ถูกคึ่งนึง

จะดูที่ค่าอิมพิแดนซ์อย่างเดียวไม่ได้ครับ

ต้องดูที่ความไวด้วย

ความไวยังไงครับ

อย่าบอกนะว่าจะเล่นมุข ไวแสง 5555+

ความไว = Sensitivity ครับ

อันนี้ไม่ใช่มุกเป็นเรื่องที่ต้องดูควบคู่กันไปครับ 555+

แล้วไวมากหรือไวน้อยดีละครับ

จะได้อ่านฉลากยาเป็น

อ้าว เห็นเป็นเล่นมุขซะงั้น

ความไว (Sensitivity) มีหน่วยเป็น dB/W

แต่วัตต์ของหูฟังไม่น่าจะถึงหน่วยวัตต์ น่าจะแค่ mW

ก้อควรจะมีค่าน้อยนะครับ เช่น ถ้า อิมพีแดนซ์เท่ากัน

ให้ดูที่ความไวเลยครับ ถ้าอันไหนน้อยกว่าน่าจะดังดีกว่า

มั้งนะ ไม่แน่ใจเหมือนกัน 5555 รอท่านอื่นมาเสริมหรือแก้ไขด่วน

Sensitivity ยิ่งมาก ขับง่ายกว่าครับ
รู้สึกจะใช้กระแสไฟน้อยกว่าด้วยครับหากค่านี้ยิ่งสูง :-)
นานแล้วลืมอ่ะ =_="

เริ่มสับสน

http://www.forum.munkonggadget.com/detail.php?id=30949

http://piyanas.com/forum/index.php?topic=2023.0 << ของลำโพงก็อธิบายเหมือนกันครับแต่ต่างที่กำลัง watt
ค่อนข้างวิชาการ ผมเลยอ่านพอจับประเด็นกว่า 555+

อ่า นั้นแหละ ผมก้อลืม เหนมั้ยยังบอกว่า มั้ง 555+

อยากทราบค่าทั้งสองของ PK1 ครับ

ได้ยินว่า ขับยากมาก สงสัยต้องใช้ยาถ่าย ฮ่าาา

senn ie8 ขับง่ายมากเลย 16 โอม 125dB

Yuin PK1 spec งี้ครับ

Impedance: 150 0ohm(at 1KHz)*
Frequency response: 20-24,000Hz
Sensitivity:109 dB (at 1KHz)

ผมใช้ตัวนี้อยู่ด้วยครับ ก็สามารถต่อกับ iPod Touch Gen3 หรือ Notebook ได้ครับประมาณว่าเปิดสุด Volume เสียงมันยังไม่สุดครับ แถมออกไปทางแจ๋นๆ(บาดหูชอบกล)แต่ต่อ HeadPhone amp จะ soft ลงไปเยอะครับ เบสก็มาหนักด้วย ไม่แจ๋นๆและระดับความดังของเสียงไปได้อีกเยอะครับ

ถ้า Ipod ขับยากนี่ ผมว่าหาเพลย์เยอร์อื่นขับลำบากแล้วละครับ คงต้องใช้ headamp เสริมเท่านั้น
Impedance ของหูฟังส่วนใหญ่จะอยู่แถวๆ 30 โอห์ม แต่หูฟังบางตัวเท่าที่เห็นจะเป็น ฟลูไซด์บางทีจะอยู่แถว 100 โอห์ม เช่น MB Quart QP200 หรือบางตัวจะอยู่แถวๆ 300 โอห์มเอาซะด้วย เช่น MB Quart QP400

ทางวิชาการ การที่ความต้านทานของลำโพงสูงจะทำให้การสั่นของไดอะแฟรมถูกควบคุมได้ดีขึ้น ทำให้เสียงกระชับเที่ยงตรง เพราะ damping factor ซึ่งเป็นอัตราส่วนของต้านทานลำโพงกับต้านทานของแอมป์ขาออก จะสูงตามไปด้วย แต่ต้องแลกกับการที่กระแสไหลน้อยลงทำให้กำลังขาออกน้อยกว่าพวกลำโพงความต้านทานต่ำเช่นกัน

ยกตัวอย่างเพลเยอร์คุณมีแรงดันเอาท์พุท 2 โวลต์ มีความต้านทานขาออก 0.1 โอห์ม ถ้ามาต่อกับหูฟัง 30 โอห์ม จะมีค่า damping factor = 300 และให้กำลังขาออกที่หูฟังคุณ 133 มิลลิวัตต์ (ถ้าเพลเยอร์จ่ายได้นะ) และถ้าหูฟังคุณมีความไว 83 ดีบีต่อมิลลิวัตต์ ก็จะให้ความดังประมาณ 104 ดีบี

แต่เพลเยอร์ตัวเดียวกันใช้กับหูฟังที่ความต้านทาน 100 โอห์ม จะมี damping factor = 1000 และมีกำลังขาออกเพียง 40 มิลลิวัตต์ และถ้าหูฟังมีความไวเท่ากับตัวบน คือ 83 ดีบีต่อมิลลิวัตต์ ก็จะเปล่งเสียงดังออกมา 98 ดีบี

เห็นภาพชัดเจนเลยครับ

ขอบคุณมากครับ

ถ้างั้นพอจะระบุได้ไหมครับ ค่าต่าง ๆ ที่เหมาะสมกับ iPod ควรอยู่ที่ประมาณเท่าไหรถึงจะสมดุล

Portable player น่าจะรองรับ Impedance 16 - 50 ครับ

อย่างเช่น SHURE SRH440 ที่เป็นแบบ Fullsize มี impedance 44 Ohm ก็สามารถเล่นกับ iPod Touch gen3 ของผมได้สบายครับ

Inear ตัว Topๆ เสียงดีๆ ก็ใช่ว่าค่า impedance จะสูงครับ ดังนั้นอย่าเพิ่งตัดสินเพียงตัวเลขน่ะครับ :-)

ไปดู JH16 เหอะๆน้อยมั่กๆแต่เสียงถึงสวรรค์เหมือนกัน