ผมใช้ Tidal ผ่าน Roon EQ ได้ใน Roon เลยครับ

ต้องใช้คำว่าส่วนใหญ่ครับ คือคนส่วนใหญ่ที่เวลาเล่นมานานๆ มักจะเลือกเล่นกับเครื่องหรืออุปกรณ์ที่เป็นฮาร์ดแวร์มากกว่าที่จะเลือกปรับจากซอฟท์แวร์ในเครื่องหรือ source เพราะว่าความเพี้ยนของโปรแกรม EQ นั้น ถูกเซ็ทค่าให้แบบสำเร็จรูป ซึ่งมักจะไม่ค่อยดีนัก หรือถ้าเซ็ทแบบ custom ได้ก็ไม่ค่อยดีอยู่ดี

แต่ถ้าบางคนปรับแล้วดีขึ้น ฟังแล้วชอบก็ไม่ผิดกติกาอะไรครับ ส่วนมากคนที่ฟังเพลงแบบมิวสิคเลิฟเวอร์มักจะชอบปรับนู่นปรับนี่ให้ถูกใจ แต่ถ้าพวกออดิโอไฟล์ส่วนมากเลือกเปลี่ยนที่อุปกรณ์ครับ

คำถามคือ เครื่องเสียง? ว่าแต่เครื่องเสียงบ้านหรือ กลางแจง หรือรถยนต์ดีล่ะครับ ในส่วนของภาค Eq ในงานกลางแจ้ง จำเป็นต้องปรับ เพื่อให้ควบคุมย่านความถี่ของเครื่องดนตรีชิ้นนั้นๆได้ ไม่ใช่แค่ EQ แต่รวมไปถึงค่า Limite,Timing,Phase,Sustain,Delay, โอ้ย!! เยอะแยะไปหมดครับ เล่าวันเดียวก็ไม่จบ


ในส่วนของหูฟังวงการนี้ ไม่ค่อยปรับ หรืืืือ เลือกใช้กันครับ ้้้้้้้้้้ เพราะ ไฟล์ที่นำมาเล่นนั้น ได้ถูก Mixdown มาเรียบร้อยแล้้วจากห้องอัด ไม่สามารถปรับ/จููน่  ในแต่ละ Line ได้ ซึึ่งมันจะแตกต่างกับเครื่องเสียง งานกลางแจ้งที่ส่วนใหญ เล่นดนตรีสดๆ จึงมีความจำเป็นในการใช้งาน Eq และ ค่าต่างๆ ในแต่ละ Line,chanel ครัับ

ส่วนมากวงจรปรับโทนเสียง ทุ้มแหลม หรือ eq แบบต่างๆ รวมถึง dsp ปรับแต่งสไตล์ rock pop ....พวกนี้มักทำให้เสียงขุ่นและทึบลงครับ นักเล่นหลายท่านที่ได้ยินความแตกต่างก็จะพยายามไม่ใช้    แม้แต่ eq ที่ตั้งชื่อว่า flat ก็ยังเปลี่ยนเสียงนิดหน่อยในบางเครื่องเล่น  โดยมากถ้าปิดได้ก็มักจะปิดเป็น eq off ครับกรณีนี้คือเรามีแอมป์และลำโพงหรือหูฟังที่เราถูกใจแนวเสียงแล้วนะครับ

แต่ถ้าเสียงแบบ eq off มันไม่ถูกใจเรา  เราก็สามารถลองปรับได้ครับ การฟังเพลงที่ชอบ คือการปรับให้ถูกใจเรา  จะปรับแบบไหนมันก็ตามใจเรา ไม่ใช่เรื่องผิด 

EQ มันอุปกรณ์ที่ใช้งานเชิงเทคนิคครับ เช่นแก้ไขปัญหาเชิงเทคนิคต่างๆ จริงแล้วเขาไม่ได้มีความประสงค์ออกแบบมาเพื่อให้เอาปรับตามใจชอบครับ เพราะการเลือกอุปกรณ์แต่ละชิ้นให้แมชกันใน System การฟังมันก็เปรียบดั่ง EQ แล้วครับ