาย
ถ้าไม่ใช่เพราะ มันถูกฉกไปหลังจากที่เคิร์ธถูกเก็บ
และฆาตกรรมอำพรางเรียบร้อยแล้ว แต่เมื่อมีคนพบศพของเขา
เครดิตการ์ดใบนั้นก็ไม่ได้ใช้อีก...คำตอบก็คือ
คนฆ่านั่นแหล่ะที่เอาเครดิตการ์ดไปใช้ซะ 2 วันเต็ม
3.ก่อนตายเคิร์ธแจ้งให้หลายคนทราบว่า
เขาถูกปองร้ายอยู่ และปืนที่เขาฝากเพื่อนซื้อนั้น
ก็เป็นปืนที่เขาเอาไว้ป้องกันตัว ไม่ใช่เอาไว้ฆ่าตัวตาย
4.ปืนที่ตำรวจอ้างว่าไม่มีรอยนิ้วมือเลยนั้น
ตำรวจไปเช็กเอาหลังจากที่เกิดเหตุขึ้นตั้ง 1 เดือน ในระหว่างนั้นใครก็ได้
สามารถลบรอยนิ้วมือไปได้
5.จดหมายที่ทิ้งไว้
ไม่ใช่จดหมายลาตาย ... เรื่องของเรื่องก็คือ ตำรวจสรุปแบบนั้นก็เพราะ
คอร์ตนี่ย์ให้การว่ามันเป็นจดหมายลาตาย ทั้งๆ
ที่ในจดหมายนั้นเคิร์ธเขียนถึงแฟนเพลงคนหนึ่งโดยเนื้อความมีเพียงแค่ว่า
อาจจะเลิกจากธุรกิจดนตรีเสียที
6.หลังจากที่ไม่มีหลักฐานอะไรเกี่ยวกับการตาย
จู่ๆ คอร์ตนี่ย์ก็เอาจดหมายลาตายอีกฉบับมาโชว์
หลังจากที่คดีถูกปิดไปแล้วหลายเดือน คำถามก็คือ ถ้ามันมีจุดที่ยืนยันได้
ทำไมไม่รีบเอามาโชว์ก่อนตั้งแต่ตอนให้การ
7.ปริมาณเฮโรอีนที่อยู่ในเลือดซึ่งตรวจพบในศพนั้นมีถึง
225 มิลลิกรัมต่อลิตร ซึ่งมีปริมาณ 3 เท่าของปริมาณยาที่ทำให้ตายได้
และด้วยปริมาณขนาดนั้น ถ้าไม่ตายเขาก็ไม่มีแรงจะไปตั้งท่ายิงตัวเองอยู่ดี
อีกประเด็นก็คือ เคิร์ธแกจะไปฆ่าตัวตายด้วยปืนทำไม
ในเมื่อด้วยปริมาณยาขนาดนั้น แกก็ต้องตายอยู่แล้ว...ข้อสรุปก็คือ
มีคนฉีดเข้าไปในตัวหลังจากแกตายแล้ว ซึ่งเป็นการอำพรางคดีอีกอันหนึ่ง
8.เก้าอี้ที่เคิร์ธใช้ยิงเพื่อฆ่าตัวตายนั้น กระเด็นผิดท่าผิดทาง ผิดวิถีของการล้ม
ความจริงยังมีอะไรอีกหลายอย่าง
แต่นี่เป็น 8 ข้อสังเกตในการตาย ทอมเขียนหนังสือขึ้น
และขายดีเป็นเทน้ำเทท่า ทอมชี้ว่า คอร์ตนี่ย์ เลิฟ ภรรยาของเคิร์ธ
น่าจะเป็นตัวการสำคัญของฆาตกรรมนี้
โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อพยายามจิ๊กซอว์ความสัมพันธ์ของเลิฟกับ ‘คาลี’
อดีตแมวมองศิลปินของเจฟเน เรคคอร์ด สังกัดของเนอร์วาน่า เพราะเมื่อเคิร์ธตาย
มรดกทั้งหมของเขาก็จะตกอยู่กับคอร์ตนี่ย์นั่นเอง!!
แถมลิขสิทธิ์บางส่วนยังถูกผองถ่ายสิทธิการผลิตในบริษัท
ที่คาลีตั้งใหม่เพื่อจัดจำหน่ายและตั้งเป็นสังกัดเทปเองเสียด้วย ทอม
แกร้นต์ เกือบจะฟันธงว่าทั้งคู่เป็นชู้กัน!! แต่เขาไม่แน่ใจ
เพราะตัวละครที่คาดว่าจะเกี่ยวข้องอย่าง “ไมเคิล เดวิตต์”
คนเลี้ยงเด็กรูปหล่อก็น่าจะมีส่วนด้วยในการสมรู้ร่วมคิดครั้งนี้แต่ก็แปลกเหมือนกันที่ไม่ว่าแกร้นต์จะออกมาว่าเรื่องนี้ในที่สาธารณะแค่ไหน...เขาไม่เคยถูกฟ้องจากคนสองสามคนนี้ฐานหมิ่นประมาทเลยอาจจะเป็นเพราะสองสามคนที่ว่าถือคติ...พูดไปสองไพเบี้ย
นิ่งเสียตำลึงทอง หรือไม่ก็อาจจะอยู่ในสภาพ
ที่ไม่อยากให้มีการรื้อฟื้นคดีนี้ขึ้นมาอีกก็ได้จะเรียกว่าน้ำท่วมปากก็คงไม่ผิดนัก
17 เม.ย. 2004
กระบอกเสียงแห่งซีแอทเทิล ข้อมูลเก่าเอามาเล่าใหม่ครับ
555 ขอบคุณ ครับ คุณ B_Rabbit เอ้าเล่าย้อยหลังกันบ้าง ครับ หลังจากการจากไปของ ป๋า เคิร์ท นั้น
ก็เกิดความโกลาหล ในหมู่แฟนเพลง ครับ มีแฟนเพลงบางคนที่คลั่งไคล้ ถึงกับ ฆ่า ่ตัวตายตามไปก็หลายคน เฮ้อ!! ช่างน่ากลัวอะไรอย่างนี้ 555 เสียงวิพากษ์วิจารณ์ กับไปต่าง ต่าง นานา ถึงสาเหตุ ในตอนนั้มีอยู่ 2 ประเด็น ครับ ที่เข้าท่าน่าเชื่อ คือ
1. ป๋าเคิร์ท เมามาก จนจิตหลุด แล้วเกิดเพี้ยน ครับ ไปหยิบปืน มากรอกปากแล้วปลิดชีพ ตัวเองไปในตอนนั้น
2 . การจัดฉากฆาตรกรรม จาก ภรรยา สาวสวย ครับ คอสนี่ย์ เลิฟ
ส่วนผมในตอนนั้นคิดว่า ป๋าเคิร์ท เป้นแบบนี้ ครับ ผมคิดว่าแกอยากบรรลุโสดาบรรณ 555 ประกอบกับแกค่อนข้างเพี้ยน เพี้ยน เล่น ยาเป้นอาจิณ ก็เลยต้องจาก
พวกเราไปก่อนวัยอันควรเลย ครับ หรืออีกมุมนึง แกคงอยากเป็น ตำนาน (หวังว่าคำนี้พอที่จะใช้กับป๋า เคิร์ทได้นะ) 555 ถึงตัวตาย ผลงานยังอยู่
ยากที่จะลืมเลือนไปจากหัวใจของ แฟน แฟน ครับ พอป๋าเคิร์ท แกตายไปเรียบร้อย
เป้นไปอย่างที่สื่อคาด ครับ ผลงานของแกกระฉุด ทะยานขึ้นติดอันดับ ในบิลบอร์ดอีก ครั้ง 555 โม้มากไปแล้ว ไปทำงานต่อก่อนดีกว่า ครับ ................อิ อิ อิ
อ่านแล้วเศร้าใจจัง แม้ว่าจะเสียชีวิตด้วยสาเหตุอะไรก็ตาม
แต่เค้าน่าสงสารจังค่ะ ขอบคุณกระทู้ดีๆแบบนี้นะคะ
แค่ภาพของอีตา Kurt ใช้ portapro ก็เจ๋งแล้ว มาเจอข้อมูลของ
เค้าเพิ่มอีกเยี่ยมเลยค่ะ ตอนที่เค้าจากไปจำได้ว่าเป็นข่าวที่ดังมากๆ
ข่าวนึงในยุคนั้นเลยค่ะ
ตอนรู้จัก Kurt ตายไปแล้ว แต่ก็ชอบเพลงของเค้ามากๆน่าสงสารคิดถึง พี่John Lennon (ศิลปินคนโปรด) ทำไมคนเก่งๆตายง่ายจัง เศร้า
จะตอบพี่เบียสว่าถ้าอยากเล่นกีตาร์ให้ได้แบบ Kutr ละก็ พี่เบียสต้องเล่นมือซ้ายแล้วจับคอร์ตมือขวาหรือไม่ก็เล่นตามปกติแต่เวลาตีคอร์ดพี่เบียสต้องสลับกันนะ เค้าขึ้นเราลง เค้าลงเราขึ้น ขึ้นๆลงๆ ลงๆขึ้นๆ เห้อเหนื่อยเหงื่อแตก...อิอิ
จำได้ว่า ตอนที่ เคิร์ทไปอัดอัลบั้ม unplugged นั้น ไม่นานก่อนจะตายด้วยซ้ำ คนที่เล่นดนตรีในวันนั้น บอกว่าเค้าร้องเพลงพึมพำเหมือนลาตายครับ (จำผิดเปล่าหว่า)
แต่บอกตามตรง โลกนี้ โดยเฉพาะนักดนตรีร็อค ถ้าไม่ตาย มันไม่ดังครับ.............อะจ๊ากกกก
อย่างอีตา อีริค แคลปตัน อีกหน่อยคนก็ไม่รู้จักแล้ว เพราะไม่ได้ตาย
แต่ถ้าแคลปตันตายตั้งแต่สมัยเล่นอยู่วง Cream ผมว่าดังระเบิดกว่านี้อีก 555 (ขำ ขำ นะครับ)
โอยยยย ฮา เฮีย พิมไรไม่รุ
โครตฮาเลย
สรุปจะดังต้องตายใช่มะครับ555
555 ถ้าทำตาม ป๋า เคิร์ท แกหมด อย่างที่คุณ ddt_juicy ว่า คงต้อง ตายแล้วเกิดใหม่อย่างเดียวละ ครับ 5555 แค่ปรับ กีต้าร์ให้เหมือนนี่ ยังยากเลย 555
เมื่อก่อนนี้ ยังเคยได้ยินว่ามีการขายวิญญาณกันด้วยล่ะ เหมือนหนังเรื่องนึง ที่ อีตา ไมเคิ่ล แองเจลโลแสดงนะ ครับ (กีต้าร์ 4คอ) มือกีต้าร์เจ้า พายุ นั่นล่ะ
ใครจำได้บ้างไม๊ว่ามันชื่อเรื่องอะไร อยากหาเอามาเก็บไว้เหมือนกัน ใครจำได้รบกวน
ด้วยนะ ครับ สมัยก่อนมันเป้น วีดีโอน่ะ ไม่รู้ว่ามันมีแผ่นไม๊ ใครมีก้ช่วยสงเคราะห์ให้ผมด้วยนะ ครับ ...............อิ อิ อิ
ศิลปินในดวงใจแนวBLUESของผมต้องROY BUCHANANครับท่านเบียสโดยเฉพาะชุดSECOND ALBUMสุดยอดจริงๆ ลุงแกเป็นศืลปินของศิลปืนเล่นTELEได้เป็น1ใน3สุดยอดผู้เล่นTELEตลอดกาล แต่มาฆ่าตัวตายในคุกน่าเศร้าจนต้องหยุดกระเดียวจริงๆ
เก่ง เก่ง นี่ตายเรียบ แล้วหรือเนื่ย เฮ้อ!!..................อิ อิ อิ
555555555สุดยอดผมก็ แฟนเพลงNirvana เหมือนกัน555555สงใสต้องหา portrapro มาใช้บ้างแล้ว55555