อยากสอบถามผู้รู้ว่า
แผ่นเสียงที่ผลิตแบบแอนาล็อกเมื่อเล่นกับเครื่องเล่นแผ่นเสียงจะให้เสียงออกมาเป็นเสียงแอนาล็อกใช่มั้ยคะ ?
แล้วถ้าแผ่นเสียงสมัยใหม่ที่ผลิตแบบดิจิทัลเมื่อเล่นกับเครื่องเล่นแผ่นเสียงจะให้เสียงที่ออกมาเป็นเสียงดิจิทัลหรือเสียงแอนาล็อกคะ ?
Guest
ช่องทางการติดต่ออื่น
iDon'tLikeMonday
05/02/2021 23:21:24
0
ให้กำลังใจ 0 หยิกหู 0 แจกหู 0เฟี้ยว
06/02/2021 02:16:19
เสียงทุกเสียงบนโลกนี้ที่หูเราได้ยินต่อให้ต้นทางมันจะเป็นข้อมูลแบบ Digital สุดท้ายแล้วมันก็ต้องเอาไปแปลงมาเป็น Analog เพราะ Digital มันคือรูปแบบการส่งข้อมูล มันไม่ใช่รูปแบบของเสียง ซึ่งเป็นพลังงานการสั่นสะเทือนของโมเลกุลในอากาศ ดังนั้นเสียง Digital ไม่มีอยู่จริงครับ
แค่การเก็บข้อมูลสัญญาณเสียงแบบเทปหรือพวกแผ่นเสียงมันเป็นระบบ Analog เท่านั้นเอง ซึ่งถ้าเทียบกันในเชิงวิศวกรรมการเก็บข้อมูลแบบ Digital นั้นมีความแม่นยำสูงกว่าเพราะการ Distort ของสัญญาณและมี Noise Floor ที่น้อยกว่าถ้าเทียบกับการเก็บข้อมูลเสียงแบบ Analog ซึ่งมีการ Distort ของสัญญาณและ Noise Floor ที่สูงกว่า และมีความแม่นยำที่ต่ำ ดังนั้นเขาจึงเปลี่ยนไปใช้ระบบ Digital ไงครับเพราะถ้ามันห่วยแตกกว่าจริงเขาก็คงยังใช้เทปอยู่แหละ
คือมันไม่สำคัญหรอกครับว่าแผ่นเสียงที่คุณฟังมันจะผลิตมาด้วย Analog แท้ๆ 100% หรือจะเป็นข้อมูล Digital ที่เอาไปแปลงเป็นสัญญาณ Analog แล้วเขียนลงแผ่น เพราะตราบใดที่เสียงที่ได้ยินตรงหน้ามันสามารถทำให้เรารู้สึกดื่มด่ำกับสุ้มเสียงบทเพลง คือมันไม่ได้สำคัญอะไรเลยว่าต้นทางมันจะเป็นมาอย่างไร มันก็แค่เรื่องทางวิศวกรรม ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของเหล่าวิศวกรเสียงเข้าจัดการเถอะครับ
แค่การเก็บข้อมูลสัญญาณเสียงแบบเทปหรือพวกแผ่นเสียงมันเป็นระบบ Analog เท่านั้นเอง ซึ่งถ้าเทียบกันในเชิงวิศวกรรมการเก็บข้อมูลแบบ Digital นั้นมีความแม่นยำสูงกว่าเพราะการ Distort ของสัญญาณและมี Noise Floor ที่น้อยกว่าถ้าเทียบกับการเก็บข้อมูลเสียงแบบ Analog ซึ่งมีการ Distort ของสัญญาณและ Noise Floor ที่สูงกว่า และมีความแม่นยำที่ต่ำ ดังนั้นเขาจึงเปลี่ยนไปใช้ระบบ Digital ไงครับเพราะถ้ามันห่วยแตกกว่าจริงเขาก็คงยังใช้เทปอยู่แหละ
คือมันไม่สำคัญหรอกครับว่าแผ่นเสียงที่คุณฟังมันจะผลิตมาด้วย Analog แท้ๆ 100% หรือจะเป็นข้อมูล Digital ที่เอาไปแปลงเป็นสัญญาณ Analog แล้วเขียนลงแผ่น เพราะตราบใดที่เสียงที่ได้ยินตรงหน้ามันสามารถทำให้เรารู้สึกดื่มด่ำกับสุ้มเสียงบทเพลง คือมันไม่ได้สำคัญอะไรเลยว่าต้นทางมันจะเป็นมาอย่างไร มันก็แค่เรื่องทางวิศวกรรม ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของเหล่าวิศวกรเสียงเข้าจัดการเถอะครับ
ให้กำลังใจ 0 หยิกหู 0pockethifi
06/02/2021 08:57:16
161
แผ่นเสียงเป็นเทคโนโลยีอนาลอกที่มีความสามารถในการทำสำเนาได้ความละเอียดสูงลิบ แม้มันจะมีเสียงรบกวนของการลากเข็มผ่านแผ่น แต่สัญญาณดนตรีที่มันเก็บได้ ก็ละเอียดมาก เพลงที่มาสเตอร์เป็นดิจิทัล hi-res ทั้งหลาย ก็จะได้ประโยชน์จากการสำเนาไปเป็นแผ่นเสียงครับ เพราะทำให้การขายแผ่น hi-res ในรูปแบบของแผ่นเสียงทำเป็นการค้าได้ และป้องกันการบันทึกทำซ้ำได้
ตอบคำถามเจ้าของโพส คุณจะได้เสียงแบบอนาลอก แนวเสียงเป็นไปตามมาสเตอร์ดิจิทัลครับ แนวเสียงมาสเตอร์เป็นอย่างไร เขาทำมาอย่างไร มันก็เป็นอย่างนั้นครับ ถ้าเขาทำมาฟรุ่งฟริ้งคมกริบ มันก็ออกมาคมกริบ ถ้าเขาทำมาแบบนุ่มนวลอิ่มๆ มันก็มาแนวอิ่มๆนุ่มๆ และถ้าเขาทำมาหยาบๆ มันก็ส่งความหยาบมากับแผ่นเสียงครับ
ให้กำลังใจ 0 หยิกหู 0 แจกหู 1สงสัย
06/02/2021 10:33:45
มีแผ่นเสียงที่ผลิตด้วยวิธีดิจิตอลด้วยหรือครับหรือผมตกข่าวขอลิงค์ข้อมูลหน่อยครับ
ให้กำลังใจ 0 หยิกหู 0นายมั่นคง
06/02/2021 16:33:27
4,282
แผ่นเสียงยุคดั้งเดิมคือทำมาสเตอร์แบบอนาลอค จะมีแม่พิมพ์ที่ขูดร่องเล็กๆไว้ให้หัวเข็มวิ่ง แล้วปั๊มออกมาเป็นล้านๆแผ่น โดยอาจจะมีแม่พิมพ์เป็นร้อยๆ ขึ้นอยู่กับว่าปั๊มมากปั๊มน้อย ขั้นตอนผลิตเป็นแบบอนาลอค และก็เล่นกลับแบบอนาลอคตั้งแต่ต้นยันท้ายสุด
แต่แผ่นเสียงยุคใหม่บางเจ้า หาต้นฉบับไม่เจอ หรืออัลบั้มใหม่ๆที่เพิ่งออก ก็จะใช้มาสเตอร์ที่ทำจากดิจิตอล แล้วแกะสัญญาณดิจิตอลออกมาเป็นมาสเตอร์แบบขูดร่องเล็กๆให้หัวเข็มวิ่งเหมือนเดิมอีกรอบ คือต่างกันตรงในขั้นตอนการทำมาสเตอร์ แต่ท้ายสุดต้องมาให้หัวเข็มวิ่งผ่านเหมือนกันครับ
แต่แผ่นเสียงยุคใหม่ บางรายอาจจะทำแบบสุกเอาเผากิน คือหาต้นฉบับไม่เจอ ก็ถอดเอาจากแผ่นซีดีดื้อๆเลยออกมาเป็นดิจิตอล แล้วก็เอาไอ้ตัวนี้แหละยัดกลับเข้าไปทำเป็นมาสเตอร์อนาลอก เพื่อทำการปั๊มเป็นแผ่นเสียงต่อไปอีกทีนึงครับ
แต่แผ่นเสียงยุคใหม่บางเจ้า หาต้นฉบับไม่เจอ หรืออัลบั้มใหม่ๆที่เพิ่งออก ก็จะใช้มาสเตอร์ที่ทำจากดิจิตอล แล้วแกะสัญญาณดิจิตอลออกมาเป็นมาสเตอร์แบบขูดร่องเล็กๆให้หัวเข็มวิ่งเหมือนเดิมอีกรอบ คือต่างกันตรงในขั้นตอนการทำมาสเตอร์ แต่ท้ายสุดต้องมาให้หัวเข็มวิ่งผ่านเหมือนกันครับ
แต่แผ่นเสียงยุคใหม่ บางรายอาจจะทำแบบสุกเอาเผากิน คือหาต้นฉบับไม่เจอ ก็ถอดเอาจากแผ่นซีดีดื้อๆเลยออกมาเป็นดิจิตอล แล้วก็เอาไอ้ตัวนี้แหละยัดกลับเข้าไปทำเป็นมาสเตอร์อนาลอก เพื่อทำการปั๊มเป็นแผ่นเสียงต่อไปอีกทีนึงครับ
ให้กำลังใจ 0 หยิกหู 0 แจกหู 0ผมว่านะ
06/02/2021 17:27:59
ผมกลับมองว่าแผ่นเสียงยุคใหม่น่าจะทำให้เสียงดีกว่าเดิมได้นะ ผมคิดเล่นๆว่าการกัดร่องเสียงมันน่าจะ "แต่งได้" เหมือนเราแกะสลักให้มันลึกหรือตื้นจนได้เสียงแบบที่เราต้องการได้
ให้กำลังใจ 0 หยิกหู 0เฟี้ยว
06/02/2021 19:06:28
อ้างอิง : ความคิดเห็นที่ 3 - สงสัย
เพราะระบบการบันทึกเสียงปัจจุบันเขาปเ็นมาใช้ระบบ Digital หมดแล้วไงครับ ดังนั้นไม่ว่าจะเอาเพลงที่ได้ไปทำการ Mastering ลงใน Format ไหนๆต่อให้จะเป็นแบบย้อนยุคทำเทปคลาสเซ็ตหรือแผ่นไวนิล ข้อมูลเสียงต้นทางมันก็ยังคงเป็น Digital อยู่วันยันค่ำ แต่นั่นไม่สำคัญหรอก ผมมองว่ารูปแบบ Digital มันเป็นข้อดีด้วยซ้ำไปเพราะมันควบคุมง่าย แทบจะสั่งได้ตามใจนึก จะสร้างสุ้มเสียงแปลกใหม่นี้ไม่ใช่เรื่องยากเลย ทำให้เวลาทำเป็นแผ่นไวนิลในบทเพลงยุคใหม่กับเทคนิคการบันทึกเสียงยุคใหม่บวกกับคาเรคเตอร์ Harmonic Distortion อะไรบางอย่างของแผ่นไวนิลมันเป็นสุ้มเสียงที่น่าฟังโคตรๆ ซึ่งเทคนิคการแผ่นไวนิลแบบ Analog ล้วนๆของสมัยก่อนไม่มีวันทำได้ แต่ในขณะเดียวกันเราก็สามามารถกลับไปจำลองคาเรคเตอร์การทำแผ่นไวนิลแบบสมัยก่อนได้อย่างแนบบเนียน ซึ่งโคตรได้เปรียบครับ
มีแผ่นเสียงที่ผลิตด้วยวิธีดิจิตอลด้วยหรือครับหรือผมตกข่าวขอลิงค์ข้อมูลหน่อยครับ
ให้กำลังใจ 0 หยิกหู 0นายมั่นคง
06/02/2021 21:41:01
4,282
อ้างอิง : ความคิดเห็นที่ 5 - ผมว่านะ
สำคัญที่สุดคือขั้นตอนการบันทึกเสียงและจัดทำมาสเตอรริ่งครับ ขั้นตอนนี้ในยุคนี้ทำแบบดิจิตอลทั้งหมด อาจจะมีค่าย audiophile บางค่ายที่ยังยึดจารีตเดิมคือบันทึกแบบอนาลอก ซึ่งแผ่นเสียงยุคใหม่ถ้าได้รับการรีมาสเตอร์มาดีๆ แบบดิจิตอล ก็สามารถปั๊มลงบนแผ่นไวนิลได้ออกมาเสียงดีตามต้นฉบับครับผมกลับมองว่าแผ่นเสียงยุคใหม่น่าจะทำให้เสียงดีกว่าเดิมได้นะ ผมคิดเล่นๆว่าการกัดร่องเสียงมันน่าจะ "แต่งได้" เหมือนเราแกะสลักให้มันลึกหรือตื้นจนได้เสียงแบบที่เราต้องการได้
แต่สิ่งหนึ่งที่มีความแตกต่างก็คือ ขั้นตอนการทำมาสเตอร์แบบอนาลอก(ที่ดี) มันให้เสน่ห์ที่แตกต่างจากดิจิตอลเช่นกันครับ บางทีเสียงที่ไม่ได้ชัดทั้งหมดอย่างอนาลอก แต่มันให้อารมณ์ของการฟังที่ดีกว่าเพลงที่มีความชัดทุกชิ้นแบบดิจิตอล
สรุปคือเล่นทุกๆๆฟอร์แมทครับ 555
ให้กำลังใจ 0 หยิกหู 0 แจกหู 0เฟี้ยว
06/02/2021 23:03:34
อ้างอิง : ความคิดเห็นที่ 7 - นายมั่นคง
แต่สิ่งหนึ่งที่มีความแตกต่างก็คือ ขั้นตอนการทำมาสเตอร์แบบอนาลอก(ที่ดี) มันให้เสน่ห์ที่แตกต่างจากดิจิตอลเช่นกันครับ บางทีเสียงที่ไม่ได้ชัดทั้งหมดอย่างอนาลอก แต่มันให้อารมณ์ของการฟังที่ดีกว่าเพลงที่มีความชัดทุกชิ้นแบบดิจิตอล
สรุปคือเล่นทุกๆๆฟอร์แมทครับ 555
อ้างอิง : ความคิดเห็นที่ 5 - ผมว่านะ
สำคัญที่สุดคือขั้นตอนการบันทึกเสียงและจัดทำมาสเตอรริ่งครับ ขั้นตอนนี้ในยุคนี้ทำแบบดิจิตอลทั้งหมด อาจจะมีค่าย audiophile บางค่ายที่ยังยึดจารีตเดิมคือบันทึกแบบอนาลอก ซึ่งแผ่นเสียงยุคใหม่ถ้าได้รับการรีมาสเตอร์มาดีๆ แบบดิจิตอล ก็สามารถปั๊มลงบนแผ่นไวนิลได้ออกมาเสียงดีตามต้นฉบับครับผมกลับมองว่าแผ่นเสียงยุคใหม่น่าจะทำให้เสียงดีกว่าเดิมได้นะ ผมคิดเล่นๆว่าการกัดร่องเสียงมันน่าจะ "แต่งได้" เหมือนเราแกะสลักให้มันลึกหรือตื้นจนได้เสียงแบบที่เราต้องการได้
แต่สิ่งหนึ่งที่มีความแตกต่างก็คือ ขั้นตอนการทำมาสเตอร์แบบอนาลอก(ที่ดี) มันให้เสน่ห์ที่แตกต่างจากดิจิตอลเช่นกันครับ บางทีเสียงที่ไม่ได้ชัดทั้งหมดอย่างอนาลอก แต่มันให้อารมณ์ของการฟังที่ดีกว่าเพลงที่มีความชัดทุกชิ้นแบบดิจิตอล
สรุปคือเล่นทุกๆๆฟอร์แมทครับ 555
เห็นด้วยเลยครับเรื่องประเด็นอนาลอคเพราะสุดท้ายแล้วมันมีการพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์ มีการทดลอง Blind Test มาหลายเจ้าแล้วปรากฎว่าไม่มีใครแยกออกระหว่างงานที่มิกซ์แบบ In The Box แบบ Digital ล้วนๆกับงานที่มิกซ์แบบใช่อุปกรณ์ Analog เช่น Mixing Console หรือ Outboard Gears แม้แต่หูคนที่เป็น Sound En ก็ตาม
ส่วนประเด็นเรื่องการทำ Mastering ด้วยระบบ Analog ผมว่ามันได้เปรียบในเรื่องของโทนคาเรคเตอร์อะไรบางอย่างที่พวก Plugin มันทำไม่ได้ กับเรื่อง Headroom เพราะมันสามารถดันเสียงให้ดังๆได้โดยเสียงฟังดูมีเกิดอาการ Compression มากเกินไป ในขณะที่การทำ Mastering แบบ Digital นั้นมันต้องมาคอยประวิงกับเรื่องนี้เพราะการมี Headroom ที่จำกัดกว่าทำให้ต้องคอยหลบ Masking ของทุกเสียงในมิกซ์ให้ได้มากที่สุดจนทุกเสียงมันฟังออกมาชัดเจนไปหมดทั้งนี้เพื่อที่จะได้หลงเหลือ Headroom มากที่สุดในการดันให้มันมีระดับความดังมากๆโดยที่เสียงไม่เกิดอาการ Compression มากเกินไปจนฟังดูบี้แบน นี่จึงเป็นที่มาว่าทำไมระบบพวกทำงาน In The Box 100% แบบ Digital ล้วนๆเสียงมันจึงได้ออกมาชัดเจนไปหมดในทุกอณู
ให้กำลังใจ 0 หยิกหู 0นายมั่นคง
07/02/2021 20:48:06
4,282
ดิจิตอลนั้น โดยความสามารถของมันคือให้ความละเอียดที่สุดไปเรื่อยๆ (คือมันไปเรื่อยๆยังไม่หยุด) ไม่ว่าจะเป็นด้านภาพหรือเสียง สิ่งที่ผมสังเกตุอย่างนึงความเป็นดิจิตอลมันให้ความคมชัดที่เกินจริง คือเกินกว่าสายตาของมนุษย์ใช้มองกัน หรือความคมชัดของเสียงก็ชัดและให้รายละเอียดที่สูงเกินกว่าหูมนุษย์ไปแล้ว
ความสมบูรณ์แบบต้องยอมรับว่าดิจิตอลมันให้ทุกอย่างครับ แต่หากมองแบบอาร์ท ผมว่าหนังที่เป็นอนาลอกจากม้วนฟิล์มหรือจากเทปรีลหรือแผ่นเสียง มันให้อารมณ์ที่สุนทรีย์ไปอีกแบบ แต่ไม่มีถูกไม่มีผิดครับ โลกต้องก้าวไปข้างหน้าตลอดเวลา อะไรที่เป็นสิ่งใหม่คือเรื่องที่ดีกว่า แต่ไม่ได้หมายความว่าเราจะชอบมากกว่าก็เป็นได้ครับ^^
ความสมบูรณ์แบบต้องยอมรับว่าดิจิตอลมันให้ทุกอย่างครับ แต่หากมองแบบอาร์ท ผมว่าหนังที่เป็นอนาลอกจากม้วนฟิล์มหรือจากเทปรีลหรือแผ่นเสียง มันให้อารมณ์ที่สุนทรีย์ไปอีกแบบ แต่ไม่มีถูกไม่มีผิดครับ โลกต้องก้าวไปข้างหน้าตลอดเวลา อะไรที่เป็นสิ่งใหม่คือเรื่องที่ดีกว่า แต่ไม่ได้หมายความว่าเราจะชอบมากกว่าก็เป็นได้ครับ^^
ให้กำลังใจ 0 หยิกหู 0 แจกหู 0เฟี้ยว
07/02/2021 22:19:36
อ้างอิง : ความคิดเห็นที่ 9 - นายมั่นคง
ผมว่า Digital Audio นั้นตรงกันข้ามมากกว่าครับ สิ่งที่เป็นไปได้ไม่มีวันสิ้นสุดนั้นน่าจะเป็นระบบ Analog มากกว่า เพราะคลื่นเสียงตามธรรมชาตินั้นมีย่านตวามถี่ที่เกินกว่าหูมนุษย์เราได้ยินธรรมดาเป็นเรื่องปกติ แต่ในขณะที่ระบบ Digital Audio ที่เป็น PCM นั้นต้องมีสิ่งที่เรียกว่า Nyquist Frequency นั่นก็คือความถี่สูงสุดที่ระบบนั้นรับได้ เพราะเนื่องจากเราไม่สามารถเก็บทุกย่านความถี่ทั้งหมดบนโลกได้เราจำเป็นต้องกำหนดค่า Sampling Rate อย่างเช่น 44.1 Khz ก็จะมี Nyquist Rate ที่ 22050 Hz 96 Khz ก็จะมี Nyquist Rate ที่ 48000 Hz เป็นต้น พอหลังจากนั้นย่านความถี่อื่นๆนอกเหนือจาก Nyquist Frequency ก็จะถูกกรองโดย Anti Aliasing Filter เพื่อป้องการ Aliasing ของเสียง ดิจิตอลนั้น โดยความสามารถของมันคือให้ความละเอียดที่สุดไปเรื่อยๆ (คือมันไปเรื่อยๆยังไม่หยุด) ไม่ว่าจะเป็นด้านภาพหรือเสียง สิ่งที่ผมสังเกตุอย่างนึงความเป็นดิจิตอลมันให้ความคมชัดที่เกินจริง คือเกินกว่าสายตาของมนุษย์ใช้มองกัน หรือความคมชัดของเสียงก็ชัดและให้รายละเอียดที่สูงเกินกว่าหูมนุษย์ไปแล้ว
ความสมบูรณ์แบบต้องยอมรับว่าดิจิตอลมันให้ทุกอย่างครับ แต่หากมองแบบอาร์ท ผมว่าหนังที่เป็นอนาลอกจากม้วนฟิล์มหรือจากเทปรีลหรือแผ่นเสียง มันให้อารมณ์ที่สุนทรีย์ไปอีกแบบ แต่ไม่มีถูกไม่มีผิดครับ โลกต้องก้าวไปข้างหน้าตลอดเวลา อะไรที่เป็นสิ่งใหม่คือเรื่องที่ดีกว่า แต่ไม่ได้หมายความว่าเราจะชอบมากกว่าก็เป็นได้ครับ^^
ความสมบูรณ์แบบต้องยอมรับว่าดิจิตอลมันให้ทุกอย่างครับ แต่หากมองแบบอาร์ท ผมว่าหนังที่เป็นอนาลอกจากม้วนฟิล์มหรือจากเทปรีลหรือแผ่นเสียง มันให้อารมณ์ที่สุนทรีย์ไปอีกแบบ แต่ไม่มีถูกไม่มีผิดครับ โลกต้องก้าวไปข้างหน้าตลอดเวลา อะไรที่เป็นสิ่งใหม่คือเรื่องที่ดีกว่า แต่ไม่ได้หมายความว่าเราจะชอบมากกว่าก็เป็นได้ครับ^^
ดังนั้นสรุปได้ว่าระบบ Digital Audio นั้นไม่ได้เป็นการทำให้เสียงนั้นเกินจริงแต่อย่างใด แต่มันเป็นการเก็บแค่ในส่วนที่จำเป็นที่หูมนุษย์เราสามารถรับรู้ได้เท่านั้นเองครับ ตรงกันข้ามระบบ Analog ต่างหากที่ทำให้เสียงนั้นมีสภาพที่เกินจริง ถ้าเทียบกับเสียงที่เป็นแบบ Acoustic ที่เป็น SPL แบบดั้งเดิมแล้วผ่าน Diaphragm ไมค์กลายเป็นเป็นกระแสไฟฟ้าแล้วไปออกลำโพงก็คนละเรื่องแล้วครับ
ให้กำลังใจ 0 หยิกหู 0LosInBlue
18/10/2023 10:32:06
116
ผมได้ลองฟังเสียงที่ สดกว่า ไพเราะหวานกว่า ไดนามิคคอนทราสเยอะกว่า ขนาดข้อมูลแปลงเป็นอนาล็อคแล้วมหึมาเกินไปกว่า 200x เท่าของเสียงไฟล์ทั่วไป
ผลคือเสียงไพเราะหวานได้เกินกว่า Vinyl ไปไกลมากๆๆๆๆ ไกลไปหลุดโลกมากๆ
เพียงแต่ตื่นเช้ามา ผมจะมีอาการ Tinitus แบบได้ยินเสียงแกร๊กๆเหมือนเสียงเล่นแผ่นเสียงสะดุดๆ ไป 1-2 นาที ตอนตื่นเช้า พอหยุดฟังไปอาการก็หาย พอกลับมาฟังก็มีอาการตอนเช้าอีก
ถ้าปรับยิ่งเกินกว่านี้จะเริ่มมีอาการหูล้า บังคับให้เลือดไปเลี้ยงหูมากขึ้น เลือดจะเริ่มไปเลี้ยงหูไม่พอ ขนประสาทของหูชั้นในหูจะหดตัว จะปวดหูต้องพักไปอีกนานเลยครับ
จากการทดสอบนี้ หูของคนนั้นรับข้อมูลเสียงได้จำกัดครับ มากเกินกว่า x200 เท่าของข้อมูลเสียงดนตรีที่ได้ยินปกตินี้ จะทำให้หูล้าหนักเร็วมาก จนไปถึงขั้นขนของชั้นในหูหดตัว จนประสาทการะรับเสียงหูเสื่อมได้เร็วมากครับ
ผลคือเสียงไพเราะหวานได้เกินกว่า Vinyl ไปไกลมากๆๆๆๆ ไกลไปหลุดโลกมากๆ
เพียงแต่ตื่นเช้ามา ผมจะมีอาการ Tinitus แบบได้ยินเสียงแกร๊กๆเหมือนเสียงเล่นแผ่นเสียงสะดุดๆ ไป 1-2 นาที ตอนตื่นเช้า พอหยุดฟังไปอาการก็หาย พอกลับมาฟังก็มีอาการตอนเช้าอีก
ถ้าปรับยิ่งเกินกว่านี้จะเริ่มมีอาการหูล้า บังคับให้เลือดไปเลี้ยงหูมากขึ้น เลือดจะเริ่มไปเลี้ยงหูไม่พอ ขนประสาทของหูชั้นในหูจะหดตัว จะปวดหูต้องพักไปอีกนานเลยครับ
จากการทดสอบนี้ หูของคนนั้นรับข้อมูลเสียงได้จำกัดครับ มากเกินกว่า x200 เท่าของข้อมูลเสียงดนตรีที่ได้ยินปกตินี้ จะทำให้หูล้าหนักเร็วมาก จนไปถึงขั้นขนของชั้นในหูหดตัว จนประสาทการะรับเสียงหูเสื่อมได้เร็วมากครับ
ให้กำลังใจ 0 หยิกหู 0 แจกหู 0