5555 หายไปนาน
พอดีนึกเรื่องบางเรื่องขึ้นมาได้ ส่วนตัวผมเองได้ยินหนาหู ได้ยินตลอดเวลา
พาลทำให้ฟังเพลงอย่างไม่มีความสุขไปในบางโอกาส
เรื่องของเรื่องก็คือ ไอ้เจ้าอาการ "หมั่นไส้" นี่แหละครับ
ต้นเหตุคือ ได้ยินบ่อย รวมถึงบางครั้งก็โดนกับตัวเอง บางทีคนรู้จักโดนมา ก็เอามาเล่าให้ฟัง
ส่วนตัวผมไม่เคยเห็นด้วยกับความ "หมั่นไส้" นั้นเท่าใดนัก และออกจะต่อต้านเป็นพิเศษอย่างออกนอกหน้า
เนื่องจากรู้สึกว่า ความรู้สึก "หมั่นไส้" เป็นความรู้สึกที่ไม่ได้เกิดจากการถูกทำให้เสียประโยชน์จนต้องตอบโต้ เพราะการหมั่นไส้ส่วนใหญ่มักจะแสดงออกในเชิงไม่พอใจ ทั้งที่ตัวเองไม่ได้เสียอะไรเลย และเกือบจะร้อยเปอร์เซ็นต์ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรด้วยเลย
สำหรับผมแล้ว ความรู้สึก "หมั่นไส้" เป็นความรู้สึกที่ไร้สาระและไม่เกิดประโยชน์
เรื่องของเรื่องก็คือ ผมใช้ไอพอด ใช้เพราะชอบ ใช้เพราะ "พอใจ" ในเสียง ในรูปลักษณ์การออกแบบ ชอบในความจุ และผมใช้เงินผมซื้อมา เงินที่มาจากน้ำพักน้ำแรงสุจริต ไม่ได้ขอใคร
ลักษณะนิสัยของผม คือผมชอบเปลี่ยนเพลง อยากฟังอะไรก็ฟัง อยากทำอะไรก็ทำ โดยเงื่อนไขว่าการกระทำเหล่านั้น ต้องไม่ไปทำให้ใครเดือดร้อน ดังนั้นบ่อยครั้งในที่สาธารณะจะเห็นผมเอาไอพอดออกมาเปลี่ยนเพลง บางครั้งก็เลือกเป็นเพลลิสต์ บางครั้งก็เลือกแม่มทีละเพลง สิบเพลงสิบครั้ง ตามความพึงพอใจที่ไม่กระทบบุคคลอื่น บางครั้งก็เอาหูสีขาวที่แถมมาใส่ฟัง อารมณ์แบบอยากรู้สึกว่าใช้ไอพอดแบบเพียวๆ ไม่ปรุงแต่ง ไม่ต้องใช้หูเทพราคาแพง
แต่เกือบทุกครั้ง ผมต้องโดนสายตาบางคู่ คำพูดบางคำ โพสน์บางโพสน์ กระแนะกระแหนว่าเป็นพวกอยากโชว์ กลัวไม่รู้ว่าใช้ไอพอดหรือไง อะไรทำนองนี้
ในเบื้องต้นนั้น
ผมรู้สึกว่า เอ เงินก็เงินกรู ของก็ของกรู ไอ้อาการต่างๆที่ทำอยู่ ก็ทำภายใต้ขอบเขตที่กรูพึงมี ไม่ได้รบกวนใครไม่ใช่หรือ
เหตุไฉนจึงต้องมาวิจารณ์
รึการที่เอาไอพอดออกมาเลือกเพลงนั้น ไปทำให้ต่อมไตอะไรของบุคคลเหล่านั้นกระพือเพื่อมจนปากอยู่ไม่สุข เกิดอาการ "หมั่นไส้" ขึ้นมาทันใด ท่านเหล่านั้นเสียประโยชน์หรือโดนริดรอนสิทธิอันใดจากการกระทำของผมหรือเปล่า
รึว่าถ้าใช้ไอพอด ก็ต้องห้ามเอาออกมาเลือกพลงในที่สาธารณะเพราะจะทำให้คน "หมั่นไส้"
หลายคนปล่อยให้ "ความหมั่นไส้" เปลี่ยนชีวิต
เท่าที่เคยไปมาหลายประเทศ เท่าที่เคยสอบถามจากเพื่อนที่อาศัยอยู่หลายๆประเทศมาเป็นสิบปี คำตอบที่ได้น่าแปลก
แปลกตรงที่ เพื่อนมันตอบว่า ....
วัฒนธรรมที่นี่เค้าไม่ได้มาหมั่นไส้กัน คือเค้าไม่รู้จักอารมณ์หมั่นไส้น่ะ ต่างคนต่างอยู่ ใครทำอะไรก็ทำไป อย่ามาทำให้เดือดร้อนกูเป็นใช้ได้
ฟังไปก็ดูเหือดแห้งความเอาใจใส่ต่อเพื่อนมนุษย์ไปซักนิด
ประเทศเรา เป็นประเทศที่เอาใจใส่คนรอบข้าง ซึ่งเป็นวัฒนธรรมที่น่ารักมากอยู่แล้ว
ดังนั้น ขอเถอะครับ เอาใจใส่แต่เรื่องที่เป็นประโยชน์กันเถอะครับ
ปัจจุบัน คนโดนยิงก็เพราะมองหน้าแล้วหมั่นไส้ ทั้งที่ไม่รู้จักกัน
เห็นคนอื่นได้ดีแล้วหมั่นไส้
จริงๆแล้ว หมั่นไส้เนี่ย มันเป็นเงาของความอิจฉาริษยานะครับ
ระวังอย่าไปหมั่นไส้ใคร
หึ หึ หึ