
ดีเดย์ พฤษภาคมใช้กฏหมายขับห้ามโทร เผยถือโทรศัพท์ก็ผิดแล้ว การตรวจจับใช้กล้องเรดาร์เหมือนตรวจจับความเร็ว จากนั้นส่งหมายเรียกให้ผู้กระทำผิดทางไปรษณีย์ ขอให้ผู้ขับขี่ใช้แฮนด์ฟรีในขณะขับ ครั้งแรกประชาสัมพันธ์ก่อนจับเป็นมาตรการสุดท้าย ส่วนข้อยกเว้นให้ใช้มือถือได้ในรถยนต์ที่ใช้ในราชการยังไม่มีข้อยุติ
ภายหลังที่ประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) เห็นชอบผ่านร่างพระราชบัญญัติจราจรทางบกให้ออกมาบังคับ เป็นกฏหมาย โดยสาระสำคัญของร่างกฏหมายดังกล่าวเป็นการเพิ่มเติมบทบัญญัติในการห้ามโทรศัพท์เคลื่อนที่ขณะขับขี่ เว้นแต่เป็นการใช้อุปกรณ์เสริมสำหรับการใช้สนทนา หรือแฮนด์ฟรี โดยผู้ที่ฝ่าฝืนต้องระวางโทษ ปรับตั้งแต่ 400-1,000 บาท ทั้งนี้ ให้มีผลบังคับใช้ เมื่อพ้นกำหนด 90 วัน นับแต่วันที่ประกาศ ในพระราชกิจจานุเบกษา
ความคืบหน้ากฏหมายห้ามผู้ขับขี่ใช้โทรศัพท์หรือเครื่องมือสื่อสารอื่นใดในขณะที่รถเคลื่อนที่ พล.ต.ต.ภาณุ เกิดลาภผล รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล กล่าวว่า ขณะนี้รอพระบาทสมเด็จพรเจ้าอยู่หัว โปรดเกล้าฯ ลงพระปรมาภิไธยลงในประกาศในราชกิจจานุเบกษา คาดว่าน่าจะเป็นเดือนพฤษภาคม ช่วงนี้จะเน้นการประชาสัมพันธ์ ห้ามใช้โทรศัพท์ขณะขับขี่ ซึ่งตามกฏหมายถือโทรศัพท์ก็ผิดแล้ว ขอให้ผู้ขับขี่ซื้ออุปกรณ์ไร้สาย หูฟัง
มาตราการจับจะเป็นมาตรการสุดท้าย ตอนนี้จะเชิญชวนประชาสัมพันธ์โดยจะทำเหมือนการประชาสัมพันธ์การคาดเข็มขัดนิรภัย ส่วนวิธีการสุ่มจับของตำรวจจะใช้วิธีการถ่ายภาพเบื้องต้นจะซื้อกล้องธรรมดา และต่อไปจะใช้กล้องเรดาร์เหมือนกล้องตรวจจับความเร็วซึ่งสามารถ่ายในระยะไกลได้หลังจากนั้นก็จะส่งหมายเรียกผู้กระทำความผิดไปทางไปรษณีย์ถึงที่บ้านท่าน จุดมุ่งหมายก็คือเพื่อลดอุบัติเหตุ ลดการเสียสมาธิในการขับรถ
ส่วนข้อยกเว้นว่าควรผ่อนผันให้ใช้โทรศัพท์มือถือในขณะขับขี่รถยนต์บางประเภท อาทิ รถยนต์ที่ใชในราชการ นายตำรวจ นายทหาร รถโรงพยาบาล รถป่อเต็กติ๊ง ดังนั้น จึงให้ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ไปพิจารณาออกฏว่ารถยนต์ประเภทใดบ้างทีสามารถได้รับการยกเว้นต่อไป
__________________