คุุณต้องเข้าใจก่อนบางคนเขามีความสุขกับการได้ลองฟังจับผิดอุปกรณ์ เขาเห็นอะไรใหม่ๆก็อยากลองฟัง เขาไม่สนใจหรอกผลการวัดค่ามันจะต่างกันหรือไม่ ต่อให้มีคนบอกไม่ต่างเขาก็อยากลองฟังอยู่ดี ถ้า A ฟังแล้วต่าง แต่ B บอกไม่ต่าง A ก็มีความสุขฟังเพลงเพราะขึ้น ส่วน B ก็ไม่เสียเงิน มันก็เป็นแบบนี้แหละ
คุุณต้องเข้าใจก่อนบางคนเขามีความสุขกับการได้ลองฟังจับผิดอุปกรณ์ เขาเห็นอะไรใหม่ๆก็อยากลองฟัง เขาไม่สนใจหรอกผลการวัดค่ามันจะต่างกันหรือไม่ ต่อให้มีคนบอกไม่ต่างเขาก็อยากลองฟังอยู่ดี ถ้า A ฟังแล้วต่าง แต่ B บอกไม่ต่าง A ก็มีความสุขฟังเพลงเพราะขึ้น ส่วน B ก็ไม่เสียเงิน มันก็เป็นแบบนี้แหละ
การส่งสัญญานแบบ Digital มันไม่มี Distortion ไม่มีการ Loss ของสัญญานเพราะมันเป็นการส่งข้อมูล ดังนั้นมันมีแค่ช้ากับเร็วแค่นั้น จะถูกหรือแพง เทคโนโลยีเก่าหรือใหม่เรื่องโทนเสียงมันไม่มีผลอยู่แล้ว เพราะถ้าข้อมูลส่งมาไม่เหมือนเดิมกับต้นฉบับจนระบบ Error Correction ไม่สามารถทำงานได้ แน่นอนว่าสิ่งที่คุณได้ยินนั้นย่อมมีความผิดปกติเกิดขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเช่นอาการ Glitch เป็นต้น
ถ้าคุณยึดหลักการนี้ ต้องไปคุยกับพวก asr แล้วล่ะครับ สำหรับผม ตอนแรกก็คิดว่าอย่างที่คุณว่า พอมาลองเองจริงๆ มันต่างกันมากครับ ชุดผมแค่เปลี่ยนสาย USB เสียงเปลี่ยนโคตรๆ จะให้ blind test กี่ครั้งผมมั่นใจมากครับว่าผ่านหมด
อ้างอิง : ความคิดเห็นที่ 8 - เฟี้ยว
การส่งสัญญานแบบ Digital มันไม่มี Distortion ไม่มีการ Loss ของสัญญานเพราะมันเป็นการส่งข้อมูล ดังนั้นมันมีแค่ช้ากับเร็วแค่นั้น จะถูกหรือแพง เทคโนโลยีเก่าหรือใหม่เรื่องโทนเสียงมันไม่มีผลอยู่แล้ว เพราะถ้าข้อมูลส่งมาไม่เหมือนเดิมกับต้นฉบับจนระบบ Error Correction ไม่สามารถทำงานได้ แน่นอนว่าสิ่งที่คุณได้ยินนั้นย่อมมีความผิดปกติเกิดขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเช่นอาการ Glitch เป็นต้น
ถ้าคุณยึดหลักการนี้ ต้องไปคุยกับพวก asr แล้วล่ะครับ สำหรับผม ตอนแรกก็คิดว่าอย่างที่คุณว่า พอมาลองเองจริงๆ มันต่างกันมากครับ ชุดผมแค่เปลี่ยนสาย USB เสียงเปลี่ยนโคตรๆ จะให้ blind test กี่ครั้งผมมั่นใจมากครับว่าผ่านหมด
คุุณต้องเข้าใจก่อนบางคนเขามีความสุขกับการได้ลองฟังจับผิดอุปกรณ์ เขาเห็นอะไรใหม่ๆก็อยากลองฟัง เขาไม่สนใจหรอกผลการวัดค่ามันจะต่างกันหรือไม่ ต่อให้มีคนบอกไม่ต่างเขาก็อยากลองฟังอยู่ดี ถ้า A ฟังแล้วต่าง แต่ B บอกไม่ต่าง A ก็มีความสุขฟังเพลงเพราะขึ้น ส่วน B ก็ไม่เสียเงิน มันก็เป็นแบบนี้แหละ
คุุณต้องเข้าใจก่อนบางคนเขามีความสุขกับการได้ลองฟังจับผิดอุปกรณ์ เขาเห็นอะไรใหม่ๆก็อยากลองฟัง เขาไม่สนใจหรอกผลการวัดค่ามันจะต่างกันหรือไม่ ต่อให้มีคนบอกไม่ต่างเขาก็อยากลองฟังอยู่ดี ถ้า A ฟังแล้วต่าง แต่ B บอกไม่ต่าง A ก็มีความสุขฟังเพลงเพราะขึ้น ส่วน B ก็ไม่เสียเงิน มันก็เป็นแบบนี้แหละ
นี่พวกเรากำลังพูดถึงเรื่องสายสัญญาณแบบ Digital อยู่ไม่ใช่เหรอครับ คือใครอยากซื้ออะไรพอใจแบบไหนมันก็แล้วแต่สิทธิ์แล้วแต่การตัดสินใจ แต่คุณจะมาบอกว่า 1+1=5 ไก่ออกลูกเป็นตัว หมาออกลูกเป็นไข่ ไม่ได้มั้ยครับ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 22
เฟี้ยว
09/04/2021 20:55:03
อ้างอิง : ความคิดเห็นที่ 19 - Acholate
อ้างอิง : ความคิดเห็นที่ 8 - เฟี้ยว
การส่งสัญญานแบบ Digital มันไม่มี Distortion ไม่มีการ Loss ของสัญญานเพราะมันเป็นการส่งข้อมูล ดังนั้นมันมีแค่ช้ากับเร็วแค่นั้น จะถูกหรือแพง เทคโนโลยีเก่าหรือใหม่เรื่องโทนเสียงมันไม่มีผลอยู่แล้ว เพราะถ้าข้อมูลส่งมาไม่เหมือนเดิมกับต้นฉบับจนระบบ Error Correction ไม่สามารถทำงานได้ แน่นอนว่าสิ่งที่คุณได้ยินนั้นย่อมมีความผิดปกติเกิดขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเช่นอาการ Glitch เป็นต้น
ถ้าคุณยึดหลักการนี้ ต้องไปคุยกับพวก asr แล้วล่ะครับ สำหรับผม ตอนแรกก็คิดว่าอย่างที่คุณว่า พอมาลองเองจริงๆ มันต่างกันมากครับ ชุดผมแค่เปลี่ยนสาย USB เสียงเปลี่ยนโคตรๆ จะให้ blind test กี่ครั้งผมมั่นใจมากครับว่าผ่านหมด
การส่งสัญญานแบบ Digital มันไม่มี Distortion ไม่มีการ Loss ของสัญญานเพราะมันเป็นการส่งข้อมูล ดังนั้นมันมีแค่ช้ากับเร็วแค่นั้น จะถูกหรือแพง เทคโนโลยีเก่าหรือใหม่เรื่องโทนเสียงมันไม่มีผลอยู่แล้ว เพราะถ้าข้อมูลส่งมาไม่เหมือนเดิมกับต้นฉบับจนระบบ Error Correction ไม่สามารถทำงานได้ แน่นอนว่าสิ่งที่คุณได้ยินนั้นย่อมมีความผิดปกติเกิดขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเช่นอาการ Glitch เป็นต้น
ถ้าคุณยึดหลักการนี้ ต้องไปคุยกับพวก asr แล้วล่ะครับ สำหรับผม ตอนแรกก็คิดว่าอย่างที่คุณว่า พอมาลองเองจริงๆ มันต่างกันมากครับ ชุดผมแค่เปลี่ยนสาย USB เสียงเปลี่ยนโคตรๆ จะให้ blind test กี่ครั้งผมมั่นใจมากครับว่าผ่านหมด
คุุณต้องเข้าใจก่อนบางคนเขามีความสุขกับการได้ลองฟังจับผิดอุปกรณ์ เขาเห็นอะไรใหม่ๆก็อยากลองฟัง เขาไม่สนใจหรอกผลการวัดค่ามันจะต่างกันหรือไม่ ต่อให้มีคนบอกไม่ต่างเขาก็อยากลองฟังอยู่ดี ถ้า A ฟังแล้วต่าง แต่ B บอกไม่ต่าง A ก็มีความสุขฟังเพลงเพราะขึ้น ส่วน B ก็ไม่เสียเงิน มันก็เป็นแบบนี้แหละ
คุุณต้องเข้าใจก่อนบางคนเขามีความสุขกับการได้ลองฟังจับผิดอุปกรณ์ เขาเห็นอะไรใหม่ๆก็อยากลองฟัง เขาไม่สนใจหรอกผลการวัดค่ามันจะต่างกันหรือไม่ ต่อให้มีคนบอกไม่ต่างเขาก็อยากลองฟังอยู่ดี ถ้า A ฟังแล้วต่าง แต่ B บอกไม่ต่าง A ก็มีความสุขฟังเพลงเพราะขึ้น ส่วน B ก็ไม่เสียเงิน มันก็เป็นแบบนี้แหละ
คุุณต้องเข้าใจก่อนบางคนเขามีความสุขกับการได้ลองฟังจับผิดอุปกรณ์ เขาเห็นอะไรใหม่ๆก็อยากลองฟัง เขาไม่สนใจหรอกผลการวัดค่ามันจะต่างกันหรือไม่ ต่อให้มีคนบอกไม่ต่างเขาก็อยากลองฟังอยู่ดี ถ้า A ฟังแล้วต่าง แต่ B บอกไม่ต่าง A ก็มีความสุขฟังเพลงเพราะขึ้น ส่วน B ก็ไม่เสียเงิน มันก็เป็นแบบนี้แหละ
คุุณต้องเข้าใจก่อนบางคนเขามีความสุขกับการได้ลองฟังจับผิดอุปกรณ์ เขาเห็นอะไรใหม่ๆก็อยากลองฟัง เขาไม่สนใจหรอกผลการวัดค่ามันจะต่างกันหรือไม่ ต่อให้มีคนบอกไม่ต่างเขาก็อยากลองฟังอยู่ดี ถ้า A ฟังแล้วต่าง แต่ B บอกไม่ต่าง A ก็มีความสุขฟังเพลงเพราะขึ้น ส่วน B ก็ไม่เสียเงิน มันก็เป็นแบบนี้แหละ
เพราะแบบนี้ไงครับเขาถึงมี Error Correction ไงครับเพราะต่อให้สัญญาณผิดเพี้ยนหรือ Loss ไปใช้เชิงไฟฟ้า แต่ตราบใดที่มันยังคงแยกได้ระหว่าง 0 กับ 1 มันก็พร้อมจะแก้ไขเขียนข้อมูลขึ้นมาใหม่ให้เหมือนเดิม เพราะสุดท้ายแล้วการส่งสัญญาณแบบ Digital มันก็อยู่ที่ Final Product อยู่ดีไม่ใช่เหรอครับ ไม่ว่าจะส่งมาแบบไหนแต่สุดท้ายปลายทางมันก็ต้องทำให้เป็นเหมือนเดิม เพราะถ้าข้อมูลผิดเพี้ยนจน Error Correction ไม่สามารถแยกออก มันไม่เล่นข้อมูลตรงจุดนั้นให้ฟังหรอกครับ เพราะถ้าคิดแบบว่าการส่งสัญญาณ Digital เป็นไฟฟ้าแบบเพียวๆแบบ Analog แบบนี้ส่งข้อมูลไปตาม Network ทั่วโลกมันไม่เจ๊งชิบหายกันหมดเหรอครับ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 28
Acholate
10/04/2021 01:43:14
5
อ้างอิง : ความคิดเห็นที่ 22 - เฟี้ยว
อ้างอิง : ความคิดเห็นที่ 19 - Acholate
อ้างอิง : ความคิดเห็นที่ 8 - เฟี้ยว
การส่งสัญญานแบบ Digital มันไม่มี Distortion ไม่มีการ Loss ของสัญญานเพราะมันเป็นการส่งข้อมูล ดังนั้นมันมีแค่ช้ากับเร็วแค่นั้น จะถูกหรือแพง เทคโนโลยีเก่าหรือใหม่เรื่องโทนเสียงมันไม่มีผลอยู่แล้ว เพราะถ้าข้อมูลส่งมาไม่เหมือนเดิมกับต้นฉบับจนระบบ Error Correction ไม่สามารถทำงานได้ แน่นอนว่าสิ่งที่คุณได้ยินนั้นย่อมมีความผิดปกติเกิดขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเช่นอาการ Glitch เป็นต้น
ถ้าคุณยึดหลักการนี้ ต้องไปคุยกับพวก asr แล้วล่ะครับ สำหรับผม ตอนแรกก็คิดว่าอย่างที่คุณว่า พอมาลองเองจริงๆ มันต่างกันมากครับ ชุดผมแค่เปลี่ยนสาย USB เสียงเปลี่ยนโคตรๆ จะให้ blind test กี่ครั้งผมมั่นใจมากครับว่าผ่านหมด
แต่อยากให้คุณลองเปิดใจ ลองฟังดูว่ามันต่างจริงไหม แล้วการที่ผมบอกว่า blind test ผ่าน คุณเชื่อผมเปล่า ถ้าผ่านก็แปลว่า digital มันไม่ได้มีแค่ bit to bit หรือเปล่าครับ
อ้างอิง : ความคิดเห็นที่ 22 - เฟี้ยว
อ้างอิง : ความคิดเห็นที่ 19 - Acholate
อ้างอิง : ความคิดเห็นที่ 8 - เฟี้ยว
การส่งสัญญานแบบ Digital มันไม่มี Distortion ไม่มีการ Loss ของสัญญานเพราะมันเป็นการส่งข้อมูล ดังนั้นมันมีแค่ช้ากับเร็วแค่นั้น จะถูกหรือแพง เทคโนโลยีเก่าหรือใหม่เรื่องโทนเสียงมันไม่มีผลอยู่แล้ว เพราะถ้าข้อมูลส่งมาไม่เหมือนเดิมกับต้นฉบับจนระบบ Error Correction ไม่สามารถทำงานได้ แน่นอนว่าสิ่งที่คุณได้ยินนั้นย่อมมีความผิดปกติเกิดขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเช่นอาการ Glitch เป็นต้น
ถ้าคุณยึดหลักการนี้ ต้องไปคุยกับพวก asr แล้วล่ะครับ สำหรับผม ตอนแรกก็คิดว่าอย่างที่คุณว่า พอมาลองเองจริงๆ มันต่างกันมากครับ ชุดผมแค่เปลี่ยนสาย USB เสียงเปลี่ยนโคตรๆ จะให้ blind test กี่ครั้งผมมั่นใจมากครับว่าผ่านหมด
แต่อยากให้คุณลองเปิดใจ ลองฟังดูว่ามันต่างจริงไหม แล้วการที่ผมบอกว่า blind test ผ่าน คุณเชื่อผมเปล่า ถ้าผ่านก็แปลว่า digital มันไม่ได้มีแค่ bit to bit หรือเปล่าครับ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 29
เฟี้ยว
10/04/2021 02:19:27
อ้างอิง : ความคิดเห็นที่ 28 - Acholate
อ้างอิง : ความคิดเห็นที่ 22 - เฟี้ยว
อ้างอิง : ความคิดเห็นที่ 19 - Acholate
อ้างอิง : ความคิดเห็นที่ 8 - เฟี้ยว
การส่งสัญญานแบบ Digital มันไม่มี Distortion ไม่มีการ Loss ของสัญญานเพราะมันเป็นการส่งข้อมูล ดังนั้นมันมีแค่ช้ากับเร็วแค่นั้น จะถูกหรือแพง เทคโนโลยีเก่าหรือใหม่เรื่องโทนเสียงมันไม่มีผลอยู่แล้ว เพราะถ้าข้อมูลส่งมาไม่เหมือนเดิมกับต้นฉบับจนระบบ Error Correction ไม่สามารถทำงานได้ แน่นอนว่าสิ่งที่คุณได้ยินนั้นย่อมมีความผิดปกติเกิดขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเช่นอาการ Glitch เป็นต้น
ถ้าคุณยึดหลักการนี้ ต้องไปคุยกับพวก asr แล้วล่ะครับ สำหรับผม ตอนแรกก็คิดว่าอย่างที่คุณว่า พอมาลองเองจริงๆ มันต่างกันมากครับ ชุดผมแค่เปลี่ยนสาย USB เสียงเปลี่ยนโคตรๆ จะให้ blind test กี่ครั้งผมมั่นใจมากครับว่าผ่านหมด
แต่อยากให้คุณลองเปิดใจ ลองฟังดูว่ามันต่างจริงไหม แล้วการที่ผมบอกว่า blind test ผ่าน คุณเชื่อผมเปล่า ถ้าผ่านก็แปลว่า digital มันไม่ได้มีแค่ bit to bit หรือเปล่าครับ
การส่งสัญญานแบบ Digital มันไม่มี Distortion ไม่มีการ Loss ของสัญญานเพราะมันเป็นการส่งข้อมูล ดังนั้นมันมีแค่ช้ากับเร็วแค่นั้น จะถูกหรือแพง เทคโนโลยีเก่าหรือใหม่เรื่องโทนเสียงมันไม่มีผลอยู่แล้ว เพราะถ้าข้อมูลส่งมาไม่เหมือนเดิมกับต้นฉบับจนระบบ Error Correction ไม่สามารถทำงานได้ แน่นอนว่าสิ่งที่คุณได้ยินนั้นย่อมมีความผิดปกติเกิดขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเช่นอาการ Glitch เป็นต้น
ถ้าคุณยึดหลักการนี้ ต้องไปคุยกับพวก asr แล้วล่ะครับ สำหรับผม ตอนแรกก็คิดว่าอย่างที่คุณว่า พอมาลองเองจริงๆ มันต่างกันมากครับ ชุดผมแค่เปลี่ยนสาย USB เสียงเปลี่ยนโคตรๆ จะให้ blind test กี่ครั้งผมมั่นใจมากครับว่าผ่านหมด
แต่อยากให้คุณลองเปิดใจ ลองฟังดูว่ามันต่างจริงไหม แล้วการที่ผมบอกว่า blind test ผ่าน คุณเชื่อผมเปล่า ถ้าผ่านก็แปลว่า digital มันไม่ได้มีแค่ bit to bit หรือเปล่าครับ
คุุณต้องเข้าใจก่อนบางคนเขามีความสุขกับการได้ลองฟังจับผิดอุปกรณ์ เขาเห็นอะไรใหม่ๆก็อยากลองฟัง เขาไม่สนใจหรอกผลการวัดค่ามันจะต่างกันหรือไม่ ต่อให้มีคนบอกไม่ต่างเขาก็อยากลองฟังอยู่ดี ถ้า A ฟังแล้วต่าง แต่ B บอกไม่ต่าง A ก็มีความสุขฟังเพลงเพราะขึ้น ส่วน B ก็ไม่เสียเงิน มันก็เป็นแบบนี้แหละ
คุุณต้องเข้าใจก่อนบางคนเขามีความสุขกับการได้ลองฟังจับผิดอุปกรณ์ เขาเห็นอะไรใหม่ๆก็อยากลองฟัง เขาไม่สนใจหรอกผลการวัดค่ามันจะต่างกันหรือไม่ ต่อให้มีคนบอกไม่ต่างเขาก็อยากลองฟังอยู่ดี ถ้า A ฟังแล้วต่าง แต่ B บอกไม่ต่าง A ก็มีความสุขฟังเพลงเพราะขึ้น ส่วน B ก็ไม่เสียเงิน มันก็เป็นแบบนี้แหละ
คุุณต้องเข้าใจก่อนบางคนเขามีความสุขกับการได้ลองฟังจับผิดอุปกรณ์ เขาเห็นอะไรใหม่ๆก็อยากลองฟัง เขาไม่สนใจหรอกผลการวัดค่ามันจะต่างกันหรือไม่ ต่อให้มีคนบอกไม่ต่างเขาก็อยากลองฟังอยู่ดี ถ้า A ฟังแล้วต่าง แต่ B บอกไม่ต่าง A ก็มีความสุขฟังเพลงเพราะขึ้น ส่วน B ก็ไม่เสียเงิน มันก็เป็นแบบนี้แหละ
คุุณต้องเข้าใจก่อนบางคนเขามีความสุขกับการได้ลองฟังจับผิดอุปกรณ์ เขาเห็นอะไรใหม่ๆก็อยากลองฟัง เขาไม่สนใจหรอกผลการวัดค่ามันจะต่างกันหรือไม่ ต่อให้มีคนบอกไม่ต่างเขาก็อยากลองฟังอยู่ดี ถ้า A ฟังแล้วต่าง แต่ B บอกไม่ต่าง A ก็มีความสุขฟังเพลงเพราะขึ้น ส่วน B ก็ไม่เสียเงิน มันก็เป็นแบบนี้แหละ
ก่อนอื่นเลย เราไปศึกษาเรื่องวิทยาศาสตร์ที่โครตพื้นฐานอย่าง Serial Communication พวก protocol กันก่อนเลยครับ ส่วนเรื่องที่เกียวกับ DAC ผมไม่ใช่นักฟังแต่ขอออกความเห็นว่า USB DAC กากๆของผม ไม่ว่าจะถอดไปเสียบกับเครื่องไหน Window Mac Linux เสียงที่ออกมาเหมือนกันเปะ รวมถึงพวกหูฟัง Bluetooth TWS ด้วย อย่างนี่ สภาพอากาศ อัตราส่วนในอากาศระหว่างเครื่องเล่นกับหูฟังมันมีผลจริงหรือ???? ขอแสดงความเห็นแค่นี้ก่อนนะครับ
ก่อนอื่นเลย เราไปศึกษาเรื่องวิทยาศาสตร์ที่โครตพื้นฐานอย่าง Serial Communication พวก protocol กันก่อนเลยครับ ส่วนเรื่องที่เกียวกับ DAC ผมไม่ใช่นักฟังแต่ขอออกความเห็นว่า USB DAC กากๆของผม ไม่ว่าจะถอดไปเสียบกับเครื่องไหน Window Mac Linux เสียงที่ออกมาเหมือนกันเปะ รวมถึงพวกหูฟัง Bluetooth TWS ด้วย อย่างนี่ สภาพอากาศ อัตราส่วนในอากาศระหว่างเครื่องเล่นกับหูฟังมันมีผลจริงหรือ???? ขอแสดงความเห็นแค่นี้ก่อนนะครับ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 38
ผมว่านะ
19/06/2021 12:01:36
อ้างอิง : ความคิดเห็นที่ 37 - Apitti
ส่วนเรื่องที่เกียวกับ DAC ผมไม่ใช่นักฟังแต่ขอออกความเห็นว่า USB DAC กากๆของผม ไม่ว่าจะถอดไปเสียบกับเครื่องไหน Window Mac Linux เสียงที่ออกมาเหมือนกันเปะ
ส่วนเรื่องที่เกียวกับ DAC ผมไม่ใช่นักฟังแต่ขอออกความเห็นว่า USB DAC กากๆของผม ไม่ว่าจะถอดไปเสียบกับเครื่องไหน Window Mac Linux เสียงที่ออกมาเหมือนกันเปะ