iPad คืออะไร ?
หลายๆคนที่ติดตามข่าวอยู่ก็อาจจะทราบกันอยู่แล้ว แต่สำหรับใครที่ยังไม่รู้จักนั้น ผมจะขออธิบายแบบสั้นๆ ให้ฟังละกันครับว่า iPad นั้นก็คือ Tablet PC หรือ Computer ขนาดพกพาที่มีหน้าจอแบบสัมผัส หรือที่หลายๆคนเรียกกันว่า iPhone ยักษ์, iPod แบบสัมผัส เพราะด้วยหน้าตาและรูปร่างนั้นดูคล้ายคลึงกันมากแต่จะมีขนาดใหญ่กว่าเท่านั้น iPad เป็นสินค้าชิ้นล่าสุดจาก Apple ที่พึ่งเปิดตัวและออกวางขายในสหรัฐฯ เมื่อวันเสาร์ที่ 3 เมษายน ที่ผ่านมานี้ด้วยยอดขายในวันแรก นั้นประมาณ 300,000 กว่าเครื่อง ซึ่งก็ถือว่า มีลูกค้าให้ความสนใจกันอยู่มากพอสมควรเลยนะครับถึงทาง Apple จะไม่ถึงตามเป้าที่ตั้งไว้ก็ตาม

iPad ที่ออกวางขายนั้นจะขนาดความจุ 3 ขนาดด้วยกัน นั่นก็ คือ 16GB 32GB และ 64GB เป็นรุ่นที่สามารถเชื่อมต่อสัญญาณ Wi-Fi ได้ด้วยครับ ซึ่งราคานั้นก็จะเริ่มตั้งแต่ $499, $599, และ $699 ตามลำดับ

iPad กับด้านการทำงาน

แน่นอนว่าหลายๆท่านที่กำลังจะซื้อหรือว่าซื้อ iPad ไปแล้วก็ตาม ย่อมต้องคาดหวังที่จะใช้งานระหว่างทางได้อย่างสมบูรณ์แน่นอน เนื่องจากความครบวงจรน่าจะเป็นปัจจัยที่สำคัญมากที่สุด และต้องสามารถเข้าถึงและใช้งานแอพพลิเคชั่นต่างๆได้ตามที่ต้องการได้เช่นกัน ซึ่งส่วนนี้ iPad นับว่าทำคะแนนได้ดีกว่าหลายทางเลยทีเดียว ลองมาดูกันดีกว่า

ส่วนพื้นฐานเลยก็คือ เรื่องของ CPU ที่ใช้ตัว A4 ความเร็ว 1 GHz ซึ่งสามารถทำงานได้แรงและเร็วกว่าสัญญาณความถี่ที่แสดงไว้มากเลยทีเดียว iPhone ยังต้องร้องให้กลับเครื่องนี้เลยทีเดียว เรียกได้ว่าไม่มีอาการ lag ใดๆเลยไม่ว่าจะเปิดหรือรันแอพพลิเคชั่นอะไรก็ตาม กดปุ๊บมาปั๊บทันที ส่วนปัญหาหนักๆในเรื่องของการใช้งานจริงบางส่วน ก็จะมีเรื่องของ Gmail ที่ไม่สามารถเข้าใช้งานได้เต็มรูปแบบ โดยแม้กระทั่งจะใช้พวกแอพพลิเคชั่น Gmail หรือเว็บแอพพลิเคชั่นก็จะไม่ใช่ Gmail ที่เป็นเวอร์ชั่นเต็มอยู่ดี คุณจะไม่สามารถใช้งานฟังก์ชั่นพิเศษอย่างการส่งเมล์ไปยังที่เมล์แอดเดรส อื่นๆได้ แม้ว่าจะรันบน Mobile Safari ก็ไม่ต่างกัน

ดมาก็จะเป็นพวกเดสก์ท็อปแอพพลิเคชั่นที่ท่านใช้งานกันอยู่เป็นประจำ เช่นพวก Photoshop หรือ Microsoft Excel เป็นต้น บอกได้คำเดียวว่า iPad ไม่สามารถใช้งานพวกแอพพลิเคชั่นเหล่านี้ได้เลย เนื่องด้วยทาง Apple จะไม่อนุญาติให้สามารถใช้งานระบบปฏิบัติการแบบเต็มรูปแบบได้บน iPad ท่านก็จะติดอยู่กับรูปแบบเดิมๆคือ Mobile OS เช่นเคย อันนี้เป็นข้อเสียที่ iPad ทำให้ไม่สามารถใช้ทำงานจริงจากประสิทธิภาพเดสก์ท็อปแอพพลิเคชั่นได้เลย

ทั้งหมดนี้ก็ไม่ใช่เพียงเฉพาะแค่พวก Power User เท่านั้นที่ต้องการใช้งานระหว่างเดินทางแน่นอน เพราะงานจริงๆคงไม่ได้ใช้แค่เช็คเมล์ หรือดูไฟล์เอกสาร Word หรือ PowerPoint และตอบกลับเพียงแค่แนะนำเล็กๆน้อย หรือเพียงแค่พูดคุยสั้นๆกับเพื่อนร่วมงานเป็นแน่ แต่ถ้างานท่านเป็นแบบนี้คงจะน่าอิจฉาไม่น้อยเลยทีเดียว แต่ในทางกลับกัน iPad จะดูมีประโยชน์มากขึ้นมาทันที ถ้าต้องการใช้เพียงแค่การรับส่งอีเมล์พื้นฐาน แถมคีย์บอร์ดแบบเสมือนจริงนั้นสามารถทำงานได้ดีกว่าคีย์บอร์ดของจริงบนเน็ต บุ๊คหลายๆรุ่นด้วยซ้ำไป แถมรูปแบบการแสดงผลข้อความทำให้ผู้อ่านไม่ซีเรียสไปกับรูปแบบเดิมๆ สำหรับเรื่องแอพพลิเคชั่นนั้น เรียกได้ว่า iPad สามารถตอบสนองได้รวดเร็วตามนิ้วท่านสั่งเลยทีเดียว แถม iPad ยังเป็นเลิศทางด้านการรับ-ส่งอีเมล์เป็นอย่างมาก เหนือกว่าอุปกรณ์พกพาทั่วๆไปมาก และยังใช้งานง่ายพร้อมแบตเตอรี่ประสิทธิภาพสูง ทำให้ชั่วโมงการใช้งานไม่เป็นปัญหาในทันที

iPad กับด้านความบันเทิง

ส่วนนี้นับว่าทาง Apple นั้นฉลาดมากๆเลย เพราะตัว iPad เองสามารถใช้งานแบตเตอรี่ได้ยาวกว่า 10 ชั่วโมง เชื่อมต่อระบบตรงเข้ากับ iTunes เหมือนเดิม ถ้าท่านเป็น iPhone หรือ iPod ยูเซอร์ก็คงคุ้นเคยกันดีอยู่แล้ว และสามารถใช้งานสตรีม ABC, Netflix และใช้งาน Web Content ได้มากขึ้น แจ่มเลยทีเดียว หน้าจอของตัว iPad นั้นนับว่าเป็นจุดเด่นหลักๆของเครื่อง สามารถแสดงผลวิดีโอความละเอียดสูง HD ได้อย่างยอดเยี่ยม เรียกได้ว่าเป็นสุดยอดอุปกรณ์รับชมแบบพกพาขั้นเทพในตลาดเลยก็ว่าได้ ไม่ว่าจะเดินหน้า หยุด หรือเร่งวิดีโอ ปรับเพิ่ม-ลดเสียง ก็ไม่มีอาการ lag แม้แต่น้อย

สำหรับเรื่องมัลติมีเดีย เจ้า iPad สามารถเปิดเพลงขณะทำงานแอพพลิเคชั่นอื่นๆไปได้ด้วย รูปแบบหน้าที่ใช้งานเหมือนกันกับ iPod โดยไม่มีอาการ lag แม้แต่น้อยด้วยประสิทธิภาพ iTunes เดสก์ท็อป ซึ่งจะมีคลังแอพพลิเคชั่นขนาดใหญ่มากๆให้ท่านเลือกใช้ โดยกว่า 3,500 แอพพลิเคชั่นของ iPad นั้นได้ถูกสร้างไว้รอเรียบร้อยแล้ว แต่อาจจะต้องใช้เวลาในการเลือกและลองใช้งานแอพพลิเคชั่นต่างๆดูเอาเอง

ส่วนนี้เป็นเอกลักษณ์หลักของทาง Apple เพราะไม่มีเน็ตบุ๊คตัวใดที่มี App Store โดยแม้ว่าทาง Intel จะพยายามเปลี่ยนแปลง ก็ยิ่งห่างไกล คนทั่วๆไปรู้จัก App Store ด้วยชื่อเสียงที่โด่งดัง เน้นการใช้งานง่าย ค้นหาง่าย และสามารถเลือกซื้อและดาวโหลดได้ทันที ศักยภาพที่แท้จริงของ iPad ในตอนนี้ ค่อนข้างได้เปรียบมาก เพราะมีขุมทรัพย์นักพัฒนามากมาย ที่จะคอยช่วยพัฒนาแอพพลิเคชั่นออกมาอยู่ตลอด แต่ก็ต่างจากเน็ตบุ๊คที่รัน Windows OS คุณก็จะถูกจำกัดไปด้วยโปรแกรมเดสก์ท็อปเช่นกัน แต่ก็มีมากพออยู่แล้ว แต่กระจายอยู่เต็มไปหมด ยากที่จะหาว่าอันไหนเป็นอันไหนบ้าง หรืออันไหนที่คุณต้องการใช้งานจริงๆ โดยถ้าคุณเป็น Power User อันนี้ก็ไม่ใช่ปัญหา แต่ถ้าเป็น User ทั่วๆไป App Store กินขาด

ประสิทธิภาพโดยรวมของ iPad

ถ้าถามว่าใช้ iPad แล้วเพลินไหม? แน่นอนใครๆก็คงตอบว่าใช่ มันเป็นจุดเด่นทางด้านซอฟแวร์ของเขาเลยทีเดียว แต่คุณก็ไม่สามารถใช้งานพวกแอพพลิเคชั่นแบบเดียวกับบนเดสก์ท็อปได้ อันนี้น่าเสียดายไปหน่อย แต่สิ่งที่ iPad สามารถทำได้นั้น เรียกได้ว่าสุดยอดในตัวมันเองทีเดียว ด้วยระบบสัมผัสที่ชั้นหนึ่ง ตอบสนองได้รวดเร็ว แถมสีและมุมมองของภาพจัดอยู่ในระดับเทพเลยทีเดียว รูปแบบต่างๆถูกออกแบบให้ใช้งานง่ายและเพลิดเพลินไปกับระบบมีเดียบนหน้าจอ ทั้งสีสันและความคมชัดที่จะคอยดึงดูดให้ท่านเล่นมันทุกยามที่ว่างเลยทีเดียว ทาง Apple เองก็คงพยายามออกแบบให้ทั้งระบบคอมพิวเตอร์ทั้งหมดอยู่เพียงแค่ปลายนิ้ว สัมผัสเท่านั้น โดดเด่นและสนุกสนาน แทบจะไม่มีระบบสัมผัสอันใดที่จะมาทัดเทียมระบบของเจ้าตัวนี้ได้ลเยทีเดียว

แต่โชคร้ายที่ทาง Apple ได้จำกัดการใช้งานของ iPad ในด้านฮาร์ดแวร์ ทั้งไม่มี WiFi ไม่มี USB พอร์ตและไม่มี SD Card Slot แต่สองอันหลังนั้นสามารถเพิ่มได้ ราคาอยู่ที่ 30 เหรียญ โดย USB พอร์ตจะมีเอาไว้สำหรับอัพโหลดภาพจากกล้องเท่านั้น ตัว USB จะไม่รองรับการปริ้นงาน Webcam หรืออุปกรณ์อื่นๆนอกจากกล้อง

จุดเด่นของ iPad

ข้อดี:

* จัดการแอพพลิเคชั่นได้รวดเร็วมาก แถมรู้สึกว่าเร็วกว่าเน็ตบุ๊คทุกรุ่นที่เคยใช้งานมา
* เป็นเครื่องให้ความบันเทิงเต็มรูปแบบที่ยอดเยี่ยม สามารถเล่นและแสดงผล HD Media, เพลงและสไลด์โชว์ต่างๆ
* แบตเตอรี่ใช้งานได้ยาวนานกว่า 10 ชั่วโมง พร้อมพกพาทั่วราชอาณาจักร
* สามารถใช้งาน App Store ได้ และทำงานร่วมกับแอพพลิเคชั่นใหม่ๆได้
* จอแสดงผลทั้งสี ความลึก มุมมองภาพ และระบบการตอบสนองแบบสัมผัสมีประสิทธิภาพสูงสุด

ข้อเสีย:

* จำกัดการใช้งานเพียงแค่ Mobile OS ไม่สามารถติดตั้ง OS X แบบตัวเต็มได้
* ยากต่อการทำงานจริงด้วยการจำกัดความสามารถของอีเมล์และไม่สามารถติดตั้งเดสก์ท็อปแอพพลิเคชั่น
* ต้องใช้ Apple’s iTunes เท่านั้นในการจัดการระบบ
* ไม่มีฐานรองตั้งตัวเครื่อง ต้องซื้อแยกเองเมื่อต้องการใช้งาน
* ไม่สามารถอัพเกรดฮาร์ดแวร์ได้

สุดท้ายท้ายสุดผมขอฝากลิงค์ไว้ด้วยละกัน
http://forum.munkonggadget.com/detail.php?id=43594