เอ้าไหนๆก็เปิดกระทู้แล้วใช้ให้คุ้ม
มาคุยกันอีกเรื่อง คิอเรื่องของตำแหน่งของเครื่องดนตรี
คือพอผมฟังเพลงจากหูฟังผมจะจินตนาการตามเสียงว่าเครื่องดนตรีอยู่ตำแหน่งตรงโน้นตรงนี้
ทีนี้ทำไมผมรู้สึกว่าเสียงตำแหน่งมันมีแค่ไนหัวกับหลังหัวตลอดเลยครับ พยายามจินตนาการว่ามันอยู่ข้างหน้าหลายๆที ทำยังไงก็ไม่ได้ มันจะรู้สึกเหมือนมันอยู่ข้างหลังตลอด ไม่ว่าใช้หูอันไหนจะแพงจะถูก อินเอียหรือฟูลไซซ ก็อยู่ข้างหลังเหมือนกันหมด
ไม่ทราบว่าท่านอื่นๆเป็นเหมือนผมหรือเปล่าครับ และมีหูฟังอันไหนที่ให้เสียงเหมือนอยู่ข้างหน้าได้บ้างครับ ตอนนี้เหมือนหันหลังฟังวงดนตรียังไงก็ไม่รู้สิครับ อิอิ

อยากได้สาย mini 2 mini ของคุณเก็นซังครับ
ราคาประมาณเท่าไร และความยาวแค่ไหนครับ

อยากได้จริงๆนะ

แนะนำให้หาเพลงที่อัดดีๆมาฟังครับ

จริงๆไม่ต้องจินตนาการมากครับ
มันเป็น แพลทฟอร์ม ในการอัดเสียงอยู่แล้วครับ

ลองฟังเพลงแล้วจับจังหวะของเสียง Hi hat(เป็น ฉาบสองใบประกบกัน ตั้งด้านซ้ายมือของสแนร์ ถ้าหันหน้าออกทางเวที เหมือนเราเป็นคนตีครับ ดัง ซึ่ดๆ )
โดยปรกติแล้วจะ Pan ทางด้าน ขวา

สแนร์ คือเสียงที่ตีดัง ป๊องๆ หรือ แพละๆ ก็ว่าไป
ส่วนใหญ่จะ Pan เอียงขวาอยู่นิดหน่อย แต่ไม่มากเท่า Hi hat
แล้วเสียงโดยส่วนใหญ่กลองมันจะอยู่ไกลกว่าเครื่องดนตรีชิ้นอื่น

โดยปรกติแล้วเครื่องดนตรีเกือบทุกชิ้นจะ Pan ไว้ครับ เพื่อมิติเสียง ส่วนอัดแล้วเรารู้สึกว่าไกลออกไปไหม อันนี้อยู่ที่ เทคนิคการอัดเสียงครับ
ส่วนเพลงไทยถ้าถามว่าทำไมมันอัดแล้วเรารู้สึกเครื่องดนตรีืที่เล่นมันอยู่ อยู่แนวเดียวกันหมด ไม่มีการเหลื่อมกันของเครื่องดนตรี ไม่แปลกครับ เพราะคนไทยอัดเสียงแบบต่อตรงเข้า Interface ครับ ไม่ได้ใช้ ไมค์จ่อเครื่องดนตรีอัดครับ เพราะ ตั้งไมค์เสียเวลามาก การทำห้องเพื่ออัดเครื่องดนตรีแต่ละชนิดมันต่างกันครับ ทำให้เสียค่าใช้จ่ายในการ ออกแบบ และ ทำห้องแต่ละห้องสูงมาก เพราะเราไม่สามารถใช้ Acoustic room ของห้องอัดกลอง มาอัดเสียงกีต้าร์ได้ เพราะ Reverb (เสียงที่วิ่งไปสะท้อนกำแพง แล้วกลับเข้ามาที่ไมค์) ไม่เท่ากัน เลยต่อตรงซะงั้น
คราวนี้เสียงมันเลยเป็นระนาบเดียวกันทุกชิ้นครับ

ลองฟังดูก่อนครับว่ารู้สึกว่า เสียง Hihat กับ Snareสองชิ้นนี้อยู่ไกลออกไปไกลกว่าเครื่องดนตรีอื่นหรือยัง

กลัวว่าอธิบายเป็นภาษาดนตรีจะงงเน้ออ ^^
ไว้เท่านี้ก่อนครับ ไว้จะมาพิมพ์เพิ่ม

ผมก็คิดเหมือนคน nopphong ตั้งแต่ทีแรกแล้วครับ ฟังแรกๆ ก็อึดอัดอยู่ ฟังไปฟังมา เริ่มชินซะงั้น ที่น่าสนใจคืน sound stage ที่ detail ที่เพิ่มขึ้นมาครับ

เก็นซ้งเล่าได้ดีมาก ฟังแล้วได้กลิ่นวิชาการเลยล่ะ 5555


จริงๆ แล้ว สำคัญอันดันแรก ผมว่าน่าจะเป็นที่ซอฟแวร์ครับ คือแผ่นซีดีต้นฉบับ ถ้าบันทึกมาดีๆ ต่อให้ฟังกับเครื่องเล่นที่แย่หน่อย มันก็ช่วยประคับประคองไม่ให้มันแย่มากนัก

แต่ถ้าซีดีบันทึกมาแย่ เครื่องดีขนาดไหนก็หมดท่าเหมือนกันครับ 555


ส่วนในกรณีสายสัญญาณก็เช่นกัน ในแง่มุมของการเล่นเครื่องเสียง เค้ามักจะให้ความสำคัญเรียงลงมาจากต้นทางมากที่สุด

ถ้าจะใช้สายดีๆ ให้ใช้จากต้นทางก่อนเพื่อน พูดง่ายๆ ถ้าตังค์มีน้อยก็ซื้อใส่ใกล้ต้นทางไว้ก่อน

เช่นมีตังค์ซื้อเส้นเดียว ก็ใส่ระหว่าง ซีดีมาปรีแอมป์ก่อน แต่ถ้าตังค์เยอะอีกหน่อย ก็ค่อยซื้อจากปรีแอมป์มาเพาเวอร์แอมป์ เป้นต้น


แล้วถ้าจะซื้อสายสัญญาณที่แพงๆ สิทธิการิยะท่านว่าให้เรียงตามนี้ จะเห็นผลมากที่สุด


สายสัญญาณ > สายลำโพง > สายไฟ


ของพวกนี้ ไม่ต้องจินตนาการครับ ฟังออกแน่นอนจริงๆ และไม่ต้องโม้จนเวอร์แต่อย่างใด ธุรกิจการทำสายสัญญาณ เป็นธุรกิจที่ใหญ่มาก

เพราะเห็นผลในการปรับปรุง พอๆ กับการอัพเกรดเครื่องเลยทีเดียวเชียว


เอ้า เล่าแค่นี้เก่อนเด้อ ..........555

ถึงว่านะครับเฮีย ตอนผมฟังวิทยุตอนดึก ๆ คลื่น 89.5 เนี่ยจะมีลุง แก่ ๆ มาขายสายยี่ห้อหนึ่งอ่ะครับ ลุงเขาชอบพูดว่า
"แชแนลเอ คือลำโพงข้างซ้าย แชแนลบีคือลำโพงด้านขวา" แล้วก็บ่น ๆ ๆ ไป ลงท้ายด้วย Kimber Cable
ไม่ได้ขายสายนะ แต่แค่คิดว่าการเล่นหูฟังกับเฮดโฟนแอมป์ไรงี้มันก็คือชุด system ย่อย ๆ ในการฟังเพลงให้มีความสุข แต่ราคาก็ไม่ได้หมายความว่าจะแทนถึงความสุขที่จะได้รับจากการฟังเพลง

ว่าซะยาวเลยไง โทษทีนะครับ

ผมเองเวลาฟังเพลงก็รู้สึกเหมือนคุณ nopphong เลยครับ เสียงจะอยู่ในหัว กับบริเวณตรงท้ายทอย (อยากให้เสียงเพลงมาอยู่ข้างหน้าเหมือนเราไปยืนฟังอยู่หน้าวงดนตรีเหมือนกัน รบกวนผู้รู้ด้วยครับ)
อุปกรณ์ที่ใช้อยู่ตอนนี้
1.t10
2.หูฟัง koss35+ms1+pk3
3.แอมป์ลูกหมู(The Pig) ครับ:175:

จริง จริง แล้วผมว่าทุกอย่างนั่น สำคัญหมด ครับ ตั้งแต่ File เครื่องเล่น หูฟัง Amp ยัน สายสัญญาณ ครับ 555

ทุกอย่างมันสัมพันธ์ กันหมด ยังไงก่อนเลือกซื้อก็อย่าลืมหาข้อมูลกันก่อนนะ ครับ ค่อย

ค่อย อ่าน ค่อย ค่อย หา ค่อย ค่อย เล่น ค่อย ค่อย ซื้อ ส่วนราคาสายของเจ้า เก็นซ้ง มินิ-มินิ ราคา 790 บ. จ้า

ตอนนี้กำลังทำอยู่อย่างขมักขเม่น เลย ครับ อิ อิ อิ

อิอิ ในที่สุดคุณNoppong ก็เจอ Voodoo เล็กๆเข้าให้แระ ฮิๆๆ

แล้วคุณ nopphong ไม่คิดจะต้องมนต์สายไฟบ้างเหรอ อิอิ

แหะๆหูไม่ถึงครับ อย่าว่าแต่สายไฟแเลยหม้อแปลงผมยังใช้ของอมรตัวละ 150 อยู่เลยครับ อิอิ

ผมก็มีความรู้สึกเหมือนพี่ nopphong ไม่ว่าจะเปลี่ยนหูฟังยังไง เสียงจาก ซ้าย ขวา ก็เหมือนมาเล่นกันอยู่ที่ไหล่ของเรา
ผมเลยตัดสินใจเปลี่ยนเครื่องเล่นไปหลายเครื่อง จนเจอเครื่องที่มีระบบจำลองเสียง 3D ที่ให้เวทีเสียงอยู่ข้างหน้าเรา แต่เสียงกลางที่ได้กลับแย่ลงไป
จึงสรุปได้ว่า ได้อย่าง ก็ต้องเสียอย่าง... T_T