สอบถามเรื่องการใช้ "ยา" ได้ที่กระทู้นี้ครับ (ยินดีบริการเต็มที่)

bosslaa

29/05/2011 21:51:58

เนื่องด้วยตอนนี้ผมกำลังศึกษาอยู่ที่คณะเภสัชศาตร์มหาวิทยาลัยมหิดลครับ วันนี้ผมอยากจะขอความช่วยเหลือพี่น้องชาวบอร์ดมั่นคง gadget ที่ครับ

เรื่องก็คือตอนนี้ผมกำลังจะหาหัวข้อเพื่อจะนำไปรณรงค์,ให้ความรู้แก่ชุมชนครับ และอยากจะถามความคิดเห็นว่า
- ถ้าผมอยากจะทราบถึง มุมมองของบุคคลทั่วไปครับ ว่าในเรื่องที่เกี่ยวกับการใช้ยา มีเรื่องไหนที่ท่านรู้สึกสงสัย ..รู้สึกไม่เคลียร์หรือมีปัญหาเกี่ยวกับการใช้ยา ที่พบเจอบ่อยๆครับ เช่น.ลืมทานยา แล้วจะทำยังไง? เป็นต้น ..
- เพื่อที่ผมจะได้รับรู้ปัญหาของบุคคลทั่วไป และจะได้เป็นแนวทางในการให้ความรู้แก่ชุมชนด้วยครับ
- ถามได้ทุกๆ ข้อสงสัยเลยนะครับ เพื่อจะได้เป็นประโยชน์แก่ทุกๆคน
- แล้วผมจะพยายามหาคำตอบที่ทุกคนสงสัยมาบอกนะครับ :)

คณะเภสัชศาสตร์มหาวิทยาลัยมหิดลขอขอบคุณ ชาวบอร์ดมั่นคง gadget ด้วยนะครับ ^ ^

ให้กำลังใจ 0

หยิกหู 0

แจกหู 0

ความคิดเห็นที่ : 1

bosslaa

29/05/2011 22:09:58

29/05/2011 22:38:50

ความเข้าใจเรื่องยา ปฏิชีวนะ ของผมนี่น่าจะแบบนี้นะครับ ที่เภสัชแนะนำให้ทานให้หมดเพราะว่าต้องการฆ่าเชื้อให้ตายสนิทครับ และเพื่อให้การกินยาครั้งต่อไปของเราได้ผลด้วยครับ(อันนี้เภสัชเค้าบอกมาอ่ะนะ)เพราะถ้ากินยาไม่หมดและยังมีเชื้ออยู่ถึงเราจะรู้สึกว่าหายแล้วก็ตามแต่ต่อไปมันจะดื้อยาครับ และจะทำให้เราต้องเพิ่มปริมาณยาในการกินมากขึ้นด้วย

ให้กำลังใจ 0

หยิกหู 0

แจกหู 0

ความคิดเห็นที่ : 10

นายมั่นคง

29/05/2011 22:45:30

4,294

เดี๋ยวผมแก้ไขหัวข้อกระทู้ให้ครับ บางทีคนเห็นชื่อกระทู้แล้วอาจจะงงๆๆ น่ะจ้า 555

เอ้า ตอนนี้มีว่าที่เภสัชกรคนใหม่มาแล้ว ใครสงสัยเรื่องยาถามได้ครับ รับรองว่าไม่มีมั่วแน่ๆๆๆๆ

ในนี้ก็มีรุ่นพี่เภสัชท่านหนึ่งเช่นกันล่ะครับ น่าจะคุณแมวล่ะครับ

เอ้า เพื่อนๆๆ ถามโลดได้เลยคร้าบบ 555

ให้กำลังใจ 0

หยิกหู 0

แจกหู 0

ความคิดเห็นที่ : 11

นายมั่นคง

29/05/2011 22:46:02

4,294

อ้าวเฮ้่ย ตกใจเลย เผลอแป๊บเดียว ถามกันบานเลย 555

ให้กำลังใจ 0

หยิกหู 0

แจกหู 0

ความคิดเห็นที่ : 12

ธนากร

29/05/2011 22:56:09

อ่อ อีกอันครับ เรื่องการใช้ภาษาครับ
เเบบ ชอบเจอว่า กินยาอักเสบ ซึ่ง มักเข้าใจว่าเป็น antibiotic กลุ่มนึง อีกกลุ่ม ก็คิดว่า เป็น NSAIDs
กับยาแก้ปวดครับ ก็คือ para กับ NSIADs

ผมว่า ควรจะอธิบายให้เข้าใจเเละแยกให้ออกละเน้อเพราะ sideeffect ต่างกันหล่ะจ้าๆๆๆ

เช่นของคุณ tine_lnw

ให้กำลังใจ 0

หยิกหู 0

แจกหู 0

ความคิดเห็นที่ : 13

Mr.Burst

29/05/2011 23:02:34

เอ่อ.... เจอศัพท์เทคนิค....งงตายเลยครับ...

ถามแบบบ้านๆ ก็แล้วกัน

ถาเกี่ยวกับ.... พวก "ยาลดความอ้วน" ที่คลีนิคต่างๆ ใช้ มันแตกต่างกันมาก ที่เคยเห็นมันมีหลายแบบ หลายสี หลายขนาด เยอะจนงงว่าอะไรเป็นอะไร

บ่อยครั้งมีข่าวว่ากินแล้วมีผลข้างเคียง ถึงตายก็มี แล้วทำไม คลีนิคไม่โดนจับ

แถมได้ยินมาว่า มีการสั่งได้ด้วย ว่าจะเอาลดกี่กิโล ลดเร็วแค่ไหนก็กำหนดได้ เช่น ขอลดลงสัปดาห์ละ 2 กิโลได้มั้ย ก็มีการจัดให้

พอดีเคยมีเพื่อนกินแล้ว "ประสาทหลอน" ขับรถลงข้างทางเกือบตาย!!

ตอบด้วยนะครับ น้องหมอ... ขอร้องล่ะ

ให้กำลังใจ 0

หยิกหู 0

แจกหู 0

ความคิดเห็นที่ : 14

bosslaa

29/05/2011 23:11:40

ตอบคุณ Time_InW นะครับ อิอิว่าแต่อยู่คณะอะไรเหรอครับ + ชอบแทแท เหมือนกันอีกห้าๆ
-ยาในกลุ่ม Amoxycillin นี่ไม่ต้องห่วงครับกินก่อนหรือหลังอาหารก็ได้ครับเนื่องจากยาสามารถทนกรดในกระเพาะได้ครับจะกินก่อนหรือหลังก็สบายเฮ แต่ที่แน่ๆแต่กินให้หมด แพ็คที่หมอหรือเภสัชกรสั่งมานะครับ โดยกินวันหล่ะสามครั้ง เช้ากลางวันเย็น ครับจะกินก่อนหรือหลังก็ได้ แต่ยาในกลุ่มของพวกยา Amoxycillin เนี่ยมันจัดอยู่ในกลุ่มของพวกยาฆ่าเชื้อนะครับไม่ใช่ยาแก้อักเสบ [แต่คนไทยชอบพูดว่ายาแก้อักเสบซึ่งจริงๆมันผิดครับ] ดังนั้นในกรณีนี้ยาเพิ่งกินดักเลยครับเพราะอาจจะทำให้เชื่้อดื่้อยาได้อีกถ้าเรากินยาไม่ครบแพ็งครับ เพราะฉะนั้นก่อนที่จะใช้ยาพวก Amoxycillin ให้ทำการปรึกษาเภสัชกรก่อนจะดีกว่านะครับ ^ ^
- ยา Paracetamol นี่เป็นยาแก้ปวดที่เรากันเป็นในวงกว้างแถมใช้ได้ผลดีด้วยอิอิ อันนี้จะกินก่อนหรือหลังอาหารก็ได้ครับไม่เป็นไร แต่ไม่ควรเกินวันหล่ะ 3.65 กรัม[เม็ดหนึ่งจะตกอยู่ที่ 500 mg อ่ะครับ]ครับหรือประมาณ หกเม็ดครับ กินครั้งหล่ะ 1-2 เม็ดตามอาการ+ ตามน้ำหนักตัวครับนะครับ ถ้าเป็นเด็กก็หนึ่งเม็ดพอครับ[ปลอดภัยที่สุด]และยาพาราเป็นยาที่กินเฉพาะมีอาการเท่านั้นนะครับ ส่วนถามว่ามีอาการข้างเคียงมั้ยของยาพารา ก็ตอบเลยครับว่า มีแน่นอน ทั้งนี้ยาทุกตัวในโลกถ้าใช้มากเกินไปก็จะทำให้เกิดอาการข้างเคียงได้หมดหล่ะครับ โดยที่เจ้าพาราเนี่ยถ้ากินมาไปจะทำให้ตับทำงานหนักมากครับ ซึ่งถ้ากินบ่อยๆ + ถี่ๆเกินไปอาจทำให้ตับสายขาดใน เอ้ยตับเสียได้นะครับ [ปล. ตับเนอะไม่ใช่หูฟังห้าๆ]และถ้ายังกินรวดเดียวหลายๆเม็ดก็อาจทำให้ตายได้ภายในเวลา หกชั่วโมงอ่ะครับ และที่สำคัญ ยาแก้ปวดบางตัว เช่น Norgesic ที่เป็นยาแก้ปวดกล้ามเนื้อ ในสูตรยาของมันจะมี ตัวยาพาราอยุ่แล้วนะครับ ดังนั้นไม่ต้องไปกินยาพารา เพิ่ม และ คำแนะนำทีี่ดีสุดของผมก็คือ ก่อนกินก็อ่านฉลากยา + กับฟังที่เภสัชกรแนะนำดีๆนะครับ
ส่วนยา Ibuprofen นี่จะแรงขึ้นมาหน่อยครับเวลากินนี่ให้กินหลังอาหารทันที หรือกินก่อนอาหารแล้วกินข้าวตามทันทีนะครับ ห้ามกิน Ibuprofen ตอนท้องว่างนะครับ ไม่งั้นมันจะแสบท้องมากๆเลยนะครับ ^ ^

ให้กำลังใจ 0

หยิกหู 0

ความคิดเห็นที่ : 15

bosslaa

29/05/2011 23:15:24

ออ แล้วยาทุกชนิดควรกินกับน้ำเปล่า ที่อุณหภมุิห้องธรรมดาเลยนะครับ ไม่ควรกินกับเครื่องดื่มที่มี Alcohol + น้ำอัดลมนะครับ เพราะว่ามันมีผลแน่นอนครับ ^ ^

ให้กำลังใจ 0

หยิกหู 0

ความคิดเห็นที่ : 16

jomjomjom

29/05/2011 23:24:47

จากที่ทราบๆกันว่า สมัยนี้ มีการหันมาใช้สมุนไพร ในการร่วมรักษากับยาแผนปัจจุบัน และก็มีการรักษาด้วยยาสมุนไพร หรือยาแผนโบราณเพียงอย่างเดียว ก็มี ก็เลย อยากถามเพื่อไขข้อข้องใจว่า

จริงๆแล้ว ยาแผนปัจจุบัน ที่เห็นขายเป็นเม็ด เล็กบ้าง ใหญ่บ้าง มันผลิดมาจากสารเคมีอะไร คือ ... สกัดรึป่าว ถ้าสกัด แล้วสกัดมาจากอะไร ธรรมชาติพวกพืชผักผลไม้รึป่าว หรือเป็น แร่ธาตุในตารางธาตุ

คือ จู่ๆ จะเอาสารเคมีจากไหน มาอัดเป็นเม็ดอ่ะครับ

เพราะยาแผนไทยที่ทำจากสมุนไพรแท้ๆเดี๋ยวนี้ก็อยู่ในรูปอัดเม็ดบ้าง แคปซูลบ้าง อันนี้เห็นๆว่ามาจากสมุนไพร แล้วยาแผนปัจจุบันนี่ มายังไง

อีกอย่าง สีต่างๆที่เห็นในเม็ดยา และสีของแคปซูล มันเป็นสีธรรมชาติของสารเคมีที่นำมาอัดเม็ดรึป่าว
หรือว่าต้องผสมสีผสมอาหารด้วย ...

ผมแค่นี้ก่อนครับ เดี๋ยวตัวคนถามจะงงตัวเอง 5555

ขอบคุณครับหมอ

ให้กำลังใจ 0

หยิกหู 0

แจกหู 0

ความคิดเห็นที่ : 17

bosslaa

29/05/2011 23:25:13

ออ คุณ ธนากรเรียนหมองั้นผมใส่เต็มที่เลยนะครับ
ยาที่กินก่อนหรือหลังอาหาร มีผลแน่ๆครับ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอยางอาทิเช่น ในเรื่องของ การแตกตัวของยาจะมีค่า pH เข้ามาเกี่ยวข้อง หรือยาบางตัวถ้าไปแตกตัวไม่ตรงจุดของ Side of action ก็จะทำให้เกิดการ Irritate Organ tissue ตรงนั้นได้หล่ะจ้า หรือไม่บางทียาบางตัวถ้าไปแตกตัวผิดทีก็จะไม่เกิดการดูดซึมอ่ะครับ

ให้กำลังใจ 0

หยิกหู 0

ความคิดเห็นที่ : 18

bosslaa

29/05/2011 23:26:24

อบพี่ธนากรด้วย ครับ พอดีผมเป็นเพื่อนกับเจ้าของกระทู้กำลังหาหัวข้ออยุ่ อยากทราบมุมมองของบุคคลทั่วไป

มาเข้าเรื่องกันดีกว่าครับ
"การกินยาหลังอาหาร ก่อนอาหาร สำคัญอย่างไร ทำไมต้องกิน กินพร้อมข้าวไม่ได้หรอ"

การกินยาก่อนหรือหลังอาหารค่อนข้างมีความสำคัญครับ เพราะว่ามียาหลายๆตัวที่เมื่อกินพร้อมอาหารแล้ว อาหารที่เรากินนี่หละจะไปลดประสิทธิภาพของยา เช่น ยาฆ่าเชื้อในกลุ่ม fluoroqiunolones เมื่อทานร่วมกันอาหารที่มีแคลเซียมสูงจะ ลดประสิทธิภาพในการฆ่าเชื้อลงครับ จึงเกิดยาที่ให้กินก่อนอาหาร ส่วนยาที่กินหลังอาหารนั้น ยาบางชนิดถ้ากินก่อนอาหารแล้วอาจจะเกิดผลที่ไม่ต้องการเช่น ปวดท้องครับ ยาพวกนี้ส่วนใหญ่คุณหมอจะให้ทานหลังอาหารทันทีเพื่อป้องกันการลืมทาน แต่ยาบางตัวจะกินก่อนหรือหลังอาหารก็ได้ไม่มีความแตกต่าง กัน ซึ่งคุณหมอก็จะเป็นคนกำหนดว่าให้เราทานตัวไหนอย่างไร เพื่อให้เกิดผลการรักษาสูงสุด

ส่วนการทานยาพร้อมอาหารนั่นสามารถทานได้ ถ้ายาตัวนั้นให้ทานหลังอาหาร เพราะปกติคนเราจะทานยาหลังอาหารที่เราเข้าใจกันคือปรมาณ 15 นาทีหลังทานอาหารเสร็จใช่มั้ยครับ จริงๆแล้วยาหลังอาหารจะทานหลังจากทานอาหารไปแล้ว 1ชม.ก็ยังได้ครับ เพราะว่าอัตรารเร็วในการทำให้กระเพาะอาหารว่างนั้นอยู่ที่ประมาณ 2 ชม. ครับ ดังนั้นไม่ว่าเราจะทานยาหลังอาหาร15นาที ครึ่งชม. หรือ1ชม.ก็ตาม ก็ยังมีผลเท่ากันครับ แต่ถ้ามันเลย 2 ชม.ไปแล้วก็ยังสามารถรับประทานได้ ยกเว้นยาที่คุณหมอสั่งให้ทานหลังอาหารทันที ยาที่สั่งให้ทานหลังอาหารทันทีส่วนใหญ่มักจะมีผลข้างเคียงเมื่อทานตอนท้องว่างครับ เพราะฉะนั้นเราก็ทานยาพร้อมอาหารได้ครับ
แต่ถ้าเป็นยาที่ให้ทานก่อนอาหาร เราต้องทานยาตัวนั้นก่อนทานอหารอย่างน้อยครึ่ง-1ชม. เพื่อให้ยาตัวนั้นเกิดการดูดซึมซะก่อนครับ

พอคร่าวนะครับ ส่วนเรื่องการทานยาปฏิชีวนะ bosslaa ได้ตอบไว้แล้ว ส่วนเรื่อง ยา ชนิดไหนที่ควรซื้อกินเอง และ ชนิดไหนควรไปหาหมอก่อนกิน ผมจะไปหาคำตอบมาให้นะครับ ผมยังไม่ชัว100% ที่จะตอบ เดี๋ยวจะเข้าใจผิดกัน แล้วผมจะมาตอบให้ครับ

สุดท้ายขอบคุณพี่ธนากร ที่เข้ามาเสนอหัวข้อต่างๆครับ ^^

ปล.ข้อความข้างบนเป็นที่เพื่อนผมพิมพ์มานะครับ [และมันนี่เองที่เป็นคนสั่งการลงมาฮาๆ]

ให้กำลังใจ 0

หยิกหู 0

ความคิดเห็นที่ : 19

29/05/2011 23:37:49

ตอบพี่เบิร์ดหล่ะ จ้า
ยาลดความอ้วน นี่ตัวผมก็ไม่ค่อยได้แตะเรื่องนี้ซะเท่าไหร่นะครับ แต่ที่มีหลายขนาดนี่ก็เพราะว่าแต่หล่ะคนน้ำหนักไม่เท่ากัน อายุไม่เท่ากัน ทำให้ต้องทำออกมาหลายๆขนาดอ่ะครับ
ผมว่าถ้าจะแตกต่างก็แตกต่างกันที่ Dose ของยาอ่ะครับ
ส่วนเรื่องยาลดความอ้วนเนี่ย กลไกส่วนใหญ่มันจะไปกดศูนย์หิวในสมองครับซึ่งทำให้เรารุ้สึกว่าอิ่มตลอดเวลา จะได้ไม่กิน พอไม่กินก็จะน่ำหนักลดครับแต่ถ้ากินมากไปก็อย่างว่าอ่ะครับมันไปออกฤทธิ์ในสมองทำให้พอกินมากๆอาจจะเกิดอาการหลอนขึ้นมาก็ได้นะครับและถ้ากินยาพวกนี้ไปแล้วหยุด มันก็ไม่ได้ไปกดศูนย์หิว เราก็หิว สุดท้ายกิน แล้วก็กลับมาอ้วนใหม่อ่ะครับและอาจทำให้เกิด YoYo effect ด้วยนะอิอิ

สรุปเลยนะครับวิธีลดความอ้วนที่ดีที่สุดคือปรับพฤติกรรมการกินของตัวเอง โดยแนะนำครับตอนเช้า กินแบบคนรวย[อย่าคิดที่จะผวนนะครับ]ครับ ตอนกลางวัน กินแบบ ชนชั้นกลาง ส่วนตอนเย็นให้กินแบบ ยาจกไม่มีจะกินอ่ะครับ [แนะนำกินผลไม้ดีที่สุด] แต่ผมว่าเด็กเว็ปเฮียส่วนใหญ่ก็กินแต่มาม่ากันหล่ะเนอะ ห้าๆๆ

ให้กำลังใจ 0

หยิกหู 0

ความคิดเห็นที่ : 24

bosslaa

29/05/2011 23:48:08

ตอบพี่ทศย์ ฮะ
ยาที่มีอยู่ในแผนปัจจุบัน ก็มีทั้ง ที่แบบสกัดมาจากธรรมชาติ และแบบสังเคราะห์ขึ้นเองซึ่งถ้าถามว่า สังเคราะห์แล้วเอาสารเหล่านี้มาได้ไงก็ตอบได้เลยว่า .... ไม่รุ้อ่ะครับห้าๆ ตอนไปฝึกงานก็เคยถามพี่ที่ฝึกงานเหมือนกัน เขาก็บอกว่าเรื่องนี้เป็นงานในเรื่องของนักวิทยาศาสตรือ่ะครับ ห้าๆและในเมืองไทยก็ไม่มีการผลิต Raw material มาผลิตออกมาเป็นยาด้วยครับเนื่องจาก เทคโนโลยีไม่เอื่ออำนวย ดังนั้นก็จะ Import พวกสารเคมีพวกนี้เขามาจากต่างประเทศอ่ะครับซึ่งเขาทำมาได้อย่างไรอันนี้ก็ไม่ทราบเช่นกันอ่ะครับพี่ทศย์
ส่วนเรื่องสี ก็มีทั้งแบบเป็นธรรมชาติกับเป็นสารเคมี แต่ในที่นี้เขาก็ได้ทำการทดลองแล้วครับว่า สารทีนำมาทำเป็นสีนี้ไม่มีอันตรายเมื่อกินเข้าไปแน่นอนครับ เพราะถ้ามันอันตรายจริงมันก็ไม่สามารถนำออกมาขายได้ตั้งแต่แรกเพราะว่าก่อนที่ยาจะออกขายแต่หล่ะตัว ต้องใช้เวลาถึง 12 ปีเป็นอย่างต่ำ ในการทดสอบความปลอดภัยครับพี่ทศย์
อาจจะไม่กระจ่างแต่ทำดีที่สุดแล้วนะครับ

ให้กำลังใจ 0

หยิกหู 0

ความคิดเห็นที่ : 25

นายมั่นคง

29/05/2011 23:51:05

4,294

555 ด้วยความยินดีครับ เว็บมั่นคงสนับสนุนในทุกๆๆ เรื่อง ตั้งแต่เรื่องมีสาระ หรือไม่มีสาระล่ะครับ 555

ยันเรื่องลามกจกเปรต ถึงไม่ได้สนับสนุนทางตรง ก็อาจจะมีการสนับสนุนทางอ้อมจากกองกำลังเสริมล่ะครับ 5555

ผมว่ามีหวังได้ตอบคำถามเรื่องยากันทุกๆๆวันแน่ๆๆล่ะจ้าๆๆ

ให้กำลังใจ 0

หยิกหู 0

แจกหู 0

ความคิดเห็นที่ : 26

bosslaa

29/05/2011 23:52:24

ตอบคุณ panda180
- กรณีถ้าเป็นโรคกระเพาะ แนะนำรีบไปตรวจกับแพทย์เลยดีกว่านะครับ ถึงดูเหมือนจะเป็นเรืองเล็กๆแต่ก็อาจทำให้ถึงขั้ขเสียชีวิตได้นะครับ ทั้งนี้เพราะโรคกระเพาะบางประเภทจะเป็นโรคเรื้อรังต้องกินยาคุมไปตลอดเลยก็มี ทางที่ดีให้แพทย์วินิจฉัยก่อนดีกว่านะครับ ^ ^ เพราะโรคกระเพาะที่เกิดขึ้นอาจจะเกิดมาจากแบบที่มีเชื้อเป็นสาเหตุ หรือแบบที่ไม่ใช่เชื้อก็มีครีบ

ให้กำลังใจ 0

หยิกหู 0

ความคิดเห็นที่ : 27

Razr

29/05/2011 23:53:49

คุณ Bosslaa เรียนอยู่ปีไหนหรอครับ พอดีเรียน PI มหิดลปี2

ให้กำลังใจ 0

หยิกหู 0

แจกหู 0

ความคิดเห็นที่ : 28

bosslaa

29/05/2011 23:56:36

ปี 4 แล้วครับ อิอิ เป็นรุ่นน้องผมต้อง สองปี ตอนนี้เรียนอยู่รามาใช่มั้ยครับ ^ ^ ไว้ๆมาคุยเรื่องหูฟังกันได้นะ เพราะผมไปพูดให้เพื่อนในคณะฟังมันคงบอกว่าผมบ้าอ่้ะ ห้าๆ

ให้กำลังใจ 0

หยิกหู 0

ความคิดเห็นที่ : 29

bosslaa

29/05/2011 23:57:47

ขอบคุณครับเฮียห้าๆ ผมนับถือเฮียเป็นไอดอลเลย เนื่องจากไปดูเฮียตอนออกรายการสักอย่างเนี่ย เฮียๆผมแนะนำไปออก sME ตีแตกเลยห้าๆๆ

ให้กำลังใจ 0

หยิกหู 0

ความคิดเห็นที่ : 30

MUPY

29/05/2011 23:59:02

เสริมคห.24 ครับ

ส่วนใหญ่ยาตอนนี้ยังเป็นสารสังเคราะห์อยู่ครับ แต่ตอนนี้เริ่มหันมาสนใจสารสกัดจากธรรมชาติมากขึ้น เพราะมันเป็นสิ่งที่มีอยุ่แล้วตามธรรมาชาติครับ แล้วอีกอย่างยาที่มาจากสารสกัดมักจะมีราคาค่อนข้างสูงอยู่เนื่องจากปัจจัยหลายอย่าง ประมาณว่าพืชต้นนึงสกัดสารได้น้อยมากๆๆๆๆๆๆๆ แล้วเราต้องใช้สารตัวนั้นในการรักษาโรคครับ ทำให้ตอนนี้ยังไม่ที่แพร่หลายมาก แต่คาดว่าต่อไปคงจะมีการพัฒนามากขึ้น ตอนนี้ที่รุ้ก็มีสารสกัดจากต้นแพงพวยฝรั่งครับที่นำมารักษาโรคมะเร็งได้ และสารสกัดก็มีมาจากทั้ง พืช แร่ธาตุ หรือแม้กระทั้งจากสัตว์ทั้งบนบก และในน้ำ ตอนนี้ก็มีการศึกษาเกี่ยวกับสารสกัดที่ได้จากพวกฟองน้ำหรือสาหร่ายทะเลอยู่ครับ ^^

ให้กำลังใจ 0

หยิกหู 0

ความคิดเห็นที่ : 31

นายมั่นคง

30/05/2011 00:03:38

4,294

แฮ่ะๆๆๆ อย่าให้ถึงกับเป็นไอดอลเลยรับ มันฟังแล้วจั๊กจี้ชอบกล และเวลาเรียกไอดอล ห้ามตกตัว "ล" เน้อ 555

ยินดีจริงๆ ครับ ที่มาร่วมให้คำแนะนำที่เป็นประโยชน์ครับ เว็บเรานี่มีบุคคลที่เป็นผู้ทรงคุณวุฒิในทุกๆสาขาวิชาจริงๆๆ และมาร่วมให้คำแนะนำดีๆๆ ตั้งแต่คุณหมอทัตเทพท่านแรกมาเลยล่ะครับ

ขอบคุณจริงๆๆจ้าๆๆๆ 555

ให้กำลังใจ 0

หยิกหู 0

แจกหู 0

ความคิดเห็นที่ : 32

mupy

30/05/2011 00:08:07

ตอบเพิ่ม mr.burst จ้าาา
ยาลดความอ้วนที่ใช้ๆกันแต่ก่อนและปัจจุบัน"การออกฤทธิ์หลักของยาจะมีผลต่อ ระบบประสาทเป็นหลัก ไม่ได้หวังผลที่ลดความอ้วนโดยตรง" ไม่แปลกใจเลย ถ้าเราได้ยาเยอะๆ จะเกิดอาการหลอนอะไรงี้ได้ น่ากลัวเน๊อะะ -*-

แต่กระนั้นจะมีผลของยาด้วย ที่จะไปกดศูนย์อิ่มในสมอง ทำให้เราไม่รู้สึกหิวได้จ้า.. >> จึงใช้ลดความอ้วนนะ

- sibrutamine เป็นยาที่เคยทำให้คนที่กินยาลดความอ้วนถึงตายไปแล้วจ้า.. แต่ปัจจุบันก็ถอนยานี้ออกไปแล้วเน้อ,,,
- ทำไมคลีนิกไม่โดนจับ? ถ้าการรักษาเปนไปอย่างสมเหตุสมผล มีการพิจารณาว่าหมอไม่ได้ผิดพลาด แต่การตายเกิดขึ้นจากการใช้ยาที่ไม่มีใครคาดคิดมาก่อนว่ามันจะเกิด ผมว่ามันก็สุดวิสัยมากๆ ดังนั้นบริษัทยาก็ต้องรับผิดด้วยการชดใช้ หรือถอนยาตัวนั้นออกจากทะเบียนยาจ่ะะะ

ps. ขออภัยถ้าเกิดดผลอใช้ศัพท์เทคนิคมากไป และจะพยายามปรับปรุงนะค้าบ ;)
ps2. งงตรงไหนก็ถามได้จ่ะะะ

ให้กำลังใจ 0

หยิกหู 0

ความคิดเห็นที่ : 33

bosslaa

30/05/2011 00:09:51

ครับผม ^ ^ ปล C%C BK จะหมดยังอ่ะครับ T w T อย่าเพิ่งหมดนะครับพอดีอยากได้มากแต่คอมดันมาพังเลยต้องเอาเงินไปซ่อมคอมก่อนอ่ะครับ

ให้กำลังใจ 0

หยิกหู 0

ความคิดเห็นที่ : 34

Razr

30/05/2011 00:13:40

ผมเรียน pharmaco ตอนเทอม2 ไว้ถ้าสงสัยจะได้มาถามพี่ละกัน อิอิ

ให้กำลังใจ 0

หยิกหู 0

แจกหู 0

ความคิดเห็นที่ : 35

bosslaa

30/05/2011 00:16:06

โอ้วได้ครับ ^ ^

ให้กำลังใจ 0

หยิกหู 0

ความคิดเห็นที่ : 36

ธนากร

30/05/2011 00:25:56

ผมขอเสริมเรื่องนี้ให้หน่อยละกันครับ
amoxycillin : ยาปฏิชีวนะ หรือ ยาฆ่าเชื้อ อันนี้ไม่ควรกินดักละเน้อ เพราะจะทำให้เพิ่มโอกาส การดื้อยาหล่ะครับ ควรจะกินก็ต่อเมื่อ สงสัยว่า ติดเชื้อ แบคทีเรีย ครับ อาการที่พอจะช่วยบอกได้คือ มีไข้ ร่วมกับ มีน้ำหมูกเป็น สีเหลือง หรือ เขียว หรือ มีหนองตามตัว หรือ แผลหล่ะครับ แนะนำว่า ไปหาหมอก่อนกินจะดีที่สุดจ้าบางที มันอาจจะไม่ได้รักษาด้วย ยาตัวนนนี้ครับเพราะขึ้นอยู่กับเชื้อที่จะรักษาครับ

Paracetamol : ตัวนี้เรียกว่าเป็นยาสามัญประจำบ้านครับ สามารถหาซื้อได้ทั่วไป สรรพคุณก็แก้ปวด ลดไข้ครับ ใช้ได้ไม่มีปัญหา ยาตัวนี้มีอันตราย มั้ย มีครับ แต่ว่า ยาตัวนี้ เนื่องจากเป็นยาที่มี ระดับยาที่จะเป็นอันตรายต่อร่างกายค่อนข้างสูงดังนั้น จึงสามารถใช้ได้ทั่วไปหล่ะครับ ถ้ามีไข้ หรือ ปวด เริ่มจากตัวนี้ก่อนได้ครับ ถ้าอาการไม่ดีขึ้นค่อยไปหาหมอล่ะเน้อ

Ibrupofen // neurofen : อันนี้ อาจจะเรียกว่า ยาแก้อัักเสบก็ได้ครับ ซึ่งกลุ่มยาคือ NSAIDs ย่อมาก non-steroidal anti-inflamatory drugs ครับ แปลเป็นไทยก็ยาแก้อักเสบ ชนิดที่ไม่ใช่ เสตียรฺรอย ครับ ยาตัวนี้ ข้อดีคือ ลดการอักเสบครับ ดังนั้นจึงสามารถ ลดอาการปวด และ ไข้ได่ด้วยครับ แต่ ยาตัวนี้มีข้อเสียคือ กัดกระเพราะครับ ซึ่งจะทำให้เกิดแผลในกระเพาะและ เกิด กระเพาะอักเสบ หรือ เลือดออกมนกระเพาะตามมาได้ ดังนั้น ควรกินหลังอาหารทันที หรือ ถ้าเป็นโรคกระเพาะควรบอกหมอครับ เพื่อเปลี่ยนยา หรือ ให้กินยาเคลือบกระเพาะด้วยครับ

ให้กำลังใจ 0

หยิกหู 0

แจกหู 0

ความคิดเห็นที่ : 37

หมูหวาน

30/05/2011 00:30:22

ขอสอบถามมั่งครับ พอดีอยากลดน้ำหนักอยู่ ไม่ทราบว่ายาแบบนี้มีผลข้างเคียงรึปล่าวครับ

ให้กำลังใจ 0

หยิกหู 0

แจกหู 0

ความคิดเห็นที่ : 38

jomjomjom

30/05/2011 00:40:11

555
ขอบคุณครับผม

ขอถามปัญหาคาใจอีกซักคำถามนะครับ อาจไม่ค่อยตรงประเด็นเรื่อง ยา แต่ก็น่าจะเกี่ยวนิดๆ

เรื่องโรคไข้เลือดออก คือเป็นที่ทราบกันดีว่า โรคไข้เลือดออก เป็นโรคที่เกิดจากเชื้อไวรัสตัวนึง มี ยุงลาย เป็น พาหะ ...

ที่คาใจ ก็คือ คำว่า พาหะ นี่แหละครับ ว่า ตกลงจริงๆแล้ว ยุงลาย เป็นแค่ พาหะ หรือว่า ตัวมันเองมีกระบวนการในการสร้าง หรือเป้นต้นกำเนิด ของ ไวรัส ตัวนี้ด้วย

เพราะที่เราร่ำเรียนมา คือ การแพร่เชื้อ จะเริ่มจาก ยุงลาย ไปกัด คนที่มีเชื้ออยู่ ....ดูสิครับ ... จู่ๆ คนจะมีเชื้ออยู่ได้ยังไง .... มันต้องมีการรับเชื้อมาก่อน ยุงถึงจะไปกัดแล้วทำตัวเป็นพาหะ แพร่เชื้อไปสู่คนอื่นๆ ...

ประเด็นคือ ผมค่อนข้างมั่นใจว่า เชื้อไวรัสตัวนี้ ถูกให้กำเนิดจากยุงลายแน่ๆ อาจจะด้วยสภาพแวดล้อมที่ยุงลายมันเกิด ทำให้เกิดมีไวรัสตัวนี้ในตัวมัน ... แล้วเราบอกว่า เอาทรายอะเบส เท่ใส่ตามที่มีน้ำขัง เพื่อกำจัดลูกน้ำ ไม่ให้แปลงร่างเป็นยุงลายได้ เป็นการตัดไฟแต่ต้นลม ... ก็ดูสมเหตุสมผลดี แต่ก็ดูบาปๆ ไงไม่รู้ 555

ที่อยากถาม สำหรับ คห. นี้คือ กรณีเชื้อไวรัสของไข้เลือดออกเนี่ย เวลามันเข้าร่างกายแล้ว ก็จะทำให้เราป่วย และแสดงอาการต่างๆตามเสต็ปที่เรียนกันมา และก็ มีข้อห้ามต่างๆเช่น ห้ามกินยาแอสไพริน (ใช่ป่ะ) เพราะจะทำให้ ... (จำไม่ได้) ต้องคอยสังเกตุอาการ และรักษาตามอาการไป ... อยากทราบว่า จะมีความเป็นไปได้หรือยังที่จะมียาที่กิน หรือฉีด เพื่อทำลายไวรัสไข้เลือดออกได้เลย ... ไวรัสอื่นๆด้วย ...

อืมม ... คห.นี้มั่วจริงๆ 5555

ให้กำลังใจ 0

หยิกหู 0

แจกหู 0

ความคิดเห็นที่ : 39

bosslaa

30/05/2011 00:52:49

ตอบเฮียหมูวานครับ
อ่าอันที่เฮียหมูหวานเอามาแปะนั้น มันมะใช่ยาอ่ะครับ แต่จะมาเป็นในรูปอาหารเสริมอ่ะครับก็สามารถจะกินได้ครับ ทังนี้อย่างที่ผมบอกไปแล้วว่า ทุกอย่างบนโลกนี้มันเป็นพิษหมดหล่ะครับถ้าเราoeไปใช้เกินขนาดหรือไม่ถูกวิธี เพราะฉะนั้นให้พี่หมูหวานกินตามที่ฉลากมันบอกเลยครับ + ปรับพฤติกรรมทางการกิน + ออกกำลังกายแค่นี้ก็สบายเฮแล้วครับ ^ ^ รับรองผอมแน่นอนครับ อย่าลืม concept ที่ผมบอกอ่ะครับว่า
ตอนเช้า กินอย่างคนรวย
ตอนกลางวัน กินอย่างคนธรรมดา
ตอนเย็น กินอย่างยาจก
เท่านี้แหล่ะคร้าบบ

ให้กำลังใจ 0

หยิกหู 0

ความคิดเห็นที่ : 40

30/05/2011 06:07:34

เสริมเรื่องไข้เลือดออกคร้าบบบ

ที่มามาจากไหนไม่มีใครทราบครับ เพราะเราทราบว่ามีเชื้อไวรัสเดงกี่ (Dengue virus) ก็พบจากคนที่แสดงอาการครับ

ให้กำลังใจ 0

หยิกหู 0

ความคิดเห็นที่ : 48

30/05/2011 09:53:43

30/05/2011 13:43:33

กระทู้สร้างสรรค์มาแล้ว

งั้นผมขอถามซักเรื่องครับ คือผมมีอาการปวดเข่า บางครั้งมีบวมๆ เหมือนมีน้ำอยู่ข้างใน มันขัดๆ ซึ่งอาการนี้เป็นมาเกือบ 5 ปีแล้ว และยังจำได้ถึงวันแรกที่เป็นคือ มันขัดๆ และปวดทันทีที่ตื่นนอนขึ้นมาโดยไม่แสดงอาการแบบค่อยเป็นค่อยไปจนถึงวันนี้ มันรำคาญมากๆ เวลายืดเข้ายืดออกมันจะดังป็อก เหมือนเราหักนิ้ว ไป รพ.ก็ให้ยาแก้ปวด ถ่ายเอกซเรย์ก็บอกว่าปกติ ก็เลยซื้อยามาทานเอง โดยฝากแฟนซื้อมาจากญี่ปุ่น เป็นลักษณะอาหารเสริม "กลูโคซามีน" เป็นแคปซูลคล้ายๆ น้ำมันปลา ข้างในมีลักษณะเป็นเจลสีเขียวเข้ม ระหว่างทานก็ค่อยๆ ดีขึ้น แต่ตอนนี้ยาหมดก็เลยซื้อ "ไวอาทริลเอส" มาทานแทน แต่แพงมาก อาการยังทรงๆ อยู่ มีอะไรแนะนำไม๊ครับ เช่นควรใช้ยาอะไร หรือทานไวอาทริลเอสต่อไป ขอบคุณครับ

ให้กำลังใจ 0

หยิกหู 0

แจกหู 0

ความคิดเห็นที่ : 58

เบิร์ด

30/05/2011 15:36:49

ยุ่งกับแฟนแต่ยังไม่พร้อมที่จะมีเด็ก แล้วไม่ได้ป้องกัน แต่ใช้น้ำด่างทับทิมล้าง หลังจากนั้นประมาณครึ่งชั่วโมง จะช่วยได้ไหมครับ

ให้กำลังใจ 0

หยิกหู 0

ความคิดเห็นที่ : 59

MUPY

30/05/2011 18:41:41

ตอบคุณ vigo4499 ครับ

ถ้าเป็นกรณีแบบนี้ทางผมแนะนำว่าลองเปลี่ยนหมอที่รักษาจะดีกว่ามาหายาทานเองครับ เพราะการหายารักษาไมเกรนมาทานเองอาจจะไม่ปลอดภัยครับ แล้วก็ผมแนะนำเรื่องการดูแลตัวเองดีกว่าครับ พักผ่อนให้เพียงพอครับซัก6-8ชม./วัน ถ้าให้ดี8ชม.จะีดีกว่าครับ แล้วก็พยายามออกกำลังกายหากิจกรรมที่ทำแล้วคลายความเครียดครับเพราะความเครียดก็เป็นปัจจัยหนึ่งเช่นกัน อาจจะนั่งฟังเพลงอ่านหนีงสืือเล่มโปรดครับ

การทานยาไม่ใช่ทางออกอย่างเดียวที่รักษาโรคได้ครับ เราควรดูแลตัวเองให่สมบุรณ์แะลแข็งแรงเพื่อให้โรคนั้นไม่กลับมาเป็นอีกครับ ^^

ให้กำลังใจ 0

หยิกหู 0

ความคิดเห็นที่ : 60

MUPY

30/05/2011 18:56:31

ตอบคุณth.don ครับ

อย่างที่เราทราบกันเซนทรัมเป็นวิตามินรวมa-zซึ่งแปลว่าก็ต้องมีทั้งวิตามินที่ละลายน้ำและไม่ละลายน้ำแน่นอนใช่มั้ยครัับ พวกวิตามินที่ไม่ละลายน้ำอย่าง A D E K เหล่านี้ แน่นอนว่าเมื่อเราได้รับไปนานๆมันเกิดการสะสมแน่ๆ เพราะมันสามารถเข้าไปสะสมอยู่ในเซลล์ไขมันได้ครับ ส่วนพวกวิตามินที่ละลายน้ำไม่ค่อพบปัญหามากเท่าไรเพราะมันขับออกทางปัสสวาะครับ

การทานก็ทานตามที่ขวดเค้าบอกละครับ ถ้าผมจำไม่ผิดคงเป็นวันละ 1 เม็ดหลังอาหารรึเปล่าไม่แน่ใจนะครับ ก็กินซัก1เดือนเว้นไป 1 เดือนก็ได้ครับเพื่อให้ร่างกายมีเวลาในการขับของที่สะสมออก แต่ถ้าคุณจะเล่นเวทเทรนนิ่งผมไม่แน่ใจว่าเค้ามีสูตรการทานรึเปล่าครับ อาจลองหาอ่านตามในอินเตอร์เนตนี่หละครับใน เวปที่เกี่ยวกับการเล่นเวทครับ ^^

ให้กำลังใจ 0

หยิกหู 0

ความคิดเห็นที่ : 61

30/05/2011 18:59:38

ขอเรียนถามว่าที่คุณหมอ และว่าที่เภสัชครับ

อาการสิวขึ้นหลังครับเกิดจากอะไรหรือครับ ทั้งๆที่อาบน้ำเป็นประจำ อาบเองบ้าง ให้คนอื่นอาบบ้าง แต่ทำไมมันยังเป็นสิวอยู่เกิดสาเหตุใดหรอครับ

แล้วมียากินหรือยาทาตัวไหนสามารถจัดการปัญหาดังกล่าวได้บ้างหรือเปล่าครับ พอดีสงสัยอย่างแรงครับ เพราะส่วนตัวก็ไม่ได้เป็นคนเหงื่อออกเยอะ หรือว่าเล่นกีฬากลางแจ้งหรือในร่มบ่อย

รบกวนสอบถามนิดนะครับ อาจจะไม่ค่อยเกี่ยวกับหัวข้อที่จะรณรงค์ให้ความรู้ชุมชนเท่าไหร่ ถ้าผิดพลาดประการใด ก็ขออภัยว่าที่คุณหมอและว่าที่เเภสัชล่วงหน้านะครับ

(แต่อยากรู้จริงๆ นะครับ) 5555

ให้กำลังใจ 0

หยิกหู 0

ความคิดเห็นที่ : 62

MUPY

30/05/2011 19:05:38

ตอบคุณ Pimpay11 ครับ

การทานยาทุกชนิดติดต่อไปนานๆ แน่นอนครับมีผลต่อตับแน่ครับ แต่ว่าในกรณีของคุณ Pimpay11 ทานเพื่อแก้อาการปวดท้องประจำเดือน ก็ทานเฉพาะมีอาการปวดใช่มั้ยครับ ก็แนะนำว่าอย่าทานเกินวันละ 3.65 กรัม/วัน ครับ เพราะถ้าทานมากเกินกว่านี้ตับจะได้รับอันตรายจากยาพาราครับ อ่อและก็ไม่ควรทานยาพาราร่วมกับเครื่องดื่ม alcohol นะครับ จะส่งผลเสียต่อตับครับ

ถ้าปวดไม่มากก็ทานยาพาราก็ได้ครับ แต่ถ้าปวดมากก็ใช้ ยาที่มีตัวยา mefenamic acid หรือที่เราเรียกกันว่ายาแก้ปวดท้องประจำเดือนแหละครับ ตอนนี้ก็มีหลายยี่ห้อขายอยู่ ลองไปถามที่ร้านขายยาก็ได้ครับ อ่อ อย่าตัวนี้ห้ามทานตอนท้องว่างนะครับอาจทำให้ปวดท้องได้ถ้าทานตอนท้องว่าง ควรทานหลังอาหารทันทีครับ

ปล.ผมจะพยายามหลีกเลี่ยงไม่พูดชื่อการค้าของยานะครับ ผมรู้สึกว่ามันเหมือนเป็นการโฆษณายาไปในตัวครับ ^^

ให้กำลังใจ 0

หยิกหู 0

ความคิดเห็นที่ : 63

saminbox

30/05/2011 19:08:46

ถามไว้หน่อยนะ
ถ้าเรากินวาติมรวมๆ อย่างเช่นเซนทรัม แก่ๆไปมีผลไรไหม จริงๆไม่อยากกินแต่มีคนบอกว่าร่างกายอาจจะไม่พอ
แล้วอีกอย่างกินโปรตีนเสริมออกกำลังกายมีผลอะไรไหม

ขอเน้นๆเลยนะ วิทยาศาสตร์ก็ได้อธิบายมาเลย อยากรู้ด้านแง่จริงๆครับ

ให้กำลังใจ 0

หยิกหู 0

แจกหู 0

ความคิดเห็นที่ : 64

30/05/2011 19:25:13

ตอบ คุณเบิร์ด ครับ

ผมคิดว่าไม่ได้นะครับ การล้างด้วยด่างทับทิมนี่ผมไม่เคยได้ยินจริงๆ แหะๆ^^" แนะนำว่าถ้าไม่ได้ป้องกันให้ไปซื้อยาคุมกำเนิดแบบฉุกเฉินครับ ยาคุมกำเนิดแบบฉุกเฉิน จะเป็นยาฮอร์โมนที่มี progestogen อย่างเดียวในปริมาณสูงครับ กลไกคือจะไปทำให้มูกบริเวณช่องคลอดเหนียวครับทำให้ตัวอสุจิเข้าไปเจอกับไข่ได้ยากขึ้นครับ และยับยั้งการตกไข่ได้ ยกตัวอย่างยาเช่น postinor หรือ madonna ครับ

การใช้ยาคุมฉุกเฉินแผงนึงจะมี 2 เม็ด มีวิธีการใช้คือ ให้ทาน 1 เม็ดภายหลังจากการดึ๊บๆ -0- ไม่เกิน 72 ชม.ครับ แล้วทานอีก1เม็ดหลังจากทานเม็ดไปแล้ว 12 ชม ครับ ต้องทานทั้งหมด 2 เม็ดนะครับ เมื่อทานครบอีก2-3วันจะมีเลือดออกมา(เหมือนประจำเดือนอะแหละ) แต่ถ้าไม่ออกคงต้องไปตรวจที่รพ.แล้วครับ ว่าท้องหรือเปล่า

ปล.ครับครั้งหน้าอย่าลืมป้องกันด้วยนะครับ เพราะการใช้ยาคุมฉุกเฉินบ่อยๆจะไม่ดีต่อร่างกายครับ ด้วยความเป็นห่วง ยังไงก็ขอให้ยังไม่ท้องครับถ้ายังไม่พร้อม ^^

ให้กำลังใจ 0

หยิกหู 0

ความคิดเห็นที่ : 68

Pimpay11

30/05/2011 19:31:18

ได้ความรู้มากค่ะ ขอบคุณมากนะคะ : )

ให้กำลังใจ 0

หยิกหู 0

แจกหู 0

ความคิดเห็นที่ : 69

30/05/2011 21:03:24

ขอเพิ่มเติม ความเห็น 79 ของเพื่อนบอสนะครับบบ

ที่บอกขนาดของยา Paracetamol ที่ปรับเป็น 2.6 กรัมต่อวัน อันนีเป็นเกณฑ์ของ USFDA [เปรีนยบเสมือนกับ.. องค์การอาหารและยา ของUSA ]

- ก็เหลือประมาณ 5 เม็ดต่อวัน >> แต่หมอยังจ่ายให้กินเกือบ 6-8 ต่อวันเลยอ๊ะ!!!

- ทั้งนี้ทั้งนั้น ที่ปรับลดเหลือ 5 เม็ดต่อวันก็เพื่อ "ลดการเกิด พิษ จากการใช้ยา Paracetamol โดยไม่ได้ตั้งใจ! "

- แต่ก็ยังมีนะครับ.. ที่อาจารย์หมออาวุโส ท่านเก่าๆ ก็ยังใช้ขนาดเดิมอยู่ เพราะอาจใช้จากความคุ้นเคย และที่อาจารย์ท่านใช้อยู่ก้ไม่ได้เกิดผลเสียอะไร ^^''

ให้กำลังใจ 0

หยิกหู 0

ความคิดเห็นที่ : 81

mupy

30/05/2011 21:47:37

ขอออกตัวนิดนึงนะครับ ..

เภสัชกร อาจจะเรียกได้ว่า การวินิจฉัยโรค ไม่ได้แม่นยำ หรือละเอียดเท่ากับแพทย์ สิ่งที่เราพอจะอธิบายให้ทุกคนได้รับรู้ก็คือ การใช้ยาให้ถูกต้องและปลอดภัยกับประชาชนทุกๆตามกำลังที่เราจะสามารถทำได้ และขอความกรุณาในเรื่องต่อไปนี้

- ถ้ามีการเอ่ยชื่อยาขึ้นมา อยากจะให้หลีกเลี่ยง สิ่งที่จะส่อให้เห็นว่าเป็นการ โฆษณาผลิตภัณฑ์ของบริษัทใด บริษัทนึงด้วยค้าบบ ^^
- อาจจะไม่สามารถให้คำตอบที่เกี่ยวกับการวินิจฉัยโรคได้ [ทั้งนี้ ทั้งนั้น ถ้าหากพี่ๆที่เรียนแพทย์ จะช่วยตอบคำถามให้ ก็จะขอบพระคุณมากครับ (: ]
- และขณะนี้พวกยังเป็นเพียง นักศึกษาเภสัชปี 4 ซึ่งยังไม่ได้เป็นเภสัชกรเต็มตัว.. จึงอาจจะยังไม่สามารถให้คำตอบได้ทุกๆ เรื่อง.. ขอโทษด้วยนะครับ ..
** จุดประสงค์ของการตั้งกระทู้นี้ก็เพื่อ ต้องการเห็นภาพกว้างของปัญหาการใช้ยาครับ แต่ก็จะตอบปัญหาข้อสงสัยต่างๆเท่าที่จะตอบได้ครับ ^___^

ให้กำลังใจ 0

หยิกหู 0

ความคิดเห็นที่ : 82

อ้น

30/05/2011 21:50:14

ถามคุณ mupy

Dose ของ Para FDA เมืิงไทย Approve หรือยังครับ

ให้กำลังใจ 0

หยิกหู 0

ความคิดเห็นที่ : 83

30/05/2011 22:22:12

ห้าๆ ผมก็ไม่ค่อยเยอะหรอกครับ ว่าแต่ C&C bk ทั้คุณ close up ซื้อมันคงแหล่มหน้าดูเลย ผมอยู่ในช่วงเก็บตังอ่ะครับ ห้าๆ

ให้กำลังใจ 0

หยิกหู 0

ความคิดเห็นที่ : 88

01/06/2011 22:55:41

555.....เรื่องลายมือหมอนี่จริงๆเลย.....แต่สมัยนั้น ( ต๊าย..คำนี้ไม่อยากพูดเลย ) ต้องอ่านใบสั่งแพทย์เพราะยังไม่ค่อยมีระบบ comp...

เภสัชกรมีหน้าที่ต้องอ่านลายมือหมอให้ออก...แล้วเราก็อ่านออกจริงๆด้วยน๊าา...รู้ด้วยว่าหมอแต่ละท่านใช้สัญลักษณ์อะไร ถ้าเขียน p500 ต้องรู้ว่าท่านหมายถึงยาพารา ๕๐๐ มก. นึกแล้วตลกดี

ให้กำลังใจ 0

หยิกหู 0

ความคิดเห็นที่ : 101

someone

01/06/2011 23:54:34

๕๕๕ หวัดดีครับพี่คณะ

ให้กำลังใจ 0

หยิกหู 0

แจกหู 0

ความคิดเห็นที่ : 102

02/06/2011 18:36:15

เอ่อ ขอแก้ไขจ้า คห.105 สิทธิ์ในการผูกขาดทางการการค้าหรือที่เราเรียกว่าสิทธิบัตร จะอยุ๋ในประมาณ 20 ปีจ้า

เสริมเรื่องที่ยาพวกประสาทแพง อาจจะเนื่องด้วยตัวยาค่อนข้างผลิตคิดค้นได้ยากและใช้เทคโนโลยีค่อนข้างสูงทำให้ต้นทุนการผลิตสูงตามไปจ้า เช่นยาบางตัวต้องการให้ผ่านเข้าสมอง แต่ร่างกายของคนเรากลับมองว่าเป็นสิ่งแปลกปลอมมันจะพยายามไม่ให้ยาเข้าร่างกาย โดยยิ่งสมองแล้วยิ่งเข้ายากมากเพราะสมองเป็นสิ่งที่สำคัญและบอบบางมาก การคิดค้นยาจะให้เข้าสมองนั้น จึงทำได้ยาก ยาที่ออกมาจึงค่อนข้างมีราคาแพง

ให้กำลังใจ 0

หยิกหู 0

ความคิดเห็นที่ : 108

Mr.Burst

02/06/2011 22:00:47

ขอบคุณในคำตอบครับ.... แต่รู้ความจริงแล้ว....ก็ยิ่งน่าเศร้า....

เคยไปสัมภาษณ์ลูกค้า ชื่อบริษัท OLIC ผลิตยา.... เค้าก็บ่นๆ อยู่เหมือนกัน....

ให้กำลังใจ 0

หยิกหู 0

แจกหู 0

ความคิดเห็นที่ : 109

bosslaa

02/06/2011 22:25:43

ห้าๆ ผมว่าอาจจะเป็นมาจากที่ เงินไทยมันเล็กกว่าต่างประเทศด้วยอ่ะครับ ทำให้เรารุ้สึกว่ามันแพง ^ ^ ชีวิตยังไม่ดิ้นสิ้นกันไปเนอะคุน เบิร์ส แต่อย่าเหลือเงินไว้ซื้อยานะฮะมะใช่เอาลงขันกับร้านเฮียหมดอิอิ

ให้กำลังใจ 0

หยิกหู 0

ความคิดเห็นที่ : 110

jackkieza

02/06/2011 23:30:56

เจอรุ่นพี่ที่เล่นหูฟังแล้ว ดีใจๆ
ผม MUPY Rx43 ครับ ^^
ในอนาคตถ้ามีความรู้ความสามารถแล้ว อยากช่วยเหลือสังคมแบบนี้เหมือนกันครับ

ให้กำลังใจ 0

หยิกหู 0

แจกหู 0

ความคิดเห็นที่ : 111

03/06/2011 21:58:13

อ่าคำตอบข้างบนอันนี้เคสอยากพอควรเลยครับ ถ้ายังไงผมขอตอบช้าหน่อยนะครับ จะไปถามอาจารย์ให้ชัดเจนเลยหล่ะครับ ^ ^

ให้กำลังใจ 0

หยิกหู 0

ความคิดเห็นที่ : 119

13/06/2011 16:30:24

รบกวนถามเรื่องยาสำหรับเข่าเสื่อม ชื่อยา ไวอาทริล มีโทษกับร่างกายหรือไม่ เนื่องจาก คุณแม่ มีอายุ 70 กว่าๆๆ แต่เวลานั่งนานๆๆ จะปวดเข่าไม่ทราบใช้ยานี้จะมีผลกระทบอะไรหรือเปล่าค่ะ ขอบคุณค่ะ...ต๋อง

ให้กำลังใจ 0

หยิกหู 0

ความคิดเห็นที่ : 123

Razr

15/06/2011 14:37:46

วันนี้เรียน pharmacokinetic มึนไปเล็กน้อย

ปล. เฮ้ยดีนย้ายไป PY หรอเนี่ยย

ให้กำลังใจ 0

หยิกหู 0

แจกหู 0

ความคิดเห็นที่ : 124

someone

15/06/2011 22:45:12

๕๕๕ ย้ายแล้วโว้ย อยู่ MT ไม่มีใครเล่นหูฟัง

ให้กำลังใจ 0

หยิกหู 0

แจกหู 0

ความคิดเห็นที่ : 125

Razr

16/06/2011 00:06:00

เหตุผลซะ = =

ให้กำลังใจ 0

หยิกหู 0

แจกหู 0

ความคิดเห็นที่ : 126

เด็กไทย

08/07/2011 19:54:09

เป็นไข้เลือดสามารถท่านยาคุมกำเนิดได้หรือไม่ ตอบด่วนนะครับ

ให้กำลังใจ 0

หยิกหู 0

ความคิดเห็นที่ : 127

mastergreat1

08/07/2011 20:34:42

ผมเป็นร.ม.ปลายอยากถามว่าพวก vitamin A D E Kมันไม่สามารถขับถ่ายได้ มันสะสมในร่างกาย แล้วตอนเรียนมันมีตารางว่า ร่างกายควรได้รับ 2 ไมโครกรัม แล้วแต่พวกที่ขายมันจัดเข้าไป1กรัมร่างกายไม่แย่หรอครับ แล้วคลิปพี่โดมกินวิตามินตับไม่เสียหรอซัดเข้าไป6-7เม็ด. แล้วตากแดดมันได้vitamin Dจิหรอครับ

ให้กำลังใจ 0

หยิกหู 0

แจกหู 0

ความคิดเห็นที่ : 128

Zce

08/07/2011 21:19:07

อยากถามเรื่อง para อ่าครับ
คือมันมีฤทธิ์ต้านการอักเสบรึเปล่าครับ อ่านแล้วบางเล่มบอกไม่มี บางเล่มบอกมีน้อย - -"
แล้ว mechanism ของมันนี่ ยับยั้ง cox2 หรือ cox3 กันแน่อ่าครับ TT

ให้กำลังใจ 0

หยิกหู 0

ความคิดเห็นที่ : 129

มะนาว

10/07/2011 11:19:35

รบกวนสอบถามเรื่อง protect pro slim หน่อยค่ะ ว่าสามารถลดน้ำหนักได้จริงหรือเปล่าคะ
อีกข้อนึงค่ะ ^^ plant stanol ที่ว่าช่วยลดคลอเรสเตอรอลได้ มีส่วนผสมของยาลดดคลอเรสเตอรอลหรือเปล่าคะ เพราะจะซื้อให้คุณพ่อทาน แต่คุณพ่อทานยาลดคลอเรสเตอรอลเต็มพิกัดแล้ว กลัวว่าถ้าใน plant stanol มีส่วนผสมของยาด้วย จะเป็นการเพิ่มยาโดยไม่รู้ตัว จะอันตรายค่ะ
รบกวขอความรู้ด้วยค่ะ
ขอบคุณค่ะ

ให้กำลังใจ 0

หยิกหู 0

ความคิดเห็นที่ : 130

โรส

21/02/2013 11:39:20

อยากทราบว่า ยาแก้เข่าเสื่อม Bonviya ราคาเม็ดละเท่าไหร่คะ อ่านทางเน็ตเค้าบอกทานเดือนละเม็ด ราคาค่อนข้างสูงแล้วได้ผลดีรึเปล่าคะ

ให้กำลังใจ 0

หยิกหู 0

ความคิดเห็นที่ : 131

Artnoi

21/02/2013 21:24:19

ความคิดเห็นที่ : 162

05/05/2014 09:02:16

ขอบคุนค่ะ พี่ค่า มียาคุม ตัวไหนบ้าง ที่กินแล้วอ้วน
อยากอวบอ่าค่ะ แต่ไม่เป็นสิวนะค่า

ให้กำลังใจ 0

หยิกหู 0

ความคิดเห็นที่ : 166

ณรัชตะ ตันติรังสิมา

08/07/2014 12:06:24

รบกวนสอบถามครับ ผมเข้ายิมยกเวท แล้วเท้ามีแผลผ่าตัดหมอให้ทานยาฆ่าเชื้อ จะมีผลกับการขึ้นของกล้ามเนื้อไหมครับ แบบว่าทานแช้วกล้ามไม่ขึ้นเกี่ยวไหมครับ

ให้กำลังใจ 0

หยิกหู 0

ความคิดเห็นที่ : 167

วรพงษ์

19/10/2014 21:51:59

แจกหู 0

ความคิดเห็นที่ : 181

dob

18/09/2015 02:37:57

พอดีไม่สบายค่ะ ได้กินยาพวกamoxilcylin. ตามที่เภสัชแนะนำแล้วจนครบโดสหมดไปแผงนึง ก็รู้สึกดีขึ้นแต่ยังไม่หายดี อยากทราบว่าต้องซื้อยามากินต่ออีกโดสมี้ยคะ จะกินต่อก็เป็นห่วงไต แต่ไม่กินก็กลัวว่าจะดื้อยาอะค่ะ ขอบคุณค่ะ

ให้กำลังใจ 0

หยิกหู 0

ความคิดเห็นที่ : 182

แม่น้องที

29/01/2016 16:33:48

วันนี้ได้รับจ่ายยาจากหน่วยแพทย์แห่งหนึ่งมา อีกสามวันยาจะหมดอายุ amoxicillin dry syrup ของเด็ก ควรให้เด็กกินหรือไม่คะ เพิ่งกลับมาดูวันหมดอายุที่บ้าน จ่ายมา 2 ขวด จะกินทันมั้ยอ่ะ

ให้กำลังใจ 0

หยิกหู 0

ความคิดเห็นที่ : 183

cuteman

29/01/2016 23:18:17

06/06/2017 10:03:21

2,143

เดี่ยวผมตามบอสมาตอบให้นะครับ สงสัยยุ่งๆไม่ได้เข้าบอร์ด

ให้กำลังใจ 0

หยิกหู 0

แจกหู 0

ความคิดเห็นที่ : 196

SirIsexnewTA

06/06/2017 11:09:40

387

ขออนุญาติช่วยตอบตั้งแต่คำถามของปีนี้นะครับ

คำถามของ รดา
ตอบ > ยาคุมฉุกเฉินมีชื่อสามัญว่า levonorgestrel ซึ่งมีชือการค้าหลักๆในไทย 2 ยี่ห้อคือ postinor และ madonna ใน 1 กล่องจะมียา 2 เม็ดเหมือนกันทั้ง 2 ยี่ห้อ วิธีการรับประทานคือ ทานเม็ดแรกภายใน 72 ชั่วโมงหลังจากมีเพศสัมพันธ์ แล้วตามด้วยเม็ดที่ 2 ภายใน 12 ชั่วโมงหลังจากเม็ดแรก(เนื่องจากการทานพร้อมกัน 2 เม็ดในคราวเดียวจะส่งผลให้เกิดอาการข้างเคียงเช่นปวดหัว งุนงง คลื่นไส้ อาเจียน เหนื่อยอ่อน เป็นอย่างมาก)
การอมยาไว้ในปากให้ละลายไม่ส่งผลต่อการออกฤทธิ์ของยา ดังนั้นไม่ต้องกังวลกรณีนี้ ให้รับประทานให้ถูกวิธีตามที่แนะนำข้างต้นจะป้องกันการตั้งครรภ์ได้มีประสิทธิภาพที่สุดครับ
ข้อแนะนำเพิ่มเติมคือไม่ควรใช้ยาคุมฉุกเฉินหากไม่จำเป็นจริงๆ(เดือนนึงไม่ควรเกิน 2 กล่อง ดีที่สุดคือไม่ควรใช้เลย)เนื่องจาก levonorgestrel เป็นฮอร์โมน progesterone ขนาดสูง การใช้ต่อเนื่องเป็นประจำจะทำใหเเกิดความผิดปกติที่รังไข่ เยื่อบุโพรงมดลูก และเสี่ยงต่อการตั้งครรภ์นอกมดลูก(หากต้องการตั้งครรภ์ในภายหลัง)

คำถามของ วิภาวดี
ตอบ > ยา ibuprofen เป็นยาแก้อักเสบชนิดที่ไม่ใช่สเตียรอยด์ (NSAIDs) ใช้รับประทานเพื่อลดอาการปวดที่มีการอักเสบและยังมีฤทธิ์ลดไข้ร่วมด้วย การรับประทานให้รับประทานเมื่อมีอาการ(จำนวนเม็ด/ครั้งท่านสามารถให้เภสัชกรผู้จ่ายยาเขียนหน้าซองยากำกับไว้ได้) หากอาการปวดอักเสบหายไปแล้วให้หยุดยาได้ทันที คำแนะนำเพิ่มเติมคือยาในกลุ่ม NSAIDs มีฤทธิ์กัดกระเพาะสูงมาก ควรรับประทานหลังอาหารทันทีแล้วดื่มน้ำตามเยอะๆ ผู้ที่มีโรคกระเพาะร่วมด้วยไม่ควรรับประทาน
ส่วนการใช้ ibuprofen ร่วมกับ amoxicillin ร่วมกับ isotretinoin(ชื่อการค้า Isotane) พบว่าไม่มีผลต่อกันสามารถใช้ร่วมกันได้ คำแนะนำเพิ่มเติมคือ amoxicillin เป็นยาปฏิชีวนะหรือเรียกง่ายๆว่ายาฆ่าเชื้อแบคทีเรียการรับประทานต้องรับประทานต่อเนื่องกันจนครบตามจำนวนที่แพทย์สั่ง ห้ามหยุดยาเองแม้ว่าอาการจะดีขึ้นแล้วก็ตามเนื่องจากเชื้อแบคทีเรียในร่างกายจะยังถูกฆ่าไม่หมดแล้วจะทำให้เชื้อมีความต้านทานต่อยาพัฒนาไปเป็นสายพันธ์ที่ดื้อยาและในครั้งต่อๆไปจะรักษาด้วยยาตัวเดิมไม่ได้ผล(ซึ่งเป็นปัญหาใหญ่มากของการใช้ยาในปัจจุบัน) ส่วนคำแนะนำของการใช้ isotretinoin(isotane) คือยานี้มีผลข้างเคียงคือทำให้ปวด,อักเสบกล้ามเนื้อได้ ซึ่งอาจจะเป็นสาเหตุที่ทำให้คุณวิภาวดีต้องใช้ ibuprofen ลองปรึกษาแพทย์ที่จ่ายยามาให้ว่าคุณมีอาการปวดอักเสบกล้ามเนื้อหลังจากที่ใช้ isotane ดูครับ เพื่อที่จะได้วางแผนปรับเปลี่ยนการรักษาจะได้ไม่ต้องใช้ยาอื่นๆพร่ำเพรื่อ
เพิ่มเติม : เมื่อไปพบแพทย์หรือเภสัชกรควรแจ้งให้ครบว่าใช้ยาอะไรอยู่บ้าง แพ้ยา โรคประจำตัว อะไร ทั้งนี้เพื่อผลประโยชน์ของตัวผู้ป่วยเองนะครับ

ให้กำลังใจ 0

หยิกหู 0

แจกหู 1

ความคิดเห็นที่ : 197

วิภาวดี

06/06/2017 19:41:54

ขอบคุณมากเลยค่ะ

ให้กำลังใจ 0

หยิกหู 0

ตอบกระทู้ :

"สอบถามเรื่องการใช้ "ยา" ได้ที่กระทู้นี้ครับ (ยินดีบริการเต็มที่)"

รายละเอียด :

ชื่อ :

รหัสความปลอดภัย :

โพสที่แจ้งลบ	แจ้งโดย	เหตุที่แจ้ง	สถานะ

ช่องทางการติดต่ออื่น

bosslaa

bosslaa

ธนากร

Close_Up

Close_Up

tine_lnw

bosslaa

bosslaa

ธนากร

boomer1983

นายมั่นคง

นายมั่นคง

ธนากร

Mr.Burst

bosslaa

bosslaa

jomjomjom

bosslaa

bosslaa

bosslaa

panda180

tine_lnw

tine_lnw

bosslaa

bosslaa

นายมั่นคง

bosslaa

Razr

bosslaa

bosslaa

MUPY

นายมั่นคง

mupy

bosslaa

Razr

bosslaa

ธนากร

หมูหวาน

jomjomjom

bosslaa

bosslaa

Mr.Burst

ธนากร

KLUI

KLUI

KLUI

KLUI

MUPY

MUPY

jomjomjom

vigo4499

นายมั่นคง

th.don

Pimpay11

หมูหวาน

KLUI

jomjomjom

BoyBrinks

เบิร์ด

MUPY

MUPY

MUPY

saminbox

bosslaa

th.don

panda180

MUPY

Pimpay11

MUPY

bosslaa

th.don

เบิร์ด

bosslaa

MUPY

bosslaa

MUPY

bosslaa

bosslaa

bosslaa