สวัสดีครับคุณ Pune ในช่วงราคา 8,000 บาท ก็ถือว่ามีตัวเลือกที่น่าสนใจอยู่หลายตัวเลยล่ะครับ ซึ่งก็จะมี

Steelseries Arctis Pro ราคา 7,290 บาท
JBL Quantum 600 ราคา 6,590 บาท

สำหรับ Steelseries Arctis Pro จะเป็น Headset แบบเสียบสาย มี Sound Card มาให้ในตัว รองรับระบบเสียง 7.1 ตัว Software สามารถปรับแต่ง Equalizer ได้ ตัวแพดจะเป็นแบบผ้าซึ่งข้อดีคือ สามารถระบายอากาศได้ดี สวมใส่ได้นาน ไม่มีอาการร้อนหู แต่ว่าก็อาจจะมีเสียงรบกวนภายนอกเข้ามาบ้าง

ในส่วนของโทนเสียง Steelseries Arctis Pro จะโดดเด่นมากๆ ในส่วนของมิติด้านกว้าง และ ด้านลึก สามารถระบุทิศทางเสียงได้อย่างแม่นยำ แต่ว่าข้อเสียคือเรื่องของ ฝีเท้า หรือว่า ย่านเบสครับ โดยจะให้ความกระชับ เก็บตัวได้เร็ว และ มวลเบสไม่ได้ใหญ่มาก เลยอาจจะทำให้จับเสียงฝีเท้าได้ลำบากในบางจังหวะนะครับ ในส่วนของการฟังเพลง ก็ถือว่าให้รายละเอียดเสียงชิ้นดนตรีได้ดีมากๆ โดยเฉพาะเครื่องสาย ย่านเบสก็ให้อิมแพคที่แรง ฟังสนุกครับ 

ในส่วนของ JBL Quantum 600 จะเน้นที่ระบบไร้สายเป็นหลักครับ โดยจะเชื่อมต่อผ่านระบบ Wireless ซึ่งไม่มี Delay และ สัญญาณไปได้ไกลมากๆ ไม่มีอาการกระตุกแต่อย่างใด แต่ว่าในกรณีที่แบตเตอร์รี่หมด จะไม่สามารถชาร์จไป ใช้งานไป ได้นะครับ ในส่วนของ Software ก็สามารถปรับได้ทั้ง Equalizer และ ระบบเสียงแบบ 7.1 เหมือนกับตัว Steelseries Arctis Pro ครับ ตัวแพดฟองน้ำจะเป็น Memory Foam ให้เนื้อสัมผัสที่นุ่ม ป้องกันเสียงรอบๆ ได้ดี แต่ว่าสวมใส่นานๆ แล้วจะร้อนหูครับ

ในเรื่องของเสียงมิติด้านกว้างจะแคบกว่าเมื่อเทียบกับ Steelseries Arctis Pro ส่วนมิติด้านลึกนั้นให้ความรู้สึกที่ใกล้เคียงกัน แต่ว่าจะให้เสียงฝีเท้าที่หนักแน่น ชัดเจน กว่ามากๆ ครับ ในส่วนของการฟังเพลงนั้นต้องบอกว่าตามสไตล์ JBL เลยครับ โดยจะให้เสียงเบสที่ลงได้ลึก อิมแพคแรง เก็บตัวไม่เร็วมาก เสียงกลางแหลมนั้น ยังคงให้รายละเอียดเสียงชิ้นดนตรีที่ชัด พวกรายละเอียดเสียงชิ้นดนตรีเล็กๆ น้อยๆ ก็มีมาให้ได้ยินอย่างชัดเจน ส่วนเวทีเสียงมีขนาดที่กว้างแต่มีลักษณะที่โอบล้อม สามารถแยกแยะทิศทาง ตำแหน่งเสียงของชิ้นดนตรีได้อย่างชัดเจนครับ 

โดยรวมแล้ว ทั้ง 2 รุ่นนี้ก็มีความแตกต่างกันอยู่พอสมควรครับ ซึ่งจุดเด่นหลักๆ ของ Steelseries Arctis Pro เลยนั้นก็คือ เน้นการสวมใส่ที่สบาย ใส่นาน ไม่ล้าหู เน้นโทนเสียงที่กว้าง แยกมิติได้อย่างชัดเจน แต่จะมีขอเสียในเรื่องของเสียงฝีเท้า หรือว่า ย่านเบส ส่วน JBL Quantum 600 จะได้ในส่วนของระบบ Wireless ที่สามารถรองรับอุปกรณ์ได้หลากหลายกว่า แต่ว่าไม่สามารถชาร์จไป ใช้งานไปได้ เวลาสวมใส่ก็ป้องกันเสียงรบกวนรอบๆ ได้ดีกว่า ทำให้เราสามารถโฟกัสเสียงได้ง่ายยิ่งขึ้น แต่ว่าสวมใส่นานๆ แล้วจะร้อนหู ส่วนเรื่องเสียงก็สามารถให้เวทีเสียงที่กว้าง แต่ว่าจะแคบกว่าเมื่อเทียบกับ Steelseries Arctis Pro แต่ว่าให้มิติด้านลึกที่ดีกว่า ฟังเสียงฝีเท้าได้ง่ายกว่า ฟังเพลงสนุกกว่าครับ

ขอบคุุุณมากๆเลยครับ

ขอเสริมหูฟังเปลี่ยนก็ไม่เห็นผลเท่าไรหรอก
เพราะว่า warzone ความลึกของเสียงคือมั่วมาก
ใกล้ไกลแยกไม่ค่อยออก ต้องอาศัยเซ้นส์ช่วย
ยิ่งปรับในเกมคือมั่วมาก บูสได้ยิน แต่ความใกล้ไกลอย่างที่บอก ผมยังสับสนเสียงฝีเท้าตัวเองกับศัตรูเลย 
เกมนี้อาศัย uav 
เสียงเกมนี้หนักแน่นกว่า coldwar 
คนบ่นcoldwar เสียงห่วย แต่การไล่ไดนามิกเสียง coldwar ทำได้ดีกว่า

สำหรับตัว HyperX Orbits จะมีลูกเล่นที่แตกต่างจาก Steelseries Arctis Pro และ JBL Quantum 600 อยู่ครับ สิ่งแรกเลยก็คือ ตัว Driver หรือ ดอกลำโพงของหูฟังจะใช้เป็น Planar magnetic ซึ่งโทนเสียงที่ได้ก็จะมีความแตกต่างกัน ส่วนการใช้งานก็จะเป็นการเชื่อมต่อผ่านสาย USB Type C หรือ สาย Aux 3.5 mm. มี Sound Card ในตัวสามารถใช้งานระบบเสียงแบบ 7.1 ได้ และ ที่พิเศษกว่าก็คือระบบเสียงแบบ 3D Surround ซึ่งจะเป็นการ Tracking ศีรษะของผู้ใช้งาน แล้วเวลาหันซ้าย ขวา เสียงรอบทิศทางก็จะตามศีรษะที่เราหันไปด้วย นั้นเองครับ โดยการใช้งานทั้งหมดจะใช้ Software ในการควบคุมอีกที 

ในส่วนของโทนเสียงนั้น เพราะว่า Driver ที่ใส่มาเป็น Planar magnetic ลักษณะเสียงที่ได้จึงให้ย่านเบสที่มีอิมแพคแรง และ มวลเบสที่มีขนาดกลางๆ ไม่เล็ก ไม่ใหญ่ จนเกินไป เสียงนักร้องจะมีความโดดเด่นมากๆ ชัดเคลียร์ เป็นธรรมชาติ ตำแหน่งของนักร้องจะนำหน้าชิ้นดนตรีเล็กน้อย ส่วนย่านกลางแหลมก็สามารถให้รายละเอียดเสียงชิ้นดนตรีได้อย่างชัดเจนมากๆ โดยเฉพาะเครื่อง เสียงกลางแหลมก็สามารถถอดตัวได้ไกล เป็นประกาย จิกหูเล็กน้อย ส่วนเวทีเสียงต้องบอกว่ากว้างสุดๆ เลยล่ะครับ แยกทิศทางเสียงได้ดีมากๆ การแบ่งเลเยอร์ของเสียงก็ทำได้ดีมากๆ เวลาดูหนัง หรือ เล่นเกม ก็สามารถระบุเสียงได้อย่างชัดเจน 

ส่วนตัวผมแล้วเรื่อง 3D Surround อาจจะต้องใช้ความคุ้นเคยสัหน่อยนะครับ เพราะว่าครั้งแรกที่ได้ใช้งานให้ความรู้สึกที่มั่วมากๆ อาจจะเพราะหันซ้าย หันขวา เองด้วยนะครับ ฮ่าๆ ทิศทางเสียงวิ่งเข้ามารอบตัว เลยทำให้จับต้นตอของเสียงได้ยากไปหน่อย ส่วนเรื่องระบบเสียง 7.1 ถือว่าทำออกมาได้ดีมากๆ ตัวนึงเลยครับ ไม่มีปัญหาในการใช้งานเลย ระบุทิศทางเสียง ใกล้ ไกล ได้ดีมากๆ