เป็นชนิดของไฟล์เสียงครับ ว่ากันว่าเป็นไฟล์ที่มีความละเอียดสูงครับ

เป็นไฟล์เพลงประเภทหนึ่งคร้าบ

เป็นประเภท lossless คือ สูญเสีย(คุณภาพ)น้อย จากเพลงแผ่นต้นฉบับจริงๆนั่นเองครับ

จะมีความละเอียดกว่าไฟล์จำพวก mp3 ทั่วๆไปและมีขนาดใหญ่กว่ามากครับ : )

http://www.forum.munkonggadget.com/detail.php?id=9725

:-) เป็นบทความที่ดี นอกจาก Flac ยังมีอีกหลาย format ที่น่าสนใจครับ

มากกว่าไฟล์ปกติประมานกี่เท่าครับ

สมมุดว่า ไฟล์ mp3 5000 kb

ไฟล์ flac จะประมานเท่าไหร่ครับ

ขอบคุณมากครับคุณ FolkTrance

ขอสรุป ๆ เลยไม่ได้หรอครับ อ่านทั้งหมด คงจะจบพรุ้งนี้เช้า

Flac เป็นการบีบอัด (compression) แบบ lossless คือเมื่อทำการขยายไฟล์กลับ (decompression) จะเหมือนต้นฉบับทุกประการครับ แต่ mp3 เป็นการบีบอัดแบบ lossy คือเมือขยายกลับจะมีการสูญข้อมูลไปบางส่วนทำให้ไม่เหมือนต้นฉบับที่เดียวแต่ยังสามารถเข้าใจได้

ถ้าเทียบกับไฟล์รูปภาพ raw = wav, tiff = flac, jpg = mp3 ครับ

flac น่าจะประมาณ 30-40MB ต่อเพลง

หากเป็น MP3 จะอยู่ประมาณ 9-12MB อ่ะครับ

แน่นอน MP3 สูญเสียข้อมูลไปบางส่วน (โดยตัดย่านความถี่สูงๆที่มนุษย์เริ่มจะไม่ได้ยินออกไป) แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็อยู่ที่เครื่องเล่นหูฟังของเราอีกทีด้วยครับ บางครั้ง MP3 320kbps หรือ format file แบบ lossless พวกเพลงแนวตลาดสากล เสียงสังเคราะห์ต่างๆ อาจจะแยกกันได้ลำบากเลยก็ได้ครับ

:-D หวังว่าตอบถูกประเด็นนะครับ ห่ะๆๆ

ถ้า สมมุดผมมีไฟล์ เพลง mp3 อยู่จะทำให้เป็น flac ต้องโช้โปรแกรมอะไรเปลี่ยนให้เป็นไฟล์ flac ครับ

^
^

ไม่ควรทำเป็นอย่างยิ่งครับ นอกจากไม่ได้อะไรดีขึ้นมาแล้ว ยังทำให้ขนาดไฟล์ใหญ่ขึ้น เปลืองพื้นที่เก็บ

ควรรีบอ่านกระทู้แนะนำตาม คห.3 เพื่อทำความเข้าใจเรื่องชนิดของไฟล์เสียงนะครับ

ถ้าจะเพิ่ม bit rate ของไฟล์เพลงควรทำยังไงครับ ใช้โปรแกรมเพิ่มหรอครับ หรือว่า ทำยังไง

ถ้าใช้โปรแกรม ชื่อโปรแกรมอะไรครับ

ไม่น่าจะเพิ่มได้น่ะ มันไม่รู้จะเอาส่วนไหนมาเพิ่มเพราะตัวมันมีอยู่แค่นั้น

แต่ถ้าจะลดได้แน่นอน (เพิ่มแบบหลอกๆได้อยู่ เอาไว้หลอกชาวบ้านเค้า ตัวจริงๆตัวมันไม่ได้เพิ่มความถี่ด้านไหนมาสักด้านเลย แถมไฟล์ยังหนักกว่าเดิมอีก) แนะนำให้ rip จากแผ่นเป็น lossless ไปเลยจะดีมาก ได้ความถี่มาครบ

ควรรีบอ่านกระทู้แนะนำตาม คห.3 เพื่อทำความเข้าใจเรื่องชนิดของไฟล์เสียงนะครับ

dBpoweramp Music Converter แปลงไฟล์
foobar2000 เล่นเพลง lossless แปลงไฟล์ ริปได้ด้วย
Easy CD-DA Extractor 2010 ริป ไลท์ แปลง

ลองดูครับ

ควร rip ใหม่เท่านั้นครับ

ทำเล็กให้เป็นใหญ่คุณภาพเสียงไม่ได้ดีขึ้นแน่นอน มีแต่ข้อเสีย

ถ้าจะทำจริงๆ อาจใช้โปรแกรมดีเจ พวก traktor scratch หรือ virtual dj ช่วยแต่งเสียงด้วย
equalizer ได้นิดหน่อย แต่อาจได้ประโยชน์ตรงการปรับ gain เสียงให้ดัง-ค่อย ตามที่ต้องการ
แต่ไม่ได้สำเร็จรูปแบบโยนไฟล์ไปปุ๊บกด process ก็จบนะครับ ต้องเล่น real time เท่านั้น

การเอาไฟล์บิทเรทต่ำๆ เช่น mp3 ไปเพิ่มบิทเรท หรือไปเปลี่ยนเป็น flac เลยนั้น

เป็นเรื่องที่ไม่มีประโยชน์อย่างร้ายแรงครับ

เพราะมันเหมือนคุณเอาไฟล์รูปขนาด 320x240 ไปขยายเต็มหน้าจอทีวี 42 นิ้ว
คือภาพที่เห็นจะใหญ่เต็มจอจริง แต่ภาพจะแตกกระจายหาคุณภาพไม่ได้เลย
สิ่งเดียวที่คุณจะได้รับเพิ่มขึ้นก็คือ ขนาดไฟล์ที่ใหญ่ขึ้น เปลืองเนื้อที่ขึ้นมาโดยเปล่าประโยชน์

สรุปว่า การเพิ่มบิทเรทนั้น ไม่มีใครทำกันครับ

มีแต่ต้องริปลงมาเป็นบิทเรทสูงๆแต่แรกเลย

เอาน้ำ 320 ลิตรไปไส่ ถังน้ำ 1411ลิตร โดนไห้น้ำนั้นคงเดิมแต่ปริมาณเพิ่มขึ้นมันเป็นไปไม่ได้อยู่แล้วครับ นอกจากเติมน้ำไส่เข้าไป โดยน้ำที่ไส่เข้าไป มันก็ไม่ไช่น้ำเดิมอยู่ดี

อีกอย่าง ภาชนะไส่ น้ำ320ลิตรนั้น ทำไห้น้ำสุญเสียไปสักเท่าไหร่ ท่าดี มันก็สุญเสียน้อย ท่าแย่ก็สุญเสียมากหน่อย

มันเหมือนยังคาใจอยู่ใช่ไหมครับ....แนะนำให้ลองทำดูเลยครับ

แล้วลองฟังดู ว่าเหมือนที่เพื่อนเค้าแนะนำหรือเปล่า จะได้หายข้องใจ

คิดว่าคงมี mp3 อยู่เต็มไปหมด จะทิ้งก็เสียดายว่างั้นเถอะ...เหมือนผมสมัยก่อนเลยครับ

จะเดินทางสายนี้แล้ว ต้อง หา ไฟล์เสียที่มีคุณภาพ ฟัง ถึงจะหาย.....

คันหู ไม่รุเป็นอะไร เอาทุเรียนมาปั่นก็ไม่หาย......อิอิ

ยอมรับในคุณภาพครับ ..แต่

หามีไฟล์คุณภาพสูง

เครื่องเล่นก็ต้องคุณภาพสูง

หูฟัง (หรือลำโพง) ก็ต้องคุณภาพสูง

สุดท้ายก็ หูของเรา ๆ ก็ต้องมีคุณภาพเช่นเดียวกัน

สำหรับผม หูคนธรรมดา ... งบธรรมดา

Mp3 ลงตัวครับ ได้ฟังเพลง เพลงเดียวกัน 3-5นาที เท่ากัน

คุณภาพเทียบเท่าไม่ได้ แต่..เที่ยบกับต้นทุนที่ต้องเสียไป..

MP3 _ 128Kbps ในหนึ่งนาทีจะเท่ากับ 1MB
Mp3 _ 320Kbps ในหนึ่งนาทีจะเท่ากับ 3MB
Flac _ 44.1Khz 24Bit ในหนึ่งนาทีจะเท่ากับ 10MB
เปรียบเทียบความจุได้ประมาณนี้ครับ
อาจจะคาดเคลื่อนนิดๆ แล้วแต่คุณภาพการอัดด้วยครับ

1411 กับ 320 kbps นี่สำหรับบางเพลง บางแนวเพลง ฟังแยกออกยากจริง ๆ ครับ ยิ่งหูฟังพันสองพันบาท

-เป็นไฟล์สกุล .flac
-เป็นไฟล์คุณภาพสูงมาก และเป็นไฟล์ open source จาก Xiph.Org Foundation
-เป็นไฟล์ขนาดใหญ่แต่เล็กกว่า WAV เพราะถูกบีบอัด(Compress)มาแล้วแต่ไม่เสียคุณภาพ(ความถี่เหมือนเดิมจากต้นฉบับทุกอย่าง)
-จัดอยู่ในกลุ่ม lossless(เช่น M4A(ALAC),ape(Monkey's Audio),wv(WAVPACK),
-สามารถแปลงไปมาระหว่าง lossless ด้วยกันได้โดยไม่เสียคุณภาพ(ความถี่เหมือนเดิมจากต้นฉบับทุกอย่าง) เช่น แปลง flac เป็น ape ดังนั้นหากแปลงกลับระหว่าง ape เป็น flac ก็ได้คุณภาพเหมือนเดิม(ความถี่เหมือนเดิมจากต้นฉบับทุกอย่าง)
-แปลงเป็น lossy ได้แต่ความถี่บางส่วนจะถูกตัดออกไป แล้วทำการบีบอัด(Compress)ให้ไฟล์ปลายทางนั้นมีขนาดเล็กลง ดังนั้นหากแปลง lossy กลับเป็น lossless ผลลัพธ์คือก็แปลงได้ แต่ได้ lossless ที่ไม่เหมือนเดิมเพราะความที่ถูกตัดออกตั้งแต่ตอนนำ flac ต้นฉบับแปลง lossy แล้ว
-การแปลงจะต้องมี Source Code แล้วทำการ Command เพื่อสั่งให้ CPU ทำการเข้ารหัส(Encode)แล้วออกไปยังปลายทาง แต่ในปัจจุบันมีโปรแกรมแปลงสำเร็จรูปพร้อม Source Code มาให้แล้ว ดังนั้นการแปลงจึงสะดวกขึ้น


******หากคุณลองฟัง flac แล้วคุณจะฟินในเสียงเพลง******

ขอบคุณครับได้ความรู้ใหม่ๆเพียบเลยยย แล้ว acc กับ flag อันไหน ดีกว่ากันฮะพอดีโหลดหนังแล้วมันมีด้านหลัง ควรเลือกอันไหนดี ครับบอกที
Inu x Boku SS - 03 (BDRip 1920x1080 x264 FLACx2 Hi10p)[By.Thebest2540]
Inu x Boku SS - 02 (BDRip 1920x1080 x264 AACx2 8Bit)[By.Thebest2540]

แก้ไขนะครับ AAC

ทุกวันนี้ผมก็ฟังเพลงไฟล์ FLAC ทั้งหมดครับ ริปจากแผ่นเองไม่เสียคุณภาพ ถือว่าเราจ่ายเงินไปคุ้มค่ากับการใช้งานครับ แต่แนะนำว่าถ้าหูฟังไม่เทพ ฟังmp3 320kbps พอครับ