Guest
หมวดหมู่ > เว็บบอร์ด จับฉ่าย

ช่องทางการติดต่ออื่น

  • Munkonggadget
  • Munkonggadget Reviews
  • Munkonggadget Reviews
  • Munkonggadget Contact Us

Tidal

29/05/2010 00:38:43
0
หะๆ วันนี้ผมกลับมาเปิดคาเฟ่ต่อนะครับ ช่วงนี้มีเวลาเปิด taf น้อยมาก เพราะเนื่องจากโดนพิษเทศกาลหยุดยาวนาน เปิดมาอีกทีคณะจัดตารางสอนแน่นเอี้ยดเลย
วันนี้ก็จะขอพูดถึง ATH-ES10 แล้วกันนะครับ
เจ้า ATH-ES10 ตัวนี้ เป็น Fullsize ของ audio-technica ชนิดที่พกพาได้ หรือก็คือ Portable Fullsize นะครับ
จุดเด่นคือวัสดุ housing ที่ทำมาจากโลหะ Titanium งานสวยมากปราณีตมาก ขนาดไดรฟเวอร์ก็กำลังพอดี ใส่แล้วไม่เจ็บหูเหมือนอย่าง ESW9 หรือ 10 (แต่เข้าใจว่าตัวนี้เป็นหนังสังเคราะห์นะครับ สำหรับ pad)
สายยาวเพียงเมตรกว่าๆเท่านั้น โดยรวมแล้วเพื่อพิจารณาจากการออกแบบ ATH-ES10 เป็นหูที่คู่ควรแก่การใส่ออกงานอย่างมากครับ

เอ้า มาว่ากันที่เสียงแล้วกันนะครับ
ผมได้เปิดพัสดุดูเมื่อวันพุธ แต่ก็ไม่ได้ลองอะไรมากนัก เนื่องจากว่ายุ่งมาก ก็ขออนุญาตฟังไปอธิบายไปเลย
ผมได้จัดการเสียบ Jack 3.5 เข้ากับ Macbook Air ... จัดแจงเปิด iTunes ซึ่งเป็นโปรแกรมหลักในการฟังเพลงของผม
แม้จะมีจำนวนไม่มาก แต่ ณ ที่นี้เองที่ผมได้ให้เวลาว่างที่เหลือแลกมากับความสุขในการฟังเพลงเล็กๆน้อยๆ
ในครั้งนี้ผมเลือกที่จะหยิบ series เพลง Classical หรือเพลงคลาสสิกมาวัดพลังเจ้า ES10 สมาชิกใหม่นี้
ผมมักจะตัดสินหูจากเพลง Classical เพราะว่า Genre นี้เป็นประเภทที่ผมฟังมากที่สุด ผมไม่ขัดขืนถ้าจะใช้หูฟังที่ฟังเพลงคลาสสิกได้ไพเราะแต่แนวอื่นไม่เด่น
จะมาดูกันว่า ES10 นี้จะแน่ซักแค่ไหนกัน ...

เริ่มที่เพลงของ Schubert นักเปียโนโรมานซ์ท่านนี้ได้ประพันธ์เพลงชนิดหวานหยดมดตอมไว้อย่างพิสดารนัก บางเพลงก็ฟังไม่อาจเข้าใจได้ในขั้นเบื้องต้น แต่บางเพลงก็มีเสน่ห์มากพอที่จะเรียกผมให้ฟังซ้ำแล้วซ้ำเล่า ผมเลือกเพลง D899 No.1 in C Minor - Allegro Molto Moderato ซึ่งเป็นเพลงเปียโนแนวโรแมนติกที่มีจุดเด่นที่ความเป็นสมัยปัจจุบัน แนวเพลง Ballade หรือเพลงป๊อบต่างๆในยุคปัจจุบันคงได้รับอิทธิพลจาก Schubert มากพอดู

แรกเลยเสียงคีย์เปียโนที่ดีดเข้ามาในโสตประสาททำให้ผมได้รู้ว่า เจ้า ES10 นี้เป็นหูที่มีขนาดอิมเมจพอสมควร ออกไปทางใหญ่เล็กน้อย แต่ก็ไม่ถึงระดับ AD2000 หรือ Sr404 ที่ให้ความรู้สึกของเปียโนได้อย่างเต็มเปี่ยมราวกับได้เป็นผู้บรรเลงเอง แต่ ES10 ก็ทำได้ไม่น่าเกลียด โน้ต Forte เพื่อ Intro เพลงเป็นไปอย่างมีพลัง แต่ไม่โฉ่งฉ่าง เจ้า ES10 ให้ความรู้สึกราวกับได้เข้าไปมีส่วนร่วมในการบรรเลงอย่างเต็มเปี่ยม เสียงเปียโนอยู่ใกล้หูราวกับได้ไปนั่งอยู่ที่นั่งแถวหน้าใน House Concert เล็กๆที่นักเปียโนคุยโต้ตอบกับผู้ฟังอย่างไม่ถือตัว เปิดมาเพลงแรก ES10 ก็ทำให้ผมพอใจได้ขนาดนี้แล้วเชียว

เมื่อเพลงบรรเลงมาถึงส่วนกลาง ถึงเวลาที่ Schubert ได้กำหนดไว้ ความเป็นโรแมนซ์อันเป็นจุดเด่นของบทเพลงจะเฉิดฉาย ทีแรกผมเห็น ES10 เป็นหูโลหะคิดว่าก็คงจะแข็งทื่อ ไร้อารมณ์ แต่ก็ต่างจากที่คาดคิดไว้ audio-technica ไม่ทิ้งลาย เจ้า ES10 สามารถถ่ายทอดอารมณ์ของทั้งผู้ประพันธ์และผู้บรรเลงออกมาได้โดยหมดจด ไม่มีตกหล่น เป็นความหวานแต่พอดี อ่อนโยนแต่ไม่อ่อนแอแม้แต่น้อย เช่นเดียวกับเพลงต่อมานั่นคือ Piano Concerto #20 ของ Mozart Movement ที่สองที่มีชื่อว่าโรแมนซ์ แม้ว่าโมสาร์ตจะประพันธ์เพลงเน้นหนักไปทางแนวคลาสสิกที่มีลักษณธลื่นไหลและใช้ scale อย่างโดดเด่น แต่ก็มีบ้างที่ได้ก้าวข้ามไปยังโซนของความ Romatic เพลงนี้เองก็เช่นกัน คาดว่าหลายท่านก็คงได้เคยฟังมาบ้างสำหรับคอนแชร์โต้เลื่องชื่อบทนี้ ...

เมื่อเพลงเริ่มจาก House Concert เล็กๆที่ผมได้นั่งฟัง Piano Solo อย่างใกล้ชิด ผมได้ย้ายสถานที่ข้ามมาใน Hall เล็กๆที่มีวงซิมโฟนีตั้งอยู่รายรอบเปียโนตรงกลางอันเป็นพระเอกของเพลง เพลงแนว Piano Concerto นี้เป็นเพลงคลาสสิกที่ผมชอบที่สุด เพราะเป็นส่วนผสมที่ลงตัวระหว่าง Piano ซึ่งเป็นเครื่องดนตรีที่ผมชอบที่สุด และ Orchestral Music จำพวก Symphony ซึ่งมีขนาดใหญ่สามารถสร้างสรรค์รูปแบบการบรรเลงได้หลากหลาย ไม่จำเพาะต่อเครื่องดนตรีใดเป็นพิเศษ ใน Hall แห่งนี้เองผมสามารถแยกแยะเครื่องดนตรีต่างๆได้ชัดเจน ทั้ง Woodwind ทั้งเครื่องสี เครื่องเป่าทองเหลือและพระเอกอย่างเปียโน สามารถได้ยินเสียงลมของ Flute และ Oboe ได้ชัดเจน ในขณะเดียวกันเปียโนที่ยังเป็นพระเอกก็ยังคงความเด่นและเป็นผู้ควบคุมความเป็นไปของเพลงได้อย่างสมศักดิ์ศรี

พูดถึง Oboe แล้วก็ต้องขออนุญาตเลือกเพลงต่อไปเป็น Concerto for violin, oboe & strings in D minor, BWV1060 Adagio ของ Bach มา ที่เลือกเพลงนี้เพราะเป็นเพลงที่แต่งให้ Oboe ได้อย่างลงตัว ในยุคหลังๆจะไม่ได้เห็นความโดดเด่นของ Oboe เท่าไหร่นัก ผมชอบเสียงของ Oboe มาก ติดที่เป็นเครื่องดนตรีที่แพงและหาเรียกยากไม่เช่นนั้นก็คงจะเข้าคอร์สเรียนไปแล้ว

อีกสิ่งหนึ่งที่ผมได้รับรู้ในเพลงนี้จาก ES10 นั่นคือเสียงของ Bass ซึ่งมีมวล ขนาดใหญ่เล็กน้อย แต่ไม่บีบคั้น ออกเป็นแนวนุ่มชวนฝันเสียด้วยซ้ำ เสียงสูงก็พริ้วไปไกลพอสมควรเกินค่าตัวไปมาก ฟังไวโอลินก็ไม่มีอาการของเสียงที่บาดหูให้ได้ยิน ที่ชอบที่สุดคือเสียงลมของเครื่องเป่ามวลต่ำ หากได้ลองฟังผลงานชิ้นอื่นๆของ Bach ที่เน้น Flute แล้วจะพบว่าลมที่ออกมานั้นสามารถรับรู้ถึงระดับ Oscillation หรือการสั่นกระเพื่อมของลมได้อย่างชัดเจน

ฟังเพลงคลาสสิกมาสามสี่เพลงแล้วก็ขอพักด้วยเพลง Jpop ของ Nakashima Mika แล้วกันนะครับที่เพลง Be In Silence
เพลงเปิดมาก็ได้ยินเสียงเคาะ snare อย่างชัดเจน แม่นยำ ตามติดมาด้วย Deep Bass ขนาดใหญ่(มาก) กะจะหยิบไม้บรรทัดมาตีเพื่อลงโทษแล้ว เพราะส่วนตัวไม่ชอบบริโภคเบส แต่ก็ต้องอ่อนใจเก็บไม้มือลงไปเมื่อได้ยินเสียงของ Mika อันที่จริงต้องบอกว่าเห็นหน้ามากกว่า เพราะเสียงกลางที่ไหลผ่านอากาศเข้ามาในรูหูนั้นเป็นเสียงที่นอกจากสว่างแล้ว ยังเป็นเนียนพอประมาณ ไม่ได้ลื่นไร้สากเสี้ยนเสียทีเดียว แต่เป็นเสียงอย่างธรรมชาติที่ได้ยินในโลกปัจจุบัน ยิ่งฟังก็ยิ่งตอกย้ำถึงความไพเราะของลมที่ถูกขับออกมาจากหูฟังคู่นี้ ไม่ว่าจะเป็นลมจากเครื่องเป่าหรือลมจากเสียงหญิงสาว หูไททาเนียมคู่นี้ไม่ทำให้ผิดหวังแต่ประการใด

ก่อนที่ท่านๆจะเบื่อกับคาเฟ่ที่โกโรโกโสนี้ ผมได้ตัดสินเปลี่ยนไปเป็นเพลงดาวเสาร์ของลุลา หึหึ ผมฟังเพลงไทยไม่มาก ก็จะมีลุลานี้แลที่ผมพอจะได้ฟัง พอได้ฟังจากเจ้า ES10 นี้ก็ทราบได้เลยถึง Tonal Balance ที่เข้าขั้น แม้จะมีย่านเสียงต่ำที่เด่นไปบ้าง แต่เนื่องจากส่วนตัวไม่ชอบเบส เชื่อว่าสำหรับหลายๆท่านเมื่อได้ลองฟังก็คงจะได้เข้าถึงสมดุลที่ทางผู้ผลิตได้รังสรรค์มา มีคนบอกว่าหูตัวนี้เหมือน Bose ผมว่าไม่เหมือน เพราะ ES10 ให้รายละเอียดที่ชัดเจน ละเอียด ครบทุกรายละเอียดแต่ไม่ถึงขั้นจับจ้อง เบสเด่นแต่ไม่ล้ำย่านเสียงอื่น ผนวกกับความนุ่มของเบสอิมแพคแล้ว เพลง Easy Listening อย่างดาวเสาร์ก็ผ่านฉลุย

ในขั้นนี้ ผมก็คงต้องขออนุญาตขอบคุณทุกขั้นที่ได้พยายามอ่านมาถึงจุดนี้ ผมได้เลือกเพลงสุดท้ายที่จะลองก่อนที่จะปิดคาเฟ่นี้ ในโลกนี้มีวาทยากรที่มีชื่อเสียงมากมาย แต่หนึ่งในนั้นที่ไม่มีใครสามารถปฏิเสธได้ นั่นคือเฮอร์เบิร์ต วอน คารายาน ผมเลือก Symphonie No.9 ของ Beethoven หรือที่มี Excerpt เลื่องชื่ออย่าง Ode to Joy เพลงนี้เป็นเพลงที่มีความยาวสูงถึงชั่วโมงเศษ บรรเลงโดยวงซิมโฟนีขนาดใหญ่มหึมา มีนักร้องประสานเสียงนำ 4 คนพร้อมกับประสานเสียงตามเป็นจำนวนหลักร้อย ผมเองได้เคยมีโอกาสได้ไปฟังการบรรเลง Symphonie หมายเลขนี้อยู่ครั้งหนึ่ง ได้รับฟังถึงบรรยากาศใน Auditorium ที่ได้มาตรฐาน ความกว้างขวางของสถานที่ และเมื่อผมได้กด play track ที่ 5 นั่นก็คือ Movement สุดท้ายของบทเพลง เป็นช่วงที่ยิ่งใหญ่และเลื่องชื่อ เป็นเพลงของโลกที่ Beethoven ได้หลงเหลือไว้ให้แม้จะจากไปนานแล้ว (Legacy) สิ่งที่เหนือความคาดหมายที่สุดก็ได้บังเกิด อันเป็นสิ่งผมสรุปในทันใดว่านี่คือจุดแข็งที่สุดของ ATH-ES10 สิ่งนั่นก็คือมิติและสเตจระดับ Auditorium ความอลังการและพลังของเหล่านักประสานเสียงที่กึกก้องไปซ้ายและขวา หน้าและหลัง จรดไปถึงเพดาน เป็นการกล่าวโดยดังที่สุดจากหูคู่นี้ว่าปริมาตรที่จำลองขึ้นมานั้นใหญ่โตเพียงใด ทั้งแกน x y และ z ทำได้ดีที่สุด พอที่จะจุเสียงจากนักร้องนำที่กำลังร้องสื่อไปถึงสรวงสวรรค์ที่ประกาศถึงความเป็นหนึ่งเดียวของมนุษยชาติ และผมคิดว่าฟ้าก็คงได้รับรู้ถึงสาสน์นี้เองเช่นเดียวกัน ไม่ว่าอย่างไร ES10 ก็ได้บรรลุจุดประสงค์หนึ่งของการถ่ายทอดเสียงแล้ว นั่นก็คือการถ่ายทอดเจตนารมณ์ของผู้ประพันธ์ และผู้แสดง ไปถึงจิตใจและความรู้สึกนึกคิดของผู้ฟัง ...

ในท่วงทำนองสุดท้ายที่เป็นการขับร้องของคนนับร้อย ร่วมกับการไล่เสียงอย่างรวดเร็ว ผมก็คิดไปแล้วว่า สวรรค์ก็คงเห็นเช่นเดียวกับผม ATH-ES10 นี้ เยี่ยมจริงๆ

ขอบคุณครับ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 1

กุ๊ดจี่

29/05/2010 06:49:30
อยากลองฟังมากมาย -__-\"

เทียบกันแล้ว stage พอ ๆ กับหูตัวไหนมั่งครับ
ความคิดเห็นที่ : 2

Tidal

29/05/2010 16:25:15
0
ถ้าจะเทียบอย่างนั้นผมอาจทำไม่ได้ครับ เพราะว่าปกติผมจะไม่ถือหูฟังมากกว่าหนึ่งตัวในเวลาเดียวกันครับ นั่นก็คือจำลักษณะเสียงไม่ได้นั่นเองครับ แต่ก็ขอกว่าสำหรับสเตจของ ES10 ตัวนี้กว้างมากๆ ไม่น่าเชื่อเลยว่าเป็นหู Closed Portable Fullsize ครับ
ความคิดเห็นที่ : 3

Tidal

29/05/2010 16:48:29
0



รูปครับ
ความคิดเห็นที่ : 4

Tidal

29/05/2010 16:48:53
0



ถ่ายไว้สองรูปครับ
ความคิดเห็นที่ : 5

pongz83

24/06/2010 10:09:14
0



ผมเองชอบฟังคลาสสิกเหมือนกันครับ(ชอบเสียง Mika เหมือนกันด้วย) อ่านรีวิวแล้วประทับใจมากครับตอนนี้ก็กำลังมองๆหาหูใหม่อยู่เหมือนกัน(ผมใช้ K412p อยู่ครับงบน้อย) เห็นว่าชอบ No.9 ผมมีอัลบั้มมาแนะนำครับ ของ Wilhelm Furtwängler อย่าหวังกับคุณภาพเสียงนะครับยังตอนอัดผมเข้าใจว่ายังเป็น mono อยู่เลย แนะนำในมุมคนชอบเพลงคลาสสิกไม่ใช่คนเล่นหูครับ แหะๆ

http://juliosbv.blogspot.com/2010/04/beethoven-sinfonia-n-9-furtwangler.html
"[Review] ATH-ES10"