วันนี้ 24 มีนาคม 2554 ผมนำ Minidisc สวย ๆ ตัวนึงมารีวิวให้อ่านกันครับ
เป็นของยี่ห้อ Kenwood ครับ รุ่น A7R นี้เป็นรุ่นแรกที่ทาง Kenwood ผลิตขึ้นมาลุย
ในวงการ Minidisc เลยครับ ซึ่งโคลนมาจากตัว Sharp M11 ครับ
รุ่นนี้ผลิตเมื่อ มกราคม 1994 ก็ 17 ปีก่อนนั่นเองครับ
ราคาสมัยนั้น 45,000 เยน (ประมาณ 15,000 บาท)
ก็ซื้อทองสมัยนั้นได้หนัก 4 บาทอ่ะครับ -_-"
และขอบอกเลยว่า เสียงดีมาก ๆ เสียด้วยครับ รุ่นนี้ และก็ กินแบ็ตมาก ๆ ซะด้วย -_-"
ผมก็พยายามควานหาใน yahoo japan ครับ หายากมาก ๆ (แบบตัวดี ๆ เล่นได้อ่ะนะ)
จนวันนึง ได้ไปเจอนำมาลงประมูลไว้ ก็เลยจัดการให้คุณบอลบิดสู้ให้
ชนะมาในราคาส่งถึงเมืองไทยก็ประมาณ 4 พันบาท ผมว่าไม่แพงเลยครับ ถ้าเห็นสภาพเครื่อง
ผมให้สภาพเครื่อง 99% เลยครับ สวยมาก ๆ ได้มายกกล่องเลยครับ

ดูข้างกล่องจะมี Serial บอก ก็เลยนำไปเทียบกับหลังเครื่อง ก็ตรงกันครับ

บางคนอาจจะถามผมว่า ทำไมเน้นตรงนี้แทบทุกรีวิวเลยที่ได้แบบยกกล่องมา
เพราะมันมีนะครับว่า เครื่องกับกล่องไม่ตรง serial กัน แบบว่า มั่ว ๆ หากล่องมาลงขาย
เพื่ออัพราคาเพราะ การลงขายแบบมีกล่อง มันได้ราคาสูงนะครับ
เปิดกล่องออกมา ก็จะเจอถาดใส่ แบ่งเป็นช่องครับ

ของครบทุกอย่างครับ
นี่เลย

ผมสู้ตายเพราะมีรางถ่าน AA แถมมาใน set ด้วยนี่ละครับ หายากครับรางถ่านกับรุ่นนี้
นี่ครับ หน้าตารีโมท + หูฟัง

เป็นที่น่าเสียดายมาก เพราะว่า มันเป็นรุ่น รีโมทและหูฟัง ติดกันแยกกันไม่ได้นั่นเอง
เสียงดีเลยนะครับ แต่ผมไม่ใช้อ่ะ เอิ๊กๆๆ

นี่ละครับ ของหายาก รางถ่าน AA ใช้ถ่าน 6 ก้อนเลยทีเดียว
ทำให้เล่นได้ 10 ชั่วโมงเลยครับ (อัลคาไลน์)
นี่ครับตัวเครื่องสภาพ 99% ที่ผมบอก ไร้ริ้วรอยจริง ๆ

แกะกล่องมาตอนแรกเห็นนี่ตกใจเลยว่าทำไมใหม่ขนาดนี้นะเนี่ย และก็เกิดความกลัวเลยครับ
ว่าในความสวยมันจะใบ้หรือเปล่า (ไม่เล่นแผ่น) ก็เลยรีบลองครับ ก็ได้ผลดีไม่มีปัญหา รอดไป
Specs: Headphone amp: 10mW + 10mW,
0.2% THD. Freq resp.: 20-20kHz +/-3dB. 1 bit A/D and D/A. 4.5 DC input.

สภาพสวยจริง ๆ

ยลโฉมกันอีกมุม

ตัวแผงปุ่มการควบคุมด้านหน้าเครื่อง ก็ออกแบบมาให้ใช้งานครบครันครับ
ปุ่มสีแดงก็คือปุ่ม Record นั่นเอง แค่เห็นสัญลักษณ์บนปุ่มจากภาพก็ร้องอ๋อแล้วครับ

สีเครื่องมันกลืนมากครับ จัดแสงถ่ายลำบากจริง ๆ
ปุ่มการใช้งานปรับแต่งค่าต่าง ๆ ครับ เช่น B.B. ก็ Bass Boost
EDIT ก็ปรับแก้ชื่อเพลง ลบเพลง รวมเพลง แยก Track เป็นต้น
Display ก็กดเพื่อจะโชว์หน้าจอว่า จะให้โชว์ชื่อเพลง หรือจะโชว์เวลาเพลง

นี่ก็เป็นด้านข้างเครื่อง ทั้งสองด้านครับ ก็จะมีปุ่มใช้งานปกติครับ
เช่นภาพส่วนบนเป็นด้านข้างฝั่งขวามือ ก็จะมีปุ่ม Eject เอาไว้กดเพื่อเปิดฝาเครื่องไว้ใส่แผ่น
ภาพล่างก็จะเป็นเครื่องฝั่งซ้ายมือ จะมีช่อง Optical in, AC adapter ครับ

นี่ก็คือ หน้าตาแบ็ตเตอรี่ของรุ่นนี้ครับ เป็นแบ็ต 3.6V ครับ
ชาร์จประมาณ ชั่วโมงครึ่ง และเล่นได้ 2 ชั่วโมงครึ่ง ถือว่าน้อยมากนะครับ
เพราะรุ่นนี้กินแบ็ตมากๆ เลยทีเดียวถ้าเทียบกับขนาดเครื่องตัวแค่นี้
นี่ก็ด้านสันเครื่องทางด้านหลังครับ

ก็จะเป็นช่องเสียบ Phone หรือช่องเสียบหูฟังนั่นเอง แต่ เอ๊ะๆๆ !!!
มันพิเศษตรงที่เป็น Optical Out ในตัวซะด้วยครับ ^_^
นี่ก็หลังเครื่องครับ ถ่ายยากจริง ๆ ผมอยากถ่ายให้เห็นว่า ตัวหนังสือครบ และ ไม่มีรอยเลย

เอาละเปิดฝาใส่แผ่นเลยดีกว่า

ถ้าตอนเราทำแผ่น เรา edit ใส่ชื่อเพลงลงไป เวลาเล่น มันก็จะโชว์แบบนี้ครับ

เพลงแรก มยุราภิรมย์ ไม่รู้จะแปลเป็นอังกฤษยังไงก็เลยต้องใช้ ภาษาคาราโอเกะ ครับ
ถ้าเรากดปุ่ม B.B. ก็จะปรับ Bass ได้ครับ

ผมว่า ไม่ควรเกิน Bass 2 ละครับ
ภาพนี้ไม่มีบรรยายอะไร ผมชอบอ่ะ สวยดี

ภาพนี้ถ่ายเพื่อเทียบกับขนาดของมือครับ เพื่อจะได้ทราบขนาดเครื่องครับ

ส่วนนี่ก็ตอนใส่รางถ่าน AA กับแบบไม่ใส่รางถ่าน AA ครับ

ผมว่า เครื่องนี้เหมาะกับหูฟังที่ แสดงพลัง Bass ได้ดีนะครับ

งานนี้ผมใช้หู โมดิฟายด์ โดย อ.ยิ่ง Reigen ครับ เอาสาย Sony 565 โมกับ Driver หู OPPO
กับสูตรตะกั่ว (ที่ผมไม่รู้จัก) ผลออกมาก็โดนใจสุด ๆ ใครไปงาน Thai Can Join มา
และแวะไปฟังที่โต๊ะ Retro Gadget ติดกับโต๊ะ Pantip คงได้ลองน่ะครับ
สำหรับเสียงของเจ้า Kenwood A7R (เกือบลืมพูดถึง)
เพลงเน้นเสียงร้อง ทำออกมาได้ดี เสียงร้องเด่นชัด และก็จัดวางเครื่องดนตรีได้ดีมากๆ
ส่วนเรื่อง Bass ถือเป็นจุดเด่น มีความลึก และค่อย ๆ หายไป อิ่มกับเบส แต่ไม่ได้เยอะจนบังเสียงอื่น
คงเป็นเพราะว่า เป็นรุ่นแรกที่ผลิต เลยใส่แผงวงจร ชิพต่าง ๆ มาเต็มที่ (จึงกินไฟมาก)
ทำให้เสียงออกมาได้สมบูรณ์ดีพร้อม ยิ่งต่อ Optical out ออก ไปเข้า Amp. ฟังแล้วคิดว่าเป็น Decks
เลยทีเดียวละครับ
สุดท้าย ท่านสังเกตุไหมว่า รีวิวนี้ ได้เห็นอะไร
เฉลยเลย ได้เห็นความรักครับ ทั้งจากตัวผม และ จากคนญี่ปุ่นเจ้าของเดิม
ดูสภาพเครื่องและอุปกรณ์สิครับ เขาเป็นคนรักษาของมาก ๆ 17 ปี เก็บได้ขนาดนี้
ผมยังเก็บรักษาอะไร 17 ปี สภาพขนาดนี้ยังไม่ได้เลยครับ (ซึ่งผมจะพยายาม)
ก็ขอจบ การรีวิว แต่เพียงเท่านี้ครับ
หวังว่ารีวิวนี้ จะสร้างรอยยิ้มให้ท่านได้บ้าง ความสุขจากการได้ดูของสวย ๆ ของที่ชอบ
มันก็เป็นกำลังใจ แรงบันดาลใจให้กับคนที่อยากจะหันมาลองเล่นนะครับ ^_^
ถ้ารัก Minidisc, Discman มาคุยกันได้ครับที่ http://www.retro-gadget.com/
สมัครสมาชิกแล้วคุยกัน chat หน้าเว็บได้เลย ไม่มีเหงา
auns555 (อั๋น สันติ)
[email protected]
089-0785670