ไปร้านเฮียดีกว่า ให้พนักงานแนะนำ แล้วจะพอจับแนวทางตัวเองได้คร่าวๆละครับ เพราะอย่างไรเสีย ผมว่าตอบโจทย์ได้มากที่สุดคือตัวหูฟัง ครับ ที่เหลืออย่างอื่นตามมาทีหลังเช่น Player , สายสัญญาณ , ตัว Player , สายไฟ ฯลฯ

สรุป ไปร้านเฮีย หาหูที่ถูกใจตรงแนวให้ได้ก่อนครับ เดี๋ยวมันจะไปต่อได้เองละครับ 555+

พี่ ตอบได้ตรงประเด็นครับ แต่บางคน อยู่ต่างจังหวัดเช่น ยะลา นราธิวาส หมดปัญญา ไปนั่งลองครับ ได้แต่อาศัย อ่านริวิวเอา แล้ว สั่งซื้อ ตรงนี้ ผมถามเผื่อ ๆไว้ด้วยครับ

▲
▲

ขอตอบให้คนดี.. มีน้ำใจเผื่อแผ่เพื่อนฝูงครับ...

"ถ้าว่า เรา ฟังเพลง แนว ต่างๆ เช่น ป๊อบรีอค ไทยๆ ควรเลือกใช้
(หูฟัง โทนเสียงแบบไหน) ( สายต่อ โทนเสียงแบบไหน) ( แอมป์โทนเสียงแบบไหน)
ถึงจะเหมาะสมกับ แนวดนตรี นั้นๆ"....

ตอบ: ถ้าฟังเพลงแนวตลาดทั่วๆไป ก็ควรเลือกหูฟังที่ไม่เด่นไปทางใดทางหนึ่งมากเกิน เบื้องต้นต้องถามก่อนว่า ตัวคุณถนัดหรือชอบหูฟังประเภทไหน in ear / ear bud / full size แล้วค่อยมาเจาะจงเลือกรุ่นดูอีกที ทั้งนี้ก็ดู "งบ" ด้วยแหละครับ

แต่เบื้องต้นผมแนะนำให้ลอง "พระกาฬไวแสง" ก่อนก็ได้ เพราะราคามันพันนิดๆ และฟังได้ครอบจักรวาฬ

ต่อไปคือสายต่อ ซึ่งก็ต้องดูว่าคุณใช้ "เครื่องเล่น" แบบไหนด้วยครับ คือจะเป็น mini-mini หรือ Dock-mini หรือ XLR หรือ balance

เบื้องต้นสายต่อพวกนี้มีเสียงแตกต่างกันไปตาม "วัสดุ" ที่ใช้เป็นตัวนำ

สายเงิน จะให้เสียงออกคม ใส กรุ๊งกริ๊ง สายทองแดง จะให้มวลเสียง ความหนา อิ่ม

ต่อไปคือแอมป์ อันนี้ถ้าไม่ได้ซีเรียสก็ไม่ต้องซื้อ (เดี๋ยวยาว) ที่สำคัญแอมป์มีหลายขนาด แอมป์สำหรับต่อกับเครื่องเล่นก็เล็กหน่อย แอมป์สำหรับต่อกับคอมพ์หรือเครื่องเล่นซีดีก็ควรใหญ่หน่อย....

ตรงนี้ผมแนะนำเล่นพวกตระกูล nuforce ไปก่อน เพราะเสียงมันเน้นรายละเอียด ไม่ได้แต่งเติมอะไรมากนัก ทำให้ได้มวลและเนื้อเสียงแท้ๆ เหมาะกับแนวที่คุณชอบ

หรือจะอุดหนุน "พระจันทร์ดำ" ก็มิได้แพ้ชาติใดในโลกเช่นกัน 5555

สรุปคือ... ใช้หูที่ออกกลางๆ ไว้ก่อน ใช้สายที่มีส่วนผสมของเงินและทองแดงร่วมกันก็ได้ และใช้แอมป์ที่ไม่แต่งเติมสีสันมากจนเกินไป

พอเราฟังไปสักพัก เราจะรู้ว่าเราอยากได้อะไรเพิ่ม หรืออยากลดอะไรลงไป

ถึงตอนนั้นล่ะ... ปากทางประตูแห่ง "กิเลส" จะเริ่มเปิดออก...

แล้วคุณจะเห็นหน้าพวกเราหลายๆ คน ยืนยิ้มแห้งๆ ทักทายอยู่ในประตูนั้น....เหอๆๆๆๆ

สวัสดีจ้าาา แหะ แหะ แหะ (ยืนยิ้มแห้งๆ แต่ไม่แห้ง คริย์คริย์)

อย่างที่เบิร์ดย์ว่านะ อันดับแรกเลยต้องดูว่า ชอบหูประเภทไหนก่อน คือ ชอบแบบ สอดใส่เข้าข้างใน(in-ear) หรือ สวมใส่แค่ปากทาง(ear-bud) หรือ ใหญ่ๆเต็มๆ(full size)

หูบางประเภทจะเหมาะกับเพลงบางแนว แต่ก็มีหูบางตัว (เน้นว่าบางตัว) ฟังได้ทุกแนว เช่น
1. ไวแสง เป็น in-ear ที่ฟังได้ทุกแนว ตั้งแต่ audiophile ยัน สุทราภรณ์เลยครับ รายละเอียดดีมาก ทุกย่านความถี่ไม่เกยทับกัน สเตจกว้างมากแม้จะเป็น in ear (ทั้งนี้ขึ้นอยยู่กับขี้หูในรูด้วยนะครับ 555 )ทำให้ฟังรายละเอียดของเสียงได้ชัดเจนมาก สอดใส่แล้วจะมีความสุขสุดยอด ...

2. MX980 เป็น ear bud ที่ฟังได้ทุกแนวเช่นกัน ตัวนี้สุดๆ ไม่ต้องสาธยาย

3. fullsize ที่ฟังได้ทุกแนวเท่าที่เคยลองมาก็มี AKG181DJ ตัวนี้สเตจกว้างรายละเอียดดีมาก เบสโคตรตึบ ฟัง audiophile ได้เพราะ พอๆกับ hiphop .. แต่น่าเสียดายที่หาซื้อยากละ ไม่รู้ร้านเฮียยังเหลือรึป่าวลองสอบถามดูครับ

ส่วนเรื่อง ต้นทางของเสียง ในเบื้อต้นของการเริ่มเล่นนะครับ แนะนำว่า ฟังแบบต่อตรงอย่างเดียวพอครับ ฟังแบบนี้ไปนานๆครับ พอถึงเวลาที่จะขยับ เราจะได้เห้นความแตกต่างว่า มันดีขึ้นกว่าเดิมยังไง ...

อ่ะให้ท่านอื่นมาตอบมั่ง
จุ๊บย์ๆ

ก่อนอื่นต้องขอบอกก่อนว่าไม่ได้รุ้เยอะแต่เข้าใจความรุ้สึกคนหาข้อมุลก่อนตัดสินใจซื้อ
ว่ากันด้วยเรื่องรูปแบบก่อนครับ (อาจจะไม่อยากรู้55)
สำหรับข้าน้อย ก็ขอต่อยอดจากท่านด้านบนนะครับ คือ อีกอย่างก็ลักษณะการใช้งานและฟังเพลงของเราครับ....
คือถ้านั่งแหมะอยุ่กับที่ เป็นผมก็ยกพวกตัว full size มาก่อนครับ เพราะรุ้สึกกว้างๆดี แล้วก็ปกปองกระหม่อมดีรวมถึงรุ้สึกส่วนตัวเป็นพิเศษ ( อันนี้ส่วนตัวไปนิด )
แต่ถ้าเดินทางบ่อยไม่ได้อยุ่กับที่กับร่องกับรอยผมว่าความคล่องตัวน่าจะแพ้แล้วล่ะครับ full size คงจะสุ้แบบอื่นลำบาก แต่ก็มีพวกกึ่งfullsizeให้เลือกเล่นได้ครับถ้าชอบ ..
ขอจบเรื่องรุปแบบคร่าวๆ ก่อนนะครับ
ส่วนสุ้มเสียงนั้น ถ้าสมมุติชอบฟังพี่เบิร์ด(ผมก็คนนึงล่ะครับ) ผมก็เลือกตัวที่ใช่และตัวที่ชอบไปก่อนครับตามงบประมาณที่มีอยุ่อาศัยการลองเป็นหลัก...แต่ตอนลองนี่พยายามมีตัวในใจไว้ไม่ต้องเยอะครับ 3-4 ตัวก็พอ(ตัวที่ท่านพี่ทั้งสองข้างบนแนะนำก็แจ๋วครับ) เพราะไม่งั้นยิ่งถ้าท่านเจ้าของกระทู้ ไปลองเยอะยิ่งงง วุ่นวายใหญ่เพราะเดี่ยวก็ชอบอันนั้นเสียดายอันนี้ ถ้าเรากำหนด วงแคบลงมาจะได้ไม่ต้องจับจดไงครับ อ้อ...อีกอย่างกำหนดตามงบในกระเป๋าไว้ด้วยครับ 55 แต่ก็อีกนั่นแหล่ะครับ หูราคาแพงกว่าใช่ว่าเราจะชอบครับบางทีอาจจะไปชอบตัวที่ไม่แพงก็ได้
ถ้าจะให้ดีเป็นผมในกรณีที่ยังเดินดุ่มไปที่ร้านแล้ว มีขั้นตอนแบบนี้(สำหรับผมนะ55)

1 เดินไปที่ร้านพร้อมบอกจำนวนเบี้ยในกระเป๋า
2 บอกจำนวนหูฟังและประเภทที่ต้องการจะสอย (ถ้าติดยี่ห้อด้วยอันนี้ก็แล้วแตนะครับ)
3 เตรียมเพลงที่เราฟังบ่อยและมีความสุขขึ้นมา ( เพราะเราจะรุ้ได้ทันทีครับว่าตรงใจเรารึเปล่าก็เพลงพวกนี้แล่ะ)
4 พอเค้าหยิบมาให้แล้วไม่ต้องสนใจรุ่นรึยี่ห้อครับ ( เราบอกงบเค้าไปแล้ว )
5.... นั่งหลับตาจัดการฟังไปเลยครับ ทุกตัว เพลงที่เราชอบ ผมเชื่อครับว่าจะรุ้ว่าตัวไหนเป็นตัวที่เราชอบที่สุดครับ.......ดีไม่ดีหูทองไม่ทองมันก็มาจากอีตรงนี้แหล่ะครับ เพราะเราจะเห็นความแตกต่างระหว่างหูแต่ละอันเลยน่ะครับ....

6...คราวนี้ก็ควักออกมาครับไอ้เงินในกระเป๋าน่ะ จ่ายเค้าไปครับ ลองมาตั้งนานแล้ว.....
7. ยืนรอรถเมล์ฟรีเพื่อประชาชนกลับบ้านครับ

แต่ละคนชัดเจนจริงๆ...แบะๆๆๆ

เริ่มแรกถ้าหัดฟังจริงๆ ถ้าฟังเพลงตลาดๆ แนะนำว่ายังไม่ต้องหาตัวที่ราคาแพงๆครับ เรื่องแอมป์นั้น เอาไว้ทีหลังสุดเพราะแอมป์เป็นแค่ส่วนขยายๆๆ หลักๆจริงๆ คือ ไฟล์เพลง และ หูฟังมากกว่าล่ะครับ....แบะๆๆๆ

เพื่อนๆๆ ที่รักย์ ช่วยกันตอบแล้วหลายท่านเลยล่ะครับ 555

ปัญหาคือติดตรงที่อยู่ไกลนี่ล่ะ ทำให้การเลือกฟังหรือทดสอบฟังค่อนข้างจำกัด แต่ก็ยังพอมีทางครับ ขั้นแรกๆๆ เลยน่าจะทำแบบนี้ก่อนล่ะ


- เลือกให้ได้ก่อนว่าอยากจะได้หูฟังทรงไหน ทรงไหน ก็หมายถึงตัวใหญ่ หรือตัวเล็กครับ

- เลือกทรงได้แล้วก็เลือกรูปแบบ คือเอาแบบ Earbud ดี (แบบเล็กๆๆที่แถมกับ iPod) หรือเอาแบบ inear (ที่ใช้เสียบลึกลงในรูหู)

- ให้เลือกคร่าวๆๆ ว่าหูฟังที่ตัวเองชอบอยู่ในกลุ่มไหน แล้วเมล์หาผมก็ได้ครับ เดี๋ยวผมจัดใ้ห้ได้จ้า

หรือถ้ามีโอกาสมากรุงเทพ แวะมาที่ร้านได้เลยครับ รับรองว่าน้องๆ ทีมงานทุกคนแนะนำให้ได้ และสามารถใช้เวลาเลือกตัดสินใจได้เต็มที่เลยจริงๆๆ คร้าบบบ 555

หากว่ายังฟังไม่ออก ไม่รู้จะไปแนวไหน ต้องลองหาฟังเองครับ ร้านเฮียมีหมด ถูก-แพง เพลย์เยอร์-แอมป์ หูฟัง สายต่อ ไอ้ครั้นจะให้ตอบว่า ฟังเพลงแบบนี้ ใช้อะไรมาแมช การแมชแต่ละคนไม่เหมือนกันครับ ก็คือ ความชอบแต่ละคนไม่เหมือนกัน ยกตัวอย่างเช่น ฟังพี่เบิร์ด คนนึงอาจจะอาจได้เสียงร้องโปร่งๆก็ไปไอพอด อยากได้เบสมากๆ เป็นลูกๆก็โซนี่ อันนี้แค่เฉพาะเพลย์เยอร์ ยังมี ไอริเวอร์ แซนซ่า ฯลฯ เอาไปแมชกับหูฟังอีก ทั้ง เซนไฮฯ ไวแสง เวสโทน ยูอี

ที่ จขกท.ถามมา มันกว้างมากครับ คุณถามทั้งหมด ตั้งแต่ เพลย์เยอร์-หูฟัง-แอมป์-สาย ถ้าสมมติมีอย่างละ20แบบยี่ห้อ ก็เท่ากับ20ยกกำลัง4นะครับ ลองจำกัดแนวให้แคบลง หาแนวทางตัวเองก่อนดีไหมครับ ค่อยๆลองฟัง นั่งร้านเฮีย ขอฟัง นั่งคุย สงสัยก็มาถามกัน ค่อยเป็นค่อยไป
อันนี้ผมได้ยินมานานมาก เกจิท่านนึงเคยบอกไว้ว่า หนทางออดิโอไฟล์ไม่มีทางลัด ครับ

ขอขอบคุณทุกคำแนะนำครับ อ่านดุแล้ว พอจะมองภาพรวมคร่าวๆ ได้บางส่วน
วงการนี้ ข้อมุลค่อนข้างกว้างมากเลย เดี่ยว ต้องขยัน ค้นข้อมูลต่อไป
ถ้าทุนพร้อมแล้ว ขอรบกวน เฮียมั่นคง จัดเซต มาฝึกหู สัก 2 ชุดนะครับ
(ยังมึน อยุ่ว่า เสียงโปร่ง เสียงเบส หนา เบสอิ่ม มันเป็นยังไง อิอิ ฟังออก แต่ว่า ดังตื้บๆ คือเบส)
เรียงความสำคัญ มากไปหา น้อย คือ แนวดนตรีที่ชอบ >>>เครืองเล่น>>> ไฟล์เพลง >>>หูฟัง >>>แอมป์>>> สายสัญญาณ แบบนี้ ถุกต้องไหมครับ

ดำๆๆๆ ดุ่ยๆๆๆๆ ดำๆๆๆ ดุ่ยๆๆๆๆ !!!!! .... ต่อมาจากบอร์ด " ใครเคยฟัง acappella metal บ้าง? "
อารามณ์มันค้าง ฮ่าๆๆ

พอจะให้ความหมาย จำกัดความ ของ คำว่า
เสียง โปร่ง , ใส, อิ่ม, เบสแน่น, และแบบอื่นๆ ได้ไหมครับ ว่า ลักษณะมันเป็นยังไง
ยกตัวอย่างเช่น เสียงใส นี่เหมือนน้ำ สะอาด นิ่ง(มั่วเอาอิอิ)
จะได้เป็นแนวทางในการฝึกจับเสียงว่าเสียงใสเป้นแบบนี้เอง หนอ อะไรแบบนี้ อ่ะครับ (พิมพ์เอง งงเอง อิอิ)
ผมว่า ท่านผู้รู้ร่วมกันเปิด คอลัมน์ โรงเรียน มั่นคงการดนตรี
ฝึกฟังเพลงขั้น อนุบาล ยันปริญญาเลยก้อดีนะครับจะได้เป็นแหล่งค้นข้อมูลให้ น้องๆได้ศึกษาสืบไป (เว่อร์ไปไหมนิ)

ลองปรับ Equalizer ในคอม หรือในเครื่องเล่น หรือคอนโซลดูก็ได้ครับ ซ้ายสุดคือย่านความถี่ต่ำ ให้เสียงต่ำ เสียงเบส ขวาสุดคือย่านความถี่สูง เสียงสูงเสียงแหลม เสียงใส รายละเอียดยิ๊บๆ อยู่ตรงนี้
ลองปรับให้แฟลตก่อน แล้วลองเพิ่มทีละอย่างให้สุด ดูว่าต่างกันยังไง รับรู้ถึงโทนเสียง เช่นถ้าเสียงใส ก็จะได้ยินเสียงที่ ชัดมากๆ และมีเสียงต่ำปนอยู่น้อยมาก ก็คือด้านขวาของEQจะมากกว่าด้านซ้าย ส่วนเสียงอิ่มก็พอดีๆ มีย่านความถี่ต่ำมาช่วยอุ่มให้เนื้อเสียงมีน้ำหนักมากขึ้น รู้สึกฟังแล้วเพราะ เบสแน่น คือเบสที่ไม่หลวมไม่ย้วย ก็คือย่านความถี่ต่ำจะเยอะ แต่ย่านความถี่ต่ำ-กลางจะต้องไม่มาปะปนให้บวมค้างนานมากเกินไป แล้วทีนี้ก็ลองปรับแฟลตแล้วค่อยเพิ่มในส่วนที่ต้องการ แล้วก็ลองกับหลายเพลงๆ ทีฟังบ่อยๆ แล้วก็หาค่ากลางเอา แต่สุดท้ยก็มาตายที่ขีดจำกัดคาแรกเตอร์หูฟัง ก็หาหูฟังกันใหม่อีกจนกว่าจะเจอคู่แท้ ส่วนเสียงโปร่ง คงเหมือนกับเวลาขึ้นลิฟท์อยู่ในลิฟท์นานๆ พอออกมาจากลิฟท์ โล่งเลย ไร้สาระจริงๆเลยผม ขออภัยนะครับ