จริงๆแล้วจากที่ฟัง Source ที่ได้ก็ไม่ได้ห่วยแตกเลย ยังสามารถเอาไปทำอะไรต่อได้อีกเยอะ ถ้าได้ทำ Audio Production ดีๆนี้คุณภาพงานมันยังไปได้กว่านี้ครับ
แนะนำให้เลยก็ได้ครับเผื่อเอาไปปรับใช้ในอนาคต
กีต้าร์ ให้ลง Cut EQ ย่านแถวๆ 100 - 200 ลงหน่อยก็ดีครับ การที่เครื่องดนตรีกีต้าร์มีย่านความถี่นี้มากๆมันทำให้เสียง Muddy ขุ่นมัวไม่เคลียร์ครับไม่ต้องถึงขนาด HPF ออกแต่ใช้ Bell Curve ก็พอแล้วเพราะเเพลงมีแค่กีต้าร์ตัวเดียว ครับ หรือถ้ากลัวมากไปก็ใช้เป็นพวก Dynamic EQ หรือ Multiband Compressor กดย่านพวกนี้ไว้เวลามันโด่ขึ้นมา
กีต้าร์ใส่สียง Reverb อีกหน่อยก็ได้ครับ แนะนำให้เป็นแบบ Convolution ที่เป็นการเก็บ Impulse Response จากสถานที่จริง จากนั้นก็เลือกไปที่ Preset ที่เป็นสตูห้องอัดแบบที่ผนังเป็นไม้ครับ
กีต้าร์สามารถใส่พวก Harmonic Enchancer ในย่านแหลมๆได้อีกครับเพื่อเพิ่มความสว่าง หรือไม่ก็ใช้ Multiband Envelope Shaper เพื่อเพิ่ม Transient ให้แก่บริเวณที่ปิ๊กกระทบกับสาย ทำให้เพิ่งความเป็น Percussive ให้แกกีต้าร์ช่วยทำให้เพลงมี Groove มี Rhythmic ขึ้นมา
ร้องสามารถใส่ Reverb ได้อีกครับ แนะนำให้ใช้แบบ Plate เพราะจะช่วงสร้างมิติให้แก่เสียงร้องให้มันมีความโดดเด่นออกมาจากมิกซ์มากขึ้น
จริงๆแล้วจากที่ฟัง Source ที่ได้ก็ไม่ได้ห่วยแตกเลย ยังสามารถเอาไปทำอะไรต่อได้อีกเยอะ ถ้าได้ทำ Audio Production ดีๆนี้คุณภาพงานมันยังไปได้กว่านี้ครับ
แนะนำให้เลยก็ได้ครับเผื่อเอาไปปรับใช้ในอนาคต
กีต้าร์ ให้ลง Cut EQ ย่านแถวๆ 100 - 200 ลงหน่อยก็ดีครับ การที่เครื่องดนตรีกีต้าร์มีย่านความถี่นี้มากๆมันทำให้เสียง Muddy ขุ่นมัวไม่เคลียร์ครับไม่ต้องถึงขนาด HPF ออกแต่ใช้ Bell Curve ก็พอแล้วเพราะเเพลงมีแค่กีต้าร์ตัวเดียว ครับ หรือถ้ากลัวมากไปก็ใช้เป็นพวก Dynamic EQ หรือ Multiband Compressor กดย่านพวกนี้ไว้เวลามันโด่ขึ้นมา
กีต้าร์ใส่สียง Reverb อีกหน่อยก็ได้ครับ แนะนำให้เป็นแบบ Convolution ที่เป็นการเก็บ Impulse Response จากสถานที่จริง จากนั้นก็เลือกไปที่ Preset ที่เป็นสตูห้องอัดแบบที่ผนังเป็นไม้ครับ
กีต้าร์สามารถใส่พวก Harmonic Enchancer ในย่านแหลมๆได้อีกครับเพื่อเพิ่มความสว่าง หรือไม่ก็ใช้ Multiband Envelope Shaper เพื่อเพิ่ม Transient ให้แก่บริเวณที่ปิ๊กกระทบกับสาย ทำให้เพิ่งความเป็น Percussive ให้แกกีต้าร์ช่วยทำให้เพลงมี Groove มี Rhythmic ขึ้นมา
ร้องสามารถใส่ Reverb ได้อีกครับ แนะนำให้ใช้แบบ Plate เพราะจะช่วงสร้างมิติให้แก่เสียงร้องให้มันมีความโดดเด่นออกมาจากมิกซ์มากขึ้น
จริงๆแล้วจากที่ฟัง Source ที่ได้ก็ไม่ได้ห่วยแตกเลย ยังสามารถเอาไปทำอะไรต่อได้อีกเยอะ ถ้าได้ทำ Audio Production ดีๆนี้คุณภาพงานมันยังไปได้กว่านี้ครับ
แนะนำให้เลยก็ได้ครับเผื่อเอาไปปรับใช้ในอนาคต
กีต้าร์ ให้ลง Cut EQ ย่านแถวๆ 100 - 200 ลงหน่อยก็ดีครับ การที่เครื่องดนตรีกีต้าร์มีย่านความถี่นี้มากๆมันทำให้เสียง Muddy ขุ่นมัวไม่เคลียร์ครับไม่ต้องถึงขนาด HPF ออกแต่ใช้ Bell Curve ก็พอแล้วเพราะเเพลงมีแค่กีต้าร์ตัวเดียว ครับ หรือถ้ากลัวมากไปก็ใช้เป็นพวก Dynamic EQ หรือ Multiband Compressor กดย่านพวกนี้ไว้เวลามันโด่ขึ้นมา
กีต้าร์ใส่สียง Reverb อีกหน่อยก็ได้ครับ แนะนำให้เป็นแบบ Convolution ที่เป็นการเก็บ Impulse Response จากสถานที่จริง จากนั้นก็เลือกไปที่ Preset ที่เป็นสตูห้องอัดแบบที่ผนังเป็นไม้ครับ
กีต้าร์สามารถใส่พวก Harmonic Enchancer ในย่านแหลมๆได้อีกครับเพื่อเพิ่มความสว่าง หรือไม่ก็ใช้ Multiband Envelope Shaper เพื่อเพิ่ม Transient ให้แก่บริเวณที่ปิ๊กกระทบกับสาย ทำให้เพิ่งความเป็น Percussive ให้แกกีต้าร์ช่วยทำให้เพลงมี Groove มี Rhythmic ขึ้นมา
ร้องสามารถใส่ Reverb ได้อีกครับ แนะนำให้ใช้แบบ Plate เพราะจะช่วงสร้างมิติให้แก่เสียงร้องให้มันมีความโดดเด่นออกมาจากมิกซ์มากขึ้น
จริงๆแล้วจากที่ฟัง Source ที่ได้ก็ไม่ได้ห่วยแตกเลย ยังสามารถเอาไปทำอะไรต่อได้อีกเยอะ ถ้าได้ทำ Audio Production ดีๆนี้คุณภาพงานมันยังไปได้กว่านี้ครับ
แนะนำให้เลยก็ได้ครับเผื่อเอาไปปรับใช้ในอนาคต
กีต้าร์ ให้ลง Cut EQ ย่านแถวๆ 100 - 200 ลงหน่อยก็ดีครับ การที่เครื่องดนตรีกีต้าร์มีย่านความถี่นี้มากๆมันทำให้เสียง Muddy ขุ่นมัวไม่เคลียร์ครับไม่ต้องถึงขนาด HPF ออกแต่ใช้ Bell Curve ก็พอแล้วเพราะเเพลงมีแค่กีต้าร์ตัวเดียว ครับ หรือถ้ากลัวมากไปก็ใช้เป็นพวก Dynamic EQ หรือ Multiband Compressor กดย่านพวกนี้ไว้เวลามันโด่ขึ้นมา
กีต้าร์ใส่สียง Reverb อีกหน่อยก็ได้ครับ แนะนำให้เป็นแบบ Convolution ที่เป็นการเก็บ Impulse Response จากสถานที่จริง จากนั้นก็เลือกไปที่ Preset ที่เป็นสตูห้องอัดแบบที่ผนังเป็นไม้ครับ
กีต้าร์สามารถใส่พวก Harmonic Enchancer ในย่านแหลมๆได้อีกครับเพื่อเพิ่มความสว่าง หรือไม่ก็ใช้ Multiband Envelope Shaper เพื่อเพิ่ม Transient ให้แก่บริเวณที่ปิ๊กกระทบกับสาย ทำให้เพิ่งความเป็น Percussive ให้แกกีต้าร์ช่วยทำให้เพลงมี Groove มี Rhythmic ขึ้นมา
ร้องสามารถใส่ Reverb ได้อีกครับ แนะนำให้ใช้แบบ Plate เพราะจะช่วงสร้างมิติให้แก่เสียงร้องให้มันมีความโดดเด่นออกมาจากมิกซ์มากขึ้น
จริงๆแล้วจากที่ฟัง Source ที่ได้ก็ไม่ได้ห่วยแตกเลย ยังสามารถเอาไปทำอะไรต่อได้อีกเยอะ ถ้าได้ทำ Audio Production ดีๆนี้คุณภาพงานมันยังไปได้กว่านี้ครับ
แนะนำให้เลยก็ได้ครับเผื่อเอาไปปรับใช้ในอนาคต
กีต้าร์ ให้ลง Cut EQ ย่านแถวๆ 100 - 200 ลงหน่อยก็ดีครับ การที่เครื่องดนตรีกีต้าร์มีย่านความถี่นี้มากๆมันทำให้เสียง Muddy ขุ่นมัวไม่เคลียร์ครับไม่ต้องถึงขนาด HPF ออกแต่ใช้ Bell Curve ก็พอแล้วเพราะเเพลงมีแค่กีต้าร์ตัวเดียว ครับ หรือถ้ากลัวมากไปก็ใช้เป็นพวก Dynamic EQ หรือ Multiband Compressor กดย่านพวกนี้ไว้เวลามันโด่ขึ้นมา
กีต้าร์ใส่สียง Reverb อีกหน่อยก็ได้ครับ แนะนำให้เป็นแบบ Convolution ที่เป็นการเก็บ Impulse Response จากสถานที่จริง จากนั้นก็เลือกไปที่ Preset ที่เป็นสตูห้องอัดแบบที่ผนังเป็นไม้ครับ
กีต้าร์สามารถใส่พวก Harmonic Enchancer ในย่านแหลมๆได้อีกครับเพื่อเพิ่มความสว่าง หรือไม่ก็ใช้ Multiband Envelope Shaper เพื่อเพิ่ม Transient ให้แก่บริเวณที่ปิ๊กกระทบกับสาย ทำให้เพิ่งความเป็น Percussive ให้แกกีต้าร์ช่วยทำให้เพลงมี Groove มี Rhythmic ขึ้นมา
ร้องสามารถใส่ Reverb ได้อีกครับ แนะนำให้ใช้แบบ Plate เพราะจะช่วงสร้างมิติให้แก่เสียงร้องให้มันมีความโดดเด่นออกมาจากมิกซ์มากขึ้น