เจ้าสิงคโปร์บอกว่า เออ รุ้น่าว่าแพง แต่อยากจะให้ผมเปิดโลกทัศน์ อย่ามัวแต่ฝังใจกับระบบรอบทิศเก่าๆๆ เพราะไอ้เครื่องที่ว่ามันไม่เหมือนเครื่องในอดีต หรือไม่เหมือนเครื่องถอดรหัส เปลื้องรหัสแบบสมัยก่อน แต่ไอ้เครื่องนี้คือเครื่องโคลนนิ่งเสียง

โคลนนิ่งเสียง ??? สมองผมเริ่มลังเลและนึกในใจ

จำลองไงวะ ทำไมต้องจำลอง แล้วมันเหมือนท้องฟ้าจำลองหรือเปล่า


เจ้าสิงคโปร์บอกว่า เอางี้ดีกว่า เดี๋ยวจะหอบเอาเจ้า Realiser A8 มาทดสอบให้ถึงเมืองไทย ขอเพียงแต่ผมมีห้องฟังระบบ 7.1 ที่เก็บเสียงดีๆๆ ผมบอกว่า ไม่มีล่ะ ถ้าจะเอาให้มีจริงๆๆ อาจจะไม่มีทางมีในชาตินี้ตอนนี้ เจ้าสิงคโปร์บอกว่างั้น เอาแค่ 2 แชลแนลแจ่มๆๆ ก็ได้

ผมบอกว่า งั้นโอเคเลย........

วันนี้ผมเลยนัดแนะกัน มาร่วมทดสอบกันที่ร้านซอมซ่ออย่าง Hifilover ที่พันทิพย์ประตูน้ำ งานนี้เก็บกวาดห้องจนเรี่ยมเร้ เพราะว่าเราไม่ต้องการให้เพื่อนต่างชาติมาว่าเราได้ว่า ร้านเราสกปรก โสโครก รกยิ่งกว่ารังหนู

หมูหวานเตรียมการกวาดถู และก็ไม่มีอะไรมากครับ เราเตรียมลำโพง 2 แชลแนลดีๆๆ มีซีดี มี Sennheiser HD800 และมีแอมป์ Schiit Vahalla อีกตัว

เพื่อนสิงคโปร์มาตรงเวลา แล้วเราก็เริ่มทดสอบกัน โดยรูดประตูบานเลื่อนร้านลงมา เรียกว่าเอาเท่าที่ได้ เพื่อทดสอบว่าเจ้าเครื่องนี้มันทำได้จริงหรือเปล่า เพราะถ้าทำได้จริง ห้องรังหนูมันก็ต้องทำได้ แต่ถ้ามันทำไม่ได้จริง ต่อให้ห้องระดับ 10 ล้าน มันก็ทำไม่ได้อยู่ดี

นี่คือทฤษฎีคนจนที่ผมยึดถือมาโดยตลอดนั่นเอง .........

555

เจ้าสิงคโปร์มาถึงก็ไม่พูดพล่ามทำเพลงล่ะ เรียกว่าลงมือลุยต่อ และประกอบให้พวกเราฟังทันที ผมเองให้หมูหวานเป็นคนฟังว่าต้องเซ็ท สระ ซอย ดัด โกรก ยังไง เพราะถ้าจะให้ผมเซ็ทเอง อาจจะไม่ถนัดนัก เพราะผมถนัดวิจารณ์ และเอาเท้าเตะตูดเจ้าหมูหวานซะมากกว่าว่างั้น

ไม่มีอะไรยากเย็นครับ แค่ลงไปปล้ำกับเจ้าสิงคโปรนิดๆๆ หน่อยๆๆ จิ้มนู่นจิ้มนี่ เขี่ยนู่นเขี่ยนี่ เสียบนู่นเสียนี่ ทุกอย่างก็ใกล้เรียบร้อย

อุปกรณ์ทุกอย่างก็ทั่วไป ตามบ้านเรือนที่พวกเราใช้นี่ล่ะครับ ไม่ได้วิเศษวิโสลงมาจากสวรรค์ชั้นวิมานล่ะครับ 555

เจ้าสิงคโปร์อธิบายยุกยิกกับเจ้าหมูหวาน โดยที่มีผมยืนฟังอยู่ข้างๆ ฟังออกมั่งไม่ออกมั่งตามเรื่องตามราว แต่รับรองว่ารู้เรื่องแน่นอน ผมเองเมล์คุยกับเจ้าสิงคโปร์คนนี้ทุกคืน จนเมียผมคิดว่าผมคงมีอะไรกับเจ้าคนสิงคโปร์

และเมียเจ้าสิงคโปร์ก็คงคิดว่ามันมีอะไรกับผมนั่นเอง 555

ตอนนี้กำลังสาธิตและกดปุ่มต่างๆ ว่าอันไหนมันทำงานยังไง ปุ่มไหนเค้าใส่เกินมา ปุ่มไหนชาตินนี้ก็ไม่ได้ใช้ทำนองนั้นล่ะครับ

ขั้นแรกเลย เจ้าสิงคโปร์เอาสายคล้องคอมาคล้องคอผม (ที่เห็นคือคอเจ้าเบียส) มันเป็นเครื่องสำหรับเสียบอุปกรณ์ตัววิเศษ นั่นก็คือตัวไมค์บันทึกเสียง

หลักการคือต้องแขวนไมค์บันทึกเสียงไว้ที่คอคนจะฟังจริง แล้วก็ไม่มีอะไรครับ เอาไมค์นั่นแหละบันทึกเสียงจากห้องที่เราไปนั่งฟังได้เลย ซึ่งห้องนั้นจะมูลค่า 10 ล้าน หรือมูลค่า 5 หมื่น เจ้าไมค์โครโฟนบันทึกเสียงมันไม่สนใจหรอกครับ

มันมีหน้าที่บันทึกเสียงและอัดเสียงลงเครื่อง Realiser A8 เท่านั้น อย่างอื่นเช่นเรื่องผัวใครมีเมียน้อย หรือซุบซิบนินทาชาวบ้าน เจ้าไมค์โครโฟนตัวนี้มันไม่สนใจหรอกครับ 555

ไมค์อันนี้ล่ะครับที่เป็นทีเด็ด ตัวใหญ่เท่าเม็ดถั่วดำ และมีโฟมคล้ายๆๆ โฟมอินเอียร์ทั่วไป ไมค์มันมี 2 ตัว เอาไอ้ 2 ตัวนี่ล่ะยัดใส่หู แล้วโยงสายไปที่เครื่อง A8 เจ้า A8 จะทำการวัดระยะสูงต่ำ วัดทุกอย่างที่มันวัดได้ วัดอุปนิสัยคนฟัง และสำรวจทรัพย์สินของคนฟังไปในตัว ว่าวันนี้ได้พกเครดิตการ์ดมาด้วยหรือเปล่า

ไมค์ตัวนี้แพงมากครับ เป็นของที่มากับตัวเครื่อง โดยที่เจ้าสิงคโปร์บอกว่า ถ้าหายคือซื้อใหม่ยกชุด ไม่มีอะไหล่ให้ เพราะอันนี้คือทีเด็ดของ Smyth (อ่านว่าสมิธ) เป็นไมค์โครโฟนจิ๋วที่ใช้บันทึกเสียง

และที่สำคัญผลิตจาก United Kingdom หรือสหราชอาณาจักรอังกฤษนั่นเองจ้า

แพงๆๆๆๆๆ ตัวนี้แพงจ้า

แล้วตัวนี้ล่ะคืออะไร คล้ายกับกล้องแคมชะมัดเลย ไอ้นี่ไม่ใช่กล้องครับ แต่เป็นตัวเซ็นเซอร์ที่ไว้ตรวจสอบ และคอยช่วยเราเทสองศาของศีรษะ เวลาเราหมุนหัวตาม เจ้าเซ็นเซอร์ตัวนี้ก็จะช่วยตรวจจับให้เราว่างั้น

ผมเองมองตอนแรกนึกว่าเป็นกล้องวิปริตแบบที่วัยรุ่นที่เค้าชอบแก้ผ้าอวดกันในเว็บ camfrog แต่ปรากฏว่าไม่ใช่ครับ แต่แหมหน้าตามันใช่เสียนี่กระไรเลยล่ะ 555

เราเอากล้องไปตั้งไว้ให้ได้ระยะของมันหน่อย เจ้าเครื่อง A8 นี่ไม่มีหลักการอะไรยุ่งยากซับซ้อน ผมจะสรุปให้ฟังเป็นข้อๆๆ ในช่วงท้ายรีวิวนะครับ

หลักการคร่าวๆๆ คือ หาห้องฟังที่ดีๆๆ ให้ได้ จะ 5 ล้าน 10 ล้าน หรือเป็นห้องฟังตามร้านคาราโอเกะผีแถวสะพานควาย เจ้าเครื่องนี้ก็จะทำการลอก หรือก๊อปปี้เสียงมาให้เราได้ฟังกัน โดยมันจะบันทึกไว้ในหน่วยความจำในเครื่อง หรือจะใส่ลง SD card ก็ได้

โดยใช้ไมค์โครโฟนเป็นตัวบันทึกนั่นเอง และมีการวัดองศาต่างๆ อีกเล็กน้อย หลังจากที่วัดเสร็จก็ใช้หูฟังนั่นแหละเป็นตัวฟัง ซึ่งหูฟังนั้น ขอให้มีคุณภาพดีหน่อย และสามารถตอบสนองความถี่ตั้งแต่ย่านแหลม ยันทุ้มได้ดี ก็เป็นอันใช้ได้เลยจ้า

เล่าย้อนไปนิดนึงครับ เจ้า A8 ขนาดไม่ใหญ่โตอะไรครับ เล็กกว่าเครื่องเสียงบ้านทั่วไปซะอีก แรกๆๆ ผมเห็นเจ้าเครื่องนี้ถึงกับร้องเจี๊ยก เฮ้ยทำไมมันเล็กนัก ตัวแค่นี้ล่ะนะจะขายกันหลายๆๆหมื่น ถ้าเทียบกับ DAC ขนาดเล็ก ผมว่าพอๆๆ กันเลย

แต่จะบอกอะไรให้ เจ้าตัวนี้เป็นเทคโนล่าสุด โดยคิดค้นโดย ด็อกเตอร์สมิท และลงขันหุ้นกันกับสตีเฟ่น สปีลเบิร์ก ถ้าจะเล่าต่อ DR.Smyth ก็คือคนคิดระบบเสียง DTS นั่นเอง

วันนี้เซ็งๆๆ ว่างๆๆ Dr.Smyth ก็เลยคิดค้นของเล่นในกลุ่ม Gadget ออกให้เราได้เล่นกันนั่นเอง และที่ผมทราบมาทางกองบรรณาธิดาร Stereophile กำลังจัดอันดับให้มันเป็น Stereophile recommend class A เร็วๆๆ นี้แล้วจ้า

เที่ยวนี้ต้องขอบคุณคุณหมู พี่เกียรติชัย เพราะตอนแรกผมไม่ได้คิดว่าจะมีใครซื้อ แต่ไปๆๆ มาๆ กลายเป็นว่าคุณหมูคือคนแรกที่ซื้อเจ้า Smyth A8 ไม่นับพี่เกียรติชัยที่ไปธุระทีอเมริกาแล้วเอามาเอง

วันนี้เจ้า A8 ตัวใหม่ๆๆ ซิงๆๆ มาถึง 1 ตัว และมาพร้อมกับเจ้าเดโมอีก 1 ตัว รวมเป็น 2 ตัว วันนี้หลังจากผมปล้ำทดสอบจนแน่ใจ ผมบอกเจ้าสิงคโปร์ว่า

จัดมาอีก 3 ตัวด่วน !!!! 555

กล่องที่เห็นคือกล่องของเจ้า A8 เล็กกว่าลังเบียร์ช้าง หรือลีโอหน่อยนึง มันเป็นงาน handmade in USA และไม่ได้วางขายกันทั่วไปตามร้านขายยาประเภท ก แต่อย่างใดเน้อ 555

รออ่านต่อครับ เขียนต่อเร็วๆนะครับ

อันนี้เป็นด้านท้ายครับ หลักการง่ายๆๆ ถ้าไปจำลองห้องฟังเพลงแบบ 2 แชลแนล เราก็เสียบแค่ ซ้ายกับขวา จะให้ห้องดีแค่ไหนก็แค่ ซ้ายกับขวา แต่ถ้าไปจำลองห้องดูหนังระดับอภิมหาเสี่ย ก็เสียบจนครบ 7.1 แชลแนล

เรียกว่าไปห้องไหน จะห้องฟังเพลง หรือห้องดูหนัง ก็แค่ขอเค้าเสียบเข้าข้างหลังเครื่องก็เป็นอันเสร็จพิธี เสียบเสร็จ เราก็หัวเราะชอบใจ อุ้มซิสเต็มระดับ 10 ล้าน กลับบ้านไปชื่นชมได้เลย

ใครมีเพื่อนฝูงเล่นโฮมเธียเตอร์ หรือจะห้องฟังเพลงระดับ 10 ล้าน เราก็แค่ไปขอเค้าจิ้มๆๆ เสียบๆๆ เท่านี้เราก็สามารถลอกห้องฟังลงเครื่องได้ถึง 64 ห้อง หรือจะให้บ้ากว่านั้น เราสามารถลอกลง SD card ได้อีก

กดเครื่องคิดเลขดู ไปก๊อปห้องฟังดีๆๆ ซัก 50 ห้องๆ ละ 1 ล้านบาท เฮ้ย ตายห่า ได้ซิสเต็มระดับโคตรพระกาฬ ราคารวม 50 ล้านมาฟังสบายใจเฉิบในราคาไม่ถึงแสน.........

ที่เห็นมือผมชี้ เจ้านี่คือเครื่องวัดและตรวจจับครับ ซึ่งหลังจากที่เราก็อปห้องฟังได้มาแล้ว เราก็สามารถมอนิเตอร์ฟังได้ว่า เสียงที่เราก็อปได้ ตกลงมันเหมือนหรือไม่เหมือนกับห้องที่เราไปฟัง

เจ้าเซ็นเซอร์ตัวนี้จะทำการสลับให้เราได้รู้ถึงความน่ากลัวของเทคโนจาก Smyth เลยล่ะครับ เพราะเวลาเราสวมเจ้าหูฟัง มันจะตัดเสียงมาอยู่ในหูฟัง และพอเราถอดหูฟังออก มันจะไปดังที่่ลำโพง

โธ่เฮีย แปลกตรงไหน กะอีแค่ ตัดไปตัดมา ระหว่างออกลำโพง กับออกทางหูฟัง ????

มะเหงกแน่ะครับ 555 มันน่าตกใจคือ เสียงที่ได้จากลำโพง กับเสียงทีอยู่ในหูฟังมันเหมือนกันราวกับแกะ !!!!!!

ใช้หูฟังตัวไหนก็จำลองได้หรอครับ

รูปนี้หวาดเสียวไปหน่อย ผมขออนุญาตทำเป็นขาวดำก็แล้วกัน ไม่งั้นอาจจะไม่ผ่านเซ็นเซ่อร์ของ กบว ล่ะครับ งานนี้ผมทดลองด้วยตัวเอง ว่าไอ้คำโม้ที่เจ้าสิงคโปร์บอก มันจะจริงหรือเท็จเพียงไหน อีกอย่างของราคาขนาดนี้ไม่ใช่บาทสองบาท ขืนไม่เจ๋งจริง มีหวังผมคงต้องติดคุกโทษฐานหลอกลวงประชาชน

หลังจากที่โคลนนิ่งห้องฟังในร้าน hifilover ลงเครื่องแล้ว คราวนี้ก็ถึงคิวผมทดสอบด้วยตัวเอง เราใช้หูฟัง HD800 ตามคำบอกเล่าของเจ้าสิงคโปร์ และมีแอมป์อีกตัวของช่วยเร่งความดัง จริงๆ ไม่ต้องมีแอมป์ต่อตรงจาก A8 ผมก็ว่ามันสุดยอดแล้ว แต่ถ้าจะเอาให้ดังหน่อย ต่อกับแอมป์ Schiit ก็เท่ากับวิเศษยิ่งขึ้นไปอีกนั่นเอง


ผมฟังสลับไปสลับมา เสียงที่ได้จากลำโพงเป็นอย่างไร เสียงที่โคลนแล้วมันก็ได้ยินแบบนั้นจากการฟังผ่านหูฟัง อิมแพ็ค เบสที่ลงต่ำได้แบบที่ต่อให้โคตรหูฟังอะไรในโลกก็ทำไม่ได้ แต่มันสามารถทำได้จากเครื่องนี้ล่ะครับ และที่สำคัญ เวลาเราหันหัวไปซ้ายหรือขวา ตำแหน่งที่เกิดเสียงในหูฟัง มันไม่เลี้ยวซ้ายหรือขวาตาม มันยังคงจำลองให้เรานึกว่าเรากำลังฟังลำโพงอยุ่นั่นเอง

คือเอาเป็นว่าจะเอียงหัวไปทางไหน หูฟังหมุนไปตามหัว แต่เสียงมันถูกตรึงอยู่กลางห้องเหมือนเดิม บ้าแล้ว ผีหลอกกลางวัน มันทำได้ไง ผมนึกในใจ เกิดจากท้องพ่อท้องแม่ เพิ่งโดนเทคโนโลยีหลอกเอาวันนี้เอง มันเป็นเทคโนที่เหลือเชื่อครับ ถ้าเปรียบเทียบกับเทคโนของโทรศัพท์เห็นภาพกันแบบ facetime ผมยังถือว่าเทคโนอันนี้เหนือกว่ามาก

ผมถอดเข้าถอดออก พยายามจับผิดว่ามันมีวาระซ่อนเร้น หรือแหกตากันหรือเปล่า ปรากฏว่ามันคือของจริงๆ ได้ยินจริงๆๆ มันเป็นการฟังเพลงจากซิสเต็มใหญ่ๆๆ ไม่ใช่การฟังหูฟังแบบทั่วไปล่ะครับ ถ้าจะให้บอกมันคือการนั่งฟังเครื่องเสียงบ้าน แต่มาฟังโดยหูฟังนั่นเอง

บ้าไปแล้วๆๆๆๆๆๆ มันทำได้ไงว๊อยยยยยยย 5555

แสบตาครับเฮีย 5 5

ผมฟังแล้วถึงกับอึ้งกิมกี่ยู่หลง งานนี้ไม่ขายไม่ว่า แต่อยากให้เพื่อนๆๆ มาฟังกันฟรีๆๆ เพราะผมตัดสินใจแล้วว่า สั่งตัวเดโมมาให้เพื่อนๆๆ ได้ฟังกันเล่นๆๆ เลยงวดนี้ เรียกว่าไม่ต้องซื้อไม่ต้องหา แต่ต้องมาฟังให้ได้ว่าผมโกหกหรือเปล่า

ถ้าโกหก หรือเจ้า A8 ทำได้ไม่เหมือนจริงที่ว่า ขอให้เหยียบหมูหวาน และกระทืบเจ้าเบียสก่อน โดยให้รอลงอาญาผมไว้ 2 ปีละกันครับ 555 ของเล่นพวกนี้มันเป็นความมหัศจรรย์ใจ เรียกว่าวันนี้เราเซ็ทกันแบบคร่าวๆๆ ทดสอบให้มันลอกซิสเต็มในห้องฟังห่วยๆๆ มันยังสามารถทำให้เราได้ยินกันได้เพียงนี้

งวดนี้ใครผ่านไปประตูน้ำ ต้องไปฟังให้ได้เน้อ 555

ดูจากภาพ เหมือนเฮียไม่ได้ฟังเพลงเหมือนกำลังฟังหนังญี่ปุ่น เหมือนได้นั่งอยู่ข้างเตียงประมาณนั้น เคลิ้มจริงๆนะครับเฮีย อิอิ

ปกติเจ้าหมูหวานนี่คือฝ่ายค้านตลอด อะไรที่ไม่เจ๋งจริง หรือดีจริง เจ้าหมูหวานมักจะมีข้อโต้แย้งให้ผมฟังเรื่อยๆ แต่งวดนี้ฟังแล้วหุบปากสนิท คือตกใจ ประหลาดใจ และที่สำคัญมันยุให้ผมขายให้ได้ คือเป็นตายก็ต้องเอาตัวนี้มาทำตลาด เพราะมันเป็น Gadget ระดับพระกาฬตัวจริง ร้าน Gadget อย่างผม ถ้าไม่ขาย Gadget แบบนี้ จะให้ไปขายปลาทูนึ่งก็คงดูกระไรอยู่ล่ะ 555


สรุปเกี่ยวกับเจ้า Smyth Research Realiser A8 ดังนี้ครับ


- เป็นเครื่องที่ออกแบบโดยด็อกเตอร์สมิธ ผู้คิดค้นระบบเสียง DTS

- หลักการคือเป็นเครื่องคล้ายคอมพิวเตอร์ บันทึกและลอกระบบเสียงผ่านไมโครโฟนพิเศษ

- เวลาเล่นกลับต้องใช้ฟังจากหูฟังที่คุณภาพต้องดีพอ แนะนำว่าขั้นต่ำควรเป็น HD-600

- แมทช์มากกับ Sennheiser HD800 เพราะค่อนข้างเที่ยงตรงและตอบสนองทุกความถี่ได้

- สามารถนำเครื่องนี้ไปลอกและก๊อปปี้สนามเสียงได้จากห้องฟังของเพื่อนฝูง หรือคนอื่นๆๆ

- จำลองเสียงได้ตั้งแต่ระบบฟังเพลง 2.0 ยันไปถึงระบบดูหนัง 7.1 ไม่เกี่ยงว่าที่ไหน

- จำลองได้เหมือนเปี๊ยบ เรียกว่าระดับ 95% บวกลบไม่เกิน 5% เลยล่ะครับ

- สามารถจำลองห้องฟังทุกๆๆ ห้องในโลกที่ว่าเจ๋ง แล้วมาฟังเปรียบเทียบกันทีละชุดได้ตลอด

- สามารถจำลองโรงหนังขนาดใหญ่ๆๆ ได้ ถ้าเค้าไม่ไล่เตะเราออกมา

- ไม่รบกวนใคร ไม่หนวกหูลูกและเมีย แต่ได้อรรถรสเฉกเช่นเดียวกับชุดจริงๆๆ ทุกชุดในโลก

- หลังจากจำลองเสียงลงเครื่องแล้ว ให้ขายซิสเต็มชุดละ 5-10 ล้านให้เซียงกงได้เลย

- ไม่จริงให้เตะ


สรุปคร่าวๆๆ คือประมาณนี้ก่อนล่ะครับ 5555

นึกว่าห้ามปาดน่ะครับ...เลยไม่กล้าคอมเม้นท์เลยครับเฮีย...
แบบบางคนเขาถือน่ะ...ให้ข้ารีวิวให้จบก่อน...อย่าเพิ่งเข้ามาขัด...
จะคอมเม้นท์กระทู้อื่นผมยังไม่กล้าเลยครับ...กะรอให้เฮียรีวิวให้จบก่อน...
แต่เห็นพี่ ๆ น้อง ๆ ดำเนินชีวิตตามปกติเลยครับ...ผมก็อ่อ...เริ่มเข้าใจ...มากขึ้น...

เข้าเรื่องดีกว่า...
งี้หากเราไปทำการโคลนนิ่งโรงภาพยนตร์ หรือ โฮมเธียเตอร์ราคาแพง ๆ ที่มีการเซ็ตอย่างละเอียดชนิดทุกรูขุมขน...ไม่ต้องบอกเลยสิครับ...
เสียงที่ได้ยินกับหูฟังธรรมดา ๆ จะดีขึั้นได้ขนาดไหน...หากอยู่ในย่านความถี่ ที่หูฟังนั้นสามารถทำได้...
ก็คงน่ากลัวพิลึกล่ะครับ...แถมยังก็อปแล้วเอาลงเม็มฯ ได้อีกต่างหาก...เอิ๊ก...

สมราคาเค้าล่ะครับ...งั้น...

rs 180 นี่พอไหวมั้ยครับเฮีย

โอ๊ย ปาดได้ครับน้ามนตรี ที่เว็บเราไม่มีพิธีรีตรองใดๆๆ ทั้งสิ้นล่ะครับ 555



เอ้า ต่อกันด้วยบรรยากาศการสาธิตเล็กๆๆ น้อยๆๆ กันครับ เรียกว่าผมเก็บมาให้ดูกันจริงๆ ใครสงสัยตรงไหนถามผมได้ทุกเรื่องเน้อ

อันนี้เป็นช่วงเริ่มต้นต่ออุปกรณ์ครับ ค่อนข้างจะเอาจริง ทั้งๆๆ ไม่มีอะไรจะให้เอาจริง 555

อันนี้ต้องคลิกดูให้ได้ล่ะครับ มันสมจริงจนพวกเราแทบจะหงายท้อง ของพวกนี้อย่าเพิ่งเชื่อครับ ผมเองฟังแค่คำบอกเล่า ยังไงก็ไม่เชื่อ เพราะว่าไอ้ระบบเซอร์ราวด์อะไรพวกนี้ เป็นอะไรที่ผมไม่ชอบเอาซะเลย

แต่ไอ้นี่ไม่ใช่ล่ะ มันคือการจำลองห้องฟังแพงแค่ไหนก็ได้ในโลก แล้วกลับไปนอนอมยิ้มฟังฟรีที่บ้านเรา อ้อ แต่เครื่อง A8 น่ะต้องซื้อเน้อ 555

ดูหมูหวานบรรยายก่อนนะครับ

ลงรายงานฉบับภาษาอังกฤษไว้หน่อยๆๆ เน้อ เวลาสอบจอหงวนจะได้เลื่อนชั้นทุกๆๆคนจ้า 555





Many have tried, but few have succeeded in simulating a convincing surround soundfield with conventional headphones. Several years ago, I heard a demo of one such system from UK-based [ur=http://www.smyth-research.com/]Smyth Research[/url], and it really knocked my socks off. That was a prototype, but the technology, known as Smyth Virtual Surround (SVS), is now available in a commercial product called the Realiser A8.






Most headphone-based surround-simulation systems use mathematical algorithms called head-related transfer functions (HRTFs) to describe the effect of sound waves diffracting around a human head from any given direction. The HRTFs are used to alter the amplitude, phase, and delay of an audio signal before it's sent to the headphones, and the listener perceives the sound coming from the desired "direction."

Unfortunately, most of these simulation systems suffer from a couple of drawbacks. For one thing, the HRTFs are generic, based on the average of many individual measurements, which means they are accurate for no one in particular. Also, as a listener turns his or her head, the simulated speaker system turns with it, which sounds quite unnatural. If you were listening to a real surround speaker system, turning your head would change the relative orientation of your ears with respect to the speakers, resulting in plainly audible changes to the sound.





SVS starts by "capturing" the HRTF of a specific individual—i.e., you—listening to a specific set of speakers in a specific room. You put a small microphone in each ear, and a series of test signals are played from the Realiser processor to each speaker. The resulting HRTFs are stored and used to re-create the effect of sounds coming from the modeled speakers in that room as heard by you.





To fully optimize the system, the headphones must also be taken into account. So after the room measurements are taken, you put on the headphones over the mics, and more test tones are played to measure the precise interaction between the headphone cups and the listener's outer ear. The profiles of 64 rooms and 64 headphones can be stored internally, and as many as you want can be stored on removable SD cards.





After the measurements are stored, up to eight channels of analog audio are fed into the Realiser processor, which applies the selected HRTFs (room and headphone) and sends the processed audio to the headphones fitted with a small, rechargeable head-tracking device on the headband. That device sends an IR signal to a set-top receiver, which communicates the listener's orientation to the processor. This information is used to modify the HRTFs in real time so that the virtual speakers appear to remain in place as the listener's head moves.






.
Smyth wants to make sure that listeners aren't using lousy headphones, so the company sells a complete package with a Stax SRS-2050 MKII electrostatic-headphone system—which includes the cans and a dedicated amplifier—all for $3360. That might seem like a lot to pay for virtual surround in headphones, but the Realiser A8 offers far more than this—it provides the ability to emulate specific rooms and speakers for your ears only. For example, if you had access to an acoustically superior room with a million-dollar surround-sound system, you could perform the setup procedure and essentially take that room and speaker system with you for far less than it would cost to physically replicate them. Kinda makes three grand seem like a bargain, doesn't it?

ท้ายสุด คือบรรยากาศความงงงวย มหัศจรรย์ของทีมงานล่ะครับ 555


ท่านใดสงสัยอะไร สอบถามได้ครับ แต่ต้องบอกก่อนว่า มันเป็นของเล่นใหม่สำหรับโลกนี้มากๆๆ เรียกว่าเค้าซุ่มทำกันมานาน ผมเองก็ยังใหม่มาก แต่พอรู้หลักการล่ะครับ จะพยายามอธิบายให้อ่านได้ง่ายๆๆ เข้าใจง่ายๆ ที่สุดล่ะครับ


สวัสดีจ้า 555

ยังไม่ค่อยเข้าใจ เดี๋ยวอ่านอีกหลายๆรอบก่อนครับ

แต่ชอบเม้นท์ที่ 16 ที่สุดครับ 55

555 ไฮไลต์กระทู้นี้อยู่ที่ คคห 16 ล่ะครับคุณหลุ่ง


ไม่เข้าใจ ผมจะทำให้เข้าใจจนได้ครับ เพราะของเล่นอันนี้ ถ้าใครได้ฟังของจริง มีหวังตบเข่าผางเลยล่ะ สงสัยถามมาเป็นข้อๆๆ ได้เลยครับ ผมจะเล่าให้ฟังเองเน้อ 555

แสบตา 555

เกือบซวยแล้วตรู แซวใครไม่แซว 5 5

แซวได้ อำได้ หยอกได้....ไม่ถึงกับซวยล่ะจ้า 555


รับขนมจีบ หรือ A8 เพิ่มคนละตัวไม๊ครับป๋ายศ คุณหลุ่ง 555

555 ชักอยากลองแล้วซิ อีกหน่อยต้องขอจัดซักชุดซะหน่อยแล้ว ตอนนี้ปั๊มตังค์ก่อน

เฮียย์ครับ

1. ตอนที่ไปก็อปเสียงจากห้องฟังมา ที่นั่นต้องเปิดเพลงอะไรยังไงครับ หมายถึงต้องเปิดแผ่นเฉพาะไม๊ครับ

2. ก็อปมาแล้วเราเอามาเปิดเพลงของเราอะไรก็ได้ งี้เร๋อครับ ... แต่ได้คุณภาพและเวทีเสียงเหมือนฟังจากในห้อง ....

3. เปิดกล่องออกมา เค้ามีห้องฟังที่ไปก็อปปี้มาแล้ว อยู่ในเครื่องบ้างรึป่าวครับ เพราะบางคนคงไม่มีปัญญามีคนรู้จักที่มีห้องฟังระดับ 10 ล้านหนะสิครับ 5555

4. สุดท้ายเลยเนี่ย ระบบที่นั่งฟังกับหูฟังของเรา ก็จะมีแค่ Source -> A8 -> Amp -> หูฟัง แบบนี้ใช่ไม๊ครับ

5. ถ้าข้อ 4 ใช่แบบนั้น Source เรายังเหมือนเดิมได้รึป่าวเช่น Classic -> ONKYO -> DAC19DSP หรือว่า สุดแค่ ONKYO แล้วมาเข้า A8 อะไรงี้อ่ะครับ

6. HE5 ฟังได้ไม๊ครับ

ถามแค่นี้ก่อน ... 555ย์

^
^
"บางคน" ที่ว่านั่น คือ ตัวผมเองนะครับ 555

มาตอบคำถามและข้อสงสัยกันต่อจ้า เจ้าเครื่องเล่นนี้ถามผมมาได้เรื่อยๆๆ เน้อ ไม่จำเป็นต้องซื้อต้องหาล่ะ ผมอยากเอาวิทยาการแปลกๆๆใหม่ๆๆ มาเล่าให้อ่านกันสนุกๆๆ กันทุกๆๆ คนล่ะครับ 555


ตอบพี่ทศพรย์ก่อนโลดๆๆๆๆๆ 555

1. ตอนก็อปเสียง เค้าจะมีโปรแกรมวัดคลื่นเสียง เสียงมันดังประมาณ 5-7 วินาที จะดังเหมือนพวกคลื่นเสียงในหนังแนวไซไฟวิทยาศาสตร์ครับ พอเราเอาไมค์บันทึุกเสียงไว้ในหูเรา แล้วกดปุ่มเปิดคลื่นเสียง มันจะควานหาและบันทึกค่าที่เหมาะสมกับตัวเราที่สุดทันทีเลยครับ 555 ไม่จำเป็นต้องใช้แผ่นซีดีล่ะ เรียกว่ามันมีมาในเครื่องครับ

2. พอก๊อปเสร็จ มันก็จะเป็นไฟล์อยู่ในเครื่องเรา สมมุตว่าเราไปฟังชุดละ 10 ล้านมา แล้วขอก๊อปเค้ากลับบ้าน พอถึงบ้าน เอาซีดีเพลงยัดใส่ อ้าวเฮ้ย เครื่องชุดละ 10 ล้านดันตามกล้บมาบ้านหน้าตาเฉยได้ไง หรือไปฟังห้องดูหนังโฮมเธียเตอร์ระดับมหากาฬ 7.1 ก็อปเสร็จกลับบ้าน เปิดฟังปุ๊บ อ้าว เหมือนได้ห้องนั้นมาวางไว้ในห้องนอนเลยล่ะครับ 555

3. เค้าจะใส่โปรไฟล์ของบริษัทเค้ามาให้ 1 อัน นอกนั้นคงต้องไปหาเอาเอง แต่เท่าที่ผมทราบเมืองไทยมีหลายห้อง ผมกำลังวางแผนให้กองกำลังติดอาวุธไปตะเวนก็อปชุดหลายๆๆ ล้านบาท ตั้งแต่ห้องดูหนัง ห้องฟังเพลง แล้วมาแบ่งๆๆ กันใช้ฟังครับ เพราะการก๊อปก็แค่อุ้มเครื่องนี้ไปที่บ้านเค้า ใช้เวลาไม่ถึง 15 นาทีก็เสร็จ (ถ้าเราคล่องแล้ว)

4. ตามข้อ 4 เกือบถูกครับ ถ้าไม่เน้นให้ดังมาก กะฟังสบายๆๆ มันเหลือแค่นี้ก็พอจ้า Source -> A8 -> หูฟัง แค่้นี้ครับ แอมป์ตัดออกยังได้ ตอนที่ผมทดสอบผมไม่ใช้แอมป์ก่อน แล้วถ้าอยากให้ดังได้อีกหน่อยก็เพิ่มแอมป์เข้าไปเองครับ เรียกว่ามันหดสั้นเหลือแค่นี้เอง เพียงแต่อุปกรณ์พวกซีดี พวกหูฟัง ขอให้คุณภาพดีนิดนึง เพราะมันจะได้โชว์ความถี่ได้ครบถ้วนจ้า

5. ได้ซิครับพี่ ถ้า source แบบที่ว่า ก็เอามาใช้ได้เลย เพราะหลังจากออกจากตัว DAC แล้ว อย่างขี้หมูขี้หมา DAC ทุกตัวต้องมี RCA out เราก็เสียบได้เปรียบเสมือนมันเป็น source ตัวหนึ่งเลยล่ะครับ เรียกว่าขอให้มันมีคุณภาพดี ไฟล์เพลงดี สามารถจิ้มเข้า A8 ได้ทันทีล่ะครับ เท่าที่ผมมองดู input ของมันเป็นอนาลอก เราต้องผ่าน DAC ก่อนครับ แต่ถ้าใครมีซีดีเพลยเยอร์แล้ว จิ้มตรงได้เลยจ้า

6. HE-5 ถือว่าดีโคตรเกินตัวเลยครับ เพียงแต่ต้องต่อแอมป์น้องมินด้วยเน้อ ซึ่งกลายเป็น Source -> A8 -> Amp -> หูฟัง ตามนี้ล่ะครับ หูฟังนั้น เท่าที่เค้าเทสกันมา ขอให้คุณภาพดีแบบที่ผมว่า ซึ่งอันนี้ไม่น่าหนักใจ เพราะใครถ้าคิดจะเล่นเจ้าตัวนี้แล้ว คงจะมีหูฟังคุณภาพสูงติดบ้านกันทุกคนแล้วล่ะจ้า



เจ้าเครื่องนี้ ตอนแรกหัวเด็ดตีนขาดผมก็ไม่เชื่อ เรียกว่าผมนี่เป็นประเภทฝ่ายค้านหัวชนฝา เรื่องจะเอากล่องอะไรใส่ระบบเซอร์ราวด์แล้วมาหลอกต้มกัน อันนี้ไม่ผ่านด่านมรณะอย่างผมได้แน่ๆๆ แต่พอได้ทดลองนั่งฟังเองจริงๆๆ บอกตรงๆๆ ว่ากลืนน้ำลายเหนียวเลย คือมันทำได้ไงอย่างเหลือเชื่อ

เหมือนการฟังลำโพงจริงๆๆ ฟังจากในห้องจริงๆๆ ตำแหน่งการวางชิ้นดนตรี โฟกัส ไดนามิก และแม้แต่แรงสะเทือนของลมเบส มันยังซับเข้ามาได้อย่างบ้าบอคอแตก เรียกว่ามันมีโหมดให้เราทดสอบว่าเครื่องนี้หลอกต้มไม๊ ด้วยการฟังสลับไปมาครับ

คือฟังของจริงๆๆ โดยไม่ต้องใส่หูฟัง พยายามจำให้ได้ว่าเป็นไง แล้วก็สลับเอาหูฟังครอบใส่หัวลงไป เรียกว่าทำ AB test กันเลยล่ะครับ การทำ AB test แบบนี้ ต่อให้โคตรเซียนที่ไหนก็ไม่กล้าทำ แ่ต่ระบบของเจ้า Smyth A8 มันดันกล้าทำึถึงเพียงนั้นล่ะครับ


5555

ถามได้เรื่อยๆๆ เน้อพี่ทศพรย์ และทุกๆๆ ท่าน

เฮียช่วยลองต่อ headphone optical out ไปเข้า dac/amp ที่มี optical เเล้วค่อยต่อหูฟังหน่อยครับ อยากรู้เอา dac ไว้หลัง A8 เสียงดีขึ้นอีกมั้ย จะได้จัดระบบสายถูก

A8 ---> headphone optical ---> dac/amp ----> headphone

ตอนนี้เครื่องเดโมไม่อยู่ที่ผมแล้วครับ มีแต่ของคุณหมูที่ผมเก็บไว้ให้อย่างดีครับ ยังไงคุณหมูลองเองได้เลย แล้วมาเล่าใ้ห้ผมฟังเน้อ 555

ตอนนี้ตัวเดโมกับตัวขายจริงๆๆ ผมสั่งไปใหม่อีก 3 ชุด น่าจะใช้เวลาอีกเป็นอาทิตย์กว่าจะมาจ้า


ตัวนี้ไม่ผิดหวังแน่นอนครับคุณหมู เอาคอเป็นประกันเลย เรียกว่าสุ้มเสียงเหมือนจริงจนตกเก้าอี้เลยล่ะ แล้วถ้าว่างมีอะไรอยากแนะนำหรืออยากเล่า เชิญได้เลยเน้อคุณหมู 555

เท่าที่ดูในรูปและในขลิบ เอ้ย คลิป เนี่ย ... ในรูปที่เฮียนั่งเคลิ้มนั่นคือไม่ได้ติดตัวเซนเซอร์ที่หูฟัง นั่นหมายถึง เซนเซอร์ตัวนั้นเป้นแค่เซนเซอร์สำหรับทำ AB Test อย่างที่ว่าใช่ป่ะครับ ตอนฟังจริงๆไม่ต้องใช้ก็ได้ ... (น่าจะใช่)

ทีนี้คือ ตอนนั้งฟังจริงๆ Source กับ A8 ของเราจะตั้งบนโต๊ะทำงานมุมไหนก็ได้ เรานั่งทำงานไปเยื้องๆกับเครื่องก็ได้ แล้วเสียงที่ออกมา มันจะยังเหมือนนั่งฟังอยู่กลางห้องฟังเหมือนเดิมไม๊ครับ ....

แบบนี้ เราก็ขอความเมตตา เพื่อนๆพีๆน้าๆป๋าๆ ที่มีห้องฟังระดับพระกาฬ ช่วยอนุเคราะห์ให้ A8 ของเฮียย์ได้เข้าไปสัมผัสความพระกาฬของห้องฟัง ได้ไม๊ครับเนี่ย

แบบนัดเฮียย์เลยว่าวันนี้วันนั้นจัด A8 มาโลดเลยไรงี้อ่ะครับ

ไม่รู้พี่กวีย์ จะสนใจร่วมอนุเคราะห์ไม๊น๊า 555ย์

แม่นแล้วครับ เวลาใส่เจ้าหัวจุก (คล้ายๆๆ นกกรงหัวจุก) มันจะใช้วัดค่าและเทสทดสอบ แต่หลังจากก็อปแล้ว ไม่ต้องใช้แล้วครับ เรียกว่าใส่เฉพาะตอนเรากำลังจะบันทึกค่าของมัน

ใช้งานจริงไม่ต้องเลยครับ 555

และเวลาเราฟัง เรานั่งหันซ้ายหันขวา เสียงกำเนิดมันก็ยังตั้งอยู่ที่เก่าได้อย่างน่าประหลาด ถ้าเป็นหูฟังเวลาหันซ้าย หันขวา เสียงมันตามไป แต่นี่มันไม่ตามครับ เล่นเอางงจริงๆๆ 555

ตอนนี้จะให้หมูหวานไปหาของเพื่อนๆๆ ชาวเครื่องเสียงบ้าน แล้วก็อปมาล่ะครับ เรียกว่าขอกันดื้อๆๆ เลยล่ะ 555 ห้องพี่กวีนี่ก็ลอกได้ครับ เหมือนเป๊ะๆๆๆๆ

3 ตัวที่สั่งไปนี่ใช่ของเฮีย คุณเบียส คุณหมูหวานป่าวครับ 555

ที่เฮียว่าหันซ้ายขวา เสียงมันยังอยู่ที่เดิม นี่หมายถึงตอนที่ใส่หัวจุกใช่ป่ะครับ ตอนฟังใช้งานจริงเสียงมันก็น่าจะตามหูฟังไปนะครับ เพราะเราไม่ได้ติดเซนเซอร์หัวจุกแล้วนี่ ... 555

หูยย.. น่ากลัววววว..

วันอาทิตย์นี้แอบไปลองซะหน่อยดีกว่า 555

ขอฮาหน้ากำลังเคลิ้มของเฮียในคห.17 ครับ!!

เฮียครับจากที่อ่านยังงงอยู่ครับมันก๊อปเสียงสะท้อนและขนาดของห้อง ที่อัดใช้ไหมครับ แล้วมันจะก๊อปตำแหน่งชิ้นดนตรีและขนาดของชิ้นเครืองเล่นดนตรีด้วยไหมครับแบบพวกมิติ ที่ออกมาจากลำโพงที่ใช้ อัด แล้วมิติ ที่ได้ ครับ ถ้าทำได้ขนาดนั้นน่าสนครับ

อยากลองบ้างจังเลยครับ
ถ้าดีจริง พกเข้างานเครื่องเสียงดีกว่า

อย่าไปก็อป ที่ศาลล่ะ ยังไงๆ ก็ ไม่เหมือน 5555

ใช้กะ rs180 ได้ป่าวงะเฮีย

อ่านดูยังไม่ค่อยเข้าใจครับ เข้าใจบ้างนิดหน่อย แต่ราคาท่าทางจะ อุอุอุ

หึหึย์ ... เอ็นย์ ... คันป๊ะ ...

เอ่อ ผีหลอกกลางวันจริงๆแฮะ ^^

ผีหลอกกลางวันนี่ไม่ใช่พูดเกินจริงล่ะครับ 555

ตอนนี้ของเดโมยังเดินทางมาไม่ถึงเน้อ มาถึงเมื่อไหร่ จะเรียกมาทดสอบให้ฟังกันทุกๆๆ คนเลย แล้วใครเห็นว่าดี ช่วยไปโฆษณาให้เพื่อนๆๆ มาฟังหน่อยเน้อ 555



ตามคำถามของคุณ sasuke ก่อนล่ะ เพราะเห็นว่ามีประเด็นดีครับ
-----------------------------------------------------------------
เฮียครับจากที่อ่านยังงงอยู่ครับมันก๊อปเสียงสะท้อนและขนาดของห้อง ที่อัดใช้ไหมครับ แล้วมันจะก๊อปตำแหน่งชิ้นดนตรีและขนาดของชิ้นเครืองเล่นดนตรีด้วยไหมครับแบบ พวกมิติ ที่ออกมาจากลำโพงที่ใช้ อัด แล้วมิติ ที่ได้ ครับ ถ้าทำได้ขนาดนั้นน่าสนครับ
---------------------------------------------------------------------

ถูกต้องแล้วครับ ผมว่าเจ้าเครื่องนี้ มันใช้เทคนิคการก๊อปแบบนี้ครับ คือเค้าจะให้เราเอาไมค์ยัดไว้ในหู เหมือนกับเรายัดเจ้า inear เข้าไป แล้วเค้าก็เปิดเครื่องให้มีเสียงคลื่น เพื่อเป็นการวัดระยะต่างๆ วัดการก้องสะท้อน วัดขนาดความลึกของเบสที่ซิสเต็มนั้นทำได้ พวกมิติต่างๆๆ ยังอยู่ที่เดิมเป๊ะๆๆ ครับ

ขนาดความสูงของตัวนักร้อง ปลายฉาบ ปลายแฉ ระยะต่างๆ ขนาดของกลอง ระยะความลึกของเวที มันจับลอกจนเรียบไม่มีเหลือหรอ คือถ้าเป็นเครื่องถอดรหัส surround อันนั้นเป็นการสร้างใหม่ ส่วนมากมักจะหนักไปทางไม่ได้เรื่องซะมากกว่า

แต่เครื่องนี้เป็นการลอกห้องฟังออกมา เรียกว่าโคลนนิ่งเลยล่ะครับ เสียงดีไม่ดี ไม่ได้อยู่ที่เครื่องเท่าไหร่ แต่กลับไปอยู่กับสไตล์ห้องซะมากกว่า ถ้าใครชอบหรือหลงใหลห้องฟังห้องไหน ก็ลอกกลับมาฟังที่บ้าน รับรองเหมือนเด๊ะๆๆๆ ครับ

ว่างๆๆ โทรคุยกันได้ครับคุณซาซุเกะ อันนี้เล่ากันยาวได้เลยล่ะจ้า 555

ผมคิด..และเข้าใจยังงี้นะครับ...

ระบบนี้คล้ายๆ กันกับเทคโนโลยีที่นักกีตาร์ยุคดิจิตอลสมัยนี้ใ้ช้กัน

เช่น มีการจำลองแอมป์กีตาร์แพงๆ หลายยี่ห้อมาไว้เป็น software และให้โปรแกรมกับคอมพ์ของเราอ่านค่าความถี่แบบนั้น ให้แสดงผลออกมา เป็นการจำลอง wave นั่นเอง

ข้อดีคือ คุณไม่ต้องเสียเงินไปซื้อของแพงมาเล่น เพราะถึงให้ซื้อ ตัวเดียวยังไม่มีปัญญาเลย สมัยนี้เค้ายัดมันลงมาในโปรแกรมเท่านั้นเอง

เจ้าเครื่อง A8 นี้ก็คงทำงานคล้ายกัน เพียงแต่มีฟังก์ชั่นให้สามารถไปอัดข้อมูลเข้ามาใหม่ได้

จะให้สะดวก... เค้าน่าจะมีการให้ up ข้อมูลของชุดเครื่องเสียงต่างๆ เข้าไปได้ด้วย เหมือนเป็น software อาจจะขายเป็นแบบละกี่สตังค์ก็ว่ากันไป

เพราะผมเคยคิดว่า อีกหน่อยหูฟังก็ต้องจำลองเสียงของลำโพงจนได้... ก็ขนาดกีตาร์เค้ายังทำมาได้ตั้งหลายปีแล้วนี่นา....

ผมเข้าใจถูกบ้างหรือเปล่าครับ

ผมยกตัวอย่างเจ้า POD ของยี่ห้อ Line 6 ...เจ้าตัวนี้พอเสียบคอมพ์ปุ๊บ ลงโปรแกรมปั๊บ...

คุณก็จะได้เสียงแอมป์และปรีแอมป์กีตาร์ยี่ห้อแพงๆ ให้เลือกตามภาพได้เลย

ต่อไป...เจ้า A8 ก็คงพัฒนามาต่อกับคอมพ์และเลือกชุด component ได้เพียบเลยล่ะ..

ติดตามกันต่อไปครับ

มันคล้ายกันบางส่วน แต่ไม่คล้ายกันบางส่วนจ้า Burst

คือแบบที่กีตาร์ทำนั้น มันเหมือนกับสร้างโปรไฟล์ให้มันใกล้เคียงกับกีตาร์รุ่นนั้นรุ่นนี้ แล้วบรรจุไว้ในเครื่อง ซึ่งอันนี้จะคล้ายๆๆ EQ ที่มักจะคำนวนว่าจะเอาโปรแกรม Hall หรือ Club หรือ studio
คือหลักการน่าจะคล้ายกัน วิศวกรเค้าไปวัดค่าและจำลองมาแบบสำเร็จรูป

แต่เจ้า Smyth A8 มันเหมือนกับการสั่งอัดได้ด้วยตัวเอง คือมันต้องวัดค่าที่เหมาะกับตัวเรา และวัดค่าของห้องต่างๆ ที่ชอบได้ด้วยตัวเราเอง ที่มันต่างกันตามทรรศนะของเฮีย คือความเหมือนนั่นเอง ราคาของเครื่องนี่มันแพงตรงค่าวิจัยนี่ล่ะ เพราะว่ามันดันลอกได้เหมือนจริงๆๆ นั่นเอง 555

ถ้าลำพังเอาโปรไฟล์อะไรที่เรียบร้อยใส่มาในเครื่อง เฮียว่ามันไม่มีทางตื่นเต้นไปได้ ตัวนี้มันมีเสน่ห์สูงสุดตรงถ้าเรามีเพื่อนฝูง หรือคนรู้จัก แล้วเราไปลอกห้องนั้นๆๆ มาไว้ในเครื่องได้ มันดีและได้ประโยชน์สูงสุด ตรงมันเลือกจะลอกห้องไหนก็ได้นั่นเอง

ไว้เครื่องมา เฮียจะตาม Burst ให้มาลองเลยเน้อ 5555 รับรองผีหลอกกลางวันแน่ๆๆ จ้า

เฮียต้องลองไปฟัง Anthem Statement D2V เผื่อเฮียจะเปลี่ยนความคิดเรื่อง surround 555

ก๊อบในรัฐสภาได้ป่ะครับ

พรุ่งนี้ไปลองเลยเฮีย.....

อยากโดนหลอก

ผมอยากจำลองเสียงในปาร์ตี้ฟองสบู่น่ะครับเฮีย...

เฮียพาไป "อัด" กันหน่อยสิครับ...!!

555 มากันเพียบเลยวุ๊ย

เฮียเชียรอย่าเพิ่งมาเน้่อ ตัวเดโม สั่งไปใหม่แล้ว ยังไม่มาจ้า มาแล้วจะเรียกเฮียเชียรมาเป็นสักขีพยานเลยครับ

ส่วนคุณหมูครับ อันนี้ผมเชื่อคุณหมูครับ เพียงแต่ผมไม่มีโอกาสลองเจ้า surround ดีๆๆ นั่นเอง 555

เอ ผมงูๆปลาๆนะครับ ตัวนี้ ถ้าต่อ อุปกรณ์ เอาว่าน้อยที่สุด เล่นเพลงจาก หูฟังผ่าน เครื่อง portable ได้ไหมครับ แบบว่าอุปกรณ์ต่อน้อยสุดเนี่ยต้องใช้อะไรบ้าง
เท่าที่อ่านๆดูต้องมีแอมป์ ถ้าพวกแอมป์ หูฟัง +portable+amp+A8 นี่พอไหมครับ
และ3000$ นี่ฮ่องกง หรือ us อะ แต่ราคาน่าจะ us
เฮ้อ มันต้องราคาลงแน่สักวัน

จ๊าก ขอโทษครับ นึกว่ารูปตัวเอง ไหงมาเป็นรูปงี้ ขอโทษๆ

เจ้าเครื่องนี้ทำได้มากกว่าที่ผมเล่าอีก คือสามารถจำลองเสียง แล้วยัดใส่พวก iPod โดยสามารถทำเสียงได้ใกล้เคียงกับการฟังลำโพงบ้านเลยล่ะครับ

พูดง่ายๆๆ ถ้ามีพวก iPod กับหูฟัง สามารถใช้เครื่องนี้ทำไฟล์เพลงของเราซะใหม่ แล้วยัดใส่ iPod เท่านี้ก็สามารถทำให้ iPod เนรมิตเสียงได้คล้ายกับการฟังเพลงจากชุดเครื่องเสียงบ้านได้ทันที

ต้องลอง ต้องลอง

555

เฮีย ครับถ้าเฮียจะใจดีแจก file ที่จำลองเสียงมาให้พวกผมลองฟังดูบ้างจักเป็นพระคุณอย่างสูงสุดเลยนะครับเฮียมั่น ^^

ปล.ชื่นชมร้านเฮียมากครับ นำเสนอสิ่งใหม่ๆให้คนฟังเพลงตาดำๆอย่างพวกผมตลอดเลย

▲
▲

โอ้ววว!!! เป็นความคิดที่เด็ดมากครับ

อยากรู้ว่ามันจะได้อารมณ์ต่างกับพวกไฟล์เพลงแบบ binaural (จำลองเสียงรอบทิศทาง)หรือเปล่า...

มาเพิ่มเติมข้อมูล..

เรื่องเกี่ยวกับไมค์ที่ใช้อัดให้ได้เสียงระบบ 3 มิติ...

ในวงการโทรทัศน์และวิดีโอเองก็มีใช้นะครับ...

เอารุ่นเล็กๆมาให้ดูครับ

*****ตัวนี้มันมีเสน่ห์สูงสุดตรงถ้าเรามีเพื่อนฝูง หรือคนรู้จัก แล้วเราไปลอกห้องนั้นๆๆ มาไว้ในเครื่องได้*****

เฮียครับ
ถ้าคนซื้อ ไม่มีเพื่อนฝูงหรือคนรู้จัก ที่พอจะลอกเสียงจากห้องนั้นมาฟังได้
ในเครื่องมีให้บ้างมั้ยครับ โดยเฉพาะห้องฟังระดับแพงๆ
ที่ชาวบ้านทั่วไป ไม่มีปัญญาหาซื้อมาฟัง

^
^

คุณอ๊อดดดดด.. รู้นะ คิดอะไรอยู่ 555

^
^
พี่น้อยยยยย์.. รู้นะ คิดอะไรอยู่ 555ย์

- -

เฮียครับ
ถ้าคนซื้อ ไม่มีเพื่อนฝูงหรือคนรู้จัก ที่พอจะลอกเสียงจากห้องนั้นมาฟังได้
ในเครื่องมีให้บ้างมั้ยครับ โดยเฉพาะห้องฟังระดับแพงๆ
ที่ชาวบ้านทั่วไป ไม่มีปัญญาหาซื้อมาฟัง

------------------------------------------

ไม่ต้องกังวลครับ เพราะเดี๋ยวเครื่องมา เจ้าหมูหวานเค้าว่าจะแห่ไปตามบ้าน แล้วเก็บซิสเต็มที่ดีๆๆ ไว้ในเครื่องเดโมให้ แล้วก็คงก็อปใส่ SD card แจกให้คนที่ไม่มีได้ครับ 555

ผมเองก็จะอาศัยก๊อปห้องคนอื่นเหมือนกันครับ 555


ไม่มีปัญหาเรื่องโปรไฟล์ในเครื่องล่ะครับ ส่วนตัวเดโมกำลังจะมา อาจจะใช้เวลาหน่อยนึง แต่เที่ยวนี้ ผมกัดฟันซื้อเดโมทิ้งไว้ให้ทุกคนได้ลองเล่นกันเลยล่ะครับ

ไม่จำเป็นต้องซื้อต้องหา ขอแค่มาช่วยกันทดสอบว่ามันทำได้จริงและลองว่ามันดีจริงอย่างที่ผมบอกหรือเปล่าเท่านั้นล่ะ แค่นี้สายัณห์ก็ดีใจแล้วล่ะครับ 555

อ่านแล้วยังไม่ค่อยเข้าใจ วานเฮียช่วยชี้แจงแถลงไขหน่อยครับ

๑. เมื่อจำลองเสียงห้องฟังเพลง หรือโฮมเธียเตอร์ ห้องใดห้องหนึ่งมาแล้ว พอกลับมาฟังที่บ้าน เราก็จะได้ฟังเฉพาะเพลงหรือหนังที่ก๊อปมาเท่านั้นใช่ไหม หรือเราต้องใส่แผ่น/ไฟล์ เพลง/หนัง เรื่องเดียวกับที่ก๊อปมา ถึงจะเล่นได้ หรือว่าใส่แผ่น/ไฟล์ เพลง/หนังเรื่องอะไรก็ได้ แล้วมันก็จะให้เสียงออกมาเหมือนห้องที่เราก๊อปครับ

๒. โปรไฟล์ที่ก๊อปมาแล้ว สามารถลบทิ้งแล้วก๊อปใหม่ได้ไหม แล้วสามารถก๊อปเก็บไว้ได้ทั้งหมดกี่โปรไฟล์

อันนี้ด๊อกเตอร์สมิธ Smyth เล่นเองเลย คือทดลองและสาธิตให้คนที่สนใจดูกันจะๆๆๆ ครับ ฝรั่งยังร้อง WoW ในช่วงวินาทีสุดท้ายของคลิปเลยครับ 555

ได้เลยครับ จัดให้เลยจ้า สงสัยถามได้ตลอดครับ เพราะของเล่นตัวนี้ผมว่ามันน่าตื่นเต้นจริงๆๆ ครับ คงต้องอธิบายมากหน่อยเน้อ 555



ลองฟังเสียงดูจากคลิป youtube อันนี้นะครับ อันนี้เป็นคลื่นเสียงประหลาดๆๆ ที่เจ้าเครื่อง Smyth A8 ใช้ในการวัดค่าของห้องฟัง วัดระยะ วัดมิติต่างๆๆ เป็นการทำ calibrate เครื่อง A8 ให้แมทช์กับห้องนั้นๆๆ โดยใช้คลื่นเสียงประหลาดอันนี้เป็นการบันทึก

1. เมื่อเราไปจำลองห้อง ก็คือการยกเครื่องไปวัดค่าและบันทึกค่าของห้องนั้นๆๆ มา ไม่ใช่ไปบันทึกเพลงที่เราฟังตอนนั้น หรือหนังที่ดูตอนนั้น เป็นการยกเครื่องไปวัดค่าโดยใช้คลื่นเสียงประหลาดข้างต้นเป็นตัววัด พอเรากลับมาบ้าน ก็หมายความว่า เราจะเปิดซีดีอะไร หนังเรื่องไหน ได้ทั้งนั้น เพียงแต่เราสามารถเอาห้องฟังนั้นๆๆ ยกกลับมาห้องนอนเราได้ง่ายๆ นั่นเองจ้า

เวลาดูหนังในห้องเรา คราวนี้เสียงก็จะเหมือนกับไปดูหนังตามโชว์รูมหรูๆๆ หรือห้องฟังพรรคพวกที่แจ่มๆๆ นั่นเอง

2. โปรไฟล์ลบทิ้งได้ตลอดครับ ลองผิดลองถูก บันทึกแล้วบันทึกใหม่ได้เหมือนพวกกล้องดิจจิตอลเลยครับ สามารถบันทึกลงหน่วยความจำเครื่องได้ถึง 64 ห้อง และอีกนับไม่ถ้วนใน SD card ภายนอกจ้า


ผมสั่งตัวเดโมไปแล้ว เรียกว่าถ้ามาเมื่อไหร่ จะเซ็ทให้ฟังกันจนสะใจเลยล่ะครับงานนี้ 555

ว่างๆ ขอไปฟังเป็นบุญหูหน่อยนะครับเฮีย 555

บอกตามตรงพี่อุเทน ถ้าพี่อุเทนมาฟัง มีหวังได้ทะเลาะกับพี่ผู้หญิงแน่ๆๆ งานนี้ 555


เพราะถ้าเป็นคนชอบฟังเสียงแบบเครื่องบ้าน หรือชอบเล่นโฮมเธียเตอร์เป็นหลัก มีหวังฟังแล้วทำใจยากจริงๆๆ ครับพี่อุเทน 555


เดี๋่ยวตัวเดโมมาเมื่อไหร่ ผมจะเรียนเชิญทุกท่านไปทดสอบประสิทธิภาพกันเลยล่ะครับ


ตอนนี้ผมสั่งตัวเดโมและตัวขายมาแล้ว ใครสนใจจะเป็นเหยื่อเจ้า Smyth A8 บอกได้เลยเน้อ 555

ขอบคุณครับสำหรับข้อมูล

ว่าแต่ เคาะราคาหรือยังครับ

งั้นต่อไป...

คงต้องมีการ share profile เกิดขึ้นล่ะสิครับ...

ตอนนี้ก็มี profile หมูหวาน แล้ว ต่อไปก็ profile อุเทน...5555

ราคาคร่าวๆ น่าจะประมาณ 89900 บาทเลยล่ะจ้า แต่ถ้าชัวร์ป้าบจะมาแจ้งอีกทีครับ



ส่วน profile นี่เซ็ทได้แบบที่ว่าเลยนะ Burst คือห้องใครห้องมัน เตียงใคร เตียงมัน เอ๊ย ไม่ใช่ จ๊ากๆๆๆๆ 555

เฮียครับ ถ้ามันทำ proflie เสียงสำหรับใส่ ipod ได้นี่ อยากให้เฮียช่วย upload sample ให้ดูหน่อยสิครับ อ่านแล้วสนใจมากๆๆ : )

ได้ครับ เดี๋ยวตัวเดโมผมได้มา จะทำไฟล์ทดสอบเปรียบเทียบให้ดูเลยจ้า รับรองหงายท้องตึงเพราะความตกใจเลยครับ 555

เฮียครับแล้วถ้าจะต่อฟังกันหลายคน จะต้องต่อยังไงครับ (เผื่อมีกิ๊กมาฟังด้วย อิอิ)

เห็นมีช่อง Phone แคช่องเดียวเองอ่าครับ

การต่อฟังหลายๆๆ คน อันนี้อาจจะต้องใช้แจ๊คแบบเข้า 1 ออก 2 ครับ แต่เสียงน่าจะ drop ลงเน้อ เดี๋ยวจะเช็คให้อีกทีแล้วมาคอนเฟิมจ้า 555

เฮียครับ คุณsasukeใน คห.43 ไม่ใช่คนเดียวกับผมที่โทรหาเฮียบ่อยๆช่วงไม่กี่เดือนมานี้นะครับนะครับ
แปลกจังใช้ชื่อเหมือนกันได้ด้วยเหรอเนี่ย เห็นมีloginตลอดน่ะครับ

555 งั้นแสดงว่าเค้าไม่มีล็อคอินชื่อนี้ล่ะครับ คือคนธรรมดาสามารถโพสชื่อเหมือนกันได้ครับ แต่ไม่สามารถมีรูป avatar ได้จ้า 555

ท่านนั้นไม่ได้ล็อคอินล่ะจ้า

นั่นน่ะซิ ผมก็ยังนึกว่าคุณซาซุเกะจะเพิ่มเจ้า A8 เข้าไปอีกตัวหรือนั่น 55

อาจจะเพิ่มก้อได้ครับเฮีย ขอเช็คกระสุนก่อน555

ตัวเดโม จะมาถึงประมาณอาทิตย์หน้าครับ ถ้ามาถึงปุ๊บ ผมจะเซ็ทให้เรียบร้อย แล้วให้ทุกท่านมาทดสอบเป็นสักขีพยานกันเลยล่ะจ้า 555

ตัวเดโม จะอยู่ที่สาขาไหนครับ ที่งามวงศ์วานจะมีหรือเปล่า
และจะมี proflie เสียงให้ลองกี่ proflie แบบว่าไป clone มาจากห้องที่ไหนบ้างอ่ะครับจะได้ฟังแบบหลากหลาย และอยากให้แน่ะนำ หูฟังที่ใช้กับเครื่อง Smyth ได้และหูฟังตัวไหนต้องต่อ amp เพิ่มขึ้นบ้าง 5555 ถามเยอะไปป่าวเนี้ยครับ

เอ้า ผมตอบให้เป็นข้อๆๆ เลยนะครับ


- ตัวเดโมจะอยู่ที่พันทิพย์ประตูน้ำ เพราะว่าสามารถฟังเทียบกับลำโพงจริงๆๆ ที่ร้าน Hifilover ได้เลยนั่นเองจ้า จะได้รู้ดำรู้แดงไปเลยว่าแจ่มจริงอย่างที่ว่าเปล่าครับ

- Profile ตอนนี้มีของ Smyth เอง และมีของพี่เกียรติชัยแบ่งมาให้ ส่วนในอนาคต ผมมีโปรไฟล์เพิ่มขึ้นอีกแยะแน่นอนครับ

- หูฟังที่ใช้ฟังกับ Smyth ทางผู้ผลิตแนะนำว่าใช้อย่างต่ำน่าจะเป็น Sennhieser HD-600 ขึ้นไปจนถึง HD-800 ได้ครับ หรือจะใช้หูฟัง Stax ก็ได้ ถ้ามีอยู่แล้วล่ะครับ

- มีแอมป์เพิ่มขึ้น ยิ่งได้กำลังครับ เรื่องแอมป์นี่เท่าที่ผมดู มันไม่เลือกเท่าไหร่ แต่ถ้าเล่นมาถึง A8 ผมว่าอย่างน้อยก็ต้องจัดด้วยแอมป์ Schiit รุ่นไหนก็ได้แล้วจ้า ไม่แนะนำให้ใช้ portable ล่ะครับ


ถามมาได้ตลอดเลยเน้อ 555

เคยอ่านทฤษฎีนี้มานานแล้ว
มันอาศัยหลักการที่ว่าหูคนเรามีสองช้าง ซึ่งจะทำให้ได้ยินเสียงที่มาจากลำโพงข้างใดข้างหนึ่งไม่พร้อมกัน เช่นเสียงจากลำโพงข้างซ้ายจะมาถึงหูซ้ายก่อนหูขวา และเสียงจากลำโพงขวามาถึงหูซ้ายช้ากว่าหูขวา
เวลาที่ต่างกันนี้เรียกว่า Time Delay เป็นปัจจัยที่ทำให้ปราสาทหูเราสามารถแยกแยะ กำหนดตำแหน่งที่ตั้งลำโพงที่แตกต่างกันได้
การใช้ไมโครโฟนใส่หู ก็เพื่อไปวัดค่า Time Delay ต่างๆ เก็บไว้ เค๊าให้หันหน้าซ้ายขวา ก็เพื่อจะวัดค่าเวลาที่เราหันหน้า ระยะทางจากลำโพงต่างๆ ก็จะเปลี่ยนไป

เวลา Play Back เพลงไหนๆ ก็ตาม สัญญานจากแต่ละ Channel จะถูกสังเคราะห์ใหม่ด้วยค่า Time Delay ที่แตกต่างกันไป แล้วปล่อยมาที่หูฟังแต่ละข้าง

หลักการนี้ ผมเคยเจอมาแต่หูฟังสอง Channel ที่ฟังแล้วเหมือนได้ฟังลำโพงบ้าน เวทีเสียงอยู่ด้านหน้าเรา ไม่ใช่อยู่กลางหัว
แต่กับการที่เครื่องนี้สามารถจำลองระบบเสียง Surround 7.1 ได้ด้วยนี่ น่าสนใจมากๆ

สงสัยต้องจองเฮียสักตัวแล้วมั๊ง มีราคาโปรโมชั่นหน่วยกล้าตายมั๊ยครับ

มีครับเฮียวันชัย 55 ราคาตอนนี้ผมตั้งไว้ที่ 89900 บาท เดี๋ยวตัวเดโมมาอาทิตย์หน้า เฮียวันชัยไปฟังแล้วชอบ เดี๋ยวผมจัดอีกทีให้หลังไมค์ครับ 555

ตอนนี้ไม่ต้องกลัวครับ ไม่เสี่ยงตายแน่นอน เพราะผมทดสอบแล้ว ปรากฏว่ามันเป็นของจริง ไม่ใช่ของหลอกต้มแน่ๆๆ ล่ะจ้า

อาทิตย์หน้าผมสั่งมาขายรวมทั้งตัวเดโมด้วย 3 ตัวคร้าบบบ มีเดโม และมีตัวจริงให้อุ้มกลับเลยล่ะครับ 555

- แล้วหูฟังตระกูล hifiman he-5 / he-5 le / he-6 เนี้ยใช่ได้ไหม
- สงสัยว่าถ้า HD-800 ไม่มี amp ต่อมันจะได้เสียงที่เต็มที่หรือเปล่า เพราะเป็นหูฟังที่ต้องการ Amp หรือว่าถ้าต่อกับ smyth a8 แล้วการต่อกับ amp ไม่ค่อยมีผลกับคุณภาพเสียงที่ออกมา นอกจากเสียงที่ดังเพิ่มขึ้นครับ

ปล.ถ้ามี เครื่องcomputer+dac+smyth a8 +หูฟังที่พอใช้ได้ แค่นี้พอหรือเปล่าในบื้องต้นจะได้ประมาณกี่เปอร์เซนต์ และต้องอัพเกรดอะไรต่อไปเพื่อให้ได้เสียงที่สมบูรณืขึ้น

- หูฟังพวก HE-5 หรือ HE-6 ใช้ได้ครับ เพียงแต่ตอนใช้ก็ต้องมีแอมป์ที่ขับเจ้าหูฟังเหล่านี้ไหวมาใช้งานร่วมด้วยน่ะครับ

- เจ้า HD-800 เสียบกับ Smyth A8 จะได้เสียงที่ดีระดับหนึ่งครับ คือไม่มีแอมป์ก็เล่นได้ แต่ถ้ามีผมว่ามันสมบูรณ์ิยิ่งขึ้นจ้า เสียงคุณภาพจากการต่อแอมป์ ผมว่ามีแน่นอนจ้า ไว้ตัวเดโมมา ผมจำทำการทดสอบภาคเสียงแล้วเทสให้ทราบอีกทีครับ


ปล.ตามที่ว่ามานี้ใช้ได้แล้วครับ เพียงแต่หูฟังที่ว่าพอใช้ได้ ต้องสามารถสอบสนองความถี่ต่างๆๆ ได้ดีพอด้วยจ้า ถึงจะสามารถจูนเสียงได้ใกล้เคียงต้นฉบับจริงล่ะครับ 55

หูฟังทุกตัวที่ต่อกับ Smyth A8 ต้องสามารถสอบสนองความถี่ต่างๆๆ ได้ดีพอ เป็นยี่ห้ออะไรก็ได้เพราะเมื่อมันทำงานกับ Smyth A8 แล้วมันจะไม่แสดงบุคลิกเสียงของตัวมันเอง แต่มันจะแสดงบุคลิกเสียงของห้องเสียงที่เราไปอัดมา ผมเขาใจถูกหรือเปล่าครับ

น่าจะใช่ครับคุณ jap แต่อันนี้ผมยังไม่คอนเฟิมเน้อ เพราะว่าวันนั้นผมเทสกับ HD800 ตัวเดียวโดดๆๆ เลย และไม่ได้หยิบพวก HD-600 หรือตัวอื่นๆๆมาทดสอบร่วม

วันนั้นเวลามันสั้นไปหน่อย แต่เท่าที่ลองกับ HD-800 ถือว่าไม่มีที่ติ แต่กับตัวอื่นผมว่าจะทดสอบให้อีกทีอาทิตย์หน้าจ้า 55

แต่ตามความเข้าใจของผม ผมว่าหูฟังที่สามารถตอบสนองความถี่ได้กว้างจริงๆๆ น่าจะใช้ได้ครับ 55

ผมเข้าใจว่านอกจากสัญญานข้างซ้ายที่จะถูกป้อนเข้า driver ซ้ายแล้ว มันยังมีสัญญานขวาที่กลับ phase และถูกหน่วงเวลาตามข้อมูล time delay ที่บันทึกไว้ ที่จะถูกป้อนเข้ามาในหูข้างซ้ายด้วย
เพราะฉะนั้นแต่ละ driver จะทำงานหนักขึ้น หูฟังควรเป็นหูที่มีความสามรถในการแยกแยะรายละเอียดได้ดี อย่างพวก Stax , HD800 หรือพวก HE ทั้งหลาย

ผมเล่น HTPC
ถ้าเป็น computer - sound card - A8 - amp surround - ชุด ลำโพง
มันจะทำงานได้ตามที่ลอกมาจากห้อง โฮมเธียเตอร์ดีๆ มั๊ยครับ หรือต่อได้เฉพาะหูฟัง

^
^
^
อยากรู้เหมื่อนกันครับว่าต่อออกลำโพงได้เปล่า เพราะคิดว่าฟังจากหูฟัง ยังไงเสียงเบสแบบสัมผัสลมที่อัดออกมาปะทะ คงรู้สึกได้ไม่เท่าลำโพงแน่..........หรือว่ามันทำได้เหมื่อนตัว sub ลำโพง

หลักการน่าจะตามที่เฮียวันชัยแกบอกล่ะครับ คือมันมีการวัดค่า delay จริงๆๆ และแปลกมาก อีตอนเราใส่หูฟังแล้วเอียงหัว ปรากฏว่าเวทีเสียงมันไม่ได้เอียงตาม แสดงว่ามันคงต้องมีการชดเชยค่าต่างๆๆ ไว้เรียบร้อยแล้ว


ส่วนการเล่นแบบชุดของคุณ OFF คิดว่าชุดลำโพงคงไม่ได้ครับ เพราะเจ้านี่ output คือหูฟังเท่านั้น คอนเซปท์น่าจะประมาณว่า ย่อห้องฟังขนาดใหญ่ๆๆ ที่เสียงสมจริง ให้เหลือแค่การใส่หูฟังตัวเดียวเองจ้า 555

ผมเล่น HTPC
ถ้าเป็น computer - sound card - A8 - amp surround - ชุด ลำโพง
มันจะทำงานได้ตามที่ลอกมาจากห้อง โฮมเธียเตอร์ดีๆ มั๊ยครับ หรือต่อได้เฉพาะหูฟัง

--------------------------------------------

A8 ต่อ sub เเยกหรือ Tactile ได้ครับ โยนเสียง LFE ไปซับจริงๆได้ครับ

เอา a8 ไปต่อ amp surround เพื่อออกลำโพงไม่มีประโยชน์ครับ ถ้าอคูสติกห้องฟังของคุณไม่ดีเท่าห้องที่ไปก๊อปมา ยังไงเสียงก็ไม่เหมือนครับ ที่หูฟังเลียนเบบห้องฟังต่างๆได้ เพราะไม่มีเรื่องอคูสติกห้องมาเกี่ยวครับ

ถ้าจะเล่นลำโพงเอาตังไปทำห้องฟังคุ้มกว่าครับ เดี๋ยวนี้ build in สำเร็จรูปเเบบ module เเค่เเสนกลางๆก็อยู่เเล้ว ปัญหาอยู่ที่จำนวนลำโพง 9.2 ห้องต้องใหญ่เอาเรื่อง ปี 2012 เป็น 11.2 จะเอาลำโพงไปไว้ตรงไหน เท่าที่ดูเเล้วเป็นไปได้ต้องพวก electrostat อย่างเดียวเลย หาเเอมป์ขับ Martin Logan 11 ตัวนี่งานช้าง 555

^
^

คุณ moe ได้ลอง test A8 บ้างหรือยังครับ มาเขียนรีวิวฉบับแรกของประเทศไทยหน่อยครับ.....มีคนรออ่านกันเพียบแน่นอนครับ

วันนี้จะไปเอาเครื่องเเล้วครับ จะลองคร่าวๆละกันเนอะ

Sumsung BD-C6900 ---> analog 5.1 ---> A8 ---> 701

สายไม่พอต่อ 7.1 กับเเอมป์หูฟัง T_T

ผมก็อยากให้คุณหมูเขียนเหมือนกัน เป็นรีวิวฉบับแรกจริงๆๆ ผมเองยังไม่ได้ตัวเดโม และถึงได้มาก็ยังต้องตะลอนไปหาก๊อปปี้ห้องคนอื่นๆๆ อีก 555 (ห้องผมมันสุดจะทน)

ยังไงถ้าว่าง คุณหมูอย่าลืมเขียนเน้อ แฟนๆๆ รออ่านตรึมล่ะ


ส่วนฟองน้ำ PAD หูฟัง HE-6 ตัวของคุณหมู เมื่อวานเจ้าเบียสเห็นมีรูอยู่หน่อยนึง เอาไปใช้ก่อนเน้อ เดี๋ยวผมสั่งคู่ใหม่มาให้จ้า 555 (ไม่มีผลต่อเสียงจ้า)

ขอบคุณครับคุณหมู 55

เฮียค้าบ ไม่มีสายคล้องคออ่ะ ทำ PRIR บ่ได้ ตามสายคล้องคอให้หน่อยค้าบ

สายคล้องคอในชุดมันไม่มีมาครับคุณหมู แต่ผมสงสัยเหมือนกันว่าทำไมวันที่ผมเทสถึงมีสายยี่ห้อ Smyth ด้วยหว่า

เดี๋ยวผมเมล์ถามให้เดี๋ยวนี้เลยครับคุณหมู ถ้าเค้ามี รับรองได้แน่ๆๆ ครับ เพราะเค้าจะส่งตัวเดโมให้ผมพรุ่งนี้ช่วงบ่ายๆ พอดีเลยค้าบบบบ

ตามเรื่องให้อยู่ครับ คาดว่าน่าจะหาให้ได้เน้อคุณหมูครับ 55

ขอถามเกี่ยวกับการต่อของช่องเสียบต่างๆครับ

1.ถ้ามี dacที่ต่อ usbมาจาก computerแล้ว dac ต้องต่อที่ช่องไหน?ของตัว smyth A8
2.ถ้าใช้ ampต้องต่อที่ช่อง Phones ใช่เปล่า?
3.ถ้าจะใช้ sub wooferลำโพง ต้องต่อ ลำโพงมาที่ช่อง tactile ใช่เปล่า?
4.ช่อง MULTI-CHANNEL INPUTS และช่อง MULTI-CHANNEL OUTPUTS ใช้เสียบอะไรยังไงบ้างเวลา set
5.เวลาฟังA8โดยโดยใช้ค่าที่เก็บมาแล้ว การเชื่อมต่อจริงๆมีแค่ข้อ 1-3 ใช้ไหมครับ ส่วนช่อง MULTI-CHANNEL INPUTS และช่อง MULTI-CHANNEL OUTPUTSใช้งานเฉพาะตอนที่เราจะทำการเก็บค่าเสียง ผมเข้าใจถูกหรือเปล่าครับ

ปล. น่าจะเป็นประโยชน์กับผู้ที่สนใจและอยากเก็บความรู้ครับ

สวัสดีครับคุณ jab

เรื่องต่างๆๆ เหล่านี้ขอติดค้างไว้ก่อนนิดนึงล่ะครับ เดี๋ยวตัวเดโมจะมาในช่วงสัปดาห์หน้าแน่ๆๆ แล้วครับ แล้วคราวนี้ผมจะเอามาเล่า และทดสอบโดยละเอียดอีกทีครับ วันนั้นเจ้าสิงคโปร์ต่อแบบไมมีแอมป์ โดยใช้กำลังขยายภายในตัว A8 ก็ยังสามารถฟังได้ดังพอควรแล้วครับ

แต่พอเค้าสลับเปลี่ยนมาเพิ่ม headphone amp เสียงที่ได้ดังขึ้น เต็มอิ่มขึ้น แต่ผมไม่แน่ใจว่าเค้าต่อผ่านจากตรงไหนไปเข้า จำได้ว่าสามารถคอนโทรลความดังค่อยที่ตัวแอมป์แทน และหูฟังก็ย้่ายมาเสียบที่แอมป์แทน

น่าจะมีตรงไหนที่เป็น output ของ A8 อยู่ล่ะครับ

ส่วนข้อ 4-5 นั้น ตามความเข้าใจของผมคือเอาไว้เสียบต่อเฉพาะตอนจะวัดค่าของมันครับ คือต้องเอา input จริงๆๆ เสียบเข้าที่ช่องนี้ แต่เวลามาเล่นจาก A8 คราวนี้ไม่้ต้องยุ่งกับมันอีกแล้วจ้า


ขอติดไว้นิดนึงเน้อ เดี๋ยวตัวเป็นๆๆ มา คราวนี้ได้เวลามาลุยกันล่ะครับ 555

อาทิตย์หน้า ตัวขาย และตัวเดโม จะเดินทางมาถึงแน่นอนคร้าบบบ

ขอบคุณมากครับเฮียเรื่องสายคล้องคอ ^_^

ได้ลองเเล้วครับ ยืมสายมาต่อเเบบครบๆ 8 ช่อง + sub + optical

ต่อตรงกับ BD
ต่อผ่าน pre-out receiver
ต่อหูฟังตรงกับ A8
ต่อ A8 กับ headphone amp
ต่อ A8 ผ่านช่อง optical เข้า dac เเล้วค่อยไป headphone amp
ลองเปลี่ยนสายสัญญาณ ปลั๊กไฟ ตัวกรองไฟ

สรุป A8 เหมือนเครื่องเสียงทั่วๆไป คือ source สายสัญญาณ dac เเอมป์ สายไฟ ปลั๊ก ตัวกรองไฟ มีผลต่อเสียง

เช่นเดียวกับหูฟังที่ใช้กับ A8 เสียงที่ได้หลัง HPEQ ระหว่าง 701 กับ HE-6 ไม่เหมือนกันครับ ปริมาณเบสผิดกันฟ้ากับเหว หูตัวไหนเด่น-ด้อย ด้านไหน เสียงที่ได้จาก A8 ก็ยังคงลักษณะนั้นไว้ พูดง่ายๆเสียงชุดที่ เราจำลองต้องอยู่ในขอบเขตที่หูฟังทำได้ด้วย

ต่อสายขนมมากครับ เซ็ทค่า A8 ลง sd card ยากกว่า 10 เท่า ไม่มีเเรง review เเล้ว เดี๋ยวต้องไปหาชั้นวางเพิ่มอีก Wii, Xbox, กล่อง truevision, tuner กองเต็มพื้นไปหมดเเล้ว 555

โอววว ขอบคุณมากๆๆ ครับคุณหมู ว่างๆๆ ค่อยมาเล่าต่อละกันครับ

เจ้า A8 นี่ทางผู้ผลิตเค้ามีแจ้งมา ซึ่งก็ตรงอย่างที่คุณหมูเทสล่ะ คือถ้าหูฟังยิ่งตอบสนองความถี่ได้ดีมากเท่าไหร่ อรรถรสยิ่งครบถ้วนเท่านั้น ผมฟังจาก HD-800 ถือว่าเข้าขั้น แต่ต้องลองกับ HE-6 อีกทีเหมือนกัน


ส่วนสายคล้องคอ เจ้าสิงคโปร์คอนเฟิมมาแล้วว่า ทวงไปทาง Smyth ที่อเมิรกา แล้วจะจัดส่งมาให้ผมแน่นอนครับ ทันทีที่ได้ผมจะแจ้งให้คุณหมูทราบด่วนๆๆ เลยจ้า 555


สงสัยจริงๆๆ ว่าคุณหมูได้นอนกับเค้ามั่งหรือเปล่าเนี่ย 55555

เกือบลืมครับ เจ้าสิงคโปร์ทำแผนผัง การโอนถ่ายเสียงที่จำลองได้ แปลงเป็นไฟล์เพื่อไปเข้า iPod ครับ ผมเองดูแล้วยังมึนๆๆ อยู่ เอาเป็นว่าดูเล่นๆๆ ก่อนเน้อ 55

อย่างนี้มันคือการคัดลอกอคูสติกของห้องต่างๆสินะครับ
แล้วหูตอนวัดนี้ ถ้าหูนาย ก ไม่เหมือนนาย ข
โปรไฟล์จากนาย ก เอาให้นาย ข ไปฟัง ก็น่าจะไม่เหมือนกัน ไม่รู้ผมเข้าใจถูกไหมครับ
ยังงงๆตรงที่ไมค์นั้นไว้ห้อยคอหรือยัดหูกันนะ
เดาว่าถ้ายัดหูคือมันน่าจะจับรูปแบบการสะท้อนในหูด้วย เพื่อวัดให้ค่าที่ถ่ายทอดตรงกันกับการส่งผ่านจากอคูสติกของห้อง
ถ้าหูฟังไม่ดีพอ ก็น่าจะเกิดอาการคอขวด คือไม่เต็มไม่ครบ ล่ะมั้ง?
หรือนี่มันคือ พระกาฬกระจกเงา?

ใช่แล้วครับ แบบนี้คือการคัดลอกอคูสติกของห้องนั่นเอง

และเป็นการวัดจากหูของคนฟังนั้นๆ ครับ เรียกว่านาย ก นาย ข ก็จะไม่เหมือนกัน


แต่ทางทฤษฎีแล้ว ในห้องฟังต่างๆ จะมีจุด sweetspot แค่จุดเดียว ซึ่งความแตกต่างกันของตำแหน่งค่อนข้างน้อยมาก จนแทบไม่ต่างล่ะครับ เหมือนกับเราไปนั่งฟังในห้องฟัง จะมีตำแหน่งเก้าอี้ที่ตั้งไว้ และมาร์คจุดไว้เป๊ะๆๆ อยู่ตำแหน่งเดียว

ผมว่าถ้าจะมีต่างกันเล็กๆ น้อยๆ ก็คือระดับความสูงของใบหูนั่นเอง ซึ่งมีผลอีกนิดเดียวครับ

หูฟังนี่มีผลอีกเช่นกันครับ เหมือนกับกระจกเงานั่นเอง ถ้าหูฟังดีพอ จะถ่ายทอดออกมาได้หมดจดทุกอย่างล่ะครับ


อาทิตย์นี้ตัวเดโมน่าจะมาให้ลองกันแล้วเน้อ 555

อยากฟังจังเลย.... (^_^)

เข้ามางงกับเทคโนโลยีตอนนี้ครับ
อ่านๆดูแล้วร้องได้คำเดียว สุโค่ยจริงๆ ครับ

รอตัวเดโมมาผมขอเฮียเข้าไปฟังด้วยคนนะครับ

sweetspot กับ sweetpig นี่เกี่ยวอะไรกันไหมครับ อิอิ

เฮียมั่นคงครับ ขอผมไปลองได้ไหมครับ :D

ลองได้ทุกๆๆท่านเลยครับงานนี้ เพราะผมตั้งใจสั่งมาให้ลองกันเล่นๆๆ เลยล่ะครับ 555

ราคา 9 หมื่นบาทก็ช่างมันล่ะครับงานนี้ เพราะผมอยากนำเสนอเทคโนใหม่ๆ ในวงการหูฟังมากกว่า และจริงๆ ผมอยากจะทดลองให้พวกเราได้ลองกัน ก่อนที่จะไปออกงานเครื่องเสียงในช่วงเดือนมีนาครับ (ยังไม่ชัวร์)


ผมจะมาอัพเดทให้ทราบครับ เพราะเวลาของมา ผมคงต้องเสียเวลาเทสเองซัก 3-4 วัน และจะเซ็ทค่าที่เหมาะที่สุดเท่าที่ร้านประตูน้ำจะทำได้

หลังจากเซ็ทเสร็จ คราวนี้ก็ขอเชิญทุกท่านทดสอบความมหัศจรรย์แห่งเสียงล่ะครับ 555 ไม่จำเป็นว่าต้องเป็นใคร ซื้อไม่ซื้อไม่เกี่ยวเลยเน้อ ใครก็ได้ ขอให้มาเหอะ 55

แค่ช่วยบอกต่อๆๆ กันว่า เฮ้ยเว้ย ร้านมั่นคง มีขายของประหลาดแบบนี้ด้วยก็พอแล้วจ้า 555

ถ้าจะฟังพร้อมกันหลายคน เช่น อย่างดูหนัง
อย่างนี้ก็ต้องต่อหูฟังเพิ่มใช่ไหมครับ?

..แค่ราคาหูฟัง HD800 ก็ครึ่งแสนแล้ว เฮื้ออก T^T

เรื่องดูหนังพร้อมกันหลายๆๆ คนนี่ ผมว่าทำได้ครับ คือเป็นหูยี่ห้อเดียวกัน และหาแอมป์ที่มีช่อง phones 2 ช่องมาเสียบ แค่้นี้ก็น่าจะใช้เล่นพร้อมกัน 2 คนได้แล้วจ้า 55

เจ้า A8 ตัวขายและตัวเดโม มาแล้วเน้อ เดี๋ยวถ้าเรียบร้อยเมื่อไหร่ ผมจะมาแจ้งให้ทราบจ้า


วิ้วๆๆๆๆๆ ใครสนใจสอบถามได้เน้อ 555

รอรีวิว !!!!!!! มานานแล้วในที่สุดตัวเป็นๆก็จุติที่ร้านเฮียแล้ว ยังไงก็รีบทำการทดสอบ และจัดรีวิวแจ่ม แจ่ม ด้วยครับ คนบ้านไกลที่สนใจมีกันเยอะเน้อ โดยเฉพาะ proflie เสียงหามาให้เยอะๆเลยเด้อ เวลาคนไปสอยจะได้ไม่ลังเล เพราะว่าในเครื่องนี้อัดแน่นด้วยห้องฟังเทพๆหลายห้องราคารวมน่าจะเกิน 10 ล้าน อะไรประมาณนั้น ขำ ขำ น่ะครับ 5555555

มันต้องลองฟังก่อนพี่ทศย์..... คันมากหรือน้อยเดี๋ยวรู้กัน 555+

555 ของมาแล้ว แต่ต้องขอเวลานิดนึงล่ะครับ เพราะต้องลองทดสอบอีกทีครับ

ผมจะมีโปรไฟล์ของพี่เกียรติชัยอยู่หน่อยนึง และน่าจะขอจากคุณหมูได้อีกหน่อยนึง แล้วเอาไว้ให้ฟังกันล่ะครับ

เอ้า รอๆๆๆ หน่อยล่ะจ้า เสร็จปุ๊บ ผมแหกปากตะโกนลั่นเลยจ้า 555

เฮ้ยเอ็นย์เฮ้ย ... งี้เร๋อ .. ใจหว่ะ 55555ย์
เอ็นย์ลองทำลง iPod ด้วยนะ

มาอ่านอีกทีนึกขึ้นได้ เฮียยังไม่ได้ให้ SD CARD พี่เกียรติชัยผมเลย ก็ว่ามันขาดๆอะไรไปนึกไม่ออก 555+

อ้าวเฮ้ยๆๆๆๆ ตายๆๆๆ ขออภัยจริงๆๆ ครับคุณหมู

ผมสั่งเด็กไว้แล้ว สงสัยมันจะลืม เดี๋ยวผมเขกกบาลมันเลยครับพรุ่งนี้ 555 ขออภัยจริงๆๆครับ


มันเป็น SD card มาล่ะ ผมขอก๊อปไว้นิดนึงแล้วล่ะครับ 55

ไม่เป็นไรครับเฮีย เดี๋ยวผมเเวะไปเอาที่งามเหมือนเดิม ฮาร์ดดิสตายไปตัวนึง ต้องส่งเคลมบานาน่าพอดี T_T

วันนี้ตัวเดโมมาถึงแล้ว และมาพร้อมกับตัวขายด้วยนะครับ ขอเวลาอีกนิดนึง ถ้าไม่มีอะไรพลาด วันเสาร์นี่้น่าจะได้ทดสอบกันล่ะครับ

เพราะผมต้องให้เจ้าหมูหวานช่วยเซ็ทลำโพง กับหูฟังให้ได้ค่าที่เหมาะสมก่อนจ้า เอ้า ดูเลย ตั้งแต่กล่องภายนอกครับ 55

เปิดกล่องมาก็จ๊ะเอ๋อุปกรณ์แบบนี้เลยจ้า

ไหนมาแบให้ดูกันซิ จะมีเท่าที่เห็นนะครับ อ้อ ไมโครโฟนนั้นไม่มาในกล่อง แต่จะมาต่างหากครับ เพราะไมโครโฟนนั้นทำจากประเทศอังกฤษ เค้าแยกส่งกันมา เลยไม่อยู่ในกล่องเน้อ 55

ดูมุมนี้ก่อน มุมมหาชนล่ะครับ 55

มองตูดก่อน เอ๊ย มองบั้นท้ายก่อนเน้อ 55

มองด้านหล่อๆๆ ของเจ้า A8 กันต่อครับ

ช่อง output และ input ต่างๆๆ มองแล้วเหมือนยาก แต่จริงๆๆ ของกล้วยๆๆ ครับ 55

หน้าปัทม์โชว์ความเป็น 7.1 แชลแนลครับ