เอาง่ายๆ ก็เหมือนเสียงจากเทป เทียบกับเสียงจากซีดีอะครับ

เก็นภาพเลยนะ......

เหมือนดูหนังที่บ้าน ผ่านจอหลอด (จอแก้วก่อนที่จะมาเป็นจอ lcd) กับจอ LCD น่ะครับ
แบบแรกจะนุ่มนวล ส่วนแบบที่สองจะคมชัด ชัดเจนในรายละเอียด บางครั้งจะเิกนจริงไปหน่อยครับ.....แฮ่ะๆๆๆๆๆๆๆ ไม่รู้ว่าจะเห็นไหมภาพน่ะ

เห็น*

เท่าที่รู้สึกครับ
สังเกตุที่เสียงกลาง-แหลม ครับ
เสียงอนาล็อก มันจะรู้สึกช้ากว่า นุ่มนวลกว่า
และปลายแหลมไม่บาด (อันสุดท้าย ถ้าSet หูฟัง หรือ สาย ให้เข้ากันแล้วนะครับ)
ถ้ามี dac หรือ รีซีฟเวอร์ ที่มีทั้ง optical usb และ coax
ให้ลองหมด coax จะอนาล็อก สุดแล้วครับ

ผมว่าพูดให้เห็นภาพ....กับลองฟังทั้ง 2 แบบ

โดยให้คนที่เค้าบอกได้ จัดมาให้ฟัง แล้วค่อยมาอธิบาย น่าจะง่ายกว่าน้า

^ ^

อนาล๊อค เหมือน นางเอก ละครไทย น่ารัก นุ่มนวล ชวนฝัน อ่อนไหว ไม่แข็งกร่าน

ดิิจิตอล เหมือนนางเอก AV เร่าร้อน ดุเด็ดเผ็ดมัน ดูแข็งกร่าน และไม่ นุ่มนวล ละมุนตาสักเท่าไหร่

เห็นภาพปะครับ

ผมว่าพูดให้เห็นภาพ....กับลองฟังทั้ง 2 แบบ

โดยให้คนที่เค้าบอกได้ จัดมาให้ฟัง แล้วค่อยมาอธิบาย น่าจะง่ายกว่าน้า

^ ^
.....

เสียงที่ได้ ยิน กัน มันมีแบบเดียวนั้นแหละครับ หู คนเรารับฟังได้ แบบอนาล๊อค

ส่วนไอที่ว่า เสียงดิจิตอล เนี่ย เขาเปรียบ เทียบ นะครับ ว่า พวกไฟล์เพลง ต่าง ทั้ง cd หรือ ไฟล์ เพลงดี ๆ มัน ไม่ลื่นไหลเหมือน ระบบ อนาล๊อค แท้ ๆ แบบแผ่นเสียง

เพราะ cd หรือ ไฟล์ ต่าง ๆ ใช้การ บันทึกแบบ ดิจิตอล แล้วค่อยมาแปลงทอดรหัส ให้เป็น คลื่นเสียงแบบ อนาล๊อค ให้ หูคนเรารับฟังอะครับ

ปล. ถ้าผมเข้าใจผิดก็ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วย 5555

เหอๆ แบบง่ายๆก็ ยืนคุยกันตัวเป็นๆ กับ คุยมือถือ ละครับ

พวก VOIP น่าจะ Digital นะครับ เสียงมันแปลกๆหน่อยเหมือนเสียงคนเอาไป Mix เหมือนหุ่นยนต์หน่อยๆมั้งครับ 555+

ท่านมนุษย์แฮม อธิบายไว้ใน คห.6 แบบ เห็นภาพชัดซะ

ตามนั้นเลยคร้าบ.... ^ ^

555 ขอบคุณทุกท่านมากครับ เริ่มจะเห็นภาพแล้ว โดยเฉพาะคุณมนุษย์แฮม แหมเห็นชัดเลย เปรียบเทียบกับนางเอก

ถามต่อนะครับ แล้วพอจะหาฟังความเป็นอนาล็อกไ้ด้จากไหนครับ grado 225 ฟัง lossless กับ macpro ใน itune ต่อกับ E7 เสียงนี่พอจะเป็นอนาล็อกรึเปล่าครับ หรือต้องขึ้นกับอะไรอีก

เห้ย คุณมนุษย์แฮม

แสดงว่าผมมันโคตร Digital เลยสิครับ 5555+

ดิจิทัลเหมือนกาแฟร้อนเพิ่งเสิร์ฟ หอม กลิ่นฟุ้ง รสชาดจะแจ้ง เอาไว้เรียกลูกค้าเข้าร้าน
อนาลอกเหมือนกาแฟอุ่นๆ ละมุน ละเมียด ค่อยๆกิน มีไว้กินไปคุยไป

แต่จริงๆแล้ว ถ้าให้วิจาร์ณในแง่การฟัง
เสียงอนาลอกมันจะไม่หวานใสและเคลิ้มเหมือนดิจิทัล
คือมันจะส่งเสียงไปเรื่อยๆไม่รำคาญ
ดิจิทัลฟังแรกๆไม่กี่นาทีก็รู้สึกดี แต่นานๆจะรู้สึกว่า เยอะไป หรือบางอย่างน้อยไป ขาดความพอดี

โห พี่มนุษย์แฮม สุดยอดอะ - -*

หา เครื่องเล่น md แบบอัดได้เล่นได้ มาลองสักตัวสิครับ ต้นทาง เสียงใก้ลเคียงเสียงอนาล็อก แบบเทป มากที่สุด ครับ แต่ก็ยังห่างจากแผ่นเสียงอยู่อีกโหครับ ลองๆ ดูในเวปมีคนประกาศขาย เรื่อยๆ ครับ

สิบปากว่า ไม่สู้ ลองๆ ลองๆครับ

ชุดคุณ จขกท. แจ่มมากแล้วครับ ลองหาต้นทางที่ผมบอก

งั้นเรากลับมาใช้ Cassette Player กันดีกว่า
แถวอเมริกา เขายังมีขายกันอยู่ทัวไปเลยนะครับ 55

ขอบคุณ คุณพ่อน้องมิวนะครับ ถ้าผมมีวาสนาคงต้องลองหามาฟังบ้าง 5555

@พ่อน้องมิว.... อูยมี R-55 MD Top ปีแรกซะด้วย....ถ้าจะหาอนาล๊อคที่มีลักษณะเฉพาะ ดีกว่า R-55 ลองหา R-90 มาฟังครับ

เป็นรุ่นท๊อป ซีรีย์แรกของ MD พกพา ^ ^

ถ้าเราเก็บเสียงลง media เวลาเราจะ playback เราจะใช้ลักษณะของ media บอกว่าเสียงเป็นยังไง

ถ้าเสียงอยู่ในรูปแบบ analog เช่นเทป ความละเอียดของเสียงที่เก็บได้ คือความละเอียดการจัดเรียงตัวของโมเลกุลเทปครับ ลองคิดดูซิว่าโมเลกุลของเทปมันละเอียดขนาดไหน เมื่อเทียบกับโมเลกุลของอากาศที่ถูกบีบอัด/ขยาย

ถ้าเสียงอยู่ในรูปแบบ digital เช่น CD ความละเอียดของเสียงที่เก็บได้ ขึ้นอยู่กับความสามารถของ hardware ครับ
CD จะเก็บเสียงที่ความดันต่างๆกันได้ละเอียด 65536 ระดับ ที่ความละเอียด 44100 จุด ต่อเสียงที่ส่งเข้ามาในระบบ 1 วินาที
ตาม wikipedia ที่อุณหภูมิ 20 องศาเซลเซียส เสียงจะมีความเร็ว 1,236 กม./ชม.

ลองคิดดูสิครับว่าถ้าเทียบกับเทปแล้ว อะไรจะเก็บเนื้อเสียงได้เหมือนจริงมากกว่า
แน่นอนครับว่าระดับ CD ไม่ละเอียดเท่าเทป เทปจึงให้เสียงที่สมจริงกว่า

แต่มนุษย์มีขีดจำกัดในการรับรู้ครับ
CD ออกแบบมาให้ละเอียดเหนือกว่าการรับรู้ของมนุษย์ทั่วไปจะแยกแยะออกได้
และปัญหาที่สำคัญกว่าความละเอียดก็คือ noise ที่มารบกวนครับ
ระบบ analog จะโดนรบกวนได้ง่าย และเอา noise ออกไม่ได้ด้วย
ต่างกับระบบ digital ที่หลักการทำงานเอื้อให้เอา noise ออกไปได้

เมื่อเทียบเสียง CD ที่ละเอียดประมาณนึง แทบจะแยกไม่ออกแล้วว่าเสียงธรรมชาติรึเปล่า
กับเสียงที่เป็นธรรมชาติมาก แต่ noise เต็มเลย
เสียงแบบไหนจะดีกว่ากันล่ะครับ

ผมว่าการหาลำโพงหรือหูฟังที่สร้างมิติเสียงได้เหมือนจริงน่าจะเป็นประเด็นที่น่าจะแก้ไขก่อนนะครับ มันมีผลมากกว่าประเด็นนี้เยอะ

ขอบคุณสำหรับความรู้ดีดีนะครับ :)))

http://www.totalsoundmag.com/totalsound/index.php?option=com_content&view=article&id=94:digital-vs-analog&catid=14:2010-06-10-06-48-40&Itemid=18" title="http://www.totalsoundmag.com/totalsound/index.php?option=com_content&view=article&id=94:digital-vs-analog&catid=14:2010-06-10-06-48-40&Itemid=18">http://www.totalsoundmag.com/totalsound/index.php?option=com_content&view=article&id=94:digital-vs-analog&catid=14:2010-06-10-06-48-40&Itemid=18"" title=""http://www.totalsoundmag.com/totalsound/index.php?option=com_content&view=article&id=94:digital-vs-analog&catid=14:2010-06-10-06-48-40&Itemid=18" title="http://www.totalsoundmag.com/totalsound/index.php?option=com_content&view=article&id=94:digital-vs-analog&catid=14:2010-06-10-06-48-40&Itemid=18">http://www.totalsoundmag.com/totalsound/index.php?option=com_content&view=article&id=94:digital-vs-analog&catid=14:2010-06-10-06-48-40&Itemid=18"">Digital VS Analog

แนะนำ link นี้ครับ ^^

สวัสดีครับมากแต่จากการที่ผมได้ฝังเครื่องเสียงมาหลายระบบแล้วทั้ง อนากับดิจิ ผมว่าดิจิเสียงจะดีกว่ามากใสมากครับและราคาก็สูงแต่ตามคุณภาพ แบบดิจิจะเป็นการที่ส่งสัญญาญแบบเป็นตัวเลข 0กับ1และมีความเที่ยงตรงกว่าถึงสายไม่ดีก็ยังคุณภาพเท้าเดิมครับแต่แบบอนาจะส่งสัญญาญเป็นคลื่นจะมีความผิดผลาดสูงครับสายก็ต้องราคาสูงหน่อยถึงจะคุณภาพดีครับสรุปน่ะซื้อมาลองฟังทั้งสองแบบแต่ผมว่าดิจิเสียงก็ใสกว่าอยู่ดีเพราะเทคโนโลยีใหม่กว่าและระบบที่เป็นใยแก้วนำแสงก็นำสัญญาญเร็วกว่าสายทองแดงอยู่แล้ว

ขอโทษครับเขียนคำว่าสัญญาณผิดไม่ค่อยได้ใช้ภาษาไทยอิอิ

ถ้าเอาเข้าวิชาการเต็มๆก็เสียงทาง digital เราไม่มีทางที่จะได้ยินครับ
เนื่องจากมันมีการเข้ารหัสไว้ ถ้าใครเคยเห็นกราฟ จะรู้ดีว่าเป็นอย่างไร

เราจะได้ยินแต่เสียง analog ครับ
ที่บอกว่าเสียง digital คือเรานิยามว่าเสียงมันแย่
เหมือนเสียงจากอุปกรณ์ digital ในยุคแรกๆ
สื่อ digital ทุกวันนี้เช่น cd dvd ไฟล์เพลงต่างๆนาๆ
HDD Flashdrive ล้วนเป็น สื่อแบบ digital หมด
สื่อ analog ชัดๆเลยก็เทป VDO แผ่นดำVinyl ประมาณนี้ครับ
ถึงจะเป็น digital ยังไงสุดท้ายมันกต้องผ่านวงจร D2A (digital to analog)
ให้ออกมาเป็นเสียง analog ที่เราฟังได้ครับ เพียงแต่เมื่อก่อน วงจร D2A ยังด้อยอยู่
เสียงที่ได้ออกมาเลยจะบู้ๆบี้ๆ เหมือนเสียงหุ่นยนต์ในหนังเก่าๆ

ทุกวันสื่อทาง digital ที่เราเสพกันอยู่นี้
ก็พยายามพัฒนาให้ใกล้เคียง analog มากที่สุด
เพราะ digital ก็พัฒนามาจาก analog
และพยายามจะลบข้อด้อยของ analog ทิ้งไป
เพราะคลื่นแบบ analog ถูกรบกวนได้ง่ายๆ

หลายคนก็ชอบเสียงจากสื่อ analog พลายๆคนก็ชอบจากสื่อทาง digital
อยู่ที่คุณว่าจะชอบเสียงแบบใด หรือจะสะดวกในการใช้สื่อแบบไหนมากกว่ากันครับ

แบบดิจิจะเป็นการที่ส่งสัญญาญแบบเป็นตัวเลข 0กับ1และมีความเที่ยงตรงกว่าถึงสายไม่ดีก็ยังคุณภาพเท้าเดิมครับ แต่แบบอนา จะส่งสัญญาญเป็นคลื่น จะมีความผิดผลาดสูงครับสายก็ต้องราคาสูงหน่อยถึงจะคุณภาพดี
--------------------

ขอค้านครับท่านประธาน 555

^
^
^
ขอค้านด้วยครับ

ผมว่าดิจิเสียงจะดีกว่ามากใสมากครับและราคาก็สูงแต่ตามคุณภาพ
----------------------------------------------------------------------------------------------
ชุดที่เสียงยิ่งชุดมีความเป็นอนาล็อคมากยิ่งราคาแพงนะครับ พวกเล่นเครื่องเสียงบ้านชุดใหญ่ๆ เค้าก็อยากได้เสียงที่เป็นอนาล้อคนะครับ โดยสุ่วนตัวผมก็ชอบเสียงแบบอนาล็อคมากกว่านะครับเพราะฟังได้นานกว่า และ เพลินกว่าแบบดิจิตอลมากกก


แบบดิจิจะเป็นการที่ส่งสัญญาญแบบเป็นตัวเลข 0กับ1และมีความเที่ยงตรงกว่าถึงสายไม่ดีก็ยังคุณภาพเท้าเดิม
------------------------------------------------------------------------------------------------
อันนี้ผมก็ไม่เห็นด้วยก้าบบ สาย USB เปลี่ยนเสียงเปลี่ยน สงสัยผมหูถั่ว 555++

ขออนุญาตแชร์ครับ
ขอบคุณสำหรััััััััััััับความรู้ครับ