Guest
หมวดหมู่ > เว็บบอร์ด จับฉ่าย

ช่องทางการติดต่ออื่น

  • Munkonggadget
  • Munkonggadget Reviews
  • Munkonggadget Reviews
  • Munkonggadget Contact Us

การ Rip เพลงจากซีดีเพลง ครับ

เวหา

20/01/2007 10:46:15
เพิ่งสอย Portapro มาหมาดๆครับ
ใช้กับ T10 โห..เสียงเบส เสียงกลอง ถูกใจมากครับ
เลยเข้ามาถามการริบเพลงครับ ว่า..
การริบเพลงจากแผ่นซีดี audio แบบไหนจะให้คุณภาพเสียงดีที่สุดครับ
ใช้ เอนโคด ของ LAME นะครับ...
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 1

เต้ย

20/01/2007 11:12:15



อืม ท่ากับ t10 น่าจะลองแปลงเป็น ogg bitrate สัก 500เค
แต่ไฟล์ใหญ่ประมาณหนึ่งในสามของซีดี คราวนี้เสียงดีสมใจแน่ครับ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 2

นายมั่นคง

20/01/2007 11:50:19



555 ผม Rip แต่ ACC 320 kbps อย่างเดียวเลยครับ อย่างอื่นไม่ค่อยได้ลองเท่าไหร่

เอ้า ใครเชี่ยวชาญเรื่อง Rip เพลง มาเล่าหน่อยเร้ว 55555
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 3

แมวอ้วนอืด

20/01/2007 13:44:17



ตัว T10 ผมอัดมาราวๆ 224-320 kbs (MP3-VBR) เพราะว่าต้องใช้เนื้อที่เก็บเพลงจำนวนหลายเพลงแล้วก็ขี้เกียจมานั่งเอาเพลงเข้าเพลงออกบ่อยเพราะเนื้อที่ไม่พอครับ ใช้ PortaPro น่าจะเพียงพอกับความละเอียดขนาดนี้นะครับ ส่วน OGG ยังไม่ได้ลองเลยแต่ถ้าลองเอาบิทเรทสูงๆ เนี่ยะผมว่าถ่านหมดเร็วแน่ๆ เลย 55+ ส่วนที่บ้านผมฟังในเครื่องคอม ผม RIP เป็น WAV เพียวๆ บริสุทธิ์ไม่มีลดทอนเลย ฮาร์ดดิสก์จุเยอะมากๆ เอาแบบเต็มพิกัดเลยล่ะ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 4

กะริโตะคุง

20/01/2007 14:36:58
ผมงงระหว่าง joint stereo กับ Normal stereo น่ะครับ

อย่างไหนมันดีกว่ากันครับ ผมใช้่ joint stereo แต่พอไปอ่านในบอร์ดบางที่เค้าบอกว่า joint stereo มันเป็นการจำลองเสียงให้เหมือน stereo ซึ่งถ้าเสียงเป็น stereo มันจะทำให้คุณภาพเสียงลดลงอ่ะครับ ขอคำยืนยันหน่อย
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 5

เล็ก

20/01/2007 15:00:34
ผมใช้ apple lossless ตลอดอะครับ เสียงต่างจริงๆ :126:
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 6

เล็ก

20/01/2007 15:01:09
ผมใช้ apple lossless ตลอดอะครับ เสียงต่างจริงๆ :126:
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 7

สาคร

20/01/2007 19:02:54
ไม่ว่าจะเป็น VBR,Joint Stereo พวกนี้ออกแบบตั้งใจมาเพื่ิอจะลด"ขนาด"ของไฟล์ โดยตั้งใจให้คงคุณภาพเดิมไว้ให้มากที่สุดนะครับ

อย่าง VBR ก็เป็นการใช้ซอฟท์แวร์คำณวนประเมินว่าช่วงไหน ต้องการบิทเรทน้อยๆ ก็ลดบิทเรทที่จัดให้ ช่วงไหนต้องการเยอะ ก็เพิ่มไป

ส่วน Joint Stereo มันจะวิเคราะห์ว่า ถ้าสัญญาณเสียง ซ้ายขวา ส่วนไหนที่มันเหมือนๆกัน มันก็จะลดขนาดของไฟล์ลงได้ โดยบันทึกเพียงแชนแนลเดียว แล้วไปแตกให้เป็น2แชนแนลตอนเล่นกลับน่ะนะครับ

คุณภาพที่ได้ในการใช้งานจริงๆ ก็ขึ้นกับชิปและเพลย์เยอร์ด้วยครับ ว่าสนับสนุนความสามารถพวกนี้ได้"ดี" แค่ไหน ของบางอย่างทฤษฎีว่า ดี แต่ปฎิบัติ อาจไม่ได้ัดังหวังก็ได้ครับ

ดังนั้นเพื่อเป็นการตัดปัญหาแต่ต้นมือ...หลายๆท่านจึงเลือกที่จะใช้ CBR High Bitrate Normal Stereo ซึ่งถ้าความจุมีเหลือๆ ก็ลุยไปได้เลย สบายใจว่า คุณภาพตกหล่นน้อย ชัวร์

ซึ่ง Apple Lossless มันมีบิทเรท สูงกว่า พวก MP3 หรือ AAC ทั่วๆไปมากครับ เสียงที่ได้จึงรักษาได้ครบถ้วนกระบวนความมากกว่านัก

อ้อ ทำใจไว้อย่างนะครับ ใช้ Apple Lossless นี่เสียงดีจริง แต่กินไฟมากกว่า AAC บานตะไทเลยครับ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 8

setup

20/01/2007 22:05:38
....อื่ม...พอดีผมไม่ได้ใช้ยี่ห้อ Apple น่ะซิครับ..คือเทียบแล้ว

ยี่ห้อที่ผมใช้คงเป็นได้แค่มังคุดมังครับ..555 เลยใช้ได้แค่

ฟายmp3ครับ ตัวที่ผมใช้แล้วชอบเสียงคือ dBpowerAMP

R10ครับ คือ encoder LAME&squot;&squot;3.93&squot;&squot; ของตัวนี้

เสียงจะไม่แบนเหมือนตัวอื่นครับ [ปรับเป็นstudio monitor ]

นะครับ



ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 9

setup

21/01/2007 02:03:49
...ฮาฮาฮ่า...ดีแล้วครับ คุณมั่น "ซัวตังไล้" เงินมาแล้ว เงินมาแล้ว ...ตรุษจีนนี้ก็คือ&squot;&squot;อั่งเปา&squot;&squot;ไงครับฮาฮ่า..


..ครับยังไงคงจะเข้าไป สอยpk2หรือpk3

ก่อนตรุษจีนแน่นอนครับ


ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 10

diebysword

21/01/2007 18:07:09



Hardware support FLAC

iPod - Video, Nano, Photo, Colour, Mini (2nd generation), using third party Rockbox firmware
Nearly all Rockbox-compatible DAPs, including the iRiver and Gigabeat (Toshiba) range of devices, plus the aforementioned iPods
Hermstedt Hifidelio
iAudio (Cowon) - A2 (natively, from firmware v1.59), 6, M3, M5, X5, U3, also via Rockbox firmware
Olive media servers (Symphony, Musica, Opus)
Rio Karma
Squeezebox network music player (v1 recodes to PCM on the server side, v2 and up decode natively on the Squeezebox)
Sonos
Meizu M6 Miniplayer
Pixel Magic Systems&squot; HD Mediabox (with firmware 1.3.4 or higher)
Embedded Waveplayer- Module with FLAC level 0-2 support, MIDI and serial interface
Teclast T29
Trekstor Vibez
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 11

แมวอ้วนอืด

21/01/2007 23:27:51



ผมใช้ Software ตัวเดียวกับของคุณ Setup น่ะครับ
MP3 ค่อนข้างมีคุณภาพดีครับถึงแม้จะ VBR แต่ Player ส่วนใหญ่ รองรับคุณสมบัติพื้นฐานของ MP3 ไว้ได้ครับ

MP3 Standard Features
- Joint Stereo
- Constant Bit Rate
- Variable Bit Rate

ส่วน LossLess เคยฟังแต่ WMA LossLess ครับซึ่งพอเทียบกับ WAV ในการฟังลำโพงที่บ้าน (KlipschTHX Promedia 2.1) เสียงแทบไม่ต่างกันครับ ยกเว้นเสียงเบส ที่ WAV ทำได้นุ่มและลงลึกกว่า และ LossLess WMA กับ WAV ใช้เนื้อที่เกือบจะพอๆ กันเลย

ผมมองว่า ยังไง LossLess ก็ยังไม่ Pure จริงๆ อย่าง WAV ครับ
แต่ถ้า Pure กว่านั้น ก็ต้องเป็น CD Original ครับ
หัวอ่านถอดรหัส Analog เสียงที่ดีมากๆ อย่างเช่น Nakabishi
เป็นต้น
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 12

สาคร

22/01/2007 09:02:37
แถมเสริมให้ครับ

แม้ Digital จะไม่มีการสูญเสียในการก๊อปแต่ละเจเนอเรชั่น

แต่ก็สามารถผิดเพี้ยนได้ครับถ้าการก๊อปไม่ดีพอ

สิ่งที่เกิดขึ้นก็คือ Jitterไงครับผม
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 13

เต้ย

22/01/2007 09:17:30



เหมือนที่พี่ สาครว่าไว้ครับ jitter มีผลมากๆ แต่ตัว dac ที่ถอดรหัส ดิจิตอลเป็นอะนาล็อคนี่สิ ก้อสำคัญไม่น้อยน่ากว่ากันเลยครับ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 14

diebysword

22/01/2007 10:09:35
ครับใช่ครับ และถ้าพูดกันถึงเรื่อง jitter แล้วเนี่ย ก็พอจะมีข้อมูลอยู่หน่อยครับ

(เผื่อให้คนที่สนใจ ไหนๆก็ไหนๆแล้วนะครับอิๆ)

  การเกิด jitter เป็นเรื่องปกติของการบันทึก CD-DA ครับ แต่ก็ไม่ได้ทำให้เกิดความผิดพลาด

ถ้า jitter ที่เกิดนั้น ไม่มากไปกว่าค่ามาตรฐาน นั่นคือ มากกว่า 35ns แต่ก็ไม่ได้แปลว่าถ้าเกิน 35ns แล้วนั้น

ข้อมูลจะต้องผิดพลาดเสมอไป เพราะว่า จะมี buffer ระบบ ECC ทำหน้าที่ตรวจสอบและ reclocking เพื่อเทียบสัญญาณใหม่อีกทีครั้ง

(Jitter ทีเกิดขึ้น เป็นปัจจัยทั้งด้านอุปกรณ์ และคุณภาพของของที่ใช้ ซึ่งในระบบ digital นั้น สามารถยอมรับค่า Jitter นี่ได้พอสมควร)


**มีบทความกล่าวไว้ว่า

  ข้อมูลบนแผ่น CD ก็เหมือนหนังสือเล่มหนึ่ง ที่มีตัวหนังสือเต็มหน้า การอ่านแผ่น ก็เหมือนเราอ่านหนังสือ

คือใช้แสงสะท้อนจากลวดลายบนพื้นผิว เพื่ออ่านลวดลายนั้น ออกมาเป็นความหมาย เราไม่ได้เข้าใจตัวหนังสือบนกระดาษ

แต่เข้าใจความหมายของตัวหนังสือ การอ่าน CD ก็เช่นกัน data ไม่ได้เกิดขึ้นจาก pit และ land (เหมือนร่องแผ่นเสียงอธิบายจะยาว)

แต่เกิดจาก ลักษณะการเรียงตัวของ pit และ land สร้างสัญญาณออกมาเป็น data
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 15

diebysword

22/01/2007 10:12:23



<<<
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 16

diebysword

22/01/2007 10:14:13
ลองดูภาพ BHX ทั้งสี่แบบ จะเห็นว่า ภาพทั้งสี่นั้น แตกต่างกันโดยสินเชิง เทียบได้ก็คือ CD ที่ถูกทำสำเนามา

แล้วเกิด Jitter หรืออาจจะเกิดจากคุณภาพแผ่นที่ไม่ดี ทำให้ขอบของ pit และ land ไม่คมชัด ซึ่งสิ่งที่เกิดขึ้นนั้น

เกิดขึ้นทาง Physical แต่ถ้าให้ทุกคนอ่าน ทุกคนย่อมอ่านออกมาได้เป็นตัวหนังสือเหมือนกัน คือ BHX

เนื่องจากค่า error ที่เกิดขึ้นนั้น อยู่ในช่วงการยอมรับของมนุษย์ เราจึงได้ข้อมูลเป็นตัวหนังสือ BHX ที่คมชัดออกมาเสมอ

นี่เป็นเหตุผลที่ว่า ทำไมการทำสำเนา CD ซ้ำต่อไปเรื่อย ๆ จึงไม่มีผลต่อคุณภาพของเสียงภายใน เพราะทุกครั้งที่อ่าน

เราจะได้ข้อมูลที่คมชัดเหมือนต้นฉบับกลับมาทุกครั้งครับ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 17

สาคร

22/01/2007 10:23:57
แหม กระทู้นี้ต่อได้ยาวอีกแระ แหะๆๆ

โดยพฤติกรรมของ Jitter ที่เกิดปัญหาต่อผลการฟังของเรา จะเป็นเรื่องของความสัมพันธ์ระหว่าง ข้อมูลกับแกนเวลาครับ(Data&Time Line) ซึ่งน่าเจ็บใจตรงที่ว่า ข้อมูลบนแผ่นซีดีที่ถูกก้อปมาโดยเกิดข้อผิดพลาดทาง Jitter จะไม่ส่งผลให้ตรวจสอบใดๆ ได้ง่ายๆเลยครับ เพราะเมื่อคุณ Verify Data มันจะเหมือนต้นฉบับทุกประการ

แต่ปัญหามันมาเกิดเอาอีตอน"ลำเลียง"ข้อมูลเข้าสู่ DAC ซึ่งเป็นการส่งข้อมูลเข้ามาทำการแปลงประมวลผลในแบบ Stream

ซึ่งแน่นอนว่าตามมาตราฐาน 35ns หรือมากกว่าเล็กน้อยจะยังอยู่ในความสามารถของระบบ ECC ในการปรับแก้ข้อมูลให้ราบรื่นและ"ดูเหมือน"ถูกต้อง.....

แต่ในการรับฟังโดยเฉพาะอย่างยิ่งการฟังผ่านซิสเต็มที่ดีๆ(กรรมของคนมีตังค์แฮะ เสียตังค์แพงกว่าชาวบ้า้นแล้วยังได้ฟังอะไรที่ผมหลุดๆ ชัดกว่าชาวบ้านอีก 555) จะฟังออกชัดเจนเมื่อเกิดปัญหานี้ขึ้นครับ

โดยอาศัยจากประสพการณ์ตอนที่ผมทำ Non Oversampling DAC ใช้เล่นเมื่อหลายปีก่อน พบว่า DAC ที่เป็น Hi Oversamplin Rate ที่ไม่สามารถจัดการกับ Jitter ได้ดีพอจะปรากฏลักษณะเสียงที่หยาบเกรน ขาดพลัง และแถมด้วยอาการแข็งที่ตั้งแต่เสียงกลางตอนบนขึ้นไปจนแหลมสุดตลอดช่วงครับ

เรียกสับสวิทซ์กลับมาแทบไม่ทัน ทั้งๆที่ DAC ตัวนี้ก็ใช่ว่าจะให้เสียงได้แย่อะไรนะเนี่ย เฮ้อ


แต่อยากจะบอกว่าใดๆในโลกนี้ล้วนไม่สมบูรณ์ครับ "สุริยันยังมีขึ้นลง จันทรายังมีคืนเว้าแหว่ง"..... ทุกหนทางของการเล่นจะมีุจุดดีกว่า และมีจุดเสียเปรียบเสมอเลยครับ ไม่ว่าทางใดก็ตามแต่

ไม่งั้นพวกเล่นชุด Hi-End เป็นสิบๆล้านทำไมยังไม่หยุดเปลี่ยนเครื่องไปเรื่อย.....จนกว่าจะหาตังไม่ได้นั่นแหละมั้ง

ส่วนผมทำใจยอมรับและเปิดกว้างให้ความสะดวกในการฟังเพลงเป็นหลักเสียแล้วแฮะ พักนี้เลยมีแต่ไอ้ป๊อด แหะๆๆๆ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 18

นายมั่นคง

22/01/2007 10:26:13



โห นี่มันโคตรวิชาเลยนะเนี่ย 555

ขอบคุณมากจริงๆครับ ทุกๆ ท่าน
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 19

setup

22/01/2007 11:08:36
....อื่ม...ดีครับความรู้ล้วนๆ อ่านแล้วคิดถึงสมัยยังเล่น

เครื่องเสียงอยู่ครับ จะได้ยินเรื่องพวกนี้บ่อยๆครับ

ผมว่าเล่นเครื่องเสียงก็เหมือนกับเราอยากรู้ว่าในห่อของขวัญ

มันคืออะไร ถูกใจเราหรือเปล่า &squot;&squot;ในที่นี้ก็คือเสียงไงครับ&squot;&squot;

แบบว่าได้ลุ้นน่ะครับ คืออยากรู้ก็ต้องหามาเปิดดูต่อไป ไม่อยากรู้ก็คือจบครับ..55
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 20

Saviour

22/01/2007 22:05:17



เข้ามาแล้วเอ๋อเลยครับ ความรู้เพียบจริงๆครับ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
"การ Rip เพลงจากซีดีเพลง ครับ"