สวัสดีครับคุณตาล123 

สำหรับ Audeze Mobius กับ Hyper X Orbit S นั้นต้องเรียนตรงๆ ว่าสเปคต่างๆ ของหูฟัง 2 รุ่นนี้ เรียกได้ว่าเหมือนกันทุกประการเลยล่ะครับ ไม่ว่าจะเป็นตัวเนื้องาน แพดหูฟัง หรือแม้แต่สุ่มเสียง เสียงเดียวที่แตกต่างกันนั้นก็คือ Audeze Mobius สามารถเชื่อมต่อผ่าน Bluetooth ได้ ส่วน Hyper X Orbit S จะเป็นการเชื่อมต่อผ่านสายอย่างเดียวครับ สำหรับตัว Audeze Penrose จะเป็นการเชื่อมต่อผ่าน Wireless Dongle ซึ่งไม่มีดีเลย์ และ สามารถเชื่อมต่อกับเครื่อง Console ได้ง่ายกว่าครับ 

ในส่วนของแนวเสียงจะโดดเด่นในเรื่องของมิติที่โอบล้อมมากๆ แยกทิศทางเสียงได้อย่างชัดเจน เสียงเบสจะให้อิมแพคที่แรง เก็บตัวไม่ได้เร็วมาก ลงได้ลึกพอประมาณ เสียงร้องจะออกโทนที่หนาเล็กน้อย อยู่ระดับเดียวกับตำแหน่งของชิ้นดนตรี เสียงกลางแหลมเองก็สามารถถ่ายทอดรายละเอียดเสียงได้อย่างชัดเจนครับ พวกรายละเอีดยเสียงเล็กๆ น้อยก็มีมาให้ได้ยินอย่างชัดเจน 

สำหรับ Arctis Pro Wireless จะมีจุดเด่นที่การสวมใส่ที่สบายครับ ด้วยความที่เป็นแพดผ้าทำให้ระบายอาการศได้ดี สวมใส่ได้นาน ไม่ร้อนหูครับ อีกทั้งตัวกล่อง Wireless เองก็สามารถเชื่อมต่อได้หลายอุปกรณ์พร้อมกันด้วยครับ เพืยงแค่สลับ Channel สัญญาณเท่านั้นเอง

เรื่องเสียงต้องบอกว่าเก่งในเรื่องเวทีเสียงที่กว้างมากๆ ให้ความรู้สึกที่โปร่งฟังสบาย สามารถระบุบทิศทางเสียงได้ดีมากๆ เสียงเบสจะมีอิมแพคที่แรง มีความกระชับ เก็บตัวเร็ว ฟังสนุก เสียงร้องก็ให้โทนที่ใสเคลียร์ ชัดถ้อย ชัดคำมากๆ รายละเอียดเสียงชิ้นดนตรีเองก็สามารถถ่ายทอดรายละเอียดเสียงชิ้นดนตรีได้อย่างครบถ้วนครับ

และ Beyerdynamic MMX300 + Soundcard นั้นผมก็จะขอแนะนำ Soundcard เป็น Creative Sound Blaster X3 เลยครับ ซึ่งขอดีของตัว Creative Sound Blaster X3 ก็คือเราสามารถควบคุมการตั้งค่าต่างๆ ผ่านโทรศัพท์มือถือได้ครับ โดยการเชื่อมต่อผ่าน Bluetooth ทำให้สะดวกสบายมากๆ เวลาใช้งาน อีกทั้งยังสามารถสลับ Channel ระหว่างลำโพงคอมพิวเตอร์ กับ หูฟังได้อีกด้วยครับ ไม่ต้องสลับสายให้วุ่นวาย ส่วนตัวหูฟัง Beyerdynamic MMX300 ก็ถือว่าสวมใส่สบายมากๆ ครับด้วยความที่เป็นผ้ากํามะหยี่ 

โทนเสียงของ Beyerdynamic MMX300 ต้องบอกว่าให้ความเป็นกลางที่สูงมากๆ โดดเด่นในเรื่องของรายละเอียดเสียงชิ้นดนตรี แต่พอมาเชื่อมต่อกับ Creative Sound Blaster X3 แล้วสิ่งที่เพิ่มเติมเข้ามาเลยนั้นก็คือกำลังขับที่สูงขึ้น ทำให้สามารถเล่งเสียงได้ดังขึ้น และ ได้ชูย่านเสียงต่างๆ ให้ชัดขึ้นอย่างชัดเจนครับ เสียงเบสมีความกระชับ อิมแพคแรง มวลเบสลูกใหญ่ขึ้น ฟังสนุกมากๆ เสียงร้องให้โทนที่ติดหนา แต่ว่าจะโดดเด่นนำหน้าชิ้นดนตรีเล็กน้อยครับ เสียงกลางแหลมเองก็สามารถให้รายละเอียดเสียงชิ้นดนตรีได้อย่างชัดเจนมากๆ โดยเฉพาะเครื่องสาย เสียงปลายแหลมก็สามารถทอดตัวได้ไกลเป็นประกาย แต่ว่าไม่บาดหูครับ เวทีเสียงมีขนาดที่กว้างสามารถแยกทิศทางเสียงได้อย่างชัดเจน ไม่มีการทับซ้อนกันแต่อย่างใดครับครับผม

โดยสรุปแล้ว
ถ้าชอบมิติที่โอบล้อม ให้ความรู้สึกที่สมจริงก็เล่น Audeze Mobius หรือ Hyper X Orbit S ก็ได้ครับ หรือจะรอดู Audeze Penrose ก็ได้ครับ

แต่ถ้าชอบการสวมใส่ที่สบาย ส่วมใส่ได้นาน เชื่อมต่อได้หลากหลายอุกปรณ์พร้อมกันก็เป็น Arctis Pro Wireless ได้เลย

ส่วนถ้าชอบความสนุก เน้นมันเข้าถึงอารมณ์ก็เป็น Beyerdynamic MMX300 + Creative Sound Blaster X3 ได้เลยครับ สามารถควบคุมผ่านโทรศัพท์มือถือได้อีกด้วยถือว่าสะดวกสบายมากๆ เลยครับ 

สำหรับค่าตัวก็จะมีดังนี้ครับ 

Audeze Mobius ราคา 15,900 บาท

Hyper X Orbit S ราคา 9,900 บาท

Arctis Pro Wireless ราคา 12,990 บาท

Beyerdynamic MMX300 ราคา 12,490 บาท

Creative Sound Blaster X3 ราคา 3,690 บาท

Ultrasone hifi 580 ผมว่าเสียงดีกว่า 
audeze mobius อีกแต่หายาก 
เหมาะกับการดูหนังสุด รอบทิศทางสมจริง