ตอนแรกว่าจะไม่รีวิวแล้ว เพราะคิดว่ายังไม่ค่อยเข้าทีเข้าทางเท่าไหร่ อีกทั้งยังไม่ได้แอมป์ใหม่ด้วย
แต่วันนี้ว่างกว่าที่คิด เลยได้มีเวลามาฟังแบบ "ต่อตรง" กับ ipod อย่างจริงจังมากขึ้น ก่อนหน้านี้แทบไม่มีเวลาให้น้องซ่าเลย แถมยังไม่คุ้นชินดังจะเล่าต่อไปครับ


แรกเริ่มเดิมทีที่ผมได้น้อง SA5000 มา ผมทำตัวไม่ถูกเลยครับ ถามว่าเพราะอะไรน่ะหรือ? เพราะว่าที่ผ่านมา ผมมักไม่ค่อยเล่นหูที่ต้องการแอมป์เท่าไหร่
ส่วนใหญ่เป็นตัวที่ต่อตรงได้ หรือถึงต่อตรงไม่ได้ ก็ประจวบเหมาะว่าช่วงนั้นผมมีแอมป์ดีอยู่ ที่ต้องทำจึงไม่มีอะไรมาก มีเพียงแต่การนำ jack ต่อกับ output ของ source ไม่ว่าจะเป็น Macbook Air iPod หรือแอมป์ที่ว่า


แต่คราวนี้ SA5000 มาในจังหวะที่ผมไม่มีอะไรเลย เพราะหลังจากที่ผมเปิดพัสดุจากญี่ปุ่นกล่องนี้เพียงวันเดียว เจ้า iBasso D4 ก็สบโอกาสไปหาเจ้าของใหม่พอดิบพอดี แต่ก็ไม่ได้แคร์มาก เพราะเท่าที่ฟังคร่าวๆเจ้า D4 ก็ยังไม่สามารถเรียกความสามารถของเจ้า SA5000 ออกมาได้เท่าไหร่นัก


ใช่แล้วครับ ... MDR-SA5000 ตัวนี้เป็นหูฟังที่ต้องการแอมป์มากเสียจนไม่สามารถพูดเป็นอื่นได้ กาแฟก็ต้องการน้ำตาล น้องซ่าก็ต้องการแอมป์ที่มาเพิ่มความหวาน ลดความเข้มจัด เสียดแหลม หากขาดแอมป์คงต้องฟังไปอย่างนี้ก่อน


ก่อนหน้านี้ผมต้องบอกเลยว่าเจ้า SA5000 นั้นเบียดเบียนหูผมพอสมควร เพราะย่านเสียงต่ำนั้นสัมผัสได้น้อยเกินไปกว่าระดับที่ผมรับได้ ด้วยเพราะเหตุนี้ผมจึงต้องทำการ Boost Volume มาในระดับที่ผมไม่เคยฟังมาก่อนเพื่อให้ได้ยินเบสมากขึ้น ผลก็คือเสียงแหลมที่โจ๋งครึ่มเสียดแทงเข้ามาในหูผมไม่หยุดหย่อน ด้วยเหตุนี้ผมจึงไม่กล้าที่จะเขียนรีวิวเลยแม้แต่น้อยในตอนนั้น


แต่ก็อย่างที่บอก จากข้อสังเกตดังกล่าวทำให้ผมคิดขึ้นมาว่า นั้นเราน่าเลือกที่จะฟังในความดังปกติที่เราฟังดีกว่า แล้วค่อยๆมาศึกษา ค่อยๆชำแหละเสียงแต่ละเสียงจากเจ้า SA5000 นี้เป็นอย่างไร วันนี้ผมจึงตกลงปลงใจจะมาเล่ารายละเอียดเสียงเล็กๆน้อยๆ แต่ก็ขอบอกว่า แม้จะไม่ใช่ SA5000 ที่สมบูรณ์แบบ ทำได้เต็มที่สุดความสามารถของมัน แต่ก็มีดีพอที่ผมจะทนฟังได้แล้วกัน (ผมจุกจิกนะ เปลี่ยนหูฟังมาแล้วเป็นว่าเล่น อิอิอิ )


เพลงที่นำมาทดสอบ
-Susan Wong : Close to You + Desperado + Cry Me A River
-Rachmaninov : Piano Concerto #3 mvt .1
-Prokofiev : Piano Concerto #3 mvt.3
-Beethoven : Symphony No.9 mvt.5
-Beethoven : Symphony No.3 mvt.1
-Beethoven : Piano Sonata No.8 "Pathetique" mvt.2
-Nakashima Mika : TRUE
-Glenn Gould : Goldberg Variation


ข้อดีข้อเด่นที่ผมได้ยินจากเจ้าซ่าคือ รายละเอียดและความใสสว่าง ไม่มีเมฆหมอก ไม่มีม่านใดๆมาบัง สามารถถ่ายทอดเสียงที่อัดมาได้อย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วย แม้แต่เสียงคีย์เปียโนดีดกลับ เสียงบริเวณรอบๆของ transducer ไมค์อัดเสียง สามารถได้ยินได้อย่างอัศจรรย์ใจ แต่เสียงเหล่านี้ไม่อยู่ในระดับที่รบกวนการฟังแต่อย่างใดจึงไม่ได้ทำให้เป็นการฟังที่น่ารำคาญ ในทางตรงกันข้าม SA5000 เป็นหูฟังที่ฟ้อง source ได้อย่างพอเหมาะพอดี ถ้าเป็นคนก็เป็นคนที่รู้จักเลือกที่จะเก็บความต้องการส่วนใหญ่ไว้ในใจ หากได้ทีเมื่อไหร่จึงเผยออกมาบ้างและมักจะประสบความสำเร็จตามต้องการเสมอ แต่จะเก็ดกดตลอดเวลาอันนี้คงไม่ใช่นะครับ (อ้อ แอบกระซิบด้วยว่าใครฟัง Glenn Gould เจ้า SA5000 นี่ทำให้ได้ยินเสียงแกฮัมดีขึ้นด้วยล่ะครับ)


อีกสิ่งที่ผมคิดว่าสุดยอดคือความโปร่ง ก็คงไม่ใช่อะไรที่แปลกเนื่องจากว่าเจ้า SA5000 ก็เป็นหูเปิดตัวหนึ่ง แต่ที่ผมคิดว่าดีคือมันโปร่งกว่าหูเปิดหลายๆตัว ถึงแม้ว่าสเตจจะไม่ได้กว้างขวางมาก แต่มันคือความโปร่งที่อยู่ในสเตจที่ว่านี้ มันเป็นไปได้อย่างไรผมก็ไม่ทราบ แต่ที่แน่ๆผมสัมผัสได้ถึงลมที่ลอดเข้ามา ช่วยลดความเครียดได้เป็นอย่างดี


ส่วนของสเตจ อาจเป็นเพราะยังไม่ได้แอมป์ สเตจจึงยังแผ่ออกข้างไปได้ไม่สุด แต่อย่างไรก็ตามก็คือว่ากว้างขวางกว่าหูฟังในระดับราคาเดียวกัน เรื่องของตำแหน่งเครื่องดนตรีถือว่าแยกแยะได้ชัดเจนดีมาก และมิติด้านลึกก็แยกได้ดีเช่นกัน ฟัง Symphony ไม่มีการทับซ้อนกันแต่อย่างไร ตรงกันข้ามสามารถได้ยินเสียงเครื่องดนตรีตำแหน่งใกล้ๆกันเล่นล้อกันได้อย่างชัดเจน ผมคาดหวังเป็นอย่างยิ่งว่าหลังจากได้แอมป์มาสเตจจะกว้างออกไปกว่านี้อีกก็จะเยี่ยมมาก


เสียงสูงของ SA5000 คงไม่ต้องบรรยายเลยว่าทำมาได้ perfect มาก ไปไกลสุด พริ้ว ด้วยเหตุนี้รวมกับเสียงกลางที่ดี เสียง Piano จาก SA5000 จึงมีความไพเราะมาก เป็นกระกาย และ Crisp เป็นความรู้สึกเหมือนกินขนมทอดกรอบอะไรทำนองนั้น แต่อาจเป็นด้วยเพราะความสามารถในการถ่ายทอดเสียงแหลมที่ไม่จำกัด และความที่เป็นหูที่ใสมาก ไม่มีอะไรมากรอง ถ้าหากเปิดเสียงดังมาก จะทำให้เกิดความเครียด ความล้าได้ SA5000 เป็นหูที่ audiophile พอสมควรครับ ใครแนว Music lover คงต้องคิดให้รอบคอบ จะฟังเพลง Easy Listening เพื่อ Relax ก็ย่อมทำได้ แต่ก็จะซีเรียสนิดนึงครับ


เสียงกลางของ SA5000 เนียนละเอียด แม้ไม่เท่า W5000 แต่ก็ไม่เป็นรองใครอื่น ลองฟัง Susan Wong ต่อตรงกับ iPod นี่ล่ะ เสียงไม่ขี้เหร่เลย และไม่แห้งด้วยครับ(ไม่เหมือนกับ Sr-404 ที่เสียงแห้งเมื่อต่อแอมป์ที่กำลังไม่พอ) ฟังแล้วนึกถึง Histology เรื่องเม็ด granule เล็กๆใน cell ของสิ่งมีชีวิต เสียงกลางของ SA5000 ก็เหมือนกับ granule ที่ขนาดเล็กจำนวนมากมาอยู่รวมกัน เล็กและละเอียดมากจนมองดูเป็นเนื้อเดียวกันไปทั้งหมด และที่ดีที่สุดก็คือ เสียงร้องไม่เครียดครับ ไม่เข้ามาใกล้เกินไป แถมน้ำหนักเสียงกำลังพอดีเลย ผมขอย้ำตรงนี้เลยว่า SA5000 เป็นหูที่ฟัง Susan Wong ได้สับปะรดมากแม้ต่อตรงกับ iPod ได้ความเป็น Audiophile ดีครับ


เสียงต่ำของ SA5000 มีปริมาณน้อยครับในขณะนี้ที่ไม่ต่อแอมป์ และยังมีการคลายตัวที่เร็วมากๆ เร็วที่สุดเท่าที่ผมเคยเจอมา มาเร็ว ไปเร็ว จนผมคิดว่ามันน้อย ซึ่งก็เป็นจริง Deep Bass ณ ขณะนี้ยังไม่ปรากฏครับ เพลงเดียวกัน ถ้าเปิดกับ JH10x3 JH16 นี่จะต้องได้ยินจนไส้เลื่อนแล้ว แต่สำหรับ SA5000 ไม่ได้ยินครับ และนี่ก็เป็นเหตุผลที่ผมเผลอเพิ่ม Volume จนขยาดไปกับเสียงแหลมนั่นแล ถึงบอกเลยว่า ต้องแอมป์ครับ ผมต้องเอาเบสออกมาจาก SA5000 ให้ได้ ไม่งั้นที่จะต้องโดนเอาออกก็คือตัว SA5000 นั่นล่ะ เพราะผมไม่ได้ฟังแนว Audiophile เป็นหลักครับ แต่จริงๆถ้าฟัง Pop เบสทั่วไปผมว่าได้ยินนะครับ กำลังพอดีเลย อีกอย่างเมื่อกี๊ผมเปิดกับเพลง Will ของ Nakashima Mika ได้ยินเสียงไล่เบสที่ถูกซ่อนไว้ไม่เคยได้ยินมาก่อน พริ้วเนียนครับพริ้วเนียน


ผมคิดว่า SA5000 เทียบกับหูคลาสเดียวกันอย่าง AD2000 ถือว่าต่างกันมากครับ AD2000 เป็นพวก Music Lover ง่ายๆ ยังไงก็ได้ และฟังได้ทุก genre ส่วน SA5000 นั้นมาทางสาย Audiophile แทน เลือก genre พอสมควร ใครชอบเบสตึ๊บๆน่าจะบ๊ายบายได้ ไม่น่าจะเหมาะกับการฟังเพื่อผ่อนคลายเป็นหลัก เพราะใส ใส่ใจทุกรายละเอียด ค่อนข้าง Neutral ไม่หวาน แต่ก็ไม่แน่ครับ ถ้าเล่นแอมป์หลอดอาจเปลี่ยน Character นิดหน่อย สำหรับผมถือว่า SA5000 เป็นของใหม่ครับ เพราะชีวิตผมคลุกคลีอยู่กับ ATH เป็นส่วนใหญ่ พอมาเจอกับ SA5000 ก็ให้ความรู้สึกไปอีกแบบ แต่เป็นความรู้สึกที่ดี คือเราได้ฟังเพลงโดยได้เครื่องปรุงน้อยลง ฟังเพลงในแบบที่ใกล้เคียงกับต้นฉบับมากขึ้น


เมื่อผมได้แอมป์แล้วจะมารีวิวต่ออีกทีครับ แต่ในขั้นเบื้องต้น ผมอยากได้แอมป์เหลือเกิน และคิดว่า SA5000 จะต้องดีขึ้นไปกว่านี้อีกแน่นอนครับ


ขอบคุณครับ