วันนี้ขอพูดถึง Lou Ottens ที่คนรุ่นใหม่คงไม่รู้จัก แกเพิ่งถึงแก่กรรมเมื่อคืนวันที่ 6 ที่ผ่านมาด้วยโรคชรา 94 ปี ขอบอกว่าสิ่งที่ลุงคนนี้ประดิษฐ์ขึ้นมามีคุณประโยชน์มหาศาลกับวงการเสียง (audio) โดยเฉพาะกับนักดนตรีทั้งหมดตลอด 50 ปีที่ผ่านมา Lou Ottens เป็นคนประดิษฐ์อุปกรณ์สื่อบันทึกเสียงที่เรียกว่า Cassette Tape แรกสุด Lou Ottens วิศวะกรของบริษัท Philips ประเทศเนเธอร์แลนด์มีความคิดจะย่อเทปรีล (reel-to-reel) ให้เหลือแค่ซองบุหรี่เพื่อพกพาง่ายสำหรับ ใช้ในการสัมภาษณ์จึงมีระบบเสียงโมโน ภายหลังจึงต่อยอดเพื่อใช้ในการบันทึกเสียงเพลงจึงมีการพัฒนาเป็นระบบไฮไฟ และต้องมีการประดิษฐ์ฮาร์ดแวร์เครื่องเล่นไปพร้อมกันด้วย...

'ดัชท์ประดิษฐ์ ญี่ปุ่นขาย' ในที่สุดก็มีการเปิดตัวอย่างเป็นทางการในปี 1963-1964 มีการสัมนาและแนะนำ Casstte Tape ให้กับบุคคลที่อยู่ในอุตสาหกรรม ในเวลานั้นประเทศที่กระตือรือล้นที่สุดไม่พ้นประเทศญี่ปุ่น SONY มองขาดว่าเจ้า Cassette Tape ต้องมาทดแทนสื่ออะไรหลายๆอย่าง จึงรีบพัฒนาอย่างเร็วโดยไม่เกรงใจ Philips ต้นทาง แต่ในที่สุดก็ตกลงกันได้ใช้ฟอร์แมทเดียวกัน และเป็นญี่ปุ่นที่ทำเงินมากที่สุด ด้วยการประดิษฐ์ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องออกมาจนเป็นเจ้าตลาด อย่างหนึ่งก็คือ Walkman เครื่องเล่นแบบพกพา....

Lou Ottens กับทีมวิศวกรของ Philips ไม่ได้หยุดอยู่กับ Cassette Tape พวกเขาจับมือกับ SONY ร่วมกันพัฒนาความคิดของนักประดิษฐ์ชาวอเมริกันที่ชื่อ James T. Russell ที่คิดถึงการใช้แสงเป็นสื่อนำเสียงแทนที่เข็มกับแผ่นครั่ง (ต่อมาเป็นไวนิล) ตั้งแต่ปี 1931ซึ่ง James T.Russell พัฒนาจนสำเร็จสามารถขึ้นทะเบียนสิทธิบัตรในปี 1966 และในที่สุด วันที่ 8 มีนาคม 1979 ทีมวิศวกร Philips กับ SONY ตั้งโต๊ะแถลงข่าวความสำเร็จของสื่อใหม่ที่เรียกว่า Compact Disc (CD) จากนั้นปี 1982 แผ่น Compact Disc ที่เป็นดนตรีที่ผลิตเพื่อการจำหน่ายแผ่นแรกทั้ง 2 ค่าย Philips ชุด Chopin Waltzes ศิลปิน Claudio Arrau.... SONY ชุด 52nd Street ศิลปิน Billy Joel....

แม้ว่าวันนี้ Cassette Tape กับ Compact Disc ไม่ใช่สื่อหลักในการบันทึกเสียงอีกต่อไป ในเจนของผมคงต้องขอขอบคุณลุง Lou Ottens ที่ตลอดกว่า 50 ปีทั้ง 2 สิ่งประดิษฐ์มีส่วนสำคัญในชีวิตของพวกเรา (musiclovers) มากถึงมากที่สุด วันนี้มี mp3, flac, wav และคงมีฟอร์แมทสื่อใหม่ๆออกมาอีก......

ขอคารวะและขอบคุณลุง Lou Ottens RIP ครับ คลิปจาก youtube/DIW news

-เป็นเลิศ หทัยเฑียร-