สิ่งที่คุนญี่ปุ่นมีอย่างเหลือเฟือ คือ "สำนึกในความเป็นชาติ" ครับ

ยิ่งในช่วงวิกฤติแบบนี้ มันยิ่งสะท้อนออกมาให้เห็นว่าลูกพระอาทิตย์มีสำนึกนี้เหลือเฟือจริงๆ

น่ายกย่องและสรรเสริญเป็นอย่างยิ่ง

1. ในสถานการณ์คับขันหลังจากเกิดแผ่นดินไหวและคลื่นยักษ์สึนามิ ทำให้เกิดการขาดแคลนอาหารและน้ำดื่มอย่างหนัก เพราะอาหารต่างๆ จากซุปเปอร์มาร์เก็ตถูกซื้อไปหมดเกลี้ยงหรือได้รับความเสียหายพัดไปกับน้ำทะเล ทางการจึงได้มีการแจกอาหารและน้ำให้แก่ประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากภัยพิบัติครั้งนี้
เรื่องประทับใจ ในสภาวะที่ทุกคนต่างต้องพยายามขวนขวายเอาตัวรอด จะเห็นได้ว่า ไม่ว่าจะเป็นการรอรับอาหารและน้ำจากทางการ หรือจะเป็นการซื้ออาหารจากร้านค้าที่ยังเปิดขาย เราจะเห็นภาพคนญี่ปุ่นที่ถึงแม้จะกำลังต้องการความช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน ยืนต่อแถวเข้าคิวกันอย่างเป็นระเบียบ ไม่มีการแซงคิว ไม่มีการรุมทึ้งใดๆ ทั้งสิ้น ถือว่าเป็นเรื่องที่เห็นแล้วน่าประทับใจมากๆ ต้องขอยอมรับเลยว่าชาติญี่ปุ่นเป็นชาติที่มีระเบียบมากๆๆๆ เลยทีเดียว นอกจากนี้ ยังไม่มีการขโมยของหรือปล้นร้านสะดวกซื้อใดๆ เลยทั้งๆ ที่อยู่ในสภาวะฉุกเฉินขั้นรุนแรงก็ตาม

*** เป็นบ้านเราล่าสุดที่ดูข่าว ตอนช่วงน้ำท่วมแย่งกันรับของบริจาคบ้าง เวียนมารับกันบ้าง เอาแบ่งไปขายบ้าง พวกที่บ้านท่วมแค่หัวเข่า ก็มารับกะเค้า ทั้งๆที่คนที่เดือดร้อนจริงๆ น้ำท่วมมิดหลังคาบ้านเลย หรือที่เด็ดสุดๆเลย ตอนที่น้ำมันปาล์มขาดตลาด ยื้อแย่งกันเหมือนหมาทั้งๆที่ น้ำมันไม่ได้เป็นปัจจัยสำคัญในชีวิตเท่าไร กับข้าวอย่างอื่นที่ไม่ต้องใช้น้ำมันก็มีอีกมาก ตบตีต่อยกันแย่งน้ำมันขวดแค่ไม่กี่ขวดนี่นะ ตรจะบ้าตาย ***

2. จากเหตุที่เกิดขึ้น มีผู้เสียชีวิตจำนวนมากนับพันคน ทั้งที่เสียชีวิตจากการโดนตึกอาคารถล่มใส่ หรือเสียชีวิตจากคลื่นยักษ์สึนามิ สื่อจำนวนมากพยายามเสนอภาพการเก็บศพผู้เสียชีวิตและการเก็บซากปรักหักพังของตึกอาคารต่างๆ
เรื่องประทับใจ ถ้าใครติดตามภาพข่าวต่างๆ ที่ออกมา จะเห็นได้อย่างชัดเจนว่า ไม่มีการเผยโฉมหน้าของผู้เสียชีวิตแต่อย่างใด ไม่มีภาพสยดสยองของศพ จะมีแต่ภาพการทำงานอย่างขะมักเขม้นของเจ้าหน้าที่กู้ภัย หรือถ้าจะมีภาพศพ ก็เป็นภาพศพที่ถูกห่อด้วยผ้าขาวแล้วอย่างเรียบร้อย เพราะเค้าถือว่าจะต้องให้เกียรติผู้เสียชีวิตรวมถึงครอบครัวผู้เสียชีวิตด้วย (สื่อไทยควรเอาอย่างมากครับ)

*** ประเทศเราไม่ต้องพูดถึง ถ่ายจนแทบจะกินข้าวไม่ลง บางภาพก็เซ็นเซอร์ซะบางเลย ทีนมชิสุกะ แมร่งแบนครึ่งตัว แล้วอย่างยิ่งนักการเมืองบางคนเอาศพคนมาเป็นเครื่องมือในการแก้ต่างของตนเอง คุณละอายใจบ้างไหม ***

3. หนึ่งในผลกระทบที่ร้ายแรงจากภัยพิบัติครั้งนี้คือ โรงงานไฟฟ้านิวเคลียร์ที่ผลิตกระแสไฟฟ้าเพื่อใช้จ่ายในประเทศได้รับความเสียหาย แน่นอนว่าส่งผลกระทบต่อการใช้ไฟฟ้าของคนในประเทศ ดังนั้นเพื่อให้แต่ละเขตของพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบมีไฟฟ้าใช้อย่างเท่าเทียมกัน รัฐบาลญี่ปุ่นได้ออกมาประกาศว่า จำเป็นต้องดับไฟในแต่ละเขตของประเทศวนกันไปเรื่อยๆ โดยแต่ละเขตจะถูกดับไฟวันละประมาณ 3 ชั่วโมง จนถึงประมาณปลายเดือนเมษายน
เรื่องประทับใจ ถึงแม้จะในแต่ละเขตจะต้องถูกดับไฟวันละ 3 ชั่วโมง แต่ไม่มีชาวญี่ปุ่นคนไหนออกมาประท้วงหรือแสดงความไม่พอใจต่อคำสั่งนี้ ทุกคนรับฟังคำสั่งและให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี เพื่อจะให้เขตอื่นๆ ได้มีไฟฟ้าใช้เท่าๆ กัน

*** เป็นบ้านเราใครเป็นไรกรูไม่สนใจช่างมัน จะใช้ไฟซะอย่าง แอร์ก็เปิดเข้าไป เครื่องทำน้ำอุ่นก็เปิดไป พอไฟดับเพราะหม้อแปลงระเบิด ก็ด่าการไฟฟ้าว่ามาช้าอีก ทั้งๆที่ตัวเองใช้ไฟมโหฬารเอง ***

เอาเหอะครับ พูดกันตรงๆ ถ้าสังคมไทยได้แบบอย่างของชาติญี่ปุ่นมาบ้างก็คงทำให้สังคมดีขึ้นเยอะ หลายๆอย่างที่แม่ผมเล่าให้ฟังเพราะเคยไปทำงานที่ญี่ปุ่นมาก่อน

1. การข้ามถนน คนญี่ปุ่นจะข้ามตรงทางม้าลาย หรือ ไม่ก็สะพานลอยเท่านั้น แม้ว่ามันจะอยู่ไกลไป 100 - 200 เมตรก็ตาม ( พี่ไทยเราข้ามได้ทุกที่ แม้ใต้สะพานลอย )

2. การซื้อของ คนญี่ปุ่นจะต่อแถวเป็นระเบียบเรียบร้อย ไม่ว่าแถวจะยาวแค่ไหนก็ตาม ( พี่ไทยเราแซงดะ )

3. หากเราลืมของไว้ตามสถานที่ต่างๆไม่ว่าสวนสาธารณะ หรือ สถานีรถไฟ ไม่กังวลว่าจะหาย เพราะว่าคนญี่ปุ่นถ้าเห็นคนลืมของไว้ จะเอาไปให้ที่ป้อมยาม หรือ ตรงใต้ต้นไม้ที่สังเกตุง่าย
( เป็นพี่ไทย ไม่ถึง 1 นาที หายวับกับตา )

งั้นนี้ผมนั่งคุยกะแม่มานะครับ อาจจะมีเยอะกว่านี้ก้ได้ ลองถามพี่ ต่อ ดูครับว่าคนญี่ปุ่นเค้าเป็นแบบนั้นจริงๆไหม

ผมก็เคยลืมของไว้ที่ญี่ปุ่นครับ

แล้วเค้าก็เก็บไว้ให้จริงๆด้วย ประเทศเค้าเหมือนไม่มีขโมยเลยครับ

ดีจริงๆเลย อยากให้เมืองไทยมีระเบียบวินัยแบบนี้จัง อิอิ

อ่านแล้ว..เห็นด้วยอย่างยิ่ง สงสารคนญี่ปุ่นและก็ได้แต่ภาวนาว่า อย่าให้เกิดเรื่องเศร้าแบบนี้ในบ้านเราเลย เพราะว่าทุกวันนี้ที่บ้านเรามันก็วุ่นวายมากพอแล้ว ไม่รู้ว่าทำไมผู้ใหญ่หลายๆคนที่มีอำนาจและหน้าที่ในความเป็นผู้นำในประเทศเรานี้ จึงไม่รู้สึกละอายใจบ้าง ไม่รู้ว่าสะกดคำว่า ''จิตสำนึก'' กันเป็นบ้างไหม.. หลายๆคนเห็นแล้วทำตัวได้สิ้นเปลืองภาษีของชาวบ้านเหลือเกิน จำได้ว่าตอนอยู่ชั้นประถม ครูบอกว่าประเทศไทยเราเป็นประเทศกำลังพัฒนา นี่ก็ผ่านมาจะ30ปีแล้ว กลับรู้สึกว่า ไม่ไม่ใช่กำลังพัฒนาแต่เป็นด้อยพัฒนา(ทางจิตใจ)มากกว่า

''อยากเห็นคนส่วนใหญ่ในบ้านเรารู้จักคิดและมีจิตสำนึกอย่างเขาบ้าง ก่อนที่จะไม่เหลือร่างกายกับสมองให้คิด"

คุณ " Simply Bozz " ครับ ประเทศเรากำลังพัฒนาอยู่แล้วครับ แต่นักการเมืองบางคนของเราไม่ได้พัฒนาต่างหาก ไม่ได้ทำเพื่อประเทศชาติโดยแท้จริงหรอกครับ แต่ทำเพื่อตัวเองและพวกพ้องมากกว่า และคนที่จะทำให้พัฒนาได้จริงๆก็คือประชาชน ไม่ใช่มัวแต่รอความหวัง การช่วยเหลือจากส่วนต่างๆ ทั้งๆที่ตัวเองไม่ได้ทำอะไรเลย

" ประเทศญี่ปุ่นหลังสงครามโลกครั้งที่สอง ก็ได้พัฒนาตนเองโดยคนทั้งประเทศ จนมาเป็นมหาอำนาจทางเศรษฐกิจในปัจจุบัน แต่เรากำลังทำลายประเทศชาติ โดยคนเพียงไม่กี่คน "

เห็นข่าวนี่ถูกใจมากเลิยจะมาบอกคับ

เรื่องราวดีๆที่เกิดขึ้นท่ามกลางวิกฤติการณ์ในประเทศญี่ปุ่น

คน ไทยในญี่ปุ่นเปิดเผยบรรยากาศหลังเกิดแผ่นดินไหวใหญ่และคลื่นยักษ์สึนามิถล่ม ว่า Adisak Chua: คิดว่าทุกคนกำลังเครียด เลยอยากแบ่งปันเรื่องดีๆที่เกิดในช่วงแผ่นดินไหว (อ่านเจอลิ้งค์จาก ศูนย์กลางข่าวสารแผ่นดินไหวที่ญี่ปุ่น โดย สนญ. และ สนทญ.) เป็นเรื่องราวที่คนต่างชาติที่อยู่ในญี่ปุ่นประสบ http://prayforjapan.jp/tweet.html ขอแปลด้วยความรู้ภาษาญี่ปุ่นที่มี

เรื่อง ที่หนึ่ง ข้าพเจ้าได้เห็นเด็กน้อยพูดกับพนักงานรถไฟ “ขอบคุณค่ะ/ครับ ที่เมื่อวานพยายามอย่างสุดชิวิตทำให้รถไฟเดินรถได้อีกครั้ง” พนักงานรถไฟร้องไห้ ส่วนข้าพเจ้าร้องไห้ฟูมฟายไปแล้ว (คืนวันที่เกิดแผ่นดินไหว รถไฟหยุดวิ่ง กว่าจะวิ่งได้ก็หลังเที่ยงคืนไปแล้ว)

เรื่องที่สอง ที่ดิสนีย์แลนด์ คนติดกลับบ้านไม่ได้จำนวนมาก และทางร้านขายของก็ได้เอาขนมมาแจกนักท่องเที่ยว ก็ได้มีนร.ม.ปลายหญิงกลุ่มหนึ่งไปเอามาจำนวนมาก มากเกินพอ แว่บแรกที่ข้าพเจ้ารู้สึกทันทีคือ อะไรของมึงวะ เอาไปซะเยอะ แต่วินาทีต่อมากลายเป็นความรู้สึกตื้นตันใจ เพราะเด็กกลุ่มนั้นเอาขนมไปให้เด็กๆ ซึ่งพ่อแม่ไม่สามารถไปเอาเองได้เพราะต้องดูแลลูกๆ

เรื่อง ที่สาม ในซุปเปอร์แห่งหนึ่ง ของตกระเกะระกะเพราะแรงแผ่นดินไหว แต่คนซื้อก็เดินไปช่วยกันเก็บของ แล้วก็หยิบส่วนที่ตนอยากซื้อไปต่อคิวจ่ายเงิน ในรถไฟที่เพิ่งเปิดให้ใช้บริการและคนที่ตกค้างจำนวนมากกำลังเดินทางกลับก็ ได้เห็นคนแก่คนหนึ่งลุกให้สตรีมีครรภ์นั่ง คนญี่ปุ่นแม้ในภาวะฉุกเฉินเช่นนี้ ก็ยังมีน้ำใจ มีระเบียบ

เรื่อง ที่สี่ ในคืนแรกที่เกิดแผ่นดินไหว รถไฟไม่วิ่ง ทำให้คนจำนวนมากต้องเดินกลับบ้านแทนการนั่งรถไฟ ขณะที่ข้าพเจ้าต้องเดินกลับจากมหาลัยมายังที่พัก ร้านรวงก็ปิดหมดแล้ว ข้าพเจ้าได้ผ่านร้านขนมปังร้านหนึ่งซึ่งปิดไปแล้ว แต่คุณป้าเจ้าของร้านก็ได้เอาขนมปังมาแจกฟรีแก่คนที่กำลังเดินกลับบ้าน แม้ภาวะฉุกเฉินเช่นนี้ น้ำใจเช่นนี้ทำให้หัวใจข้าพเจ้าอบอุ่น ตื้นตัน

เรื่อง ที่ห้า ในขณะที่รอรถไฟให้กลับมาวิ่งได้ ข้าพเจ้าก็ได้รออยู่ในอาคารสถานีอย่างเหน็บ หนาว โฮมเลสก็ได้แบ่งปันแผ่นกล่องกระดาษให้ โฮมเลสที่ข้าพเจ้ามองด้วยหางตาทุกวันที่มาใช้สถานี คืนนั้นทำให้ข้าพเจ้ารู้สึกอบอุ่นอย่างประหลาด

เรื่อง ที่หก (เรื่องราวคืนรถไฟไม่วิ่งเยอะหน่อยนะครับ) ด้วยระยะเวลาสี่ชั่วโมงที่ต้องเดินเท้ากลับบ้าน ก็ได้ผ่านหน้าบ้านหลังหนึ่ง ตาก็ไปสะดุดกับแผ่นกระดาษที่เขียนว่า “เชิญใช้ห้องน้ำได้ค่ะ” หญิงสาวท่านหนึ่งได้เปิดบ้านตัวเองให้แก่คนที่กำลังเดินกลับบ้านได้ใช้ วินาทีที่ได้เห็นแผ่นกระดาษนั้น น้ำตามันก็ไหลออกมาเอง น้ำใจคนญี่ปุ่น

เรื่อง ที่เจ็ด แม้ว่าไฟดับ ก็ยังมีคนที่สู้ทำงานให้ไฟกลับมาติด น้ำไม่ไหลก็ยังมีคนไม่ยอมแพ้ทำให้น้ำกลับมาไหล เกิดปัญหากับโรงงานไฟฟ้านิวเคลียร์ก็มีคนที่พร้อมจะเข้าพื้นที่เพื่อซ่อมมัน ทุกสิ่งทุกอย่างไม่ได้กลับมาสู่สภาพปกติด้วยตัวมันเอง ขณะที่พวกเราอยู่ในบ้านอันอบอุ่นแล้วก็พร่ำบ่นว่าเมื่อไรไฟมันจะติด น้ำจะไหลน้า ก็มีคนที่อยู่ข้างนอกท่ามกลางความหนาวเหน็บกำลังพยายามสู้อยู่

เรื่อง ที่แปด ในจังหวัดจิบะ คนลุงคนหนึ่งที่หลบภัยอยู่ก็ได้เปรยออกมาว่า ต่อจากนี้ไปจะเป็นอย่างไรน้า เด็กหนุ่มม.ปลายก็ตอบกลับไปว่า ไม่เป็นไร ไม่ต้องห่วง ต่อจากนี้ไปเมื่อเป็นผู้ใหญ่ พวกผมจะทำให้มันกลับมาเหมือนเดิมแน่นอน (ไม่เป็นไร พวกเรายังมีอนาคต!!!)

เรื่อง ที่เก้า ขณะที่กำลังได้รับความช่วยเหลือ หลังจากที่ติดอยู่บนหลังคาบ้านมากว่า 42ชั่วโมง คุณลุงก็ได้กล่าวว่า “ไม่เป็นไร ไม่เป็นไรครับ เคยมีประสบการณ์สึนามิที่ชิลีมาแล้ว ต่อจากนี้ไปพวกเรามาช่วยฟื้นฟูบ้านเมืองกันนะ” แกกล่าวด้วยรอยยิ้ม (สิ่งสำคัญสำหรับพวกเราคือ ต่อจากนี้ไปเราจะทำอะไรต่างหาก)

เรื่อง สุดท้าย ก่อนหน้านี้เมืองมันสว่างเกินไป เกินที่จะมองเห็นดวงดาวบนท้องฟ้ายามค่ำคืน แต่จริงๆแล้วดาวสวยเช่นนี้เอง ชาวเซนไดทุกคนลองแหงนมองขึ้นไปข้างบนดูซิ (ตรงนี้ไม่มั่นใจว่าแปลว่า ชาวเซนไดทุกคนมองขึ้นไปบนฟ้า รึเปล่า)



Credit : Adisak Chua
from Bo Panisa facebook http://www.facebook.com/notes/bo-panisa ... 1275814075

เรียบเรียงข่าวโดยMthainews

ผมว่าอย่างน้อย มีพวกคุณ...ที่คิดและทำแล้วเป็นตัวอย่าง...อย่างน้อยแค่ในครอบครัวของเรา

การสั่งสอนคนในครอบครัวเรารู้สำนึกหน้าที่ มีวินัย ทำความดี.....ผมว่าเรามีหวังครับ

แม้มันจะน้อย เมื่อเทียบกับผู้ที่อ้างว่าทรงเกียรติในสภา....ที่กระทำและปลูกฝังในสิ่งให้สังคมไทย ให้เห็นว่าการทำเลวทำชั่วเป็นสิ่งชอบธรรม(ทำ)

อ่าน 10 เรื่องนี้แล้วน้ำตาไหลเลยครับ T T

จริง อย่างพี่ jo บอกครับ

ถ้าคนไทยทุกคนต่างทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด ตามคำสอนของพ่อพลวง ประเทศเราคงเจริญ

เป็นอย่างมาก ลองคิดดูครับ

นักเรียน นักศึกษา ตั้งใจเรียน

หมอ พยาบาล ตั้งใจรักษา ชีวิตทุกคนโดยไม่คำนึงถถึง ฐานะ

ตำรวจ รักษาบ้านเมือง กฎหมาย ไม่รับใต้โต๊ะ

อ. ตั้งใจมอบความรู้ให้ นักเรียน ไม่ มีข่าวไปทำอนาจาร ลูกศิษย์

รัฐบาล ตั้งใจบริหารประเทศ ไม่โกงกิน

โอยยย แค่ทุกคนทำหน้า ที่ของตัวเองให้ดีที่สุด ประเทศเราก้ไปถึงไหนแล้วววววววว

ที่เป็นอย่างนี้เพราะคนไทยสบายเกินไป !!

ภัยธรรมชาติก็แทยจะไม่มี

ทำงานก็จ้างต่างด้าว เงินก็ไหลออกนอกประเทศ

- -"

แผ่นดินไทยสุขสบาย แต่การเมืองร้อนระอุ

บ้านเราสิ่งดีดี ก็มีอยู่มากมายนะครับ น้ำใจคนไทยที่ไม่เคยเหือดหาย รอยยิ้ม คำทักทายดุจญาติมิตร และ อื่นๆอีกมากมาย

แต่บางอย่างก็แสดงให้เห็นถึงวินัย EX...เช่น ภาพข่าว คนแย่งกันซื้อน้ำมันปาล์ม ในห้างค้าส่ง นี่ -_-"

รอจนถึงชาติหน้าก็คงไม่ได้เห็นคนไทยเป็นแบบบ้านเค้าหรอกครับ ผมไม่ได้จะดูถูกคนไทยนะแค่มองด้วยความจริงที่มันเป็นอยู่ บ้านเค้าไปไกลแล้ว(เรื่องสมองและความคิด)คงยากที่บ้านนี้เมืองนี้จะตามทัน - -*

นี่ครับ ภาพพวกนี้ชัดเจนที่สุดสำหรับวินัยชาวญี่ปุ่น

2

ถ้าไทยมีสำนึกทำแบบนี้ได้ กรุงเทพคงหิมะตก

ในกรุงเทพคงหาได้ยาก

แต่สำหรับคนต่างจังหวัดแล้ว

น้ำใจและคุณธรรมแบบชาวญี่ปุ่นนั้นยังสู้ไม่ได้เลยนะครับ

ผมให้ความเห็นในนามของคนต่างจังหวัดคนหนึ่ง

เพราะกรุงเทพ...ไม่ใช่ทั้งประเทศไทย

เคยสังเกตุไหมครับ แค่จรรณยาบรรณของสื่ิอไทย กับสื่อประเทศอื่น ภาพคนตายแบบสยดสยอง หรือ ภาพหดหู่ และรุนแรง โดยปกติแล้วเขาไม่เอามาลงหรอกครับ

สื่อไทยสึนามิ ตายขึ้นอืด ถูกฝังจนหนอนขึ้น ดูแล้วหดหู่ ถูกนำเสนอ
ข่าวร้ายเขียนฟรีข่าวดีต้องจ้าง....

น้ำใจคนไทยที่ไม่เคยเหือดหาย รอยยิ้ม คำทักทายดุจญาติมิตร และ อื่นๆอีกมากมาย
มันยังมีครับ แต่มันลดลงมาก.....เพราะผู้ทรงเกียรติทั้งหลายแหล่นั่นแหละ
(ผมอยากให้ความมีน้ำใจของคนไทยกลับคืนมา)

สงครามสื่อรุนแรง.....ใครใช้สื่อได้ประโยชน์มากกว่าคือผู้ชนะ


ทำไมการศึกษาของประเทศเราจึงไม่ไปไหน

ฉลาดมาก ปกครองยากมั๊ง

เห็นญาติพี่น้อง ส.ส.ตายไหมครับ ทุกฝ่ายมาเคารพศพกัน ในสภาด่ากันเหมือน...

แต่ชาวบ้านที่แบ่งฝ่าย เกลียดกัน ทุกวันนี้ ด่าแม้กระทั่ง พระกระทั่งเจ้า ฯลฯ

ผมเชื่อว่าญี่ปุ่นจะลงมือสร้างเมืองใหม่เสร็จก่อนรถไฟความเร็วสูงของบ้านเรา

ทุกวันนี้ผมว่าพวกเราไม่ได้ต้องการความยุติธรรมในสังคมแบบเต็มร้อยหรอกครับ.....แต่ทำให้เกิดความแตกแยกน้อยที่สุดก็สุดยอดแล้ว

ขอบคุณครับที่ทนอ่าน การพ่นน้ำลายคลายเครียดของผม 555555

หัวไม่ส่าย หางไม่กระดิกครับ
ความหมายคือ ต้องเริ่มจาก ต้นทางไป หาปลายทาง คือ เริ่มจาก การปรับพฤติกรรมของ ตัวเราเองก่อน แล้ว ชักชวน คนรอบข้างให้ ทำตามอย่างตัวเราเอง ทำอย่างนี้ ต่อไปเรื่อยๆ เป็นลุกโซ่ เลียนแบบ เชื้อไวรัส แต่เป็นไวรัส ในทางที่ดี ถ้าทำได้แบบนี้ คุณอาจจะได้เห็นประเทศไทย มีคุณภาพ กว่าประเทศญี่ปุ่นก้อได้ เพราะโดยพื้นฐานแล้ว คนไทยเรา มี น้ำใจ และเมตตา กว่าคนญี่ ปุ่น หลายเท่านัก

ไม่ต้องไปมองไกลหรอกครับ ต่อแถวซื้ออาหารในโรงเรียนมัธยม ยังแซงกันเลย

บางคนไม่แซงแถวแต่เดินไปหลังร้าน ได้อาหารออกมาก่อนคนต่อแถวอีก พอออกมาแล้วมันต้องเดินผ่านคนต่อแถว ผมก็ไม่รู้ว่าหน้ามันด้านขนาดไหนถึงทนสายตาคนอื่นได้อยู่ทุกวัน

เจริญไหมล่ะครับ ฝึกโกง ฝึกเห็นแก่ตัวกันตั้งแต่เด็กๆแบบนี้

ผมว่าการเข้าแถวมันก็เป็นการแสดงความเท่าเทียม นะครับ

วันนี้ก็เพิ่งเจอมาสดๆร้อนๆเลย โดนแซงคิวตอนรับบัตรคิว ใน ร.พ.

โมโหมากแต่พยายามจะคิดว่าเราเป็นคนที่เจริญแล้วต้องยอมๆให้พวกที่ยังไม่พัฒนา

ส่วนใครที่ทำดีแล้วผมก็ขอให้ทำต่อไปอีกนะครับ จงเป็นส่วนน้อยที่มีคุณค่าต่อส่วนใหญ่ครับ

กฏหมายประเทศญี่ปุ่นและระบบการปกครองของเขาดีกว่าเราครับไม่เอื้อประโยชน์ต่อกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง ประเทศเขาเลยมีระเบียบวินัยมากกว่าประเทศเรา สื่อประเทศเราก็เจอคุกคามจนอยู่อันดับ ที่ 150+ กว่าๆเกือบเท่าพม่าและจีน ว่างๆผมก็เปิด Wikileak มันมีหลายๆอย่างที่เราไม่เคยรู้เคยเห็นเยอะในประเทศเรา...

ประเทศไทยไม่เจริญเพราะนักการเมื่องเชี่ยๆ

http://hilight.kapook.com/view/57268

ดูเอาครับ ผมอายญี่ปุ่นเค้าจริงๆ

ประเทศเค้าสึนามิมา คนตายเป็นเบือ บ้านลอยไปกับน้ำ

แต่เค้าก็เข้าแถวกันยาวเหยียดอย่างมีระเบียบวินัย ไม่มีขโมยสักคน

ประเทศไทย (ต่างจังหวัดด้วยนะ คุณ Burst อิอิ)แค่รถขนปลาคันเดียวคว่ำ

มันเล่นขโมยไม่เหลือสักกะตัว เจ้าของรถห้ามก็ไม่ฟัง เฮ้อ เหนื่อยใจ

ผมว่านี่เป็นตัวอย่างที่ทำให้เห็นว่า ทำไมประเทศเราถึงยังไม่พัฒนา (นักการเมืองด้วย *0*)

ปล. คห.23 ผมก็โดนเหมือนกันครับ มันแซงหน้าด้านๆเลยครับ T^T

ผมก็ดูข่าวอยู่ครับ.... เศร้าใจเหมือนกัน ไม่น่าเลย เสียชื่อคนต่างจังหวัดจริงๆ

ชัดเจนเปลี่ยน

มาอัพเดทข้อมูลครับ หลังจากที่ผมขาดหายจากข่าวคราวไปไม่ต่ำกว่า 5-6 วันล่ะครับ

ดูอุตสาหกรรมหนัง AV ก็รู้แล้วครับ ว่ามันคนละระดับกันจริงๆ

พูดได้คำเดียวว่า "ทุเรศจริงๆ" ครับไอ้ข่าวรถบรรทุกปลาเนี่ย
ถ้าเปลี่ยนจากขโมยปลาเป็นไปช่วยเค้าเก็บใส่ลังแทน แบบนี้มันน่าดูภูมิใจกว่าไหมครับ

แล้วอีกอย่างคนไทยชอบมาประท้วง สินค้าแพง ไอ้นี่แพง ขึ้นราคา
ต้องให้มันไปอยู่ญี่ปุ่นครับไอ้คนพวกเนี่ย ประเทศเค้าอาหารตอนนี้ก็เหลือน้อยเเล้ว
คนไทยเรามันสบายมากไปครับ เเค่ของขึ้นราคานิดหน่อยก็ไม่ซื้อ ไม่กิน ออกมาประท้วง
ทั้งๆที่ทรัพยากรเราก็อุดมสมบูรณ์ อยากได้อะไรกินก็สามารถซื้อหากันได้ง่ายๆ
ของแบบนี้ไม่เจอกับตัวมันไม่รู้สึกหรอกครับ

คนไทยมันอุดมสมบูรณ์แค่คนบางกลุ่มครับอย่าไปเหมารวมครับ ขนาดสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานมันยังมีไม่ครบเลยครับ เช่นรถไฟใต้ดิน รถไฟบนดิน ทั้งๆที่คนกรุงกับคนต่างจังหวัดจ่ายภาษีเท่ากัน ไปโทษนักการเมืองมันถูกแค่ ห้าสิบเปอร์เซนต์อีกครึ่งหนึ่งตามหาเอาครับ...

"ชื่นชมเค้าได้แต่อย่ามาเหยียบหัวใจคนไทยด้วยกัน"
เรื่องมีวินัย ยอมรับได้ แต่การศึกษา การอบรมคนบ้านเค้ากับบ้านเราต่างกันอย่างไร?
เรื่องความอดทน ประเทศที่ผ่านความลำบากของศึกสงครามย่อมเคยชิน และอดทนเป็นเรื่องธรรมดา คิดว่าคนไทยสมัยปลายกรุงศรีอยุธยา ถึงต้นกรุงรัตนโกสินทร์ คงอดทนไม่แพ้กัน!
มองในแง่ไม่ดี ทีใหนๆก็มี หรือว่าการค้าขายในญี่ปุ่น ธุรกิจต่าง ๆ ไม่เอากำไร ไม่เอาเปรียบ ของต้นทุนถูก นำมาขายแพง ธุรกิจเหยีpบใครได้ต้องทำ ค่าแรงต้องต่ำ ล้มคู่แข่งได้ต้องทำ เพื่อกำไร! หรือมันไม่จริง?
ลองนึกถึงแง่ดีของคนไทย เวลาเดือดร้อน ไม่ว่าเสื้ออะไร พร้อมบริจาคข้าวของ อาหาร
แล้วลืมไปเลยว่าสีอะไร เพราะใจที่อยากจะช่วย มีใครเอาของไปบริจาคช่วยน้ำท่วมแล้วระบุ
มอบให้คนเสื้อเหลืองเท่านั้น เสื้อแดงไม่ให้ ไม่มี!
ความมีน้ำใจของคนไทย แม้จะขาดวินัย ก็ชนะเลิศครับ

ขอประทานโทษ rep บนนะครับ พูดงี้เสื้อเหลืองเขาก็เสียหาย ช่วยยกตัวอย่างอื่นได้ไหม เสื้อเหลืองผมก็ไม่เคยเห็นเขาระบุ ถ้าเขาระบุจริง ก็ช่วยเอาข่าวมายืนยันด้วยนะครับ ไม่ชอบ

แต่ข่าวรถขนปลาบ้านเรานี่....เศร้าจริงๆครับ T_T
อยากให้คนขับรถแจ้งความจัง

ถ้าเป็นรถขนเงินคว่ำ อย่างนี้คนก็แห่มาเก็บเงินไปกันหมดนะสิ ......

^
^
ข้างบนเขาหมายถึง ไม่มีการให้เฉพาะสีตนเองเท่านั้น หรือเปล่าครับ
เรียงคำที่ยกตัวอย่างผิดไปนิดนึงเท่านั้นเองครับ ^^

ตามนั้นครับ ผมหมายถึง ไม่ว่าจะสีอะไร เวลาต้องช่วยกัน คนไทยเราจะไม่นึกถึงสีเลยครัย
อ่านให้ดี อย่าให้สี บดบังตา คนไทยยังไงก็รักกันครับ แค่นั้นพอ นิสัยส่วนตัว แก้กันยากครับ ไม่ได้อยู่ที่การศึกษา อยู่ที่การอบรม มีตัวอย่างที่ดี หรือไม่ อย่าเอาแต่แง่ลบมาวิจารณ์
ผมสังเกตุหลายทีแล้ว เวลาตั้งกระทู้แบบนี้ มักมีคนมาสนับสนุน ซ้ำเติม เหมือนกระทู้ชี้ทาง
แล้วต้องสานต่อ โชคดีที่ยังมีหลายคนที่เป็นกลางครับ สังคมจึงจะอยู่ได้

แล้วถึงเวลาที่ต้องช่วยกันแล้วหรือยังครับ ?

จากหลายๆข่าวที่เห็นมา ผมว่าถึงเวลาที่ทุกคนต้องช่วยกันแล้วครับ
การเปรียบเทียบเป็นสิ่งที่ดี หากเอาสิ่งที่ไม่ดีมาปรับปรุงให้มันดีขึ้น แทนที่จะมานั่งโทษใครสักคน เปลี่ยนหัวแล้วได้อะไรในเมื่อถ้าทั้งตัวมันเน่าไปหมดแล้ว สู้เริ่มจากตัวเราเองทุกคนช่วยกันครับประเทศชาติมันเจริญ ต่างคนต่างทำหน้าที่ตัวเองให้ดีที่สุด

ประเทศญี่ปุ่นมีหลายสิ่งที่ควรเอาอย่าง และไม่ควรเอาอย่างครับ
เรื่องปลา....หลักฐานเห็นคาตาครับตำรวจไทยควรจับทุกคนที่เกี่ยวข้องครับ มันเป็นคลีลักทรัพย์ อย่ามาอ้างคำว่าไม่รู้ครับ ( รู้อยู่แก่ใจว่าไม่ใช่ของเราไปเอาของเค้ามาฟรีๆก็คือขโมยดีๆล่ะครับ )
กฎหมายคือกฎหมาย ถ้ายกเว้นไว้สักคนแล้วจะมีมันไว้ทำไม !!

ขนาดคดี 9 ศพบนสะพานด่วนเมื่อต้นปีใหม่ยังเงียบไปเลยครับ ^^ จะเอาไรกับแค่คดีรถขนปลา^^ เดี๋ยวเดือน พ.ค.อีกเดี๋ยวก็จะมีเรื่องเส้นสายส่งลูกเข้าโรงเรียนปัญหาที่แก้ไม่ตก

ขอประทานโทษนะ อย่างนี้มันก็ส่อให้เห้นว่าคุณก็มีสีนะครับ ผมว่าถ้าคนอ่านๆดีๆ ก็จะรู้นะครับ บอร์ดนี้ผมคิดว่าไม่มีใครโง่

ผมว่าผมไม่โง่นะ แล้วผมอ่านก็เข้าใจว่า

เค้าหมายความว่า การบริจาคของคนไทย ไม่ได้บริจาคให้สีใดสีหนึ่ง

แต่บริจาคให้ทุกๆคนที่เดือดร้อน

แล้วก็ขอประทานโทษนะ ผมรู้สึกว่าคุณก็มีสีมากกว่า คห. 33 เสียอีกครับ

เพราะคุณบอกว่า "พูดงี้เสื้อเหลืองเขาก็เสียหาย" .....อ่าว เฮ้ย ซะงั้น ก็เขาบอกว่า

"มีใครเอาของไปบริจาคช่วยน้ำท่วมแล้วระบุ มอบให้คนเสื้อเหลืองเท่านั้น เสื้อแดงไม่ให้ ไม่มี!"

เห็นคำว่า "ใคร" กับ "ไม่มี!" มั้ยครับ ? สำหรับผม ผมว่าคุณอ่านไม่ดี

แล้ว "ร้อนตัว" เองต่างหากครับ ว่ามีเขาไปกล่าวหา "เสื้อเหลือง"

ถ้าผมพูดอะไรผิด โปรดมาชี้แจงด้วยนะครับ

จะได้ไปปรับปรุงการอ่าน "ภาษาไทย"

รบกวนนะครับ ถ้ามีเรื่องสีขอเป็นหลังไมค์กันดีกว่าครับ ผมไม่เข้าข้างใครครับ ที่ผมตั้งกระทู้ขึ้นมานี่ไม่ใช่เพื่อให้ใครมาทะเลาะกันหรือมองคนอื่นกัน แต่ให้เราได้มองตัวเองว่า เราเป็นแบบนี้หรือเปล่า

ในมุมมองผมสังคมไทยยังคงเป็นสังคมที่เอื้ออาทรต่อกัน มีหลายๆเหตุการณ์ที่คนทั้งประเทศได้ร่วมใจช่วยกันบริจาคทั้งสิ่งของ เงินทอง หรือ กำลังกาย ผมถึงเชื่อได้ว่าสังคมไทยเรายังเป็นสังคมที่ยังน่าชื่นชมอยู่ครับ แต่ที่มันทำให้เสื่อมเสียนั้นก็เป็นแค่กลุ่มนกลุ่มเล็กที่ทำให้เน่าเสียกันทั้งประเทศครับ

ขอโทษด้วยครับที่เข้ามาพูดถึงเรื่องพวกนี้ด้วย

แต่ผมแค่พยายามให้เขาเข้าใจว่า

เขาเข้าใจผิด ข้อความใน คห.ที่ 33 ครับ

แค่นี้ละครับ ขอโทษด้วยครับ ^ ^

กระทู้จะออกทะเลแล้ววววว ช่วยกันหน่อยครับคนไทย... ใจเย็น ๆ

ฮัดช่า ใจร่มๆ ครับอย่าพึ่ง มาม่า กันครับ

รักกันไว้ดีกว่าครับ ทะเลาะกันไปไม่มีอะไรดีขึ้น

มาช่วยกันคิดวิธีแก้ปัญหากันดีกว่าครับ

ปัญหามีไว้แก้ไม่ได้มีไว้หนี ถ้าร่วมมือกันแล้วจะต้องดีขึ้นอย่างแน่นอนครับ

อืม...ทำไมต้องฮัดช่า

นิพพานะ ปัจจะโย โหตุ