นี่คือ สายเพิ่ม โอมห์ สุดยอดเลย วัสดุดีด้วย

นี่ก็ สาย มินิ ทู มินิ

สายทั้งสองเส้น ในขณะกำลังเบิร์นด้วย เพนกวิน

555 นี่ขนาดต่อผ่านเจ้านกน้อยน๊ะ  แล้วถ้าเป็น The Pig ล่ะ. ......... ไม่ต้องสืบเลย ผมว่า

555555

น่าจะมีขายแล้วน๊ะ เจ้าสายทั้ง 2 นี้ ใครสนใจรีบยกโทรศัพท์โทรไปได้เลยครับ สอบถามราคาได้ เห็นพี่หมูเอามาสองกำ อย่างละกำ
ใช้เวลาทำนานหลายเดือน เห็นว่าแกจะหยุดพักแล้วน๊ะ

สงสัยจะไปแลกแบงค์ 100 แล้วไปหาเฮียศักดิ์ กับเฮียมั่น แหง.......เลย

 55555555

5555

ตั่วปุ๊ยประเดิมก่อนคนแรกสุดจริงๆ นะเนี่ย 555
วันนี้แกะออกจากมัด แล้วยื่นมอบให้แก่ตั่วปุ๊ยที่รักทันที 555

แล้วมารายงานด้วยล่ะ ว่าดีหรือเลวประการใดนะ

ถ้าห่วยโคตรๆ ก็เงียบๆ ไว้ด้วยล่ะ

555

ขอบพระคุณ เฮียมั่นมากๆ เลยครับ ที่ให้ผมได้เป็นผู้ลองก่อน 55555 ( มั่นใจว่าเฉพาะแค่สายเท่านั้น อย่างอื่นคงยาก....ส์ ) 555

แล้ว เบิร์นครบ ลองฟัง จะรีบเข้ามารายงานครับ 555


เอ๊.....ว่าแต่ว่า เฮียมั่นคง ครับ วันนี้เรื่องที่ผมคุยกับเฮียน่ะ

ผมเป็นคนที่มีอาการเป็นปรกติแน่...น๊ะครับเฮีย

กังวลใจจังเลย กลัวจะไม่ปกติ เหมือนคนอื่น เหมือนเป็นโรคจิตอ่ะ หรือ ป่าว....เอ๊ 55555

เอ้า ไหนๆ ก็เล่าแง้มๆ ให้ฟังกันหลายๆ คน 555

เท่าที่ผมได้พูดคุย แลกเปลี่ยนความคิดเห็นในเรื่องไม่เป็นเรื่องต่างๆ ตั้งแต่วัยรุ่นมาจนถึงวัยร่วง

ตอนแรกผมนึกว่าชั้นระดับผมคงจะเป็นรองตั่วปุ๊ยไม่น่าจะเกิน 3 ต่อ 2 หรืออย่างเก่งก็แค่ 2 ต่อ 1


แต่ยิ่งคุยนาน ความจริงหลายๆ อย่างพรั่งพรูออกมาจากปากตั่วปุ๊ย...........


ทำให้ผมรู้ตัวเองดีว่า ผมเองคงจะเป็นรองตั่วปุ๊ย ในราคา 5 ต่อ 1 เป็นขั้นต่ำ ส่วนเจ้าเบียสน่าจะเป็นรองตั่วปุ๊ยถึง 30 ต่อ 1 ด้วยซ้ำ

เรียกว่าแทบไม่มีราคาให้เล่น..........5555


ผมขอยืนยันครับ ว่าคุณตั่วปุ๊ย เป็นคนที่สมประกอบทั้งร่างกายและจิตใจ สุขภาพพลานามัยพร้อมหมด สมบูรณ์ยิ่งกว่านักมวยที่จะขึ้นชกป้องกันตำแหน่ง

สภาพจิตใจ และ สามัญสำนึก มีความหื่นลามกได้เท่ากับที่ชายไทยมาตรฐานพึงจะมี...........


Recommend 5 stars !!!!!



5555

ใช้หลักการอะไรเพิ่มโอห์มหว่า ใช้ตัวต้านทานรึ? แล้วมันเพิ่มขื้นอีกกี่โอห์ม (เดิมๆ=16โอห์ม) ผมก็ใช้ pk2 เหมือนกัน ถ้าตอบได้จะเป็นพระคุณอย่างสูง คงไม่สะดวกจะไปที่ร้านตอนนี้

สาย crossroad dock-mini พี่ปุ๊ยซื้อมาเท่าไหร่หรอครับ แล้วที่ร้านเฮียมีเป่า อยากได้แบบสายLอย่างในรูปอ่ะครับ รบกวนเฮียตอบที แล้วสายเพิ่มโอมเท่าไหร่หรอครับ ประตูน้ำมีไหม ว่าพุ่งนี้จะเข้าไปซื้อเลย (อยากได้มานานละ)

อ่อ มันคือสาย crossroad กะ cardas mini-miniใช่ปะครับ(พอดีเพิ่งดูหน้งแรก)

ใช่ครับ เป็นตัวต่อ Cross Roads + สาย Mini to Mini ตัวใหม่ล่าสุด ของ พี่หมูหวานครับ เป็นหัวแจ๊ค L ครับ

เรื่องเสียง ผมบอกได้เลยครับ ไม่ทึบครับ เสียงโปร่งมาก ใส นี่ขนาดยังไม่ได้เบิร์น น๊ะครับ

เสียงดีกว่า Cardas ที่เคยออกมาครั้งนึงเป็น แจ๊ค L แน่นอนครับ ไม่เชื่อไปลองดูครับ

55555

555

เดี๋ยวเรื่องหลักวิชาการ จะถามคุณหมูหวานอีกทีครับ วันนี้ก็ดันลืมถามครับ 555

แต่ได้ยินหมูหวานมันโม้ว่า ใส่ตัว R คุณภาพดีๆ ราคาแพง เข้าไป 2 ตัวครับ

ซึ่งผมก็ไม่แน่ใจว่ามันตัวละสลึง หรือตัวละหลายสิบบาทเหมือนกัน 555

แต่ราคาที่คุณหมูหวานเอามาให้วางจำหน่าย อยู่ที่ 250 บาทครับผม

555


ปล.พรุ่งนี้ผมไม่แน่ใจว่าที่ประตูน้ำจะมีหรือเปล่า แต่งามวงศ์วานมีแล้วนะครับ 555

เท่าที่ดูทำได้เหมือนโรงงานทำมากเลยครับ ดูไม่เหมือน handmade เลย เยี่ยมๆๆ

250 อ๊าก ซื้อดองไว้ก่อนได้ไหมเนี้ย - -
แล้วสายต้านโอมเอาไว้ทำไรอ้ะ แล้ว ราคาเท่าไรเนี้ย
แล้วเอียมั่นไม่ทำแพ๊กคู่บั้งล่ะ น่าสนใจนะเนี้ย หึหึ

อ่ะ! ขอบคุณมากครับเฮีย ยังไงฝากถามค่า R ด้วยนะครับ

ที่ถามก็เพราะผมเป็นนัก DIY เดรื่องเสียงมานานพอสมควร เคยไปค้นหนังสือเกี่ยวกับการโมดิฟายเครื่องเสียงที่ท้องสนามหลวง (ตอนนั้นแผงหนังสือยังไม่ย้ายไปที่จตุจักร) ก็ได้รู้เกี่ยวกับการ bi-cap, tri-cap, การเพิ่ม c ภาคจ่ายไฟ, ตะกั่วเงิน, การ bi-wire และอะไรต่อมิอะไรมากมาย รวมถึงการไปตระเวนลองฟังเสียงตามที่ต่างๆ เท่าที่เขาจะยอมให้ฟัง ที่ไปคุยด้วยบ่อยที่สุดคือคุณอัมพร จันทรมาศ ที่ตอนนั้นยังทำเครื่องเสียงยี่ห้อสเปกตรัม แกอัธยาศัยดีครับ ไปขอฟังอยู่นั่นแหละ(เมื่อว่าง) ฟังไปคุยกันไปเพลินๆ

แนะนำตัวกันไปพอสมควรแล้ว กลับมาเข้าเรื่องการเพิ่มโอห์มของหูฟังกันต่อ เท่าที่ความรู้ผมมีนั้น โอห์มของหูฟังมันคือค่าความต้านทานของขดลวด(voice coil) ของหูฟีงมิใช่หรือครับ และอาจจะหมายถึงค่า impedance ของตัว network ด้วย(ถ้ามี) และคุณสมบัติของตัวนำ(สายไฟ,สายหูฟัง,สายลำโพง)มันจะต้องมีค่าความต้านทานต่ำที่สุดไม่ไช่หรือครับ เขาจึงต้องพัฒนาสาย OFC, สายเงิน, หรือสายที่เป็นเส้นฝอยๆละเอียดให้มากที่สุด(เพื่อถ่ายทอดเสียงแหลมที่ดี) และใหญ่ที่สุด ทั้งนี้ก็เพื่อที่จะลดค่าความต้านทานทั้งสิ้น เพื่อที่สัญญาณเสียงจะได้วิ่งตรงไปสู่ลำโพง(หูฟัง)โดยปราศจากการสูญเสีย นี่คือสิ่งที่ผมได้ศึกษามา

ช่วงหลายปีมานี้ผมก็ไม่ค่อยได้ตามข่าวคราวของเครื่องเสียงสักเท่าไร เนื่องจากไม่ค่อยมีอะไรใหม่ๆ อีกทั้งข้อจำกัดอย่างยิ่งยวดของเครื่องเสียงบ้านคือ ห้องฟัง ครับ คงอีกเป็น 10 ปี หรือเป็นไปไม่ได้เลยที่จะมีห้องฟังเสียงเหมือนอย่างของ ออดิโอวิชั่น! จึงหันมาศึกษาเกี่ยวกับหูฟัง อันนี้ผมยอมรับครับว่าเป็นมือใหม่มากๆ และแล้วก็ต้องแปลกใจอย่างยิ่งว่า เพิ่มความต้านทานของสายหูฟังแล้วทำให้เสียงดีขึ้นได้ เพราะว่ามันขัดกันสิ่งที่ผมรับรู้มาอย่างสิ้นเชิง

เอาเท่านี้ก่อนนะครับ รอความเห็นจากเฮียอีกที มิได้มีเจตนาอื่นใด บริสุทธิ์ใจจริงๆครับ คนรักเสียงเพลงเหมือนกัน แลกเปลี่ยนประสบการณ์กัน สิ่งที่ผมไม่รู้ก็ของความกระจ่างด้วยครับ หรือเฮียมีลิ้งค์ เรื่องเกี่ยวกับผลของค่าความก็จะดีมากเลยครับ

ไปละครับ 555

อยากรู้เหมือนกันครับว่าสายเพิ่มโอหม์เอาไว้ทำอะไรครับ?
(เฮียครับ เส้นละ 250 บาทหรือคู่ละ 250 บาทครับ)

5555 ....... สายเพิ่มโอมห์ ครับ เส้นละ 250 บาทครับ งานเนี๊ยบมากครับ  แจ๊คทอง สายหุ้มอย่างดีครับ   ส่วน สาย Mini ผมไม่แน่ใจราคา โทรถาม พี่เบี๊ยสอีกทีดีกว่า 55555

นี่เปิดทิ้งไว้ทั้งคืน  เช้านี้มาฟัง My All ของ ป้า Mariah Carey ผ่านเจ้า IPOD Touch พระเจ้า เสียงเธอ มีน้ำมีนวล เสียงขยับริมฝีปากของป้าเค้า อย่าให้บรรยายต่อเลย รายละเอียด ทุกเม็ดเลยจ้า

โอ๊ย...................555555

โห....ไม่ได้ออกจากถ้ำนานแล้ว....งานนี้สงสัยต้องออกจากถ้ำด่วน....

ส่วนเจ้าสาย Mini to Mini แจ๊ค L ยาว 6 นิ้ว ราคา 190 บาท  55555 ถูกฉิ๊กหาย 55555

โปร่ง สว่าง สูง ยาว ข่า ดี เฮ๊ย..ย..ย 5555

ไปลองดูได้ครับ ทั้ง 2 สาขา

โอ้โห้ มีเรื่องให้เสียงเินอีกแล้ว อิอิ

555 ไม่ต้องห่วงครับ เที่ยวนี้เสียเงินน้อย แต่อัดแน่นด้วยคุณภาพครับ

ผมขอเวลาเบิร์นหน่อยก่อน เอ......แต่ว่า กว่าจะเบิร์นเสร็จ สงสัยสายหมดก่อน แหง..ๆ เลย

55555

190+250 ... 440 เอง แพ๊กคู่ 440 เองเรอะ - - สาขาประตูน้ำมีไหมงับ ซื้อไปดองไว้ก่อนน่าจะคุ้ม > <

ตอบคำถามว่าทำไมสายเพิ่มโอมห์ทำให้เสียงดีขึ้นนะครับ
คือสายนี้จะเอาไว้ใช้กับแอมป์น่ะครับ คือแอมป์ทั่วไปมันจะขับแรงดันได้สูงกว่าที่หูฟังทั่วไปต้องการในขณะที่มันขับกระแสได้ไม่มากเท่าไร(โดยเฉพาะแอมป์ที่ใช้ออพแอมป์โดดๆไม่มีภาคขับ)
เจ้าสายตัวนี้เมื่อเพิ่มโอมห์ทำให้แอมป์สามารถทำงานที่แรงดันสูงเอาท์พุทสูงขึ้นโดยที่กระแสยังเท่าเดิม เมื่อแรงดันสูงขึ้น อัตตรา s/n ก็ย่อมสูงขึ้นตาม(คือสัญญาณรบกวนมันยังเท่าเดิมในขณะที่แรงดันสัญญาณมันสูงขึ้น เท่ากับว่าสัญญาณรบกวนโดนกลบหมด)
และยังมีผลในเรื่องของสาย เช่นหูฟังค่า 24โอมห์ สายปรกติค่า 5 โอมห์มีค่า L และ C นิดหน่อย(เจ้านิดหน่อยเนี่ยมีผลเยอะกว่าค่า r เสียอีก) จะเห็นว่าสัญญาณต้องคร่อมในสายราวๆ 15% ทีเดียว แต่ถ้าเราเพิ่มโอมห์ เป็น 100 การตกคร่อมในสายเมื่อคิดเป็น % ก็จะลดลงเหลือแค่ราวๆไม่ถึง 5% ทำให้ผลจากค่า C และ L ในสายน้อยลง(เพราะR ที่เราใส่ลงไปมันเกือบๆจะเป็น pure R) และผลของสัญญาณรบกวนที่เข้าผ่านไปทางสายก็จะลดลงด้วยเพราะแรงดันในสายอยู่ในระดับสูงกว่านั่นเองครับ

ถามคุณหมูหวานนะครับว่า ถ้าผมจะเอามาใช้กับลูกหมูจะ OK ไหมครับ ?

สวัสดีครับ คุณอากง 555

เฉพาะชื่อก็กินขาดแล้วล่ะ แสดงว่ารุ่นเก่าจริงๆ ยิ่งถ้าเคยไปนั่งกับพี่อัมพรมา แสดงว่าต้องรุ่นใหญ่กว่าผมอีกนะเนี่ย 555

ผมไปนั่งมั่วกับพี่อัมพร ตอนที่แกทำแอมป์ trenda กับ Angelina หรือไงนี่ล่ะ ช่วงนั้นเป็นช่วงที่กัดฟันกรอดๆๆๆ จริงๆ

เพราะตังค์ก็ไม่มี แถมใจใหญ่จะซื้อปรี-เพาเวอร์ของคนไทยในราคา 3-40000 บาทอีก 555 ยุคนั้นถือว่าบ้าสุดขีดเลยครับ 555

ไอ้เรื่องสายเพิ่มโอห์มนั้น เดี๋ยวหมูหวานคงเข้ามาเล่าล่ะครับ ซึ่งไอ้วิธีการเล่นพวกนี้ ก็ลอกมาจากฝรั่งเกือบจะทั้งดุ้นล่ะครับ 555 เค้าเล่นไง เราก็เล่นแบบนั้น


ไอ้เรื่องตัว R หรือหลักการนั้น ผมเคยคุยคร่าวๆ กับหมูหวานไปครั้งหนึ่งแล้ว แต่เมื่อความชัวร์ ให้มันเล่าเองดีกว่า 5555

555 เผลอแพล็บเดียว พี่ noppong มาช่วยเล่าแจ้งแถลงไขแล้ว

ขอบคุณมากเลยครับ 555

พี่ nopphong นี่ก็ถือว่าเป้นระดับ "เงี่ยมล้ออ๋อง" คนหนึ่งของวงการ Gadget นะเนี่ย 555

เฮียเอาศัพท์แปลกๆมาอีกแล้ว ฮ่าๆ :183:

สวัสดีคุณอากงครับ ยินดีน้อมรับทัศนะครับ

ขอบคุณคุณ nopphong มากๆครับ ที่มาช่วยตอบจ้า วิชาการแน่นปึกจริงๆ ขอคารวะ

ขออนุญาติตอบปัญหา แบบบ้านๆ อธิบายสรรพคุณทางโภชนาการหน่อยละกัน 555

สายตัวนี้จะ + Imp. 75ohm ครับ เป็น R อย่างดี ซึ่งผมทดลองแล้วทดลองอีกจนมั่นใจ

เจ้าสายเนี่ยสามารถช่วยลด Noise พวกเสียงซ่า เสียงซี่่ เวลาที่ใช้ AMP หูฟัง Imp. ต่ำๆได้

โดยปกติแล้ว Amp จะความเพี้ยนต่ำลง เมื่อขับหูหูฟัง Imp. สูงขึ้นจ้า

ส่วนเรื่องดีไม่ดียังไง คงต้องไปลองด้วยหูท่านเองดีกว่า

เพราะก่อนที่ผมจะทำสายนี้ออกมา ก็ทำเดโมไปให้หลายท่านเทส แล้วเสียงตอบรับเป็นที่น่าพอใจจ้า

ถึงได้กัดฟันสั่งทำโมล์ฉีดขึ้นมาโดยเฉพาะ

อ่อ ความเข้ากันได้กับ The Pig นี่แน่นอน นอนแน่จ้า

5555 ไม่ใช่ศัพท์แปลกๆ ครับ เป็นศัทพ์ที่หาอ่านได้ตาม หนังสือพิมพ์ที่เขียนโดยคนรุ่นก่าๆ น่ะครับ

เวลาจะยกย่องใครก็ตาม มักจะเปรียบเปรยไปว่า เหมือน เงี่ยมล้ออ๋อง มั่ง หรือไม่ก็ เง็กเซียนฮ่องเต้มั่ง

ซึ่งทั้ง 2 ชื่อนั้น ในทางจีนมหายาน (ไม่แน่ใจ) เค้ายกย่องว่าเป็นผู้สร้างทั้ง 3 ภพ 555 อะไรประมาณนี้ล่ะครับ

ในยุคหนึ่ง นักหนังสือพิมพ์ไทย มักจะเขียนชมนักกีฬาที่มีฝีมือเลิศล้ำด้วยวรยุทธว่า

เงี่ยมล้อฮ่อง หรือไม่ก็ เง็กเซียนฮ่องเต้ มั่ง



ทั้งหมดก็มาจากประการฉะนี้แล.............555

ผมก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน ว่าทำไมเวลาที่คร่อม r ไว้ที่สายสัญญาณ แล้วเสียงมันเปลี่ยน

ซึ่งเท่าที่คุยกับผู้รู้เรื่องลำโพง เค้าก็บอกว่ามันไม่มีผล มีแต่จะตัดการทำงานในบางย่านความถี่ของลำโพงออกไป ซึ่งผมก็ไม่ค่อยเข้าใจ และจำผิดๆถูก

บางที่มันอาจจะมีค่ากลายเป็น ครอสไปแล้วก็ได้ เหมือนกับเป็น ครอสที่แบ่งย่านสำหรับ ดอกแหลม ดอกทุ้ม

ที่ทำให้อาจมีผลว่าเสียงดีขึ้น อาจเป็นเพราะว่า ย่านที่เป็นคลื่นซ่า ถูกขยับออกไป หรืออาจเป็นเพราะว่า
ช่วงที่มันซ่านั้นตัวเครื่องเสียง หรือแอมป์ ไม่สามารถขับออกมาได้ แต่ถ้าลองเร่งดู ก็จะเจอกับเสียงซ่าเหมือนเดิม

แต่ว่าลองเปิดใจฟังดีๆคับ เบสมันหายไปนะ ลองๆคิดดู กว่าเบสจะมา คุณต้องเปิดดังขึ้น เพื่อเร่งให้สัญญาณสามารถข้าม ตัว r มาได้

ถ้าคิดว่าต่อ r เพื่อเปลี่ยนแนวเสียง หรือทำให้เสียงดีขึ้น ผมว่ามันเป็นไปไม่ได้ แต่ถ้าต่อเพื่อ ตัด noise ผมว่ามันก็ดีนะ แต่ "เบสหาย" แน่นอน

เรื่องเบสหาย เท่าที่ผมฟังก็ไม่หายนะจ๊ะ

หลายๆท่านที่เอาสายผมไปใช้ ก็ยังไม่มีใครบอกผมเลยนะครับ

มีแต่บอกว่าโฟกัสดีขึ้น เสียงสะอาดขึ้น พูดไปก็เหมือนโม้

ยังไงรบกวนช่วยกันไปฟังแล้ว comment หน่อยก็ดีจ้า

ดีกว่า Cardas HPI อีกเหรอเนี่ย
สงสัยผมต้องไปลองซะแล้ว :126:

ตอบคุณเอก
มันเป็นเรื่องของ impedance ของวงจรแอมป์น่ะครับ คืออย่างแอมป์บ้านถ้าเขาออกแบบวงจรมาให้ขับที่ 8 Ohm แต่เราเอาดอกลำโพง 2โอมห์ใส่ เสียงมันก็จะไม่ดีครับ ดีไม่ดีแอมป์พังไปเลยก็มี นี่ก็เหมือนกันครับ แอมป์หูฟังที่ใช้ opamp มันจะหมาะที่จะขับหูฟังที่ 50 โอมห์ขึ้นไปถึงจะทำงานเต็มประสิทธิภาพของมัน ทีนี้หูฟังทั่วๆไปมันค่าแค่ 24-32 โอมห์ ใส่กับแอมป์ก็เลยทำงานไม่เต็มที่มันก็เลยมีสัญญาณรบกวนบ้าง เพี้ยนบ้าง และยังเรื่อง อัตตราส่วน s/n แบบที่ได้อธิบายไว้ด้วยครับ การเพิ่มโอมห์มันจะช่วยแมทซ์ตรงนี้ได้ครับ

และอีกจุดที่น่าคิดคือเวลาเราต่อแอมป์ เราจะเอาสัญญาณเข้าโวลลุ่ม แล้วลดขนาดสัญญาณลงให้มันดังพอดีเมื่อถูกขยายออกมา ซึ่งสัญญาณจะไปดรอบในส่วนนี้เยอะ และเมื่อสัญญาณอินพุทเบาโอกาสถูกรบกวนก็ง่ายขึ้น ทีนี้พอเราใส่สายเพิ่มโอมห์เราก็ต้องเร่งโวลลุ่มเพิ่มขึ้น สัญญาณก็จะดรอบในโวลลุ่มน้อยลง และสัญญาณอินพุทที่เข้าในวงจรก็จะแรงกว่าสัญญาณรบกวนก็เลยมีผลน้อยลงครับ

พอดีผมเป็นคนทำแอมป์เลยรู้ในส่วนนี้ เพราะมันถือว่าเป็นจุดที่มีผลกับเสียงค่อนข้างมาก และเป็นเรื่องที่ต้องคิดเวลาเลือกอัตตราขยายของแอมป์ที่จะทำครับ

555

นี่ถ้าไม่ได้พี่ nopphong มาช่วยตอบ

ผมคงม่องเท่งแน่เลย เพราะผมเองนั้นก็พอรู้แบบงูๆ ปลาๆ เหมือนกัน จะให้อธิบายแบบนี้ ก็ไม่เป้นจริงๆๆๆ 555

ผมยังไม่แก่อย่างที่คิดนะครับ 555 ตอนนั้นยังวัยกระเตาะ อิอิ เพื่อนเคยเอาทิปโททองเหลืองทำเองไปขายพี่อัมพรด้วย (จิ๊กทองเหลืองในโรงงานพ่อมันไปทำขาย ตอนหลังพ่อมันรู้เข้าโดนด่าเช็ด เพราะขายขาดทุน!)

แอมป์ของพี่อัมพรนี่ตั้งชื่ีอซะไพเราะเพราะพริ๊งจริงๆ ไปลองฟังบ่อยๆเข้าเพื่อนผมเลยเสียเงินซื้อมาจนได้ กลับมาบ้านเลยจัดการรื้อซะ เห็นวงจรภายในแล้วเล่นเอาเพื่อนผมหน้าถอดสีเลย หุหุ

กลับมาที่การเพิ่มโอห์ม ขอบคุณ คุณ nopphong และคุณ SweetPig อย่างมากครับที่พยายามอธิบาย ก็พอจะเข้าใจวัตถุประสงค์ครับว่า พยายามทำอะไรอยู่ งึมงำงึมงำ เริ่มยังไงดีละวุ้ย เอาเป็นข้อๆละกัน ผิดถูกขออภัย
1 แอมป์ที่นำมาต่อกัย player นี่ต้องออกแบบมาอย่างดีเยี่ยมเลยนะ เพื่อที่จะได้ขยายแต่สัญญาณเสียง โดยไม่ขยาย noise ตามมาด้วย อันนี้คุณ SweetPig คงร้องหมูๆ แต่ noise ที่ว่าจาก player นี่มันเยอะจนต้องมาทำแบบนี้รึ อันนี้ผมก็ยัง งง งง
2 เรื่องแก้ความเพี้ยนของแอมป์ โดยพยายามทำให้แมทช์กันด้วยการต่อ r มันก็เป็นวิธีการหนึ่ง ผมเข้าใจในความพยายามครับ แต่มัน loss น่ะครับ แต่ถ้าเรายอม loss แล้วเสียงดีขึ้นจริงๆ อันนี้จะ loss เท่าไรก็ช่างมันเนอะ
3 อันนี้น่าจะเป็นวิธีที่ดีที่สุด ก็ทำแอมป์ให้ output impedance มันเท่ากับ impedance ของหูฟังไปเลยซิ ใช้ matching transformer แบบแอป์สมัยก่อนไง อิอิ อันนี้ล้อเล่น แต่ก็อีกละนะ วงจรก็จะใหญ่โตขึ้น แบตหมดเร็วอีก เดี๋ยวผมจะลองทำขึ้นมาสักตัวแล้วกัน ว่างๆก่อนนะ วงจรหาไว้เยอะแล้ว 555
จะเอามาขับ pk2 กัน ไอ้เจ้า 41 พระกาฬที่พึ่งสั่งจองเอาไว้ซักหน่อย

ขอพล่ามเท่านี้ก่อนละครับ

1.noise ใน player ไม่เยอะครับแต่ในสายและในอากาศเยอะ ถ้าเอาจาก player มาเข้าหูฟังเลย player ขับมาที่ 2V สัญญาณรบกวนในสาย 50mV มันก็ไม่ค่อยได้ยิน ทีนี้พอเข้าแอมป์สัญญาณมันถูกลดโดยโวลลุ่มเหลือ 100mV แต่สัญญาณรบกวนไม่ถูกลดไปด้วยเพราะมันอยู่ในอากาศ กลายเป็นสัญญาณรบกวนเท่ากับครึ่งนึงของสัญญาณเสียง(สมมุตินะครับจริงๆแค่ 10% ของเสียงนี่ก็แย่แล้ว) วิธีที่ดีที่สุดคือพยายามให้สัญญาณถูกทอนในโวลลุ่มน้อยที่สุด หรือไม่ใส่โวลลุ่มเลยจะดีมากครับ อีกอย่างแอมป์บางตัวเวลาขยายสัญญาณที่เล็กๆมันจะไม่ชัดเหมือนสัญญาณใหญ่ๆครับ มันเป็นเรื่องทางเทคนิคที่แก้ไม่ได้ครับ ไม่เชื่อลองง่ายๆ เอาหูฟังไปเสียบแอมป์วัตตสูงๆบ้านแล้วเปิดดูจะพบว่าเปิดจิ๊ดเดียวมันก็ดังแล้วแต่เสียงมันจะไม่ค่อยได้เรื่องครับ
2.การต่อ R ไม่เรียกว่า loss ในด้านคุณภาพเสียงครับเพราะ R ที่ใส่เป็น R แบบ pure R ก็เลยไม่มีผลต่อความถี่ จริงๆแล้วไม่เสียกำลังไฟด้วยซ้ำ งงไหมครับ อิอิ จริงๆผมก็ งง เหมือนกันในตอนแรก แต่พอจะอธิบายได้ว่า อย่างหูฟัง 24โอมห์ ดังสุดมันจะกินกระแส 10mA พอเราใส่ตัวเพิ่มโอมห์เข้าไป เราเร่งเพิ่มขึ้นจริงแต่สุดท้ายกระแสที่ดังสุดก็ยังเป็น 10mA เหมือนเดิม เพิ่มก็แต่ V ที่ต้นทาง ทีนี้มาว่ากันในวงจรขยาย ถ้ามันสวิงที่ V ต่ำแสดงว่ากำลังสูญเสียจะไปตกคร่อมที่ทรานซิสเตอร์ภาคขยายมาก ทรานซิสเตอร์ร้อน สัญญาณเพี้ยน ฯลฯ พอเพิ่มโอมห์ ต้องสวิงที่แรงดันสูงก็เลยต้องตกคร่อมที่ทรานซิสเตอร์น้อยไปด้วย(ทำงานเกือบ on เต็มที่) ทรานซิสเตอร์ร้อนน้อยลง เพี้ยนน้อยลงครับ
3.จริงๆแล้วแอมป์มันจะไม่สน output impedance หรอกครับ แอมป์มันสนว่ามันต้องขับที่กระแสเท่าไร โดยโวลท์ที่ต้องตกคร่อมมันไม่ออกไปที่โหลดเหลืออยู่เท่าไร ยิ่งโหลดโอมห์ต่ำเท่าไร(ที่กระแสเท่าๆกัน)แอมป์ก็จะยิ่งร้อนและยิ่งเพี้ยนขึ้นเท่านั้นครับ

แต่ทั้งนี้ไม่ใช่แอมป์ทุกตัว หรือหูฟังทุกตัวจะเหมาะกับการเพิ่มโอมห์ เพราะการเพิ่มโอมห์หมายถึงเราต้องมีแอมป์ที่สามารถขับที่แรงดันได้สูงพอที่หูฟังจะได้กระแสเท่าเดิม และยังมีเรื่องของ slew rate ที่ยิ่งต้องขับที่แรงดันสูงถ้าแอมป์มี slewrate ต่ำจะทำให้ขับไม่ทันผลก็คือรายละเอียดเสียงหายไปได้ครับ (มักจะไม่มีผลกับแอมป์ที่ใช้ opamp ล้วนเพราะพวกนั้นส่วนใหญ่ bandwidth หลายร้อย kHz อยู่แล้ว)

ชักมันซะแล้วซิ
1 ถ้า noise ที่ว่า เกิดจากการ induce เข้ามาทางอากาศ ทีนี้สายเพิ่มโอห์มมันอยู่ต้นทาง (ตรงแจ็คหูฟัง) แล้วระหว่างแจ็คมาถึงตัว voice coil ของหูฟังสายมันก็ยาว มันก็รับ noise เข้ามาอีกอะดิ วิธีที่ดีที่สุดคือ เอา r ไปยัดไว้ที่ตัวหูฟังเลย ผมเข้าใจถูกใหมครับ
2,3 แค่ผมคิดจะพิมพ์อะไรลงไป ก็ต้อแต้แล้วอ่ะ จิ้มดีด จิ้มดีด ไม่ใหว เรื่องมันยาว คิดว่าจบยากซะด้วย เดี๋ยวหาอะไรโด๊ปหน่อย บังเกิดอารมย์อันสุนทรีย์ แล้วจะมาถกต่อครับ เดี๋ยวหาอะไรอ่านเรื่อยเปื่อยเพลินๆก่อน เอ้า! อาเฮียอยู่ปล่าววว ส่งเสียงหน่อยยย

ใช่เลยครับวิธีที่ดีที่สุดคือเอา r ไปใสไว้ในหูฟังเลย แต่ถ้าไม่อยากรื้อหูฟังก็ต้องพึ่งสายนี่แทนแหละครับ อิอิ แต่ก่อน ksc35 ก็มีรับโมเอา r ใส่ไว้ในหูฟังครับ แต่เดี๋ยวนี้เลิกไปเพราะหูฟังมันหมดตลาดไปน่ะครับ

ขอมาร่วมแจมด้วยอีกนิดจ้า

จริงๆแล้วคนผลิต Headphone Amp ทุกคนต้องการ Match ให้เข้ากับหูฟังอยู่แล้วจ้า

แต่หูฟังมันบ่เหมือนลำโพงบ้าน Imp.หูฟังมีทั้ง
16,32,64,120,300,600 ฯลฯ ohm

ไม่เหมือนลำโพงบ้านที่มาตราฐานใหญ่คือ 8ohm เลย Match ง่ายกว่าจ้า

แล้วการติด R ไว้ที่หูฟังเลย มันต้องรื้อหูฟังน่ะครับ บางตัวเป็นหมื่น หลายๆท่านเลยแขยงจ้า

เอา เอา ..... พี่หมูหวานจ๋า ตอบคำถามเสร็จแล้วอย่าลืมไปทำสายเพิ่มด้วยล่ะ


ของใกล้หมดแล้วจ้า...า..า

ขออนุญาตถามนะครับ...

อยากทราบการเลือกซื้อPlayer Amp. หูฟัง สายที่ใช้ เราควรจะดูอะไรบ้างครับ

เพราะทุกวันนี้ผมเองก็เลือกซื้อเอาที่ชอบโดยไม่รู้ด้วยซ้ำว่าทางเทคนิคแล้วมันเหมาะกันหรือเปล่า

ส่วนเด็กรุ่นน้องผมก็ซื้อเพราะกระแส เห็นเค้ามาโพสว่าดีก็อยากได้โดยไม่รู้ว่ามัน

เหมาะกับตัวเองหรือเปล่า เห็นเค้าว่าดีก็ซื้อมาแล้วพอไม่ชอบก็ขาย

รบกวนเฮียและพี่ๆเพื่อนๆ ที่มีความรู้ด้านเทคนิคช่วยบอกหน่อยอ่ะครับ

อย่างน้อยเวลาซื้อเราจะได้รู้ว่าเราควรดูอะไรบ้างไม่ใช่เค้าว่าดี อันนี้เค้าเล่น

อันนี้หายาก แล้วก็ต้องมาเร่ขายในที่สุด ผมเห็นน้อยคนมากที่จะดูคู่มือ

ใบแนบ หรือข้างกล่องว่า หูฟังนี้กี่โอห์ม แอมป์นี้ควรใช้กับหูฟัง?

สายนี้เป็นวัสดุอะไร เหมาะกับกำลังขับเท่าไหร่ อะไรประมารนี้.......................?

รบกวนผู้รู้ทุกท่านช่วยแนะนำด้วยนะครับ(ถ้าเคยมีคนถามไปแล้วรบกวนช่วยบอกอีกทีนะครับ คิดซะว่าได้บุญละกันครับ)

ขอบคุณทุกท่านไว้ล่วงหน้าเลยละกันครับ

5555

ยังอยุ่จ้า ยังอ่านอยุ่ครับอากง 555
ยิ่งอ่านยิ่งมันส์

แต่รุ้สึกว่าหมูหวานจะพิมพ์ตอบน้อยไปหน่อย เดี๋ยวต้องเขกกบาลซักที.......555

----------------------------

ส่วนของคุณ ilover นั้น ถ้าจะตอบกันตามตรงเลย

ผมว่าการเล่นแบบนี้แทบจะไม่มีทฤษฎีเลยล่ะครับ สุดแล้วแต่ใครจะเลือกเดินแบบไหน บ้ากันอีกเท่าไหร่.........

แต่หลักที่ผมเล่น ผมมักจะแก้ไขทีละส่วนให้ถูกใจก่อนครับ ก็ไม่มีอะไรมากคือไล่เรียงตั้งแต่ต้นทาง

ไฟล์เพลง - เครื่องเล่น - หูฟัง - แอมป์ - สาย

แต่ทีนี้การจะเลือกพวกอุปกรณ์เหล่านี้มันมารวมกัน มันค่อนข้างจะขึ้นอยู่กับความชอบส่วนตัวอีกล่ะครับ ซึ่งยากจะระบุไว้ชัดเจนว่าอะไรดีหรือไม่ดี

แม้กระทั่งไอ้สายเพิ่มโอห์มของเจ้าหมูหวานนี่

ผมก็ถือว่าเป็นหนึ่งในของเล่นเหมือนกัน เพราะเมื่อดูจากทฤษฎีแล้ว มันน่าจะเวริ์คมากสำหรับคนที่มีแอมป์ และอยากหาอะไรสนุกๆ มาเล่นเพิ่ม.........

แต่มีที่จะแนะนำคุณโต้งอีกนิดคือ ของพวกนี้ต้องพยายามอ่านจากประสพการณ์คนอื่นเหมือนกัน จะเดามั่วด้วยตัวเองคงไม่ไหว เพราะสิ้นเปลืองมาก

ผมมักจะอ่านประสพการณ์จากคนเล่นคนอื่นๆ เหมือนกัน ยิ่งพวกฝรั่งยิ่งดี เพราะเค้ามีโอกาสเล่นของที่หลากหลายกว่าเรา และเค้ามักจะเล่นอะไรที่จริงจัง ลึกซึ้งกว่าเราครับ............


สายเพิ่มโอห์ม ก็คือ อีกหนึ่งวิธีสู่สุขาวดี...........โอวววว มาดก๊อด 555

้สายเพิ่มโอมห์ และ สาย มินิ ทู มินิ
ต้องใช้ร่วมกับแอมป์ใช่ปะครับ

สำหรับคนมีแอมป์ใช่ปะครับ

ฮาๆ ไม่ได้เข้ามาสองวัน กระทู้นี้ฮิตฮอตขึ้นมาเลย ที่จริงพยายามเข้ามาครับ แต่เข้าเว็บไม่ได้ งง อยู่นานเลย จนโทรหาเฮียมั่นฯ จึงได้รู้ว่าเว็บไม่ได้ล่ม ไอพีที่ผมได้จาก GPRS AIS โดนตลาดบล็อกเฉยเลย ผมเปล่าป่วนสักหน่อย คริ คริ..

จะบอกว่า ผมเป็นอีกคนหนึ่งที่ได้ลองใช้สายเพิ่มโอห์มมาแล้ว ได้ลองค่า r หลายค่าเลยครับ มันมีผลกับคุณภาพเสียงจริง ๆ ในชุดที่ผมทดลองมีผลทางด้านบวกล้วน ๆ ครับ

เคยอ่านเรื่องการพัฒนาสายลำโพง OFC รวมทั้งเรื่องความพยายามทำให้บริสุทธิ์มีค่าความต้านทานต่ำที่สุด ยิ่งเป็นเพียวขนาด 99.99999% ได้ยิ่งดี เพราะมันเหมือนกับมีท่อสัญญานโล่ง ๆ ใหญ่ ๆ การไหลของสัญญานย่อมดีกว่า ท่อสัญญานที่มีผักตบ วัชพืชขวางการไหลของน้ำ

มันจึงเป็นเรื่องน่าแปลกจริง ๆ ที่มีการพยายามใส่ความต้านทานคั่นสายหูฟัง มันควรจะทำให้สัญญานอ่อนลง เสียงก็น่าจะแย่ลง แต่มันไม่เป็นอย่างนั้น เหตุผลทางเทคนิคผมก็ไม่ทราบครับ คุณนพพงษ์กับคุณหมูหวาน ได้อธิบายเหตุผลทางเทคนิคไว้แล้ว ก็พอจะเข้าใจนิด ๆ หน่อย ๆ เพราะไม่ได้มีพื้นความรู้ทางอิเลคทรอนิกเลย

ที่ผมเชื่อว่าสายนี้ช่วยให้ดีขึ้น มาจากการฟังด้วยหูตัวเองล้วน ๆ ครับ ถ้าจะมีเหตุผลประกอบก็เป็นเพียงลอจิกง่าย ๆ ประมาณว่าใช้สามัญสำนึกล้วน ๆ ดังนี้

ในชุดลำโพงบ้าน การจะขับลำโพงให้ได้เสียงดังพอที่หูจะได้ยินดนตรีไพเราะ ต้องใช้พลังของแอมป์พอสมควร เพราะไดร์เวอร์ลำโพงบ้านขนาดใหญ่กว่าไดร์เวอร์หูฟังมาก ในขณะที่การใช้เฮดโฟนแอมป์ขับหูฟังนั้น หากหูฟังที่ใช้เป็นหูฟังชนิดโอห์มต่ำ เราแทบไม่มีโอกาสได้ฟังศักยภาพสูงสุดของแอมป์เลย เพราะเปิดแค่ 8.30 นาฬิกา มันก็แผดเสียงดังลั่นแล้ว

การเพิ่มโอหม์ของหูฟัง จึงเกิดขึ้นเพื่อให้สามารถเพิ่มวอลลุ่มของเฮดโฟนแอมป์ให้สูงขึ้น เพื่อให้แอมป์ได้ออกแรงขยายสัญญานให้ใหญ่ขึ้นเต็มประสิทธิภาพ หากจะใช้คำเปรียบเทียบ น่าจะคล้ายกับการเอาตะแกรงไปขวางทางน้ำ เพื่อจะได้เปิดปั้มน้ำให้มากขึ้น เพื่อให้ได้แรงดันน้ำ(หรือความดัง)เท่าเดิม ดังนั้นมันจึงน่าจะเป็นคนละเรื่องกับการใส่ผักตบ หรือวัชพืชลงในน้ำ ให้มันเป็นขยะขุ่น ๆ

ส่วนว่าใช้สายแล้ว ช่วยลด noise ลงได้ ตามคำอธิบายของคุณนพพงษ์ ผมก็เพิ่งทราบครับ อาจเป็นเพราะ pk2 มันยังไม่ละเอียดพอที่จะเปล่ง noise ออกมาให้หูตะกั่วอย่างผมได้ยินมั้ง แฮ่ ๆ

เรื่องสายเพิ่มโอห์ม ผมว่าต้องลองด้วยหูตัวเองครับ การเล่นชุดเครื่องเสียงมีอะไรอีกหลายอย่างที่แปลก ๆ ไม่น่าเชื่อ ในกระบวนการของแปลก ถ้าเทียบกันแล้ว ผมว่าผงทรายภูเขาไฟ เป็นเรื่องมหัศจรรย์สุด ๆ แล้วครับ

สายเพิ่มโอห์มเนี่ย ฟังดูเป็นเด็กน้อยเลย อิอิ...

เดี๋ยวต้องไปลองซะหน่อย ของใกล้หมดยังครับ

ไม่รู้เกิดวิกฤตอะไรขึ้น 555

พอกระทู้นี้ขึ้นปุ๊บ พรวดเดียวสายเพิ่มโอห์มใกล้หมดแล้วครับ (ณ เวลาที่ผมพิมพ์นี้ ไม่แน่ใจว่าหมดหรือยังด้วย)

ปลื้มใจแทนหมูหวาน ที่ออกสินค้ามาล้วงกระเป๋าแฟนๆ หูฟังได้ เอ๊ย.........ไม่ใช่ 555

ออกสินค้าของเล่นมาให้ผู้ใหญ่ได้เล่นกันถ้วนหน้า........

วันนี้ผมโทรคุยกับหมูหวานอยู่นานสองนาน

คาดว่าคงอีกไม่นานแล้วล่ะครับ หมูหวานน่าจะโดนไล่ออกจากงานประจำ แล้วคงจำเป็นต้องออกมารับใช้ทำงานด้านนี้อย่างเต็มตัว 555

เอ้า ดีใจกับหมูหวานเร้ว........จะโดนไล่ออกแล้ว 555

55555 ดีใจด้วยจ้า เอาเลย น้าหมูหวาน จะได้ไปดูเต็งลั้งได้แบบ เต็มตัว สักที  55555

เร่งพัฒนา สินค้ามาไวไว เด้อ ....... นางโลมที่หอคอยคู่รออยู่  กร๊าก...ก...ก 5555

แวะมาลงชื่อไว้ก่อน โอ้วววว มายก้อด ตากงลายหมดแล้ว ยังอ่านไม่หมด ขอไปดูอะไรๆบิ้วอารมณ์ก่อนนะ ไม่รู้บิ้วขึ้นรึปล่าว มันมักจะขึ้นตอนดึกๆ แกล้งคุณnopphong ให้อดนอนตามผมไปด้วย 555

สอยสายเพิ่มโอห์มมาเรียบร้อยแล้ว
แต่มีเรื่องสอบถามเฮียหรือคุณหมูหวานหรือผู้รู้หน่อยครับว่า ทำไมเบสมันหายไปหมดเลยอ่ะ
แถมเสียงนักร้องก็กลับไกลออกไปมาก ฟังไม่รู้เรื่องเลยอ่ะครับ
TEST จากเพลง HOTEL CALIFORNIA rip ที่ 320 k โดยใช้ T10 (ปรับ EQ Normal) + KOSS 35 +The Pig
ผมทำอะไรผิดพลาดไปหรือเปล่าครับ?

เป็นไปได้ว่า ksc35 โอมห์มันเยอะอยู่แล้ว (60 ohm) พอใส่ตัวเพิ่มโอมห์เข้าไปอีก(ผมไม่รู้ว่ากี่โอมห์) มันก็เลยมีโอมห์สูงเกินไปที่จะขับที่ระดับปรกติครับ ถ้าจำไม่ผิด the pig มีให้เลือก gain เป็น Lo กับ Hi ยังไงลองเลื่อน gain ไปที่ Hi สิครับ น่าจะทำงานกันได้ดีนะครับ

ไม่หายครับพี่ nopphong แม้จะปรับ GAIN เป็น HI หรือ LOW รวมทั้งเปลี่ยนหูฟังจาก koss 35 เป็น pk 3 หรือ ms1 คือเสียงที่ได้มันไม่ใส มัวๆ ยังไงไม่รู้รู้สึกเหมือนกำลังฟังเทปเพลงที่ยืดอ่ะครับ (ขณะที่พิมพ์นี้ก็กำลังเปิดเบิร์นไปเรื่อยๆอ่ะครับ)

รบกวนคุณแมวหลวงลอง Burn สายนี้ไปอย่างต่ำ 50 ชม.ก่อนนะครับ

มันถึงจะแสดงปา-ติ-หาน

แล้วมาคุยกันอีกทีจ้าว่าเป็นไงจ้า

ดูท่าชุดของคุณแมวหลวง จะไม่เหมาะกับสายเพิ่มโอห์มเส้นนี้ ใส่เข้าไปแมทชิ่งเสียเลย เท่าที่ทราบเส้นนี้ 75 โอห์มครับ

ผมเคยลองขนาด 35, 75, 105, 140, 180, 215 โอห์ม เพื่อหาแมทชิ่งที่เหมาะกับ The Pig -> PK2 พบว่าที่เหมาะกับมันคือระหว่าง 75 หรือ 105 โอห์มครับ

ไม่เคยลองกับ KSC35 พอดีขายไปก่อนได้สายมาเล่น

ผมมองว่า สายเพิ่มโอห์ม มันคือตัวช่วยเรื่องแมทชิ่งของชุดครับ ใช้กับชุดที่มันไม่ค่อยลงตัว บางชุดถ้ามันดีอยู่แล้วก็ไม่จำเป็นต้องใช้เลย

ขอบคุณสำหรับคำแนะนำของพี่ ๆ ทุกคนนะครับ
จะลองเบิร์นตามระยะเวลาที่คุณหมูหวานบอกไปก่อนแล้วจะมารายงานผลให้ทราบนะครับ

ใช้กะ 412P จะดีไหม

วันนี้สาย ต้านโอม หมดไปเป้นที่เรียบร้อยแล้วครับสาขาประตูน้ำ - - อาไรจะขายดีปาณน้าน ผมไปซื้อเป็นคนแรกเอง:123:

5555....ของเค้าดีอ่ะครับ ไม่แพงด้วย 5555

อะจ๊ากกกกกกก

เพิ่งมีคนโอนตังค์มาให้ผมเอง ค่าสายเพิ่มโอห์มนี่ล่ะ พรุ่งนี้สงสัยต้องไปปล้นที่งามวงศ์วานมาก่อนล่ะวุ๊ย 555