สวัสดีครับ คุณ Geoman 

สำหรับ HyperX Orbit S นั้นเรียกได้ว่าใช้เทคโนโลยีเดียวกับ Audeze Mobius ทุกประการเลยล่ะครับ ระบบเสียงแบบ 7.1, 3D Surround หรือแม้แต่ตัว Software ก็ใช้ตัวเดียวกัน Spec ทุกอย่างเหมือนกัน ความแตกต่างมีเพียงอย่างเดียวคือ Audeze Mobius นั้นสามารถเชื่อมต่อผ่าน Bluetooth ได้ ส่วน HyperX Orbit S จะเป็นแบบเสียบสายอย่างเดียว ไม่สามารถเชื่อมต่อ Bluetooth ได้ครับ สำหรับโทยเสียงนั้น จะให้เสียงเบสที่มีอิมแพคแรง ฟังสนุก มวลเบสมาแบบพอดีๆ ไม่มาก ไม่น้อยจนเกินไป เน้นคุมจังหวะของเพลงได้ดีมากๆ เสียงร้องให้โทนที่ใสเคลียร์ ชัดถ้อย ชัดคำมากๆ ซึ่งตำแหน่งของนักร้องจะอยู่ตำแหน่งเดียวกับชิ้นดนตรีครับ เสียงกลางแหลมนั้นสามารถให้รายละเอียดเสียงชิ้นดนตรีได้อย่างชัดเจนมากๆ พวกรายละเอียดเสียงเล็กๆ น้อยๆ ก็มาให้ได้ยินอย่างครบถ้วน ส่วนเสียงกลางแหลมนั้นก็สามารถทอดตัวได้ไกล แต่มีลักษณะหัวมล ฟังสบายไม่ล้าหูครับ เวทีเสียงกว้างสามารถแยกทิศทางเสียงได้อย่างชัดเจน มีลักษณะโอบล้อม ตำแหน่งต่างๆ ของชิ้นดนตรีไม่มีการทับซ้อนกันแต่อย่างใดครับ ซึ่งสามารถดูฟัง หรือ ฟังเพลง ได้อย่างสบายๆ ส่วนไมโครโฟนอาจจะมีเสียงรบกวนพวกเสียงแอร์ เสียงพัดลมอยู่บ้างนะครับ อาจจะต้องตั้งค่าของไมโครโฟนสักหน่อย

ส่วน JBL ก็มีตัวเลือกที่น่าสนใจอย่าง Quantum 800 ครับ เป็นแบบ Wireless ไร้สายด้วยสัญญาณแบบ 2.4 GHz ไม่มีดีเลย์ และ สัญญาณไปได้ไกลมากๆ แต่ว่าไม่สามารถชาร์จไป ใช้งานไปได้นะครับ ส่วนลูกเล่นที่น่าสนใจก็จะมี ระบบ Noise cancelling ที่จะตัดเสียงรบกวนรอบๆ ทำให้เราสามารถโฟกัสเสียงได้ง่ายยิ่งขึ้น รวมถึงระบบ Talk Thoughts ที่จะเป็นการดูดเสียงรอบๆ เข้ามาเพื่อพูดคุยกับคนรอบๆ ครับ ส่วนตัว Software นั้นก็สามารถตั้งค่า Equalizer ได้ รองรับระบบเสียงแบบ 7.1 และ ระบบเสียงแบบ DTS ที่เหมาะกับการดูหนัง หรือว่า เล่นเกมพวกเนื้อเรื่อง ได้ดีมากๆ เลยล่ะครับ ตัวไมโครโฟนเองก็สามารถตัดเสียงรบกวนได้ดีมากๆ ไม่มีเสียงรบกวนเลยล่ะครับเวลาใช้งาน สำหรับเรื่องเสียงนั้นต้องบอกว่าให้เสียงเบสที่หนักแน่นฟังสนุก อิมแพคแรง มวลเบสขนาดใหญ่ แต่ว่าก็ไม่ได้ไปรบกวนเสียงย่านอื่นแต่อย่างใดครับ เสียงร้องมีความใสเคลียร์ คมชัด แต่ว่าตำแหน่งของนักร้องจะอยู่หลังตำแหน่งของชิ้นดนตรีเล็กน้อย เสียงกลางแหลมก็สามารถให้รายละเอียดเสียงชิ้นดนตรีได้อย่างชัดเจน พวกรายละเอียดเสียงเล็กๆ น้อยๆ มีพอมาให้ได้ยินอยู่บ้าง เสียงปลายแหลมก็สามารถทอดตัวได้ไกล มีลักษณะหัวมล สามารถฟังได้นาน เวทีเสียงมีขนาดกลางออกไปทางกว้าง เน้นมิติด้านลึกที่สมจริง สามารถแยกทิศทางเสียงได้อย่างแม่นยำครับ

และ Audio Technica ATH-PG1 นั้นจะเป็น Headset Gaming ระบบเสียงแบบ Stereo ไม่มีซาวการ์ด เน้นการใช้งานที่หลากหลาย เพราะว่าให้สายเชื่อมมาถึง 3 แบบด้วยกัน ทั้งแบบ Boom Microphone, สายเชื่อมต่อกับ Smartphone และ สายแบบ Aux 3.5 ปกติ รวมถึงสายเพิ่มความยาว 2 M. ก็มีมาให้ ส่วนเรีองโทนเสียงนั้นให้เสียงเบสที่มีความกระชับ เก็บตัวเร็ว มวลเบสขนาดกลาง คอยคุมจังหวะของเพลงได้ดีมากๆ ครับ เสียงร้องให้โทนที่หนาใหญ่ และ อิ่มหวาน ฟังสบาย โดยที่ตำแหน่งของนักร้องจะถอยหลังออกห่างจะเครื่องดนตรีเล็กน้อย เสียงกลางแหลมนั้นสามารถให้รายละเอียดเสียงชิ้นดนตรีได้อย่างชัดเจนมากๆ โดยเฉพาะเครื่องสาย ส่วนเสียงปลายแหลมก็สามารถทอดตัวได้ไกล เป็นประกายแต่ว่าไม่บาดหูครับ เวทีเสียงมีขนาดกว้างโดยมีลักษณะที่โอบล้อม ตำแหน่งของชิ้นดนตรีก็แยกออกจากกันได้อย่างชัดเจน ไม่มีการทับซ้อนกันแต่อย่างใดครับ

โดยรวมแล้วถ้ามองว่าครบครัน ใช้งานได้หลากหลาย ก็รองดูเป็น HyperX Orbit S กับ JBL Quantum 800 ก็ได้ครับ เรื่องของลูกเล่นก็แตกต่างกันไม่มาก เพียงแต่ JBL Quantum 800 ก็จะเป็นระบบไร้สายซึ่งได้ความคล้องตัวกว่า ไมโครโฟนดีกว่า ส่วน HyperX Orbit S ก็จะได้ในเรื่องของโทนเสียงที่สามารถให้มิติที่สมจริงมากกว่า และ Audio Technica ATH-PG1 ได้ในเรื่องของการใช้งานที่ไม่ยุ่งยาก และ ยืดหยุ่นกว่า นั้นเองครับ

ในเรื่องของราคา
HyperX Orbit S จะอยู่ที่ 9,900 บาท
JBL Quantum 800 จะอยู่ที่ 8,590 บาท
และ Audio Technica ATH-PG1 จะอยู่ที่ 4,890 บาท
ครับผม

ผมใช้ HyperX Orbit S แต่ไม่เคยใช้ Audeze Mobius ครับ เข้าใจว่ามันแทบจะเป็นตัวเดียวกันเลยต่างกันแค่ Bluetooth แค่นั้นเอง

ในเรื่องของเสียง ถือว่าทำได้ทุกอย่างและทำได้ดีเลยทีเดียวครับ ไม่ว่าจะดูหนังฟังเพลงหรือเล่นเกมก็ตาม เบสมีอิมแพคในระดับที่ดูหนังเล่นเกมสนุกแต่ไม่มากเกินไปจนกลบเสียงอื่น เสียงร้องเสียงเครื่องดนตรีค่อนข้างชัด โหมด 7.1 ก็จำลองการโอบล้อมแยกทิศทางได้ดีมากครับ ส่วนโหมด Hi-res ไม่ค่อยได้ใช้เท่าไหร่เพราะมีหูฟังสำหรับฟังเพลงแยกอยู่แล้ว

ในส่วนของไมค์นั้น Orbit S ต่างจาก Mobius ตรงที่มีฟองน้ำหุ้มมาให้ด้วย ในเรื่องของไมค์ช๊อตยังไม่เจอ เพียงแต่ถ้าตั้งค่าระดับไมค์สูงสุดจะได้ยิน Noise ค่อนข้างชัดครับ ประมาณว่าเราพูดก็ได้ยินเสียงเราเข้ามาในหูฟังเลย ปกติถ้าใช้คุยผมจะเปิดต่ำสุดไว้ตลอดครับ (แต่ถ้าไม่คุยก็ปิดไปเลย)

เเล้วมันต้องต่อเเอมป์เพิ่มไหมครับ หรือต่อตรงกับคอมได้เลย อาการไมค์ช็อตที่ผมเจอคือใช้ไปนานเเล้วเวลาหมุนโวลุ่มเเล้วจะมีเสียงช็อตออกทำให้พูดเเล้วมีเสียงช็อต ต้องหมุนดลลุ่มให้ถูกจุดมันถึงจะใช้งานได้ปกติ ซึ่งมันน่ารำคาญมากสำหรับผม เลยอยากรู้ว่าตัวนี้ีอาการเเบบนี้ไหม

ต่อตรงผ่าน USB เลยครับ ทุกอย่างมันจัดการให้เสร็จสรรพไม่ต้องใช้อุปกรณ์เสริมอะไร ส่วนต่อแบบ 3.5mm ผมไม่เคยลอง เพราะมันจะใช้ได้ไม่ครบทุกฟีเจอร์ครับ ไม่แน่ใจด้วยซ้ำว่าต่อ 3.5mm แล้วจะใช้ไมค์ได้ไหม