Guest
หมวดหมู่ > เว็บบอร์ด จับฉ่าย

ช่องทางการติดต่ออื่น

  • Munkonggadget
  • Munkonggadget Reviews
  • Munkonggadget Reviews
  • Munkonggadget Contact Us

รีวิว Sony Minidisc MZ-B3 ยานเกราะจากโซนี่

สันติ

15/07/2011 12:30:59
50
สวัสดีครับสมาชิก เว็บเฮียมั่นคง ทุก ๆ ท่าน

วันนี้ (15 ก.ค.54) ผมมีรีวิว MD มาให้อ่านกันเล่น ๆ ครับ จั่วหัวซะเวอร์เลยว่ายานเกราะจากโซนี่
ไว้ค่อยมาอ่านไปเรื่อย ๆ นะครับ ว่ามันเหมาะสมกับคำนี้ไหม
ตอนแรกว่าจะตั้งฉายาเป็นรถถัง แต่ผมว่า มันออกยาว ๆ สี่เหลื่อมผืนผ้าเหมือนรถยานเกราะมากกว่า

Sony MZ-B3 นี้เป็น Minidisc ที่ภาคภูมิใจที่สุดของผมเลยละ (จริง ๆ นะ)
เพราะเป็นหนึ่งใน MD ที่หายากมาก ๆ (ยกกล่องยิ่งหายากมากๆๆๆ)
และแบบเล่นได้ปกติสุขนี่ก็หายากมาก ๆ เพราะ รุ่นนี้ ออกมาตั้งแต่ปี 1995 นู่นเลย
เรียกได้ว่า 15 ปีก่อนเลยครับ ยาวนานจริง ๆ แต่อย่างที่เคยบอกเสมอว่า สมัยก่อนนั้น
วิศวกรและสถาปนิกผู้ออกแบบของบริษัทโซนี่เขาเก่งจริง ๆ

และสิ่งที่อยากจะบอก
ซึ่งต้องขอออกตัวไว้ก่อนเลยครับว่า นี่เป็นความคิดเห็นส่วนตัวของผม (ผมคนเดียว)
นั่นคือ Sony MZ-B3 มันคือ Minidisc ที่เสียงดีที่สุด วัสดุดีที่สุด สำหรับผมเลยครับ

ต้องเล่าต้นเหตุอีกนิดนึง คือว่า คุณ Joker (Muyan) เขาบิดมาจาก yh jap ได้เครื่องนึง
แล้ววันมีทติ้ง retro นั้น คุณโจ๊กก็เอามาให้ดู ผมก็ลองฟัง แล้วก็เกิด โลภ แบบผีเข้าสิงเลย
เอาเงินทั้งฟาดทั้งทุบก็ไม่ขาย (มารู้ทีหลังว่า ผมฟาดและทุบไม่มากพอ เอิ๊กๆๆ)

จากนั้นผมก็พยายาม หาเองจากใน yahoo japan
และแล้วผมก็ไขว่คว้า ค้นหามาจนได้

ผมก็ได้มาแบบยกกล่องอุปกรณ์ครบ จากญี่ปุ่นครับ Made in japan




หลาย ๆ ท่าน พอได้เห็นปุ๊บ ก็จะบอก มันคล้ายกับที่นักข่าวเอาไว้ใช้อัดสัมภาษณ์เลย
ถูกต้องครับ ท่านเข้าใจถูกต้องแล้ว รุ่นนี้เขาผลิตมาเพื่อการอัดนอกสถานที่นั่นเอง
เหมาะสำหรับนักข่าว และ นักเรียนที่ต้องอัดเลคเชอร์จากอาจารย์
แต่นักเรียนคงไม่เหมาะ เพราะราคา B3 สมัยนั้น 5 หมื่นเยนครับ ก็ประมาณ 15,000 บาท


ข้างกล่องจะเขียนไว้ว่า




มีลำโพงแบบ Mono ในตัวด้วย ซึ่งผมบอกได้เลยครับว่า
เวลาเปิดฟังตอนกลางคืนในห้องนอนเงียบ ๆ นั้น เสียงลำโพง ไม่ขี้เหร่เลยครับ ผมว่าเสียงดีเลยละ

และนี่ก็คืออุปกรณ์ทั้งหมดที่มาในกล่องครับ





เรียกว่า สำหรับผมนั้นไม่ได้ใช้เลยกับเจ้าสองอันนี้




รีโมท เพื่อเอาไว้ Mark Track เท่านั้น
และ รางแบ็ต ครับ รางแบ็ตจริง ๆ ไม่ใช่รางถ่าน AA ซึ่งก็ไม่ได้มีแบ็ตแถมมาให้
แต่ก็ไม่แคร์ครับ เพราะตัวเครื่อง Sony MZ-B3 ใช้ถ่าน AA นั่นเอง

แต่กระเป๋านี่สิเจ๋งดีผมชอบนะ




เพราะเจ้าสิ่งนี้ละ ผมถึงคิดว่า เจ้าของเดิม (คนญี่ปุ่น) ทำให้เครื่องไม่มีรอยเลย
ด้านในกระเป๋าบุด้วยใยนิ่ม ๆ ครับ

มาดูด้านหน้าตัวเครื่องกันดีกว่าครับ




ตัวเครื่องทำด้วย วัสดุโลหะครับ แมงกานีส แข็งดีครับ ดูแข็งแรงมากๆ (หนักด้วย)
ผมคิดว่า ถ้า MD ทุกตัวใช้วัสดุแบบนี้ จะทนทานมาก ๆ

มาดูสันเครื่องด้านหน้ากันบ้างครับ




ปุ่มกดใช้งานมีให้ใช้ปกติดี ซึ่งอย่างที่ได้บอก รุ่นนี้เน้นการอัดพกพานอกสถานที่
ดังนั้น ช่อง output ต่าง ๆ จึงไม่มีเลย ทั้ง Line out, Optical in/out ไม่มีมาให้เลย
และอย่างปุ่ม Fast Speed ก็เช่นกัน เขาทำมาเพื่อ เร่งเสียงให้เร็วขึ้น
ให้นึกถึงนักข่าวเวลาไปทำข่าวเสร็จแล้วต้องเอามาคัดลอกข้อความนะครับ

ด้านสันเครื่องทางด้านซ้ายมือ




ทางฝั่งนี้ ถ้าเราต้องการใช้รางแบ็ตก็เอามาเสียบฝั่งนี้ละครับ
และก็มีช่องเสียบ Adaptor 4.5v ด้วยนะ

ด้านสันเครื่องทางด้านขวามือ




รูแดง ๆ ทางซ้ายมือ ก็คือ เอาไว้เสียบ ไมค์ เพิ่มเติมได้ครับ และก็มีให้ปรับเป็น mono ,stereo
แต่จริง ๆ มันก็มีไมค์ในตัวเองนะครับ ตรงกลางนั่นละ
ส่วนถัดมาก็จะเป็นปุ่มหมุน Volume และช่องเสียบหูฟัง 3.5mm นั่นเอง

ด้านสันเครื่องทางด้านหลัง




ทางด้านขวา ก็จะมีรูไว้เสียบ รีโมทครับ เพื่อทำการ Mark Track
ซึ่งไม่จำเป็นนะครับ เพราะปุ่มกดบนเครื่อง ก็มีปุ่มให้ Mark Track อยู่แล้ว
แต่สิ่งพวกนี้ ผมไม่ได้ใช้เลยครับ เอามาไว้ฟังเพลงล้วน ๆ

จับพลิกดูด้านล่างเครื่องกันบ้างครับ




วัสดุเป็นยาง ๆ แข็ง ๆ ด้าน ๆ เหมือน ของพวกกล้องถ่ายรูปนะครับ
ทำให้จับกระชับมือครับ

เปิดฝาออกมาก็จะพบว่า Sony MZ-B3 นั้นใช้พลังงานจากถ่าน AA 3 ก้อน




ใช้งานได้ต่อเนื่องในการฟัง 6 ชั่วโมงครับ (กินแบ็ตนะครับเพราะกำลังขับสูง)

วัสดุทำออกมาได้ดีมาก ๆ ครับ





เปิดฝาใส่แผ่นจะลักษณะนี้ครับ





ใส่แผ่น Enya ชุด The Best ล่าสุดละกันนะวันนี้




ถ้าสังเกตุดีๆ จะเห็นว่า แผ่นเขียนว่า LAPISTA ครับ มันคือแผ่น MD ของ Denon นั่นเอง

ปิดฝาปุ๊บ ก็รอซักพัก ก็จะขึ้นโชว์ครับ
ว่าแผ่นนี้ทั้งหมดกี่นาที ชื่ออัลบั้มอะไร





ไม่พลาดแน่นอน ต้องหยิบเจ้า Grado RS1i มานัวเนีย





สำหรับหู Grado RS1i นั้น เปิด Vol. ที่ประมาณ 3 ก็เพียงพอครับ




ถ้าฟังอยู่ในห้องนะครับ แต่ถ้าพกออกข้างนอก คงต้องหมุน vol. เพิ่มแน่นอน

และก็ได้หยิบ Superlux HD381B มาใช้ด้วยครับ




แน่นอน เรื่องเสียง ผมถูกใจอยู่แล้ว

เอาละจับใส่กระเป๋าดีกว่า




พวกรูต่าง ๆ ทางกระเป๋าก็เจาะรูไว้ให้พอดิบพอดีเลยเชียว

ถ้าถือก็ประมาณนี้ครับ มีสาย strap ด้วย ก็คล้องมืออีกที เป็นอันกระชับพื้นที่





มาถึงช่วงสุดท้ายละครับ
มาพูดถึง spec กันคร่าว ๆ นะครับ (เป็นทางการกันนิดนึง)




Specifications :
Revolutions : 400 rpm to 900 rpm (CLV)
Error correction : Advanced Cross Interleave Reed Solomon Code
Sampling frequency : 44.1kHz
Coding : Adaptive TRansform Acoustic Coding (ATRAC)
Modulation system : EFM (Eight to Fourteen Modulation)
Frequency response : 20 to 20,000 Hz+-3dB
Wow and Flutter : Below measurable limit
Headphones Output : 5mW + 5mW, load impedance 16 ohm
ตัวเครื่องหนักประมาณ 405 กรัม (ใส่แบ็ต 3 ก้อนแล้ว)


สำหรับเรื่องเสียงนั้น รุ่นนี้ ไม่มีให้ปรับ Bass ใด ๆ เลยครับ
เรียกได้ว่า วัดกันเลย เอาหูฟังเสียบเลย เจ๋งไม่เจ๋ง ก็พิสูจน์กันเลย
ซึ่งจากประสบการณ์ที่ผมได้ฟัง Minidisc มาหลายตัว ผมชอบ Sony MZ-B3 ที่สุดครับ
ทั้งเรื่องเสียงที่ให้ ผมว่ามันเหมือน Discman ที่ไม่ต้องปรุงแต่ง Bass ใด ๆ ก็แจ่มแล้ว
และใช่ว่าตัวมันเองที่ปรับ Bass ไม่ได้ แล้วมันไม่มี Bass นะครับ เสียง Bass เสียงต่ำ
ที่มีนั้น ก็เรียกได้ว่า ไม่เยอะและไม่น้อยครับ กำลังดีเลย

และสาเหตุที่ทำให้ชอบที่สุดก็คือ เรื่องพลังงานที่มันใช้นี่ละครับ Sony MZ-B3
ใช้ถ่าน AA เพียงแค่ 3 ก้อน ซึ่งเครื่องตัวใหญ่ ๆ แบบนี้ ปกติมักจะใช้แบ็ตเตอรี่
อย่าง Sony MZ-1 ที่เสียงดีที่สุดใน MD sony รุ่นตัวใหญ่ นั้น ก็มีปัญหาเรื่องพลังงานครับ
พกพาไม่ได้เลย MZ-1 เพราะแบ็ตในเครื่องมันใช้ได้ 30 นาทีก็หมดแล้ว แม้จะเสียงดีมาก
แต่เรื่องพลังงานก็มาเป็นขีดจำกัดไปซะนี่

ผมถึงมาลงตัวกับ Sony MZ-B3 แม้เสียงจะไม่ทรงพลังอย่าง Sony MZ-1ก็ตาม
แต่ก็เรียกได้ว่า คลานตามกันมาติด ๆ ครับ
และก็เรื่องวัสดุที่ใช้ทำตัวเครื่องอีก เป็นโลหะแมงกานีส ดูแข็งแรงทนทานมาก ๆ
ไม่บางเลยละครับ ตัวเนื้อโลหะเนี่ย แข็งดีทีเดียว
และก็เรื่องปุ่ม Volume ที่เป็นหมุนแบบอนาล็อคนี่ละ ผมชอบนัก
แหม มีแต่ข้อดีจริงๆ หาข้อเสียให้หน่อยสิ

ข้อเสียก็มีครับคือ ไม่มีช่อง optical ไม่ว่าจะ in หรือ out
ทำให้ไม่สามารถใช้ Sony MZ-B3 อัดเพลงได้เลย
ก็เพราะว่า มันทำมาเพื่อใช้อัดเสียงจากภายนอกนั่นเองครับ

ก็มาถึงสุดท้ายแล้ว สำหรับรีวิว Sony MZ-B3 เครื่อง MD ที่ผมชอบที่สุด (ใช้คำว่าที่สุด)
ก็หวังว่า ท่านที่จะมาเล่น MD นั้น จะมีความสุข กับการได้เล่น ได้สะสม
MD มีเสน่ห์มากทั้งเรื่องเสียง และ ดีไซน์ ที่หลากหลาย ปรุงแต่งในการอัดได้หลากหลาย
ตรงนี้ถ้าคนชอบมันก็จะมีความสุขมาก ๆ ครับ จะหาแหล่ง source ที่เสียงดี ๆ มาใช้อัด
ทำไปเถิดครับ อะไรก็ตามที่ทำแล้วมีความสุข ไม่เบียดเบียนใคร

ไม่รู้ว่าเวลาชีวิตเหลือเท่าไหร่ ดังนั้น สร้างความสุข ความดี ไว้เยอะๆ ครับ

ขอจบการรีวิวเพียงเท่านี้
อั๋น สันติ (น้า auns555)
[email protected]
Tel. 089-0785670
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 1

9homme

15/07/2011 20:29:03
1
ขอบคุณสำหรับรีวิวดีๆ ครับ ^^
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 2

montree2511

15/07/2011 20:40:02
0
ขอบคุณที่นำความรู้มาแชร์กันครับ...

มินิดิสก์...ว่าไป...ผมยังไม่เคยเล่นเลยครับ...ออกสมัยแรก ๆ ราคาหมื่นกว่าบาท...ยอมเลยครับ...
เลยยังไม่เคยได้สัมผัสเสียงซักทีนึงครับผม...
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 3

นายมั่นคง

15/07/2011 22:54:01
4,294
555 พี่สันตินี่เฉียบขาดจริงๆๆ ครับ แกรู้เรื่อง MD รวมถึงพวก Retro Gadget มากจริงๆๆ ผมเองก็ต้องอาศัยอ่านเอาจากแกเหมือนกัน

ผมเองก็ไม่เคยเล่น MD ครับ จำได้ว่าช่วงนึงพวก MD บูมมาก แต่ตอนนั้นไม่มีปัญญาซื้อจริงๆๆล่ะครับ 555
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 4

สันติ

15/07/2011 23:23:56
50
ผมละขำและอายทุกที เวลาอ่าน คอมเม้นท์ จากเฮียมั่นคง
เฮียชอบยอผมเรื่อยเลย ผมบ้ายอนะครับเฮีย เอิ๊กๆๆ (ขอบคุณครับเฮีย)

แต่ก่อน ผมก็ไม่มีเงินซื้อเช่นกันครับ ใช้คำว่าไม่มีเงินเลยครับ
ได้แต่ยืนดูที่ตู้ ที่โชว์ตามร้านดีลเลอร์ของโซนี่ตัวละเป็นหมื่น ๆ
ยิ่งรุ่นอย่างที่ผมรีวิวนี้ ไม่ได้เห็นในไทยนะครับ
เพราะว่ามันเป็นพวกรุ่นแรก ๆ ของวงการ MD

ในไทยเราศูนย์โซนี่เอามาขายช่วงรุ่นกลาง ๆ ครับ

อย่างตัวที่รีวิวนี้ ผมก็ได้มาประมาณ 10,000 เยน ครับผม ^_^
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 5

kaitunbokbok

16/07/2011 00:35:35
0
ชอบจังรีวิวแบบนี้
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
"รีวิว Sony Minidisc MZ-B3 ยานเกราะจากโซนี่"