ตอบแบบกำปั้นทุบดินนะครับ
ถ้าหูคุณฟังออก ก็ต่างกันครับ
เยอะไหม ? ก็อยู่ที่ว่าหูคุณฟังว่าต่างเยอะไหม

สำหรับผมเอง ฟังแล้วต่างครับ แต่ไม่เยอะ เพราะหูผมไม่ดีครับแยกไม่ค่อยออก
ส่วนเรื่องหาโหลดไฟล์ wav น่ะหายากอยู่แล้วครับ ไม่ค่อยมีใครเอามาปล่อยหรอก
ผมคิดว่าถ้าจะหาโหลด wav มาฟังผมว่าโหลดแบบ iso ตามต้นฉบับจริง
มาเขียนใส่แผ่นจะดีกว่า เบื่อโหลดมาแล้วเป็น wav เก๊ครับ

เรื่องคุณภาพเสียงนี่แตกต่างกันแน่ครับ แต่ขึ้นอยู่กับ

- แผ่นต้นฉบับ นั้นบันทึกจากห้องอัดมาคุณภาพดีแค่ไหน เพราะถ้าเพลงธรรมดาๆ ฟังยากแน่ๆครับ
- ชุดที่ใช้ฟังทดสอบนั้น สามารถแยกแยะ รายละเอียดได้มากแค่ไหน
- ประสบการณ์ หรือความสามารถในการฟังของแต่ละท่านครับ

จริงๆแล้ว ถ้าหากฟังแล้วเหมือนๆกัน หรือแยกแยะไม่ค่อยออก อย่าไปซีเรียสเลยนะครับ
เพราะที่เราฟังเพลงเพื่อการพักผ่อน คนเฒ่าคนแก่ ฟังวิยุ AM ก็มีความสุขได้ จริงไหมครับ ^_^

ถูกใจกับความเห็นที่2ครับว่า "เพราะที่เราฟังเพลงเพื่อการพักผ่อน คนเฒ่าคนแก่ ฟังวิยุ AM ก็มีความสุขได้ จริงไหมครับ ^_^

แค่ bitrate 192-224 kbps ก็หรูแล้ว ครับ อยู่ที่ อุปกรณ์จะถึงหรือป่าว
ต้องหลายๆ อย่างสัมพันธ์กัน

ขนาดต่างกันประมาณ 3 เท่า

แต่สำหรับหูผม เสียงที่ได้มันไม่ได้ต่างกันถึง 3 เท่าน่ะสิครับ

คือมันต่างกันแน่ๆ แต่ก็ไม่ถึงกับแตกต่างจนรับไม่ได้ที่จะฟัง 320

WAV ต่างกับ MP3 320kb เยอะพอควร
ขนาด AIFF ยังเป็นรอง WAV เลยละครับ ( คหสต )

ตามทฤษฎีต่างกันพอควรครับ

แต่ถ้าทางปฏิบัติหรือจากการใช้งานจริง บางทีฟังแทบไม่ออก ยิ่งไปใช้กับ source หรือเครื่องเล่นที่ไม่ได้ขี้ฟ้องอะไร ผมว่าฟังไม่ออก เรียกว่าให้ทายก็ทายผิด

แต่ถ้ามีอุปกรณ์ทดสอบค่อนข้างดี และเป็นคนทีุ่คุ้นเคยกับเพลงต่างๆมาดี อันนี้น่าจะฟังออกแล้วจ้าๆๆๆ 555

ผมฟังไม่ออกครับ ^^ (ดีจังที่ฟังไม่ออก 555)
แต่ถ้า mp3 128kbps กับ 320kbps นี่พอรู้สึกได้บ้าง
เลยเน้นที่ 320kbps เป็นหลักครับ

128 กับ 320 ต่างกันชัดบรมเลยครับสำหรับผม
แต่ที่ผมลอง 320 กับ lossless ต่างกันบ้างในบางจังหวะ แต่ก็แยกไม่ค่อยออกหละครับ
ส่วนตัว rip lossless ตลอดเพราะไหนๆก็ซื้อ CD มาเยอะ(ชิบหาย) แล้วก็ให้มันรู้สึกดีกว่า mp3 หน่อยละวะ!! 5555555

128 กับ 320 นี่แน่นอนครับ ต่างกันชัดเจน

แต่ 320 กับ wav ผมไม่สามารถจริงๆ


เพราะงั้น ใน player ผมเลยมีแต่ wav ( อ้าว..เป็นงั้นไป )

320 กะ wav ผมว่าต่างกันมากครับ

wav ผมว่ารายละเอียดจะชัดกว่าครับ รวมถึงเสียงอื่นๆด้วยครับ

320 เสียงมันจะอื้อๆ แบบอึดอัดกว่า wav อะครับ ^^

มีคำถามตั้งแต่ 320 - Flac

320 - wav

ผมโชคดีครับที่ฟังไม่ออก

ขอบ่นนิดนึงนะครับ เมื่อคืนว่าจะพิมพ์ แล้วลืม อ่านแล้วรู้สึกไม่ดี ก็ขอโทษละกัน
.....ก็ไม่เข้าใจครับ
cd แผ่นละไม่กี่บาท เก็บตังค์ซื้อไม่ได้
อยากให้น้อง ๆ เก็บตังค์ลงทุนซื้ออัลบั้มที่ชอบ
มาลอง rip แล้วฟังเทียบเอาเอง จะได้ไม่ต้องมาตั้งคำถามครับ
เพราะคำตอบยังไงก็ต้องอิงทฤษฎีก่อนอยู่แล้วว่า ต่างแน่นอน
คำตอบต่อมาคือความรู้สึกของการลองฟังเทียบจริง ๆ
บางท่านก็แยกออกชัดเจน บางท่านก็ออกนิดหน่อย บางท่านแยกไม่ออกเลย
ซึ่งตรงนี้เป็นเรื่องของ system ฟังเพลงของเรา และ skill ของคนฟังเองด้วย
ซึ่งปัญหาของคนตั้งคำถามคือ คนฟังอ่ะ แยกออกหรือเปล่า
ถามคนอื่น ตัวเองก็ได้แต่อ่านคำตอบเป็นตัวหนังสือ
ยังไงก็ไม่รู้จริงเท่าฟังเทียบเอาเองจากการ rip cd แผ่นเดียวกันหรอกครับ

ขอโทษครับ ไม่ต้องปารองเท้ามาแล้วครับ ผมบ่นจบแล้ว ไปล่ะ ฟิ้ว

^ ตามนั้น

ฟันธง... !! 320 Kpbs ริปจากแผ่นญี่ปุ่นที่มีต้นฉบับบันทึกเสียงที่ Ocean Way Recording ชัดเจนและไพเราะกว่า wav ที่ริปจากแผ่น thai edition (ไม่เชื่อก็ลองดูค่ะ.. )

จะเอามาเทียบกันต้องเป็นไฟล์ริปจากซีดีแผ่นเดียวกันล่ะค่ะ ไฟล์ต้นฉบับบันทึกเสียงมาต่างกัน อย่าหวังเอามาทำ blind test เลย...

เอาให้มากกว่านั้นอีก 128 Kpbs ริปจากแผ่นญี่ปุ่นบางแผ่น เสียงแจ๋วกว่าเพลง (บางค่าย..) ที่ฟังจากแผ่นซีดีโดยตรง (ไอ้ซื้อแผ่นแท้มาแล้ว noise กระจายนี่.. ช้ำใจสุดๆ เลยค่ะ)

คห 14

+ 1 ^^

แนะนำโปรแกรมที่ rip หน่อยสิครับ ^^
ทุกวันนี้ใช้เป็นแต่ winamp

ผมใช้ DBpoweramp ครับ

ผมไม่รู้ครับว่า ต่างรึป่าว
รู้แค่ว่า ฟังเพลงจากแผ่น cd ที่ซื้อมา แล้วได้ อุดหนุน ศิลปินที่เราชอบ
ผมว่า นี่แหละ โคตรเพราะเลย จะอัดห่วน noise กระจาย ก็ยังเพราะรับ
ผมว่า มัน ได้ คุณค่าทางจิตใจมากกว่าเยอะเลยครับ

cd อ่ะซื้อไปเถอะครับ ไม่ได้แพงมากด้วย ไปแระ ฟิ้ววววววววว

ความเห็นที่ 14 ครับ ยินดีต้อนรับเข้าสู่ชนกลุ่มน้อยครับ คนฟังหลายคนนี่ก็แปลก มีปัญญาซื้อ อุปกรณ์ดีๆ แต่ไม่มีน้ำใจนักกีฬา วันๆเอาแต่โหลด กว่าศิลปินจะทำผลงานออกมาชิ้นนึงเค้าลงทุนกันเท่าไหร่เคยรู้กันมั๊ย ซีดีแผ่นนึง 400-500 บาท มันไม่ได้แพง ถ้าเงินขนาดนี้เดือนๆนึงหาไม่ได้ แนะนำไปซื้อขลุ่ยมาเปาเองเลยครับ เล่นเอง ฟังเอง เผลอได้ติดทีมชาติ


อย่าถามเรื่อง log in มันไร้สาระ สมัครไม่ผ่านมาหลายรอบ รำคาญ

เหอๆ..ผมอยู่ต่างประเทศซื้อบอดี้สแลมจาก iTune โดนเพื่อนด่าว่าโง่ครับ

ผมว่าหูฟังมีส่วนช่วยให้เห็นผลมากครับแล้วก็ตัว D/A แจ่มๆของ Player หรือคอม หรือต่อกับ DAC นอกก็ว่ากันไป

ใช้ Source ที่ไม่ค่อยมีประสิทธิภาพคงยากที่จะได้ยินความต่างด้วยน่ะครับ จึงอาจจะเป็นที่มาของคำถามว่ามันต่างกันจริงป่าวทำไมฟังแล้วเหมือนกัน ประมาณนั้นอ่ะครับ

อันนี้ความเห็นส่วนตัว MP3 นั้นจะบีบอัดให้เล็กโดยตัดบางย่านออกไป เช่น ช่วงความถี่มนุษย์ไม่ได้ยิน ชาวงความถี่ซ้อนกันเช่นร้องประสานเสียง บางเสียงที่เบามากๆ เลยคิดว่าใคร Source ดีๆหน่อยและซีเรียจในเรื่องจับ Detail ต่างๆของเสียง ( คือฟังเพลงแบบจริงๆจัง มีไฟล์ต้นฉบับและ MP3 ทำการทดสอบฟังหลายๆหน) ผมว่าน่าจะเข้าใจครับ แต่ไม่ได้ทดสอบจริงจัง MP3 ก็พอ OK แต่ถ้าไม่ซีเรียจเรื่องการจัดก็บไฟล์ยังไง WAV ก็ดีกว่า

#21 ใจเย็นๆครับ

ผมว่าหลายๆคนที่นี่ก็ยังซื้อแผ่นแท้ฟังกันเป็นเรื่องปกตินะครับ

ยังไม่น่าใช่คนกลุ่มน้อยหรอก

ผมว่า wav ดีกว่านะยิ่งถ้าขนาดไฟล์ใหญ่มันก็จะมีส่วนน้อยที่จะไปบีบไฟล์ให้ไม่คงต้นฉบับ

สำหรับการฟังว่าต่างไหมไม่ทราบเลยค่ะ แต่รู้ว่าสัมผัสได้ถึงรายละเอียดของชิ้นดนตรีค่ะ
และอยากบอกว่าถ้าเราซื้อเพลงของนักร้องที่เราชอบหรือวงที่เราชอบ โดยส่วนตัวคิดว่าคุ้มค่ะ

ผมยังไม่เคยลองฟัง rip เองจากแผ่นเป็น aiff กับ 320k แล้วเทียบกัน
แต่ลองดูดไฟล์จาก youtube แบบ HD720 มาแล้วแปลงเป็น 320k ตอนแรกคิดว่าน่าจะฟังแทนกันได้ คงจะฟังไม่ออก แต่พอเอาจริงมันฟังออกครับ ตอนนี้ก็เลยลบ 320k ที่แปลงจาก youtube ทิ้งหมดเพราะฟัง HD720 แล้วมันเพราะกว่าครับ ผมบรรยายแบบเสียงพุ่ง เบสลงลึก แหลมสุด อะไรแบบนั้นไม่เป็นนะครับ เอาเป็นว่ามันฟังออกอยู่ครับ
แต่ไม่แน่ใจเพราะ HD720 เวลาเล่นใน JRiver มันโชว์ 4000k+ ต้องลองดูครับ แต่การฟังไม่ออกน่าจะดีกว่าครับ ไม่เสียตังเพิ่ม = =

ปล.ผมดูด HD1080 ไม่ได้มาปีกว่าแล้ว T^T ใครรู้วิธีช่วยบอกทีครับ

ตอนคิดน่ะต่าง แต่ตอนฟังไม่ต่างครับ
แต่ที่ต่างกันมากๆคือ. เครื่องเล่นที่รองรับwav หายากกว่า
แต่ mp3 เล่นได้แทบทุกเครื่อง ชีวิตง่ายขึ้นเยอะเลย

เรื่องซื้อเพลง ตอนนี้ผมซื้อจากเซเว่นบ่อยๆเลย พวกแผ่นรวมเพลง แผ่นละร้อยได้50เพลง ส่วนใหญ่ได้ 320k ด้วย
ส่วนเพลงฝรั่งนานๆซื้อที ตอนนี้หมดกับแผ่นเสียง โดนทีละสองพัน จนยิ่งกว่าซื้อcd.

คห 27 ลองลง IDM ตัวใหม่ดูครับ

เสียงจาก youtube 320 กับ HD720 1080 นี่เสียงต่างกันแบบเห็นได้ชัด

ส่วนผมตอนนี้ ผมลบที่โหลดจาก youtube แบบ HD720-1080 ออกหมดแล้ว ละหันมาซื้อใน itune แทน เพลงที่โหลดจาก itune ผมว่าเสียงดีกว่าที่โหลดมาก่อนหน้าานี้พอสมควรเลย

ฮา ๆผมฟังไม่ค่อยออกเลยครับ mp3 128Kกับ aiffยังออกบ้างไม่ออกบ้างตอนนี้มาฟัง mp3 128Kกับ320kละหาง่ายดีครับ^^

ผมว่าเสียงจะแตกต่างกันหรือไม่นั้นมันเริ่มแรกมาตั้งแต่การบันทึกแล้วละครับ เพลงถ้าบันทึกมาไม่ดีเสียง noise กระจายครับ เสัยงร้องเสียงดนตรีไปคนละทางก็มีครับ เพราะฉนั้นในหมู่ในเล่นเครื่องเสียงเขาจึงหาเฉพาะแผ่นที่คิดว่าการบันทึกเสียงมาดีมาฟังครับ คนฟังเพลงระดับพวกหูทองทั้งหลายจะรู้ดีครับว่ามีแผ่นไหนอัลบั้มไหนบ้าง
สำหรับไฟล์ mp3 320k กับ wav ผมว่าถ้าฟังแบบไม่จับผิดและเครื่องเล่นหรือระบบเราไม่ถึงฟังไม่ค่อยออกหรอกครับ แต่ถ้าฟังแบบจับผิดและเป็นเพลงที่เราฟังประจำจะเห็นความแต่ต่างได้ครับ เช่นก่อนหน้าผมลงเพลงใน ipod เป็น AIFF ทั้งหมดเพราะคิดว่าดีที่สุดที่สามารถใส่ปกได้ด้วย แต่ผมลองมาฟังแบบจับผิดกับเพลงที่ฟังประจำ ฟังบางท่อนสลับกันวนไปวนมาเป็นสิบๆครั้ง พอจะจับได้ว่าไฟล์ wav เสียงจะได้มิติและมีมวลกว่าไฟล์แบบ AIFF ครับ AIFF เสียงจะแบนออกมาทางเนียนมากกว่าคลา้ยไอพอดคลาสิครุ่นใหม่ๆ ส่วนไฟล์ mp3 320k นั่นผมว่ามิติเสียงจะน้อยความคมชัดสดใสจะน้อยกว่า wav พอสมควรครับ ปลายแหลมก็ต่างกัน รายละเอียดเล็กๆน้อยๆก็แตกต่างกันครับ ปัจจุบันยอมไม่ใส่ปกแลกกับรายละเอียดเสียงที่ได้เลยจัดเพลงแบบ wav แทบทุกเพลงลงเครื่องครับ

@maden69 ขอบคุณครับ ผมยังชอบดูดอยู่ครับ เพราะเพลงบางเพลงที่เค้า cover ศิลปิน แล้วผมว่าเค้าทำได้ถูกหูมากกว่าเจ้าเพลงของยังมีอยู่เยอะมาก เดี๋ยวไปลองหา IDM มาใช้ดูครับ ส่วนเพลงใน itune เมื่อก่อนเข้าไปลองฟังแล้ว เสียงสู้ rip จากแผ่นไม่ได้ ยังไงเดี๋ยวไปลองฟังใหม่อีกทีครับ

เมื่อก่อนตอนเข้าวงการแรกๆผมก็บ้าหาแต่ Lossless มาฟังครับ เพลงเขาทำมาให้ฟังแล้วมีความสุขกลับกลายเป็นทุกข์เพราะต้องหาเพลงคุณภาพดีๆมาฟัง ไม่รู้ว่ามันฟังเพลงหรือมันมานั่งจับผิดเพลง ทุกวันนี้ 320k ก็พอแระครับสำหรับผม ไม่เปลืองพื้นที่อีกตะหาก

แต่คือถ้าต่ำกว่า 320 ประมาณ 128 - 192 อันนี้ฟังแล้วต่างกับ 320 เยอะครับ แต่ถ้า 320 กับ Lossless แบบที่เฮียมั่นบอกครับ ใครว่าแน่ผมว่ามีทายผิดกันมั่งหง่ะ ห้าๆๆ

เห็นด้วยดับคุณlnwFMตัวจริง!! เลยครับจะฟังเพลงหรือมันมานั่งจับผิดเพลง ฮา ๆ

เหอๆๆ ผมเห็นด้วยกับเพื่อนสมาชิกที่บอกว่า มีงบซื้ออุปกรณ์ดี ๆ แต่ไม่อุดหนุนศิลปิน
ผมว่ามีหลายคนใช้อุปกรณ์คุณภาพ แต่สื่อที่มาของเสียงยังสูบเอาใน bit เหอ ๆ
จริง ๆ น่าจะอุดหนุนวงดนตรีที่ชอบสักหน่อยนะ

เยอะอยู่ ครับ

ทดสอบเองเลยไหม :)

http://www.npr.org/sections/therecord/2015/06/02/411473508/how-well-can-you-hear-audio-quality

สำหรับผมต่างกันแบบไม่ต้องเพ่งเลยครับ ทั้งรายละเอียด ความดัง เวทีเสียง ย่านความถี่ต่างๆ
แยกออกชัดเจนมากๆครับ

ผมแยกออกตั้งแต่ใช้ samsung note 4 คู่กับ m50x จนตอนนี้ใช้ ak70 + ibasso it03 ยิ่งแยกออกชัดขึ้นไปอีก. ผมว่า system มีส่วนแค่ 30-40% นอกนั้นอยู่ที่คนฟังด้วยว่าประสบการณ์ฟังเพลงหลากหลายมากแค่ไหน

คุณภาพเสียงที่ดีจริง ต้องเริ่มจาก

ต้นทาง คือ ไฟล์เพลง
กลางทาง คือ ภาค DAC + การ์ดเสียง + ชิพเสียง
ปลายทาง คือ หูฟัง + ลำโพง + เครื่องเสียง

ก่อน เสียงถึง จะออกมา ดีที่สุด


ส่วน คุณภาพเสียงของไฟล์เพลง

ต้นทางหลัก คือ การบันทึกเสียง + การอัดเสียง อันนี้ สำคัญที่สุด และ สำคัญกว่า ขนาดไฟล์เพลง เสียอีก
เช่น แผ่น CD + คลิป YOUTUBE ถ้า คลิปไหนอัดมาดี ต้นทางมาดี จิง เสียงมัน ก้ ดีมาก ฟังไพเราะ เพาะพิ้ง ได้ เช่นกัน

ต้นทางรอง คือ ประเภท + ขนาดไฟล์เพลง
เช่น ไฟล์เพลง MP3 + FLAC + WAV + HIRES ยิ่งใหญ่ เสียงยิ่งดี สมจริง แบบ FULL HD มากขึ้น จนไต่ระดับ ไปไฟล์ความละเอียดสูง ULTRA HD 4K กว่านั้น ได้เลย 

ขุดกระทู้เมื่อปี 2011 ขึ้นมาตอบกันเป็นจริงเป็นจังเลยนะครับ ฮาๆๆ

mp3 320kbsกับwav แตกต่างกันครับ แต่ที่มฟังออกเพราะผมต้องดูแลเครื่องเสียงในหอประชุมขนาดใหญ่ ถึงฟังออกแต่ไม่หนีกันมากครับ แต่ถ้าฟังกับหูราคาสามพันกว่าผมแยกไม่ออกครับ แยกออกตอนที่ฟังดูหูหมื่นกว่าถึงสามหมื่นกว่านั้นหละครับ

อยู่ที่ประสิทธิภาพหูฟังและ system ที่ใช้ รวมถึงเพลงที่อัดด้วยนะครับ

ที่สำคัญ ถ้าหูฟังเป็นแนวฟังอะไรก็เพราะ ไม่ขี้ฟ้อง โอกาสฟังออกก็ลดลงครับ

พวกหูฟังขี้ฟ้องจะฟังกันต่างเยอะสุดครับ

เป็นเหตุผลที่ทำให้รักมาก เหล่าเด็กดีไม่ขี้ฟ้อง <3